Home Blog Page 10

ราฟา เบนิเตซ ฟันธงอนาคต ซาลาห์ ต่อสัญญากับลิเวอร์พูล?

0

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของสัญญากับ ลิเวอร์พูล โดยหลังจบฤดูกาลนี้ สัญญาของเขากับ “หงส์แดง” จะหมดลง และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการต่อสัญญาใหม่

แม้เจ้าตัวจะให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” แต่ฟอร์มของเขาในฤดูกาลนี้ยังคงยอดเยี่ยม โดยล่าสุดในเกมที่ ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 แม้เขาจะไม่สามารถทำประตูได้ แต่ก็ยังมีส่วนร่วมกับเกมรุกผ่านการแอสซิสต์ ทำให้ฤดูกาลนี้ ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตูของทีมไปแล้วถึง 52 ประตู ซึ่งเป็นเหตุให้แฟนบอลเริ่มกังวลว่าเขาอาจตัดสินใจอำลาถิ่นแอนฟิลด์

เบนิเตซ เชื่อว่า ซาลาห์ อาจเลือกย้ายทีม

ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตกุนซือลิเวอร์พูล ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของ ซาลาห์ โดยระบุว่า แม้เขาจะยังโชว์ฟอร์มในระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ แต่ปัจจัยเรื่องสัญญาและอนาคตของทีมอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของเจ้าตัว

“เขาอยู่ในสถานการณ์ที่พิเศษ ทุกคนรู้ว่าสัญญาของเขากำลังจะหมด แต่เขาก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดีทุกสัปดาห์ และผู้จัดการทีมก็มองเห็น”

เบนิเตซยังกล่าวถึงวิธีที่ผู้จัดการทีมควรจัดการกับนักเตะที่กำลังจะหมดสัญญา

“สิ่งสำคัญที่สุดคือการพูดคุยกันแบบเปิดอก หากคุณเป็นผู้จัดการทีม คุณต้องบอกความจริงกับพวกเขา แล้วค่อยหาทางออกที่ดีที่สุด ทั้งสำหรับนักเตะและสโมสร”

อนาคตของ ฟาน ไดค์ – เทรนต์ ก็ยังไม่แน่นอน

นอกจาก ซาลาห์ แล้ว อดีตกุนซือชาวสเปนยังพูดถึง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งต่างก็กำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญของอาชีพและต้องตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคต

“หาก ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฤดูกาลนี้ บางทีนักเตะอย่าง ซาลาห์ อาจเลือกอยู่ต่อ เพราะเขาได้แชมป์กับสโมสรแล้ว”

“แต่มันขึ้นอยู่กับนักเตะ บางคนอาจพร้อมเจรจาทันที แต่บางคนต้องให้เอเยนต์จัดการ ซึ่งหากพวกเขาไม่เปิดโต๊ะเจรจา มันอาจเป็นสัญญาณบางอย่าง และบางที พวกเขาอาจกำลังมองหาทางย้ายทีม”

สรุป – ซาลาห์ จะอยู่ต่อหรือไม่?

แม้จะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของ ซาลาห์ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ที่เขาอาจเลือกย้ายออกจากลิเวอร์พูล โดยเฉพาะหากมีข้อเสนอที่น่าสนใจจาก ซาอุดีอาระเบีย หรือสโมสรชั้นนำในยุโรป อย่างไรก็ตาม การที่ทีมยังมีลุ้นแชมป์ อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของเจ้าตัวในช่วงซัมเมอร์นี้

“ริโอ” ชี้ 4 แข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เข้ากับระบบของ อโมริม

0

ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยว่ามีผู้เล่น 4 ราย ที่อาจไม่เหมาะสมกับแท็กติกของ รูเบน อโมริม หากเขาต้องการพัฒนา ปีศาจแดง ให้เล่นตามระบบของตัวเอง

อดีตแนวรับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเป็นกูรูวิเคราะห์เกมให้กับ TNT Sports แสดงความคิดเห็นหลังเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือ 10 คนแต่ยังสามารถเปิดบ้านเฉือนชนะ อิปสวิช ทาวน์ 3-2 ว่า ทีมยังมีปัญหาเรื่องความลงตัวของขุมกำลัง โดยเฉพาะในระบบ 3-4-2-1 ที่กุนซือชาวโปรตุกีสพยายามนำมาใช้

4 แข้งที่ไม่เข้ากับสไตล์ของ อโมริม

เฟอร์ดินานด์มองว่า มีผู้เล่นบางรายที่ยังขาด พลังทางกายภาพ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับแผนการเล่นของ อโมริม โดยเฉพาะการเล่นเกมเพรสซิ่งและการเคลื่อนที่แบบไดนามิก

“ถ้าถามว่า โจชัว เซิร์กซี่ เหมาะกับระบบนี้ไหม? ผมคิดว่าไม่ใช่แค่เขาคนเดียว แต่รวมถึง มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ราสมุส ฮอยลุนด์ ด้วย พวกเขายังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์นี้ได้อย่างเต็มที่”

“อโมริม ต้องมองหาผู้เล่นที่มีทั้งศักยภาพทางแท็กติกและความแข็งแกร่งทางร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อแนวทางการเล่นของเขา”

จำเป็นต้องสร้างทีมใหม่เพื่อลงตัวกับระบบ

เฟอร์ดินานด์ยังกล่าวต่อว่า อโมริม อาจต้องรอจนถึงช่วงจบฤดูกาล เพื่อเริ่มต้นกระบวนการ รีบิวด์ทีม อย่างจริงจัง เพราะขณะนี้ขุมกำลังที่มีอยู่ยังดูไม่ลงตัวนัก

“ผมคิดว่าเขาต้องใช้เวลาอีกสักระยะเพื่อปรับแต่งทีมให้เหมาะกับแนวทางของตัวเอง เพราะตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเหมือนยังขาดความแข็งแกร่งและความสมดุลในหลายตำแหน่ง”

เป็นที่น่าจับตามองว่า หาก อโมริม ได้รับโอกาสสร้างทีมของตัวเองในช่วงซัมเมอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการเสริมทัพให้เหมาะกับระบบที่เขาต้องการ

สล็อต โดนแบน 2 นัด! ชวดคุมเกมดวล นิวคาสเซิ่ล

0

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ประกาศลงโทษแบน อาร์เน่ สล็อต กุนซือของ ลิเวอร์พูล ห้ามคุมทีมข้างสนามเป็นจำนวน 2 นัด หลังถูกไล่ออกจากเกม เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 2-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก

สล็อต และผู้ช่วย ถูกไล่ออกหลังจบเกมเดือดที่กูดิสัน พาร์ค

ในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสิน แจกใบแดงให้กับ สล็อต และ ซิปเก้ ฮุลชอฟฟ์ ผู้ช่วยของเขา หลังจบการแข่งขัน เนื่องจากมีปากเสียงและแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม

ล่าสุด FA ยืนยันแล้วว่า สล็อต จะหมดสิทธิ์คุมทีมข้างสนามใน 2 เกมถัดไป ได้แก่

  • นัดเปิดบ้านพบ นิวคาสเซิ่ล ในวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์
  • นัดเหย้ากับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในวันที่ 8 มีนาคม

โทษปรับเงินมหาศาล ทั้งตัวบุคคลและสโมสร

นอกจากโทษแบนแล้ว สล็อต ยังถูกปรับเงิน 70,000 ปอนด์ ขณะที่ ฮุลชอฟฟ์ ผู้ช่วยของเขาถูกปรับ 7,000 ปอนด์ นอกจากนี้ทั้ง ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน ยังถูกสั่งปรับเป็นจำนวน 50,000 ปอนด์ และ 65,000 ปอนด์ ตามลำดับ เนื่องจากไม่สามารถควบคุมนักเตะของตัวเองได้ในเกมที่เต็มไปด้วยอารมณ์ดาร์บี้แมตช์สุดดุเดือด

การขาดหายไปของ สล็อต อาจส่งผลต่อแท็กติกของลิเวอร์พูลในช่วงสำคัญของฤดูกาล โดยต้องรอดูว่า ทีมของเขาจะรับมือกับเกมสำคัญที่แอนฟิลด์ได้อย่างไร เมื่อไม่มีเฮดโค้ชยืนสั่งการข้างสนาม

เชลซี เปิดบ้านดวล เซาธ์แฮมป์ตัน

0

มาเรสก้าเผชิญปัญหาแนวรับ, นักบุญดิ้นรนหนีตกชั้น

การแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
📅 วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2025
เวลาแข่งขัน: 02.30 น.
📺 ช่องถ่ายทอดสด: (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม)


🔍 สภาพความพร้อมก่อนเกม

🔵 เชลซี: ปัญหาแนวรับ-แนวรุกต้องปรับทัพ

เชลซีของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เจอปัญหาใหญ่หลัง เทรโวห์ ชาโลบาห์ ได้รับบาดเจ็บจากเกมแพ้ แอสตัน วิลล่า ทำให้ โทซิน อดาราบิโอโย่ จะได้รับโอกาสลงสนามแทนแบบอัตโนมัติ ขณะที่ ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น ยังคงได้รับความไว้วางใจเป็นมือหนึ่ง แม้มีจังหวะผิดพลาดในเกมล่าสุด

ในแนวรุก เปโดร เนโต้ ถูกดันขึ้นไปเล่นหน้าเป้าชั่วคราว เนื่องจากทั้ง นิโกลัส แจ็คสัน และ มาร์ก กิว ยังไม่หายเจ็บ ขณะที่ตัวเจ็บอื่นๆ ได้แก่ โอมารี เคลลี่แมน, โนนี่ มาดูเอเก้, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสเล่ย์ โฟฟาน่า และ โรเมโอ ลาเวีย ส่วน มิไคโล มูดริค ถูกตรวจพบสารกระตุ้นและยังไม่สามารถลงสนามได้

สำหรับแผนการเล่น รีซ เจมส์ อาจกลับไปยืนแบ็กขวาตามถนัด หลังจากนัดก่อนถูกจับมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ ส่วน เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์ จะได้รับโอกาสคุมเกมแดนกลาง โดยมี โคล พาลเมอร์ และ เจดอน ซานโช่ คอยสร้างสรรค์เกมรุก

เซาธ์แฮมป์ตัน: ลุ้นฟูลทีม แม้ผลงานยังน่าห่วง

ทางฝั่งทีมเยือน “นักบุญ” ภายใต้การคุมทีมของ อีวาน ยูริช ได้รับข่าวดีเมื่อ ยาน เบ็ดนาเร็ค น่าจะฟิตพร้อมลงสนาม เช่นเดียวกับ เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส ที่เจ็บข้อเท้าไปก่อนหน้านี้และกำลังจะกลับมา อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะไม่มี เลสลี่ย์ อูโกชุควู เนื่องจากติดเงื่อนไขยืมตัวจากเชลซี ขณะที่กลุ่มผู้เล่นที่ยังไม่พร้อมลงสนามได้แก่ รอสส์ สจ๊วร์ต, ไรอัน เฟรเซอร์, อดัม ลัลลาน่า และ แจ็ค สตีเฟ่นส์

สำหรับแผนการเล่น ยูริช อาจให้โอกาส ยูกินาริ ซึงาวาระ, อัลเบิร์ต โกรนเบ็ค หรือ วิลล์ สมอลล์โบน ลงเป็นตัวจริงเพื่อเพิ่มทางเลือกในการครองบอลและจังหวะเข้าทำ


📌 คาดการณ์ 11 ตัวจริง

เชลซี (4-2-3-1)

ผู้รักษาประตู: ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น
กองหลัง: รีซ เจมส์, โทซิน อดาราบิโอโย่, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า
กองกลาง: มอยเซส ไกเซโด้, เคียร์แนน ดิวส์เบอรี่-ฮอลล์
แนวรุก: โคล พาลเมอร์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, เจดอน ซานโช่
กองหน้า: เปโดร เนโต้

เซาธ์แฮมป์ตัน (3-4-3)

ผู้รักษาประตู: แอรอน แรมส์เดล
กองหลัง: เจมส์ บรี, เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส, ยาน เบ็ดนาเร็ค
กองกลาง: ยูกินาริ ซึงาวาระ, อัลเบิร์ต โกรนเบ็ค, วิลล์ สมอลล์โบน, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส
แนวรุก: มาเตอุส แฟร์นันด์ส, พอล โอนัวชู, กามัลดีน สุเลมาน่า


🔥 วิเคราะห์เกมและคาดการณ์สกอร์

แม้ว่าการพบกันในช่วงหลัง เชลซีจะพ่ายแพ้ให้กับเซาธ์แฮมป์ตันถึง 2 จาก 3 ครั้งหลังสุด แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน “นักบุญ” อยู่ในช่วงฟอร์มตกอย่างหนักและแทบไม่มีลุ้นหนีตกชั้น ขณะที่ เชลซี แม้จะมีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่น แต่คุณภาพโดยรวมยังเหนือกว่า

เชลซี น่าจะครองเกมและใช้ความสามารถเฉพาะตัวของแนวรุกในการเจาะแนวรับของทีมเยือน ขณะที่ เซาธ์แฮมป์ตัน อาจต้องเน้นเกมรับและใช้จังหวะโต้กลับในการหาทางทำประตู

📊 สกอร์ที่คาด:

  • เชลซี 3-0 เซาธ์แฮมป์ตัน – เจ้าบ้านได้สามแต้มแบบไม่ยากเย็น

ไบรท์ตัน ดวลเดือด บอร์นมัธ

0

ศึกพรีเมียร์ลีก! ไบรท์ตัน ดวลเดือด บอร์นมัธ – วิเคราะห์ก่อนเกม พร้อม 11 ตัวจริงที่คาด

การแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
🗓 วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2025
เวลาแข่งขัน 02.30 น.
📺 ช่องถ่ายทอดสด (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม)


🏟️ ส่องความพร้อมก่อนเกม ไบรท์ตัน vs บอร์นมัธ

🔵 ไบรท์ตัน: หวังต่อยอดฟอร์มแกร่ง

“เดอะ ซีกัลส์” กำลังมั่นใจเต็มที่ หลังโชว์ฟอร์มดุดันบุกถล่ม เซาแธมป์ตัน 4-0 ในเกมล่าสุด ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมารั้งอันดับ 9 ของตารางคะแนน มี 40 แต้ม อย่างไรก็ตาม โรแบร์โต เด แซร์บี กุนซือของทีมต้องเจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบนหลายราย นำโดย อิกอร์, เจมส์ มิลเนอร์, แฟร์ดี้ คาดิโอกลู, เจสัน สตีล, ลูอิส ดังค์, แดนนี เวลเบ็ค และ โจเอล เวลท์แมน ที่ไม่พร้อมลงสนาม

🍒 บอร์นมัธ: ต้องเร่งคืนฟอร์มหลังสะดุด

ทีมเยือน “เดอะ เชอร์รีส์” เพิ่งพลาดท่าพ่ายคาบ้านให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-1 โดยเกมนั้น อิลเลีย ซาบาร์นยี กองหลังตัวเก่งโดนใบแดงตั้งแต่ครึ่งแรก ส่งผลให้พวกเขาหล่นมาอยู่ที่ 6 ของตาราง มี 43 แต้มเท่าเดิม สถานการณ์ของทีมก่อนเกมนี้ไม่ค่อยดีนัก เพราะนอกจาก ซาบาร์นยี ที่ติดโทษแบนแล้ว ยังต้องขาด เอเนส อูนาล, มาร์กอส เซเนซี, อดัม สมิธ และ ฮูเลียน อเราโฆ ที่เจ็บอยู่ทั้งหมด


🔥 คาดการณ์ 11 ตัวจริง

ไบรท์ตัน (4-2-3-1)

ผู้รักษาประตู: บาร์ท แฟร์บรูคเคน
กองหลัง: ทาริก แลมป์ตีย์, แยน พอล ฟาน เฮคเก้, อดัม เว็บสเตอร์, เปร์บิส เอสตูปินญาน
กองกลาง: คาร์ลอส บาเลบา, แจ็ค ฮินเชลวูด
แนวรุก: ยานคูบา มินเตห์, จอร์จินิโอ รุตแตร์, คาโอรุ มิโตมะ
กองหน้า: เจา เปโดร

บอร์นมัธ (4-2-3-1)

ผู้รักษาประตู: เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า
กองหลัง: ลูอิส คุ๊ก, เจมส์ ฮิลล์, ดีน ฮุยเซน, มิลอส เคอร์เคซ
กองกลาง: ไทเลอร์ อดัมส์, ไรอัน คริสตี้
แนวรุก: เดวิด บรูคส์, จัสติน ไคลเวิร์ต, อองตวน เซเมนโย
กองหน้า: เอวานิลซอน

🔥 สกอร์ที่คาด:

  • ไบรท์ตัน 2-1 บอร์นมัธ – ไบรท์ตันคุมเกมได้มากกว่า และอาศัยเกมรุกที่เฉียบขาดเบียดเอาชนะไปได้

สื่อสเปนเผย ชาบี อาจเป็นตัวเต็งคุม แมนยู แทน อโมริม

0

รายงานล่าสุดจาก Relevo สื่อแดนกระทิงดุ เปิดเผยว่า ชาบี เอร์นานเดซ อาจกลับมารับงานผู้จัดการทีมอีกครั้งในซีซั่นหน้า โดยแม้เจ้าตัวจะยังไม่รีบร้อนตัดสินใจอนาคต แต่กำลังมองหาสโมสรที่มีโปรเจ็กต์ระยะยาว และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เป็นไปได้

อนาคตของ อโมริม สั่นคลอน ชาบี ถูกจับตาเป็นแคนดิเดต

แม้ว่า รูเบน อโมริม จะยังคงมีสัญญากับ “ปีศาจแดง” ไปจนถึงปี 2027 แต่ผลงานที่ไม่คงเส้นคงวา ทำให้เกิดแรงกดดันอย่างหนัก และมีข่าวว่า ยูไนเต็ด อาจพิจารณาเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ซึ่งชื่อของ ชาบี ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวเลือกหลักในการสานงานต่อที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ชาบี พักจากงานโค้ช แต่ยังคงติดตามฟุตบอลอย่างใกล้ชิด

นับตั้งแต่อำลาตำแหน่งเฮดโค้ชของ บาร์เซโลนา ชาบี พยายามหลีกเลี่ยงการเป็นจุดสนใจของสื่อ โดยปรากฏตัวในงานอำลา อันเดรส อิเนียสต้า และ เซร์กี โรแบร์โต้ แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของตัวเอง

นอกจากนี้ อดีตกุนซือบาร์ซ่ายังเดินทางไป เม็กซิโก เพื่อชมเกมฟุตบอลของตำนาน และเยี่ยมเยียนอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง เฮคเตอร์ โมเรโน่ อีกทั้งยังกลับไป อัล ซาดด์ สโมสรที่เขาเคยเล่นและเริ่มต้นอาชีพโค้ช ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า ชาบียังเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ในโลกลูกหนัง

สโมสรใหญ่ยังคงติดต่อ ชาบี กำลังพิจารณาทางเลือกของตัวเอง

จากรายงานล่าสุด สโมสรหลายแห่งยังคงติดต่อกับชาบีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเจ้าตัวจะใช้เวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อประเมินตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขา ซึ่งอาจรวมถึงการรับงานที่ พรีเมียร์ลีก กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หากมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือเกิดขึ้น

บทสรุป

แม้จะยังไม่มีการตัดสินใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของ ชาบี เอร์นานเดซ แต่ความเป็นไปได้ที่เขาจะเข้ามารับงานที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ หาก รูเบน อโมริม ไม่สามารถสร้างผลงานที่น่าประทับใจได้ในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลนี้ การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้น และอดีตกัปตันทีมบาร์ซ่าอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในการนำ “ปีศาจแดง” กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

ศึกชิงแชมป์พรีเมียร์ลีก! ช่วงโค้งสุดท้าย?

0

ลิเวอร์พูลกำลังเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากขึ้น หลังจากทำแต้มทิ้งห่างอาร์เซน่อล 11 คะแนน แม้ว่าจะลงเล่นมากกว่า 1 นัดก็ตาม ขณะที่การแข่งขันกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของฤดูกาล เรามาเช็กโปรแกรมของทั้งสองทีมว่าใครจะต้องเจอกับบททดสอบที่ยากลำบากกว่ากัน

ลิเวอร์พูลกับเส้นทางลุ้นแชมป์ที่ไม่ง่าย

“หงส์แดง” ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม โดยเพิ่งเก็บชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีกที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อย่างไรก็ตาม ตารางแข่งขันที่เหลือของลิเวอร์พูลยังเต็มไปด้วยเกมหนัก โดยเฉพาะแมตช์ที่ต้องเจอกับ นิวคาสเซิ่ล, เชลซี, สเปอร์ส และอาร์เซน่อล ซึ่งอาจเป็นตัวตัดสินว่า พวกเขาจะสามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้หรือไม่

