ก่อนเกมเดือด:
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงสนามด้วยฟอร์มที่ยังไม่เข้าที่ หลังไม่ชนะใครมา 2 นัดติด ทั้งเกมลีกที่เสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 และพ่ายยูเวนตุส 0-2 ในแชมเปียนส์ลีก ความพร้อมของทีมยังมีปัญหา โดยไร้ โรดรี้, นาธาน อาเก้, จอห์น สโตนส์ และ ริโก้ ลูอิส ที่ติดโทษแบน
ด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะเพิ่งแพ้น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-3 แต่เรียกความมั่นใจคืนด้วยชัยชนะ 2-1 เหนือ วิคตอเรีย เพิลเซน ในยูโรป้า ลีก อย่างไรก็ตาม ทีมยังขาด ลุค ชอว์ ที่บาดเจ็บ แต่ได้รับข่าวดีเมื่อ จอนนี อีแวนส์ พร้อมช่วยทีม
เกมสุดมันส์:
เริ่มเกมมา ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกใส่กันแต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้ง กระทั่งนาทีที่ 36 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลอย่างแม่นยำให้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล โหม่งเต็มศีรษะให้แมนซิตี้ขึ้นนำ 1-0 และเกือบได้ลูกที่สองในช่วงทดเวลา ฟิล โฟเด้น ยิงแฉลบ แฮร์รี แม็คไกวร์ แต่ อังเดร โอนานา ยังโชว์ซูเปอร์เซฟไว้ได้
ครึ่งหลัง แมนยูปรับเกมรุกเข้าสู้ นาทีที่ 62 บรูโน แฟร์นันด์ส ครอสบอลให้ อาหมัด ดิยัลโล โหม่งเต็มแรง แต่ เอแดร์ซอน ยังบินปัดได้อย่างยอดเยี่ยม จากนั้น นาทีที่ 74 ราสมุส ฮอยลุนด์ มีโอกาสหลุดเดี่ยว แต่ชิพหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
จุดเปลี่ยนของเกม:
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 88 แมนยูตีเสมอ 1-1 เมื่อ บรูโน แฟร์นันด์ส สังหารจุดโทษเข้าไป หลัง มาเธอุส นูเนส ทำฟาวล์ อาหมัด ดิยัลโล ในกรอบเขตโทษ เกมทำท่าจะจบด้วยผลเสมอ แต่ในนาทีที่ 90 ลิซานโดร มาร์ติเนซ วางบอลยาวให้ อาหมัด ดิยัลโล หลุดเดี่ยว โชว์ความเยือกเย็นกระดกบอลผ่านตัว เอแดร์ซอน ก่อนยิงประตูชัยให้แมนยูเฉือนชนะไป 2-1
สรุป:
ชัยชนะนัดนี้ช่วยให้แมนยูเรียกความมั่นใจกลับมา พร้อมขยับคะแนนไล่จี้กลุ่มหัวตาราง ด้านแมนซิตี้ต้องเร่งฟื้นฟอร์ม หากไม่อยากเสียตำแหน่งท็อปโฟร์ในช่วงโค้งแรกของฤดูกาล