Home Blog

ฟีฟ่ารับมือวิกฤตร้อน! ฟุตบอลโลก 2026 ใช้เฉพาะสนามมีหลังคาปิด

0

จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า ฟุตบอลโลก 2026 ที่จะจัดขึ้นใน สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก จะเลือกใช้เฉพาะสนามแข่งขันที่มี หลังคาปิด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนของทวีปอเมริกาเหนือ

คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดกระแสความกังวลเกี่ยวกับอุณหภูมิที่สูงเกินมาตรฐานในการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่สหรัฐฯ โดยเฉพาะในรอบรองชนะเลิศที่ เชลซี พบ ฟลูมิเนนเซ่ ซึ่งเตะกันท่ามกลางอุณหภูมิสูงถึง 35.5°C ส่งผลให้ผู้เล่นหลายราย รวมถึง เอนโซ่ เฟร์นานเดซ เผยว่าเกิดอาการเวียนหัวขณะลงสนาม

ขณะเดียวกัน ในเมืองเจ้าภาพอย่าง ฟิลาเดลเฟีย ยังมีการประกาศ เตือนภัยสุขภาพระดับรหัสแดง ขณะที่พายุฝนฟ้าคะนองทำให้บางเกมต้องถูกเลื่อนออกไป รวมถึงแมตช์รอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่าง เชลซี กับ เบนฟิก้า ที่ล่าช้ากว่า 2 ชั่วโมง

อินฟานติโน่แถลงที่นิวยอร์กว่า ฟีฟ่าให้ความสำคัญกับเสียงสะท้อนจากนักเตะและสตาฟฟ์โค้ช และจะดำเนินการปรับปรุงมาตรการให้เหมาะสมกับความปลอดภัยของทุกฝ่าย

“เราได้รับข้อเสนอแนะมากมายเกี่ยวกับสภาพอากาศ และได้นำไปวิเคราะห์อย่างจริงจัง” อินฟานติโน่กล่าว
“การแข่งขันกลางวันในช่วงซัมเมอร์เป็นความท้าทาย ซึ่งไม่ต่างจากมหกรรมกีฬาอื่น ๆ อย่างโอลิมปิกเช่นกัน ดังนั้นการพักคูลลิ่งเบรก รวมถึงการใช้สนามที่มีหลังคา จะเป็นแนวทางหลักของเราในปีหน้า”


✅ สนามปิดหลังคา พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ

หลายสนามที่เตรียมใช้ในฟุตบอลโลก 2026 เช่น เมอร์เซเดส เบนซ์ สเตเดียม (แอตแลนตา), AT&T สเตเดียม (ดัลลาส), เอ็นอาร์จี สเตเดียม (ฮูสตัน) และ บีซี เพลซ สเตเดียม (แวนคูเวอร์) ต่างก็มีหลังคาปิดพร้อมระบบปรับอากาศครบครัน เพื่อรับมือกับสภาพอากาศสุดโต่งโดยเฉพาะในช่วงกลางวัน

สำหรับการแข่งขัน รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลสโมสรโลก 2025 ที่จะมีขึ้นระหว่าง เชลซี พบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ เม็ตไลฟ์ สเตเดียม นิวเจอร์ซีย์ ในเวลา 15:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าอุณหภูมิจะอยู่ที่ราว 28.8°C แต่ฟีฟ่าเชื่อว่าระบบภายในสนามจะสามารถจัดการได้อย่างปลอดภัย

ยูฟ่ายึดกฎเจ้าของร่วม พาเลซถูกลดชั้น – ฟอเรสต์จ่อเสียบแทน

0

กลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการฟุตบอลยุโรป เมื่อ คริสตัล พาเลซ แชมป์เอฟเอ คัพ 2024–25 ถูกตัดสิทธิ์จากการลงแข่งขันใน ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ซีซั่นหน้า และถูกลดระดับไปเล่นในรายการ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก แทน แม้จะมีผลงานควรค่าแก่การไปเล่นรายการใหญ่อีกขั้นก็ตาม

สาเหตุหลักมาจากการที่ จอห์น เท็กซ์เตอร์ นักลงทุนชาวอเมริกัน ถือหุ้นใหญ่ในทั้ง พาเลซ และ โอลิมปิก ลียง ซึ่งก็ได้สิทธิ์ไปยูโรปา ลีก เช่นกันหลังจบอันดับ 6 ในลีก เอิง และชนะอุทธรณ์โทษตกชั้นของตัวเอง


🔍 ทำไม “เจ้าของร่วม” บางกรณีจึงได้เล่นพร้อมกัน?

หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมกรณี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ คิโรน่า ซึ่งอยู่ภายใต้เครือข่ายของ City Football Group (CFG) จึงสามารถร่วมแข่งขันใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ในฤดูกาล 2024–25 ขณะที่พาเลซกับลียงกลับทำไม่ได้?

คำตอบจากทาง ยูฟ่า คือโครงสร้างความเป็นเจ้าของและการดำเนินงานของกลุ่มอย่าง CFG หรือกรณี เรด บูลล์ ที่เคยเกิดขึ้นกับ ซัลซ์บวร์ก และ แอร์เบ ไลป์ซิก ในปี 2017 นั้นมีความชัดเจนในการ “แยกธุรกิจและอำนาจบริหาร” ระหว่างสโมสรอย่างเป็นทางการ ทั้งในด้านการเงิน ผู้บริหาร และนโยบายการตัดสินใจ

ในขณะที่ฝั่งของพาเลซและลียง ยังพบสายสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของ (เท็กซ์เตอร์) กับโครงสร้างทุนเดิม แม้ว่าจะมีการขายหุ้นบางส่วนให้กับ วูดดี้ จอห์นสัน เจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล นิวยอร์ก เจ็ตส์ แล้วก็ตาม แต่กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้น “หลังเส้นตาย” ที่ยูฟ่ากำหนดไว้ในวันที่ 1 มีนาคม


⚖️ พาเลซเตรียมอุทธรณ์ ชี้ยูฟ่าใช้มาตรฐานสองแบบ

จากสถานการณ์นี้ สื่ออังกฤษหลายสำนักรายงานตรงกันว่า คริสตัล พาเลซ เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) โดยเชื่อว่า ยูฟ่าใช้สองมาตรฐาน ในการพิจารณากรณีความเป็นเจ้าของร่วม

หากพาเลซไม่สามารถอุทธรณ์ได้สำเร็จ ทีมที่ได้ประโยชน์ทันทีคือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งจบอันดับตามหลังในพรีเมียร์ลีก และมีโอกาสถูกดันขึ้นไปแทนใน ยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้า


📌 บทสรุป

ยูฟ่ายังคงยึดหลักการห้ามสโมสรที่มีเจ้าของคนเดียวกันหรือมีโครงสร้างบริหารร่วม เข้าร่วมแข่งขันรายการเดียวกันในฟุตบอลยุโรปเพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน แต่อำนาจการตัดสินใจขึ้นอยู่กับความชัดเจนของ “โครงสร้างแยกตัว” และช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงภายในองค์กร

กรณีของ ซิตี้-คิโรน่า ผ่านเกณฑ์เพราะแสดงหลักฐานการแยกบริหารได้ครบถ้วนภายในเส้นตาย ขณะที่ พาเลซ-ลียง ยังไม่สามารถสลัดภาพความเกี่ยวข้องเดิมได้ทันเวลา

เชลซีขอหนัก! มิลานเล็งแจ็คสันแต่ติดค่าตัว 110 ล้านยูโร

0

เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก แสดงจุดยืนชัดเจนไม่ต้องการปล่อย นิโกล่าส์ แจ็คสัน ออกจากทีมง่าย ๆ โดยตั้งค่าตัวหัวหอกทีมชาติเซเนกัลไว้สูงถึง 110 ล้านยูโร ท่ามกลางความสนใจจาก เอซี มิลาน สโมสรชั้นนำจากกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