🔹 โปรแกรมที่เหลือของลิเวอร์พูล (11 นัด)
📅 26 ก.พ. – นิวคาสเซิ่ล (เหย้า)
📅 8 มี.ค. – เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)
📅 2 เม.ย. – เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)
📅 5 เม.ย. – ฟูแล่ม (เยือน)
📅 12 เม.ย. – เวสต์แฮม (เหย้า)
📅 19 เม.ย. – เลสเตอร์ (เยือน)
📅 26 เม.ย. – สเปอร์ส (เหย้า)
📅 3 พ.ค. – เชลซี (เยือน)
📅 10 พ.ค. – อาร์เซน่อล (เหย้า)
📅 18 พ.ค. – ไบรท์ตัน (เยือน)
📅 25 พ.ค. – คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

อาร์เซน่อลต้องสู้เต็มที่เพื่อลุ้นแชมป์

ด้าน “ปืนใหญ่” ของ มิเกล อาร์เตต้า เพิ่งสะดุดพ่ายให้กับ เวสต์แฮม 0-1 ทำให้พวกเขาต้องรีบกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะเพื่อรักษาความหวังในการแย่งแชมป์ โปรแกรมที่เหลือของอาร์เซน่อลดูเหมือนจะท้าทายพอสมควร โดยต้องพบกับทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูล และนิวคาสเซิ่ล ซึ่งล้วนเป็นเกมสำคัญที่อาจตัดสินโอกาสของพวกเขาในฤดูกาลนี้

🔹 โปรแกรมที่เหลือของอาร์เซน่อล (12 นัด)
📅 26 ก.พ. – น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เยือน)
📅 9 มี.ค. – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน)
📅 16 มี.ค. – เชลซี (เหย้า)
📅 1 เม.ย. – ฟูแล่ม (เหย้า)
📅 5 เม.ย. – เอฟเวอร์ตัน (เยือน)
📅 12 เม.ย. – เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า)
📅 19 เม.ย. – อิปสวิช (เยือน)
📅 26 เม.ย. – คริสตัล พาเลซ (เหย้า)
📅 3 พ.ค. – บอร์นมัธ (เหย้า)
📅 10 พ.ค. – ลิเวอร์พูล (เยือน)
📅 18 พ.ค. – นิวคาสเซิ่ล (เหย้า)
📅 25 พ.ค. – เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)

วิเคราะห์ความยาก-ง่ายของโปรแกรมที่เหลือ

📌 ลิเวอร์พูล ดูเหมือนจะเจอกับบททดสอบหนักกว่า โดยเฉพาะเกมกับ สเปอร์ส, เชลซี และ อาร์เซน่อล ที่อาจเป็นตัวชี้ขาดว่าพวกเขาจะสามารถรักษาตำแหน่งจ่าฝูงได้หรือไม่

📌 อาร์เซน่อล แม้จะมีเกมในมือมากกว่า 1 นัด แต่ต้องเผชิญหน้ากับทีมระดับท็อปอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี และ ลิเวอร์พูล ซึ่งล้วนเป็นแมตช์สำคัญในการลุ้นแชมป์

บทสรุป

แม้ลิเวอร์พูลจะเป็นจ่าฝูง แต่ด้วยโปรแกรมแข่งขันที่ยังเหลือและความกดดันที่เพิ่มขึ้น อาร์เซน่อลยังคงมีโอกาสหากสามารถเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเกมที่พวกเขาต้องเจอกับทีมคู่แข่งโดยตรง การแข่งขันยังคงเปิดกว้าง และการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ยังไม่จบจนกว่าจะถึงนัดสุดท้าย!

