พลีมัธ อาร์ไกล์ ทีมจาก แชมเปี้ยนชิพ ทำให้เกิดหนึ่งในผลการแข่งขันสุดช็อกของ เอฟเอ คัพ หลังเปิดบ้านเฉือนชนะ ลิเวอร์พูล ชุดโรเตชั่น 1-0 จากจุดโทษของ ไรอัน ฮาร์ดี้ ส่งผลให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบ 5 หรือ 16 ทีมสุดท้าย ได้สำเร็จ ขณะที่ “หงส์แดง” ต้องจอดป้ายเพียงรอบนี้
หงส์แดงโรเตชั่นหลายตำแหน่ง ขณะที่พลีมัธใช้ชุดเกือบเต็มกำลัง
มิรอน มุสลิช กุนซือของพลีมัธ ปรับเปลี่ยนทีมเพียงตำแหน่งเดียวจากเกมชนะเวสต์บรอมวิช โดยส่ง ดาร์โก้ กยาบี้ ลงเล่นแทน จอร์แดน ฮาวตัน ในแดนกลาง
ขณะที่ อาร์เน่ สล็อต เฮดโค้ชลิเวอร์พูล เลือกโรเตชั่นผู้เล่นหลายตำแหน่ง โดยให้โอกาสดาวรุ่งอย่าง เทรย์ เอ็นโยนี่ และ เจมส์ แม็คคอนเนลล์ ออกสตาร์ตตัวจริง ขณะที่ วาตารุ เอ็นโด ลงเล่นเป็นกองกลางตัวรับ ส่วน โจ โกเมซ หายเจ็บกลับมาประจำการในแนวรับ
ลิเวอร์พูลบุกหนัก แต่เจาะแนวรับพลีมัธไม่เข้า
🔹 นาทีที่ 4 ลิเวอร์พูลเกือบขึ้นนำ เทรย์ เอ็นโยนี่ ได้โอกาสยิงจากนอกกรอบ แต่แนวรับพลีมัธช่วยกันบล็อกได้ทัน
🔹 นาทีที่ 9 ลิเวอร์พูลเจอข่าวร้าย เมื่อ โจ โกเมซ ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนออกให้ ไอแซ็ก มาบายา ลงสนามแทน ซึ่งถือเป็นการลงเล่นชุดใหญ่ครั้งแรกของเจ้าตัว
🔹 นาทีที่ 37 เจมส์ แม็คคอนเนลล์ ได้โอกาสซัดไกลจากนอกกรอบ บอลแฉลบแนวรับพลีมัธเปลี่ยนทาง แต่ คอนเนอร์ ฮาซาร์ด นายด่านเจ้าถิ่นยังเซฟไว้ได้
🔹 นาทีที่ 42 พลีมัธมีโอกาสลุ้นบ้าง ฮูลิโอ เปลกูเซโล่ ทุ่มไกลให้ ดาร์โก้ กยาบี้ ยิงเน้นๆ แต่บอลข้ามคานออกไป
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูลครองบอลได้เหนือกว่าชัดเจน แต่ยังเจาะแนวรับพลีมัธไม่เข้า เสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง พลีมัธสวนหมัดเด็ด ลิเวอร์พูลหมดลุ้น
🔸 นาทีที่ 58 อาร์เน่ สล็อต เปลี่ยนตัวเพิ่ม ส่ง ดาร์วิน นูนเญซ ลงมาแทน ไอแซ็ก มาบายา หวังเพิ่มพลังเกมรุก
🔸 นาทีที่ 61 พลีมัธเกือบได้ประตูขึ้นนำ นิโคลา คาติช โหม่งให้ ไรอัน ฮาร์ดี้ ยิงเต็มข้อ แต่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ปัดไปชนเสาก่อนบอลเด้งออกมา
🔸 นาทีที่ 90+3 ลิเวอร์พูลมีโอกาสใกล้เคียงที่สุดเมื่อ เจมส์ แม็คคอนเนลล์ เปิดบอลให้ ดีโอโก้ โชต้า วอลเลย์จากริมกรอบเขตโทษ แต่ คอนเนอร์ ฮาซาร์ด พุ่งเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
📌 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พลีมัธมาได้จุดโทษ และเป็น ไรอัน ฮาร์ดี้ ที่สังหารเข้าไปอย่างเด็ดขาด ทำให้พลีมัธเฉือนชนะลิเวอร์พูล 1-0
⚽ จบเกม พลีมัธ อาร์ไกล์ สร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ ส่วนลิเวอร์พูลต้องจอดป้ายอย่างพลิกล็อก
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
🔹 พลีมัธ อาร์ไกล์ (3-4-2-1)
คอนเนอร์ ฮาซาร์ด – ฮูลิโอ เปลกูเซโล่, นิโคลา คาติช, มักซิม ทาโลเยรอฟ – แมทธิว โซริโนลา, อดัม แรนเดล, ดาร์โก้ กยาบี้, ทิโมเธอุส ปูชัซ – มุสตาฟา บุนดู, คัลลัม ไรท์ – ไรอัน ฮาร์ดี้
🔹 ลิเวอร์พูล (4-3-3)
ควีวิน เคลเลเฮอร์ – เจมส์ แม็คคอนเนลล์, จาเรลล์ ควอนซาห์, โจ โกเมซ, คอสตาส ซิมิคาส – วาตารุ เอ็นโด, เทรย์ เอ็นโยนี่, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ – เฟเดริโก เคียซ่า, หลุยส์ ดิอาซ – ดีโอโก้ โชต้า
⚠️ ลิเวอร์พูลตกรอบแบบสุดช็อก! ขณะที่พลีมัธสร้างประวัติศาสตร์เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ 🎉🔥