รายงานจาก Daily Mail ระบุว่า “สิงห์บลูส์” พร้อมรั้งตัวดาวยิงวัย 24 ปีไว้ใช้งาน แม้เพิ่งเสริมแนวรุกใหม่เข้ามา 2 รายในช่วงซัมเมอร์นี้อย่าง เลียม ดีแล็ป และ เจา เปโดร ซึ่งอาจทำให้แจ็คสันตกไปเป็นเพียงตัวเลือกหมุนเวียนในระบบของกุนซือเอ็นโซ่ มาเรสก้า

ขณะเดียวกัน Football Italia เผยว่า มิลานกำลังมองหากองหน้าตัวใหม่เข้ามาเสริมทัพ หลัง แทมมี่ อับราฮัม หมดสัญญายืมตัวและกลับไปร่วมทีมโรมา ส่วน ลูก้า โยวิช ก็เพิ่งแยกทางจากสโมสร ทำให้ แจ็คสัน ถูกวางไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญคือเรื่องค่าตัวที่สูงเกินงบประมาณของ “รอสโซเนรี่” โดยพวกเขาพร้อมยื่นข้อเสนอราว 50 ล้านยูโร พร้อมเงื่อนไขแบ่งจ่ายเป็นงวด หรืออาจพิจารณาเงื่อนไขยืมตัวก่อนซื้อขาด

สำหรับ แจ็คสัน ย้ายจาก บียาร์เรอัล มาร่วมถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ด้วยค่าตัว 37 ล้านยูโร โดยลงสนามให้เชลซีไปแล้ว 81 นัด ยิงได้ 30 ประตู และทำ 12 แอสซิสต์ แม้จะได้รับคำชมเรื่องความขยันและมีส่วนร่วมกับเกมสูง แต่ยังถูกวิจารณ์เรื่องความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย โดยเฉพาะในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก

วิเคราะห์ก่อนเกม! เปแอสเช ดวลเชลซี ชิงแชมป์สโมสรโลก 2025

0

การแข่งขันฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศสายยุโรป เมื่อ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เตรียมลงสนามพบกับ เชลซี ในคืนวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) เพื่อคว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัลรวมสูงถึง 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


🔵 ความพร้อมของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

ลูกทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ผ่านบททดสอบสุดหินมาได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเฉือนเอาชนะ เรอัล มาดริด 3-2 ในรอบตัดเชือกแบบสุดมันส์ แม้จะขาดแนวรับอย่าง วิลเลียน ปาโช่ และ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ จากโทษแบนเกมสุดท้าย แต่โครงสร้างทีมยังคงแข็งแกร่งด้วยการยึดผู้เล่นตัวหลักจากนัดก่อน

แนวรุกยังคงฝากความหวังไว้ที่สามประสาน อุสมาน เดมเบเล่, เดซีเร่ ดูเอ้ และ ควีช่า ควารัตส์เคเลีย ส่วนแดนกลางนำโดย ชูเอา เนเวส, วิตินญ่า และ ฟาเบียน รุยซ์ พร้อมด้วยสองวิงแบ็กฝั่งซ้าย-ขวา นูโน่ เมนเดส และ อาชราฟ ฮาคีมี่


🔵 ความพร้อมของ เชลซี

ฝั่งของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า พาทีมผ่าน ฟลูมิเนนเซ่ มาได้ด้วยสกอร์ 2-0 จากผลงานของ เจา เปโดร ที่ทำสองประตูตั้งแต่เกมแรกของเขากับต้นสังกัดใหม่ และน่าจะได้รับโอกาสออกสตาร์ตอีกครั้ง

ข่าวดีคือ เลียม ดีแล็ป และ ลีวาย โคลวิลล์ พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวเลือกในแนวรับ ขณะที่ มอยเซส ไกเซโด้ ที่บาดเจ็บจากรอบก่อนเริ่มกลับมาซ้อม และมีลุ้นคืนสนาม ส่วน เบอนัวต์ บาเดียชิล ยังต้องเช็กความฟิต และ โนนี มาดูเอเก้ ไม่น่าจะมีชื่อ เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการย้ายทีม

สองแข้งหน้าใหม่อย่าง เจมี่ กิทเทนส์ และ เอสเตเวา วิลเลียน ยังไม่น่าถูกส่งลงเล่นในเกมสำคัญนี้


