สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เปิดเผยเหตุผลอย่างเป็นทางการว่าทำไมสนามเหย้าของ ลิเวอร์พูล และ เชลซี รวมถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงไม่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสังเวียนจัดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2028 โดยประเด็นหลักอยู่ที่ข้อจำกัดด้านมาตรฐานสนามและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน

หลังยูฟ่าออกประกาศรายชื่อสนามเจ้าภาพทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในปี 2028 พบว่า ปรินซิพาลิตี้ สเตเดี้ยม ในคาร์ดิฟฟ์ จะรับหน้าที่จัดพิธีเปิด ขณะที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ยังคงเป็นสังเวียนสำคัญสำหรับรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ ส่วนสนามในพรีเมียร์ลีกหลายแห่ง เช่น ฮิลล์ ดิคกินสัน (เอฟเวอร์ตัน), วิลล่า พาร์ค (แอสตัน วิลล่า), ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม, เซนต์ เจมส์ พาร์ค และ เอติฮัด สเตเดี้ยม ต่างผ่านการคัดเลือกครบถ้วน

อย่างไรก็ตาม แอนฟิลด์, สแตมฟอร์ด บริดจ์ และโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่างถูกตัดชื่อออกทั้งหมด โดยมีเหตุผลดังนี้:

แอนฟิลด์ – ขนาดสนามไม่ตรงตามเกณฑ์ยูฟ่า

สนามเหย้าของลิเวอร์พูลมีความยาวของพื้นที่เล่นสั้นกว่ามาตรฐานที่ยูฟ่า ระบุไว้ (105 × 68 เมตร) อยู่ประมาณ 4 เมตร ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้สนามไม่สามารถผ่านการคัดเลือกได้ แม้สโมสรจะมีความพยายามแก้ไข แต่ติดข้อจำกัดด้านโครงสร้างและพื้นที่โดยรอบที่ทำให้ไม่สามารถขยายเพิ่มได้

สแตมฟอร์ด บริดจ์ – ขนาดสนามหญ้าสั้นกว่ากำหนด

สนามของเชลซีเผชิญปัญหาเดียวกัน โดยมีพื้นที่เล่นเพียง 103 × 67 เมตร ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำของยูฟ่า ส่งผลให้ถูกตัดสิทธิ์โดยอัตโนมัติ

โอลด์ แทรฟฟอร์ด – ความเก่าและความไม่พร้อมของโครงสร้าง

ในส่วนของโอลด์ แทรฟฟอร์ด แม้จะเป็นหนึ่งในสนามที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ แต่ยูฟ่ามองว่าขาดการปรับปรุงครั้งใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายโซนมีปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่สอดคล้องกับความต้องการด้านความปลอดภัยและมาตรฐานของทัวร์นาเมนต์ นอกจากนี้ ในปี 2023 สโมสรยังไม่สามารถให้ข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับแผนความพร้อมของสนาม ทำให้ถูกพิจารณาตัดออกในที่สุด

การคัดเลือกครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของยูฟ่าในการกำหนดมาตรฐานสังเวียนแข่งขัน รวมถึงความจำเป็นที่สโมสรต่าง ๆ ต้องเร่งพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทันยุคสมัย หากต้องการกลับมาเป็นเจ้าภาพทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในอนาคต.