ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2025-26 ได้สำเร็จ หลังตามตีเสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-2 ในเวลา 90 นาที ก่อนยิงจุดโทษเฉือนชนะ 4-3 ที่สนามสตาดิโอ ฟริอูลี่ ประเทศอิตาลี เมื่อคืนที่ผ่านมา
แมตช์นี้ เปแอสเช ในฐานะแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขาด ชูเอา เนเวส ที่ติดโทษแบนจากใบแดงในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ทำให้ วาร์ร็อง ซาอีร์ เอเมอรี่ ได้โอกาสลงตัวจริง ขณะที่ สเปอร์ส แชมป์ยูโรป้า ลีก ส่ง โมฮาเหม็ด คูดุส และ ชูเอา ปาลินญ่า ลงตั้งแต่ต้นเกม โดยมี คริสเตียน โรเมโร่ รับบทกัปตันทีมคนใหม่
เกมครึ่งแรก นาที 39 “ไก่เดือยทอง” ออกนำ 1-0 จากจังหวะฟรีคิกยาวของ วิคาริโอ ที่ โรเมโร่ โหม่งชงให้ ปาลินญ่า ยิงติดเซฟชนคาน ก่อน ฟาน เดอ เฟ่น ตามซ้ำไม่พลาด สเปอร์สเกือบหนีห่างท้ายครึ่งแรกเมื่อ คูดุส โหม่งชนเสา จบ 45 นาทีแรกนำอยู่หนึ่งประตู
ครึ่งหลัง นาที 48 โรเมโร่ เติมขึ้นมาโหม่งจากลูกตั้งเตะของ เปโดร ปอร์โร่ ให้ สเปอร์ส นำ 2-0 และยังมีโอกาสลุ้นเพิ่มจากเกมลูกกลางอากาศหลายครั้ง
เปแอสเชต้องรอถึงนาที 85 จึงมีเสียงเฮจากแฟนบอล เมื่อ อี คัง อิน ตัวสำรองซัดด้วยซ้ายตีไข่แตก และในช่วงทดเจ็บนาที 90+4 อุสมาน เดมเบเล่ เปิดให้ กอนซาโล่ รามอส โหม่งตีเสมอ 2-2 ส่งเกมเข้าสู่การดวลจุดโทษ
ผลสุดท้าย เปแอสเช ยิงแม่นกว่าชนะไป 4-3 ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ สมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
รายชื่อ 11 ตัวจริง
- เปแอสเช (4-3-3): ลูคัส เชวาลิเยร์ – อาชราฟ ฮาคิมี่, มาร์กินโญส, วิลเลี่ยน ปาโช่, นูโน่ เมนเดส – วาร์ร็อง ซาอีร์ เอเมอรี่, วิตินญ่า, เดซีเร่ ดูเอ้ – ควิช่า ควารัตส์เคเลีย, อุสมาน เดมเบเล่, แบร็ดลี่ย์ บาร์โคล่า
- สเปอร์ส (3-5-2): กูเยลโม่ วิคาริโอ – เควิน ดานโซ่, คริสเตียน โรเมโร่, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น – เปโดร ปอร์โร่, โรดริโก้ เบนตานกูร์, ชูเอา ปาลินญ่า, ป๊าป ซาร์, เจด สเปนซ์ – โมฮาเหม็ด คูดุส, ริชาร์ลิซอน