🔵 รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เปแอสเช (4-3-3):
จานลุยจิ ดอนนารุมม่า – อาชราฟ ฮาคีมี่, มาร์กินโญส, ลูกัส เบรัลโด้, นูโน่ เมนเดส – ชูเอา เนเวส, วิตินญ่า, ฟาเบียน รุยซ์ – เดซีเร่ ดูเอ้, อุสมาน เดมเบเล่, ควารัตส์เคเลีย

เชลซี (4-2-3-1):
โรเบิร์ต ซานเชซ – มาโล กุสโต้, เทรโวห์ ชาโลบาห์, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า – มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนคู, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ – เจา เปโดร


🔵 วิเคราะห์เกม & สกอร์ที่คาด

เปแอสเชกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแรง โดยเฉพาะการเอาตัวรอดจากเกมหนักกับ บาเยิร์น มิวนิค และ เรอัล มาดริด ทั้งที่มีผู้เล่นน้อยกว่า ขณะที่เชลซีแม้มีเกมรุกที่จัดจ้านขึ้น แต่แนวรับยังมีจุดให้ต้องระวัง โดยเฉพาะเกมที่ต้องรับมือกับเกมริมเส้นของเปแอสเช

ด้วยความครบเครื่องทั้งในเชิงแท็กติกและขวัญกำลังใจ เกมนี้แชมป์ยุโรปจากฝรั่งเศสดูมีภาษีเหนือกว่า หากได้ประตูแรกเร็วอาจไหลได้

สกอร์ที่คาด: ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 4-1 เชลซี

เบรนท์ฟอร์ดปิดดีล เฮนเดอร์สัน เตรียมเปิดตัวทางการสัปดาห์นี้

0

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อดีตกัปตันลิเวอร์พูล ใกล้จะกลับมาวาดลวดลายในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าเจ้าตัวกำลังจะเปิดตัวกับ เบรนท์ฟอร์ด สโมสรจากกรุงลอนดอนภายในไม่กี่วันข้างหน้า

ตามรายงานจาก เดวิด ออนสตีน แห่ง The Athletic สื่อชั้นนำในอังกฤษ ระบุว่า เบรนท์ฟอร์ดบรรลุข้อตกลงกับเฮนเดอร์สันเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นสัญญาระยะเวลา 2 ปี ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ Sky Sports ก็รายงานในทิศทางเดียวกันว่า เหลือเพียงรายละเอียดเล็กน้อยก่อนการประกาศย้ายทีมจะเสร็จสิ้น โดยอาจเกิดขึ้นภายใน 72 ชั่วโมง

เฮนเดอร์สัน ตัดสินใจไม่ใช้เงื่อนไขขยายสัญญากับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ต้นสังกัดปัจจุบันในเอเรดิวิซี และกลายเป็นผู้เล่นไร้สังกัดอย่างเป็นทางการ ก่อนตอบรับข้อเสนอจาก “เดอะ บีส์” เพื่อกลับมาค้าแข้งในลีกสูงสุดของอังกฤษอีกครั้ง

ดาวเตะวัย 35 ปี ผ่านประสบการณ์โชกโชน ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติอังกฤษที่เขาลงสนามไปแล้ว 85 นัด โดยเบรนท์ฟอร์ดวางแผนให้เขาเข้ามาแทนที่ คริสเตียน นอร์การ์ด ที่ย้ายไปอยู่กับอาร์เซน่อลในช่วงซัมเมอร์นี้

สำหรับเส้นทางค้าแข้งของเฮนเดอร์สัน ก่อนหน้านี้เขาย้ายออกจากลิเวอร์พูลในปี 2023 เพื่อไปร่วมทีม อัล อิตติฟาก ในลีกซาอุดีอาระเบีย แต่ประสบปัญหาในการปรับตัวและขอยกเลิกสัญญาก่อนย้ายมาร่วมทัพอาแจ็กซ์ในช่วงต้นปี 2024 ซึ่งเขาเลือกไม่ต่อสัญญาเพื่อหาทางกลับสู่พรีเมียร์ลีก

