ศึกพรีเมียร์ลีกคู่ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และ เชลซี ที่สนามกูดิสัน พาร์ค กลายเป็นเกมที่เต็มไปด้วยความดุเดือดและพลิกสถานการณ์ได้หลายครั้ง แม้สเปอร์สจะออกนำก่อนถึงสองประตู แต่สุดท้ายเชลซีกลับมาคว้าชัย 4-3 โดย โคล พาลเมอร์ ซัดสองจุดโทษสำคัญ

ครึ่งแรก: สเปอร์สออกตัวแรง แต่เชลซีไล่ตีไข่แตก

แอนจ์ พอสเตโคกลู ส่งตัวหลักอย่าง มิกกี้ ฟาน เดอ เฟ่น และ คริสเตียน โรเมโร่ ลงสนามทันทีหลังหายเจ็บ ขณะที่แนวรุกได้ ซน ฮึง-มิน และ เปโดร ปอร์โร่ คืนตัวจริง ด้าน เชลซี ของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เปลี่ยนผู้เล่นถึง 7 ตำแหน่ง โดยให้ โรเบิร์ต ซานเชซ, เบอนัวต์ บาเดียชิล, และ เจดอน ซานโช่ กลับมาเป็นตัวจริง

นาทีที่ 5 สเปอร์สขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ มาร์ก กูกูเรย่า ทำพลาด ปล่อยให้ เบรนแนน จอห์นสัน ฉกบอลก่อนเปิดให้ โดมินิก โซลันกี้ ซัดเข้าไป ขยับเป็น 1-0

อีกเพียง 6 นาทีต่อมา กูกูเรย่า ลื่นอีกครั้ง เปิดโอกาสให้ เบรนแนน จอห์นสัน จ่ายต่อให้ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ยิงผ่าน โรเมโอ ลาเวีย เสียบเสาแรก สเปอร์สนำห่าง 2-0

เชลซีเริ่มตั้งเกมได้ในนาทีที่ 18 เมื่อ เจดอน ซานโช่ ตัดบอลจากริมเส้นซ้ายก่อนซัดด้วยขวาเสียบเสาในอย่างสวยงาม ไล่มาเป็น 2-1

ก่อนจบครึ่งแรก สเปอร์สมีลุ้นประตูที่สาม แต่ ปาป ซาร์ โหม่งลูกเตะมุมไปชนคานอย่างน่าเสียดาย ขณะที่เชลซีพยายามเร่งจังหวะแต่ยังตีเสมอไม่สำเร็จ

ครึ่งหลัง: เชลซีพลิกเกม พาลเมอร์ซัดโทษพาทีมคว้าชัย

เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 59 เชลซีมาได้จุดโทษครั้งแรกจากการทำฟาวล์ของ อีฟส์ บิสซูม่า และเป็น โคล พาลเมอร์ ที่สังหารเข้าไปไม่พลาด เชลซีตามตีเสมอ 2-2

เกมยังคงสูสีจนถึงนาทีที่ 73 เชลซีพลิกขึ้นนำ 3-2 จากลูกยิงซ้ายของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่เก็บตกบอลจากจังหวะบล็อกและส่งบอลเข้าสู่ตาข่าย

นาทีที่ 84 สเปอร์สเสียจุดโทษอีกครั้ง เมื่อ ปาป ซาร์ ทำฟาวล์ใส่ โคล พาลเมอร์ ซึ่งเจ้าตัวรับหน้าที่สังหารอีกครั้งไม่พลาด ทำให้เชลซีหนีห่างเป็น 4-2

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สเปอร์สไล่ขึ้นมาเป็น 3-4 จากลูกยิงของ ซน ฮึง-มิน แต่เวลาก็ไม่เพียงพอ จบเกม เชลซีบุกมาคว้าสามแต้มสำคัญที่กูดิสัน พาร์ค

สถานการณ์หลังเกม

ชัยชนะนัดนี้ทำให้เชลซีขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีก มี 31 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงลิเวอร์พูล 4 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ขณะที่สเปอร์สไร้ชัย 4 นัดติดในลีก มี 20 คะแนน หล่นไปอยู่อันดับ 11

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (4-3-3): เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ – เปโดร ปอร์โร่, มิกกี้ ฟาน เดอ เฟ่น, คริสเตียน โรเมโร่, เดสตินี่ อูโดกี้ – ปาป ซาร์, อีฟส์ บิสซูม่า, เดยัน คูลูเซฟสกี้ – เบรนแนน จอห์นสัน, โดมินิก โซลันกี้, ซน ฮึง-มิน

เชลซี (4-2-3-1): โรเบิร์ต ซานเชซ – มอยเสส ไกเซโด้, เบอนัวต์ บาเดียชิล, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า – โรเมโอ ลาเวีย, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – เปโดร เนโต้, โคล พาลเมอร์, เจดอน ซานโช่ – นิโกลัส แจ็คสัน