ผลปรากฏว่า เจ้าบ้านเชลซี ถึงจะมีการโรเตชั่นยกทีมแต่ฟอร์มยังเหนือกว่าอยู่มาก ไถ่ถล่มทีมผู้มาเยือนจากลีคทูไป 5-0 โดยคริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู กดไป 3 ลูกทำแฮตทริค พาทีมผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ของถ้วย คาราบาว คัพ ได้สำเร็จ
เชลซี (4-2-3-1) : ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น – มาโล กุสโต้, อักแซล ดิซาซี่, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เรนาโต้ เวก้า – เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์, เซซาเร่ กาซาเด – เปโดร เนโต้, ชูเอา เฟลิกซ์, มิไคโล มูดริค – คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู
แบร์โรว์ (4-3-3) : พอล ฟาร์แมน – รอรี่ ฟีลี่, ธีโอ วาสเซลล์, คริส สโต๊คส์, เบน แจ็คสัน – ดีน แคมป์เบลล์, แซม โฟลี่ย์, ไคอัน สเปนซ์ – เอมิล อัคควาห์, เก็ด การ์เนอร์, เอลเลียต นิวบี้
FT : เชลซี 5-0 บาร์โรว์
คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู นาที 8, 15, 75
พอล เฟอร์มาน นาที 28(og)
เปโดร เนโต้ นาที 48
“ผมมีความสุขมากกับฟอร์มและก็ผลการแข่งขันที่ได้ เราปรับเปลี่ยนหลาย ๆ อย่าง แต่แนวคิดยังคงเหมือนเดิม นี่ต้องเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเราไม่ว่าเราจะเล่นกับใครก็ตาม เพื่อให้ตัวตนของทีมเรายังคงอยู่”
– เอ็นโซ มาเรสก้า พอใจกับผลงานลูกทีมหลังโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมไล่ถล่ม บาร์โรว์ 5-0