การมาของเฮนเดอร์สันจะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในแดนกลางให้กับเบรนท์ฟอร์ด รวมถึงยกระดับความเป็นผู้นำภายในทีมในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของโปรเจกต์ใหม่

ราชันลุ้นทำลายสถิติ! เตรียมพบเปแอสเช ตัดเชือกสโมสรโลก 2025

0

เรอัล มาดริด กำลังเดินหน้าสู่หน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสรอีกครั้ง เมื่อพวกเขาเตรียมลงสนามพบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในรอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ที่สหรัฐอเมริกา

แมตช์สำคัญนี้ไม่เพียงแค่ตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเท่านั้นที่อยู่บนเส้นทางของทัพ “โลส บลังโกส” แต่ยังหมายถึงโอกาสในการทำลายสถิติยอดชนะมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลของสโมสรที่ยืนยาวมาตั้งแต่ยุคโชเซ่ มูรินโญ่

ปัจจุบัน มาดริด ภายใต้การคุมทัพของ ชาบี อลอนโซ่ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ด้วยการเก็บชัยชนะไปแล้ว 45 นัดจาก 67 เกมทุกรายการ และหากพวกเขาคว้าชัยเหนือเปแอสเชได้สำเร็จ จะทำให้ยอดชนะขยับขึ้นเป็น 46 นัด ซึ่งเท่ากับสถิติสูงสุดของทีมที่เคยทำไว้ในฤดูกาล 2011–12 และ 2013–14

สมัยนั้นราชันชุดขาวเคยกวาดชัย 46 นัด จากการลงสนาม 58 เกม (อัตราชนะ 79.3%) ในซีซั่น 2011–12 และ 60 นัด (อัตราชนะ 76.7%) ในฤดูกาล 2013–14 ซึ่งเป็นช่วงที่ทีมอยู่ในฟอร์มระดับโลก

แม้ในซีซั่นปัจจุบัน เปอร์เซ็นต์ชนะของมาดริดจะไม่สูงเท่ากับอดีต อยู่ที่ประมาณ 67.1% แต่ด้วยจำนวนเกมที่มากขึ้นจากการลุยหลายรายการ ทำให้สถิตินี้น่าทึ่งไม่แพ้กัน

หากพวกเขาผ่านเปแอสเชได้และทะลุเข้าชิงกับ เชลซี ในวันที่ 13 กรกฎาคม มันจะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของยุคใหม่ภายใต้ชาบี อลอนโซ่ ที่กำลังปลุกมาดริดให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และอาจเป็นสัญญาณของยุคทองบทถัดไปที่กำลังเริ่มต้น

แรชฟอร์ดไม่ท้อ! รายงานตัวกับแมนยู แม้โดนบอกให้หาทีมใหม่

0

มาร์คัส แรชฟอร์ด แนวรุกทีมชาติอังกฤษ แสดงความเป็นมืออาชีพอย่างเต็มเปี่ยม หลังปรากฏตัวที่ศูนย์ฝึกแคร์ริงตันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้มีรายงานก่อนหน้านี้ว่าสโมสรเปิดไฟเขียวให้เจ้าตัวมองหาสโมสรใหม่ และไม่จำเป็นต้องมารายงานตัวกับทีมในช่วงพรีซีซั่น

ตามรายงานจาก The Athletic สื่อชั้นนำของอังกฤษ ยืนยันว่า ดาวเตะวัย 27 ปี ยังคงเดินทางมาร่วมกิจกรรมกับทีม แม้ว่าจะมีสถานะเป็นนักเตะนอกแผนในยุคของกุนซือใหม่ โดยมีชื่ออยู่ในกลุ่ม 5 แข้งที่สโมสรพร้อมปล่อยตัวออกจากทีมในตลาดซัมเมอร์นี้

ที่น่าสังเกตคือหมายเลข 10 ซึ่งแรชฟอร์ดสวมใส่เมื่อฤดูกาลก่อน ได้ถูกจัดเตรียมไว้ให้ มาเตอุส คุนญ่า หัวหอกคนใหม่จากวูล์ฟแฮมป์ตันเป็นที่เรียบร้อย สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทีมปีศาจแดง

