กลุ่มแฟนบอล ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ วางแผนประท้วงใหญ่ เรียกร้องให้ ดาเนี่ยล เลวี่ ก้าวลงจากตำแหน่งประธานสโมสร ก่อนเกมที่ทีมจะเปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยพวกเขามองว่าผู้บริหารให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าความสำเร็จของสโมสร


ความไม่พอใจที่สะสมมายาวนาน

ดาเนี่ยล เลวี่ ดำรงตำแหน่งประธานสเปอร์สมานานกว่า 24 ปี และแม้ว่าสโมสรจะเติบโตขึ้นอย่างมากในเชิงธุรกิจและรายได้ แต่ความสำเร็จในสนามกลับสวนทางอย่างสิ้นเชิง นับตั้งแต่คว้าแชมป์ ลีก คัพ ฤดูกาล 2007/08 สโมสรไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลยเป็นเวลากว่า 17 ปี

แม้ทีมจะเคยมีโอกาสลุ้นแชมป์ โดยเฉพาะในปี 2019 ที่ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่สุดท้ายก็พลาดไป ขณะที่อันดับในพรีเมียร์ลีกก็ไม่เคยติด ท็อป 3 เลยนับตั้งแต่ปี 2018


ปัญหาการบริหารและค่าใช้จ่ายแฟนบอล

แม้ผลงานในสนามจะซบเซา แต่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ กลับประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านรายได้ ฤดูกาลที่แล้วพวกเขากวาดรายได้ถึง 615 ล้านปอนด์ และเป็นหนึ่งในสโมสรที่ทำกำไรสูงสุดของโลก อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายของแฟนบอลกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั๋วเข้าชมเกมสำหรับผู้ใหญ่มีราคา 856 ปอนด์ ซึ่งแพงเป็นอันดับ 2 ของยุโรป

ปัจจัยเหล่านี้ทำให้แฟนบอลจำนวนมากเริ่มหมดความอดทนกับนโยบายของ เลวี่ และกลุ่มแฟนบอล Change for Tottenham ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านแนวทางการบริหารที่เน้นผลกำไรมากกว่าความสำเร็จในสนาม


แผนการประท้วงและข้อเรียกร้อง

แฟนบอลจำนวนหลายร้อยคนคาดว่าจะเข้าร่วมการประท้วงครั้งนี้ โดยพวกเขาจะรวมตัวกันก่อนเริ่มการแข่งขัน และแสดงจุดยืนด้วยสโลแกน “L£VY OUT” และ “Profit before Glory” (กำไรก่อนเกียรติยศ) พร้อมเดินขบวนไปยังสนาม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม

หลังจากนั้น กลุ่มแฟนบอลที่เข้าชมเกมจะทำการ “นั่งประท้วง” (sit-in protest) ตลอดการแข่งขันบริเวณอัฒจันทร์ฝั่งใต้ เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจที่สโมสรมุ่งเน้นธุรกิจมากกว่าการแข่งขัน


สถานการณ์ปัจจุบันของสเปอร์ส

ผลงานของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ฤดูกาลนี้ก็ไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยพวกเขาหล่นไปอยู่อันดับ 14 ของตารางพรีเมียร์ลีก และตกรอบทั้ง เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ ไปเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้แฟนบอลยิ่งหมดความอดทนและต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในการบริหารทีม

การประท้วงครั้งนี้จะส่งแรงกดดันให้บอร์ดบริหารมากเพียงใด และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป