พลีมัธ อาร์ไกล์ ทีมจาก แชมเปี้ยนชิพ ทำให้เกิดหนึ่งในผลการแข่งขันสุดช็อกของ เอฟเอ คัพ หลังเปิดบ้านเฉือนชนะ ลิเวอร์พูล ชุดโรเตชั่น 1-0 จากจุดโทษของ ไรอัน ฮาร์ดี้ ส่งผลให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบ 5 หรือ 16 ทีมสุดท้าย ได้สำเร็จ ขณะที่ “หงส์แดง” ต้องจอดป้ายเพียงรอบนี้
หงส์แดงโรเตชั่นหลายตำแหน่ง ขณะที่พลีมัธใช้ชุดเกือบเต็มกำลัง
มิรอน มุสลิช กุนซือของพลีมัธ ปรับเปลี่ยนทีมเพียงตำแหน่งเดียวจากเกมชนะเวสต์บรอมวิช โดยส่ง ดาร์โก้ กยาบี้ ลงเล่นแทน จอร์แดน ฮาวตัน ในแดนกลาง
ขณะที่ อาร์เน่ สล็อต เฮดโค้ชลิเวอร์พูล เลือกโรเตชั่นผู้เล่นหลายตำแหน่ง โดยให้โอกาสดาวรุ่งอย่าง เทรย์ เอ็นโยนี่ และ เจมส์ แม็คคอนเนลล์ ออกสตาร์ตตัวจริง ขณะที่ วาตารุ เอ็นโด ลงเล่นเป็นกองกลางตัวรับ ส่วน โจ โกเมซ หายเจ็บกลับมาประจำการในแนวรับ
ลิเวอร์พูลบุกหนัก แต่เจาะแนวรับพลีมัธไม่เข้า
นาทีที่ 4 ลิเวอร์พูลเกือบขึ้นนำ เทรย์ เอ็นโยนี่ ได้โอกาสยิงจากนอกกรอบ แต่แนวรับพลีมัธช่วยกันบล็อกได้ทัน
นาทีที่ 9 ลิเวอร์พูลเจอข่าวร้าย เมื่อ โจ โกเมซ ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนออกให้ ไอแซ็ก มาบายา ลงสนามแทน ซึ่งถือเป็นการลงเล่นชุดใหญ่ครั้งแรกของเจ้าตัว
นาทีที่ 37 เจมส์ แม็คคอนเนลล์ ได้โอกาสซัดไกลจากนอกกรอบ บอลแฉลบแนวรับพลีมัธเปลี่ยนทาง แต่ คอนเนอร์ ฮาซาร์ด นายด่านเจ้าถิ่นยังเซฟไว้ได้
นาทีที่ 42 พลีมัธมีโอกาสลุ้นบ้าง ฮูลิโอ เปลกูเซโล่ ทุ่มไกลให้ ดาร์โก้ กยาบี้ ยิงเน้นๆ แต่บอลข้ามคานออกไป
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูลครองบอลได้เหนือกว่าชัดเจน แต่ยังเจาะแนวรับพลีมัธไม่เข้า เสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง พลีมัธสวนหมัดเด็ด ลิเวอร์พูลหมดลุ้น
นาทีที่ 58 อาร์เน่ สล็อต เปลี่ยนตัวเพิ่ม ส่ง ดาร์วิน นูนเญซ ลงมาแทน ไอแซ็ก มาบายา หวังเพิ่มพลังเกมรุก
นาทีที่ 61 พลีมัธเกือบได้ประตูขึ้นนำ นิโคลา คาติช โหม่งให้ ไรอัน ฮาร์ดี้ ยิงเต็มข้อ แต่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ปัดไปชนเสาก่อนบอลเด้งออกมา
นาทีที่ 90+3 ลิเวอร์พูลมีโอกาสใกล้เคียงที่สุดเมื่อ เจมส์ แม็คคอนเนลล์ เปิดบอลให้ ดีโอโก้ โชต้า วอลเลย์จากริมกรอบเขตโทษ แต่ คอนเนอร์ ฮาซาร์ด พุ่งเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พลีมัธมาได้จุดโทษ และเป็น ไรอัน ฮาร์ดี้ ที่สังหารเข้าไปอย่างเด็ดขาด ทำให้พลีมัธเฉือนชนะลิเวอร์พูล 1-0
จบเกม พลีมัธ อาร์ไกล์ สร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ ส่วนลิเวอร์พูลต้องจอดป้ายอย่างพลิกล็อก
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
พลีมัธ อาร์ไกล์ (3-4-2-1)
คอนเนอร์ ฮาซาร์ด – ฮูลิโอ เปลกูเซโล่, นิโคลา คาติช, มักซิม ทาโลเยรอฟ – แมทธิว โซริโนลา, อดัม แรนเดล, ดาร์โก้ กยาบี้, ทิโมเธอุส ปูชัซ – มุสตาฟา บุนดู, คัลลัม ไรท์ – ไรอัน ฮาร์ดี้
ลิเวอร์พูล (4-3-3)
ควีวิน เคลเลเฮอร์ – เจมส์ แม็คคอนเนลล์, จาเรลล์ ควอนซาห์, โจ โกเมซ, คอสตาส ซิมิคาส – วาตารุ เอ็นโด, เทรย์ เอ็นโยนี่, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ – เฟเดริโก เคียซ่า, หลุยส์ ดิอาซ – ดีโอโก้ โชต้า
ลิเวอร์พูลตกรอบแบบสุดช็อก! ขณะที่พลีมัธสร้างประวัติศาสตร์เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