แม้จะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนักเตะที่ต้องแยกซ้อมและใช้ศูนย์ฝึกเพื่อฟื้นฟูร่างกายตามนโยบายของสโมสรสำหรับผู้ที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีม แต่แรชฟอร์ดยังแสดงความตั้งใจในการกลับมามีบทบาทกับทีม และหวังว่าจะได้ติดทัพไปทัวร์พรีซีซั่นกับเพื่อนร่วมทีม

ในขณะที่อนาคตของเขายังไม่แน่นอน บาร์เซโลน่า ทีมดังจากลา ลีกา สเปน กำลังจับตาสถานการณ์ของเจ้าตัวอย่างใกล้ชิด โดยมีโอกาสยื่นข้อเสนอหากแมนยูพร้อมเปิดดีลอย่างเป็นทางการ

โคนาเต้เล็งซบราชันหากจากหงส์แดง – ไม่สนทีมอื่นนอกจากมาดริด

0

อิบราฮิม่า โคนาเต้ ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสของลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวว่ามีจุดหมายชัดเจนหากต้องอำลาถิ่นแอนฟิลด์ในอนาคต โดยล็อกเป้าไปยังเรอัล มาดริดเท่านั้น แม้จะได้รับความสนใจจากหลายทีมทั่วยุโรปก็ตาม

รายงานจากฝรั่งเศสและสเปนระบุตรงกันว่า แนวรับวัย 26 ปี ปฏิเสธข้อเสนอเบื้องต้นในการต่อสัญญากับลิเวอร์พูล ซึ่งสัญญาฉบับปัจจุบันของเขากำลังจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ปี 2026 โดยยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาฉบับใหม่

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทีมราชันชุดขาวเผยว่า โคนาเต้ให้ความสำคัญกับโอกาสในการร่วมทีมเรอัล มาดริด และไม่สนใจพิจารณาข้อเสนอจากสโมสรอื่น หากถึงเวลาต้องตัดสินใจย้ายทีม ซึ่งสอดคล้องกับรายงานจาก Bernabeu Digital และคำยืนยันจาก ซาชา ทาโวลิเอรี นักข่าวของ Sky Sports ที่ระบุว่า ชาบี อลอนโซ่ เทรนเนอร์คนใหม่ของโลส บลังโกส พร้อมให้การสนับสนุนดีลนี้เต็มที่

แม้ว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จะจับตาสถานการณ์ของเซ็นเตอร์แบ็กหงส์แดงรายนี้อย่างใกล้ชิด แต่โคนาเต้เองดูจะมีทิศทางชัดเจน โดยอาจเดินตามรอย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่เพิ่งเปิดตัวกับเรอัล มาดริด และเตรียมร่วมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ที่สหรัฐอเมริกา

หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ลิเวอร์พูลอาจต้องเผชิญกับการเสียหนึ่งในกองหลังคนสำคัญแบบไร้ค่าตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ขณะที่เรอัล มาดริดยังคงเดินหน้าเสริมทัพเพื่อสานต่อความสำเร็จทั้งในประเทศและเวทียุโรป

แมนยูปรับแผนขาย “อันโตนี่” หั่นราคาลง หวังปล่อยซัมเมอร์นี้

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินหน้าปรับกลยุทธ์ในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ โดยมีรายงานจาก Tuttomercatoweb สื่อดังจากอิตาลี ระบุว่า “ปีศาจแดง” ตัดสินใจลดค่าตัวของ อันโตนี่ ปีกชาวบราซิล หวังปล่อยออกจากทีมเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย

เดิมที ยูไนเต็ดตั้งค่าหัวของแนวรุกวัย 25 ปี ไว้ที่ 40 ล้านปอนด์ แต่ล่าสุดมีการปรับลดเหลือประมาณ 30.2 ล้านปอนด์ เพื่อล่อใจสโมสรที่สนใจ โดยเฉพาะ เรอัล เบติส ทีมจากลา ลีกา ที่เพิ่งยืมตัวเขาไปใช้งานในครึ่งหลังของฤดูกาล 2024–25 และกำลังพิจารณาเจรจาขอยืมต่ออีกหนึ่งปี

อันโตนี่ โชว์ฟอร์มได้น่าพอใจในสเปน โดยยิงได้ 9 ประตู และทำ 5 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 26 นัด ให้กับเบติส แม้ผลงานในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดจะยังไม่เป็นไปตามความคาดหวัง หลังย้ายจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาเมื่อปี 2022 ด้วยค่าตัวรวมโบนัสสูงถึง 85 ล้านปอนด์

แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างทีมในยุคของเจ้าของใหม่ภายใต้การดูแลของ INEOS และหนึ่งในเป้าหมายหลักคือการลดภาระค่าเหนื่อยของผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีม

ชื่อของอันโตนี่ เป็นหนึ่งใน 5 นักเตะที่มีแนวโน้มถูกปล่อยออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ ร่วมกับแข้งรายอื่นที่ยังไม่มีความแน่นอนในอนาคต ท่ามกลางกระแสการเสริมทัพใหม่ของเอริก เทน ฮาก เพื่อฟื้นฟูผลงานของทีมให้กลับมาอยู่ในจุดที่แข็งแกร่งอีกครั้ง

ซาอุฯยังไม่ยอมแพ้! อัล อาห์ลีจ่อปิดดีลเมสซี่เสริมซูเปอร์ทีม

0

มีรายงานจากฝรั่งเศสระบุว่า อัล อาห์ลี สโมสรยักษ์ใหญ่จากซาอุดี โปรลีก กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับ ลิโอเนล เมสซี่ เพื่อคว้าตัวแนวรุกระดับตำนานมาร่วมทีมช่วงสิ้นปีนี้ หลังสัญญาของเขากับ อินเตอร์ ไมอามี่ กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม

แม้เมสซี่จะยังมีออปชั่นขยายสัญญาเพิ่มเติมได้อีก 1 ปีกับทีมจาก MLS แต่การพูดคุยในเรื่องดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้า ทำให้อนาคตของเจ้าตัวเริ่มเปิดกว้างสำหรับความท้าทายใหม่ โดยเฉพาะในตะวันออกกลางที่พร้อมยื่นข้อเสนอแบบไม่มีข้อจำกัด

รายงานจาก L’Équipe เปิดเผยว่า อัล อาห์ลี ซึ่งเพิ่งคว้าแชมป์ AFC Champions League Elite 2024–25 เตรียมยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการให้เมสซี่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อปิดดีลให้ทันก่อนเริ่มต้นฤดูกาลใหม่

เมสซี่ ย้ายมาร่วมทีมอินเตอร์ ไมอามี่ ตั้งแต่กลางปี 2023 และโชว์ฟอร์มร้อนแรง กดไปแล้ว 52 ประตู กับ 25 แอสซิสต์ จากการลงสนามทั้งหมด 64 นัด ในทุกรายการ นับเป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของลีกอเมริกาในช่วงเวลาสั้น ๆ

ย้อนกลับไปในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 เมสซี่เคยตกเป็นข่าวอย่างหนักกับการย้ายไปเล่นในซาอุดี โปรลีก หลังหมดสัญญากับปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่สุดท้ายเลือกสหรัฐอเมริกาแทน

นอกจากนี้ เมสซี่ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับซาอุดีอาระเบียในฐานะ แบรนด์แอมบาสเดอร์ด้านการท่องเที่ยว ด้วยสัญญาระยะ 3 ปี มูลค่าราว 18.4 ล้านปอนด์ ซึ่งอาจมีผลในการโน้มน้าวใจครั้งนี้

หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง นี่จะเป็นการเปิดศึกครั้งใหม่ระหว่างสองซูเปอร์สตาร์แห่งยุค เมสซี่ vs โรนัลโด้ บนเวทีซาอุดี โปรลีก ซึ่งคาดว่าจะยกระดับความนิยมของฟุตบอลลีกในภูมิภาคขึ้นไปอีกขั้นอย่างมหาศาล

ห้ามพลาด!