สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) มีคำสั่งลงโทษทางการเงินต่อสองสโมสรจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง เชลซี และ แอสตัน วิลล่า จากกรณีละเมิดกฎควบคุมการใช้จ่ายของสโมสร (Financial Sustainability Regulations)

เชลซี ถูกสั่งปรับเบื้องต้นจำนวน 20 ล้านยูโร จากการไม่ปฏิบัติตามกฎ “Football Earnings Rule” ซึ่งมีผลตั้งแต่ฤดูกาล 2024–25 โดยทางยูฟ่าพบว่ารายรับจากกิจกรรมฟุตบอลของสโมสรไม่สอดคล้องกับเกณฑ์ที่กำหนด และอาจถูกปรับเพิ่มอีก 80 ล้านยูโร หากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่วางไว้ภายใน 4 ปี ทำให้ยอดรวมค่าปรับอาจพุ่งสูงถึง 91 ล้านยูโร

นอกจากนี้ สิงห์บลูยังต้องจ่ายเพิ่มอีก 11 ล้านยูโร จากการละเมิด “Squad Cost Rule” ซึ่งควบคุมอัตราส่วนค่าใช้จ่ายของทีม โดยยูฟ่าระบุว่า เชลซีใช้จ่ายในสัดส่วนที่สูงเกินรายรับ

ด้าน แอสตัน วิลล่า ก็ไม่รอดจากมาตรการนี้ โดยถูกปรับเงิน 11 ล้านยูโร และมีความเสี่ยงต้องจ่ายเพิ่มอีก 15 ล้านยูโร หากไม่สามารถปรับสมดุลการเงินภายในกรอบเวลา 3 ปีตามที่ยูฟ่ากำหนด

ยูฟ่าชี้แจงว่าการลงโทษครั้งนี้เกี่ยวข้องกับสัดส่วนการใช้จ่ายของทีมที่สูงเกินกว่า 80–90% ของรายได้ พร้อมเตือนล่วงหน้าว่า ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป สโมสรในยุโรปจะถูกจำกัดการใช้จ่ายไม่เกิน 70% ของรายรับสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับผู้เล่น

ผลกระทบโดยตรงคือ เชลซีและวิลล่า อาจไม่สามารถลงทะเบียนนักเตะใหม่ในรายการฟุตบอลยุโรปได้ในฤดูกาลหน้า เว้นแต่ว่าสโมสรจะมีตัวเลขการซื้อขายนักเตะเป็นบวกก่อนตลาดซื้อขายปิดตัวในช่วงซัมเมอร์นี้

ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายสโมสรในยุโรปที่ถูกลงโทษในกรณีคล้ายกัน อาทิ บาร์เซโลน่า, ไฮจ์ดุ๊ก สปลิท, โอลิมปิก ลียง และ เอฟซี ปอร์โต้ ที่ยูฟ่ากำลังดำเนินการควบคุมการเงินอย่างเข้มงวดทั่วทั้งทวีป