สเปอร์ส ย้ำชัด! ขอให้สื่อเลิกเรียก “ท็อตแน่ม”

0

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ได้ส่งจดหมายแจ้งผู้ถ่ายทอดสดและสื่อต่างๆ ขอให้หยุดใช้คำว่า “ท็อตแน่ม” ในการอ้างอิงถึงสโมสร พร้อมกำหนดให้ใช้ชื่อเต็ม “Tottenham Hotspur” หรือชื่อเล่น “สเปอร์ส” เท่านั้น

เหตุผลเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง

ตามรายงานจาก The Athletic สโมสรจากลอนดอนเหนือได้ส่งอีเมลถึงผู้เกี่ยวข้องในวงการฟุตบอลอังกฤษเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยหัวข้อของอีเมลคือ “Tottenham Hotspur Naming Update” เพื่ออัปเดตแนวทางการเรียกชื่อสโมสรให้เป็นไปตามนโยบาย

ข้อความในอีเมลดังกล่าวระบุว่า

“สโมสรต้องการให้เป็นที่รู้จักในชื่อ ‘Tottenham Hotspur’ หรือ ‘สเปอร์ส’ และขอความร่วมมือไม่ให้ใช้คำว่า ‘ท็อตแน่ม'”

“เมื่อกล่าวถึงสโมสร กรุณาใช้คำว่า ‘Tottenham Hotspur’, ‘Tottenham Hotspur Football Club’ หรือ ‘THFC’ และหลีกเลี่ยงการใช้ ‘Tottenham’, ‘Tottenham Hotspur FC’ หรือ ‘TH'”

ทำไมต้องเลิกใช้คำว่า “ท็อตแน่ม”?

เหตุผลหลักของสโมสรในการหลีกเลี่ยงคำว่า “ท็อตแน่ม” เป็นเพราะชื่อนี้เป็นชื่อของย่านหนึ่งในลอนดอนเหนือ ไม่ใช่ชื่อทางการของสโมสรเอง นอกจากนี้ สโมสรมีนโยบายไม่ใช้คำนี้ในการโปรโมตตัวเองมาตั้งแต่ปี 2011

หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การเน้นย้ำเรื่องชื่ออาจเกี่ยวข้องกับประเด็นทางธุรกิจและลิขสิทธิ์ เพราะคำว่า “ท็อตแน่ม” เป็นชื่อสถานที่ทั่วไป ทำให้สโมสรไม่สามารถจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ จึงอาจพยายามผลักดันให้มีการใช้คำว่า “สเปอร์ส” มากขึ้น เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนขึ้นในระดับสากล

อย่างไรก็ตาม ในหมู่แฟนบอล การใช้คำว่า “ท็อตแน่ม” ยังคงเป็นเรื่องปกติ และต้องรอดูว่าความพยายามครั้งนี้ของสโมสรจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตหรือไม่

แมนฯ ยูไนเต็ด ฮึดไล่เจ๊า เอฟเวอร์ตัน 2-2 เก็บแต้มสำคัญ

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ หลังโดน เอฟเวอร์ตัน ออกนำไปก่อนถึง 2-0 แต่สามารถเร่งเครื่องกลับมาไล่ตีเสมอในครึ่งหลัง คว้า 1 คะแนนกลับบ้านจากกูดิสัน ปาร์ค ในเกมพรีเมียร์ลีกคืนวันเสาร์

ครึ่งแรก: เอฟเวอร์ตันออกนำ 2-0 เกมรุกเฉียบคม

เกมนี้ เดวิด มอยส์ พา เอฟเวอร์ตัน ลงเล่นในบ้าน โดยได้ อับดูลาย ดูกูเร่ พ้นโทษแบนกลับมาคุมแดนกลาง แทนที่ การ์ลอส อัลการาซ แม้ว่ามิดฟิลด์อาร์เจนไตน์จะทำประตูได้ในนัดก่อนก็ตาม

ฝั่งทีมเยือน รูเบน อโมริม ปรับทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด เพียงตำแหน่งเดียวจากเกมพ่าย สเปอร์ส 0-1 โดยให้ มานูเอล อูการ์เต้ ลงสนามแทน อเลฮานโดร การ์นาโช่ พร้อมขยับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ขึ้นไปเล่นเกมรุกมากขึ้น

เริ่มเกมมา 19 นาที เอฟเวอร์ตัน ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุมแนวรับ แมนฯ ยูไนเต็ด สกัดบอลไม่ขาด บอลมาถึง เบโต้ ยิงจ่อๆ เข้าไป แม้มีการเช็ก VAR แต่ไม่มีจังหวะฟาวล์หรือล้ำหน้า

นาทีที่ 33 เจ้าถิ่นขยับหนี 2-0 เมื่อ แจ็ค แฮร์ริสัน ซัดไกลไปติดเซฟของ อ็องเดร โอนาน่า แต่บอลลอยโด่งเข้าเขตอันตราย และเป็น อับดูลาย ดูกูเร่ กระโดดโหม่งส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย

ท้ายครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบโดนเพิ่ม แต่แนวรับยังช่วยกันป้องกันไว้ได้ จบ 45 นาที เอฟเวอร์ตันนำ 2-0

ครึ่งหลัง: ปีศาจแดงคัมแบ็ก ตีเสมอ 2-2

เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเกมรุกเต็มสูบ และมีโอกาสหลายครั้งจาก ราสมุส ฮอยลุนด์ และ โจชัว เซิร์กซี่ แต่ยังเจาะแนวรับของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ไม่เข้า

นาทีที่ 66 เอฟเวอร์ตันเกือบได้ประตูที่สามจากจังหวะวอลเลย์ของ อับดูลาย ดูกูเร่ แต่ โอนาน่า พุ่งปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด

กระทั่งนาทีที่ 72 แมนฯ ยูไนเต็ด จุดประกายความหวังไล่มาเป็น 1-2 จากฟรีคิกสุดสวยของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีม ที่ปั่นบอลโค้งผ่านกำแพงเสียบเสาเข้าไปอย่างหมดจด

จากนั้นนาทีที่ 80 ทีมเยือนตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ เมื่อ เบโต้ โหม่งบอลผิดเหลี่ยมไปเข้าทาง มานูเอล อูการ์เต้ ที่จัดการซัดฮาล์ฟวอลเลย์เข้าไปอย่างเฉียบขาด

ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมพยายามเร่งเกมหวังคว้าชัย แต่สุดท้ายทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม เอฟเวอร์ตัน เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง

เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1):

จอร์แดน พิคฟอร์ด – เจค โอไบรอัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, จาร์ราด แบรนธ์เวต, วิตาลี่ มิโคเลนโก้ – เจมส์ การ์เนอร์, อิดริสซ่า กาน่า เกย์ – เยสเปอร์ ลินสตรอม, อับดูลาย ดูกูเร่, แจ็ค แฮร์ริสัน – เบโต้

แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-2-1):

อ็องเดร โอนาน่า – มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, นุสซาร์ มาซราอุย – พาทริค ดอร์กู, กาเซมีโร่, มานูเอล อูการ์เต้, ดีโอโก้ ดาโล่ต์ – โจชัว เซิร์กซี่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส – ราสมุส ฮอยลุนด์

“ศึกเดิมพันท็อปโฟร์! วิลล่าปะทะเชลซี ตัดแต้มชี้ชะตายุโรป”

0

“วิลล่าหวังล้างอาถรรพ์! เปิดบ้านดวลเชลซีที่เจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงาน”

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 แอสตัน วิลล่า เตรียมเปิดบ้านรับมือ เชลซี ในเกมที่มีผลต่อการลุ้นพื้นที่ยุโรป โดยแม้ “สิงห์ผงาด” จะไม่ชนะเชลซีมา 4 นัดติด แต่ฟอร์มในบ้านยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่ “สิงห์บลูส์” ต้องเผชิญปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปเกมอย่างมีนัยสำคัญ


สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม

แอสตัน วิลล่า

อูไน เอเมรี่ ยังคงต้องเผชิญปัญหาขาดนักเตะตัวหลักหลายราย โดยเฉพาะแนวรับที่ไร้ เปา ตอร์เรส, เอซรี่ คอนซ่า และ อักแซล ดิซาซี่ ที่ติดเงื่อนไขยืมตัวจากเชลซี ทำให้ต้องส่ง ลามาเร่ โบการ์เด้ ดาวรุ่งลงจับคู่กับ ไทโรน มิงส์

แดนกลางไม่มี บูบาการ์ กามาร่า และ อมาดู โอนาน่า ขณะที่แนวรุกต้องรอลุ้นว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด แข้งยืมจาก แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหรือไม่ โดยมี เจค็อบ แรมซี่ย์, มาร์โก อาเซนซิโอ และ มอร์แกน โรเจอร์ส คอยสนับสนุน โอลลี่ วัตกิ้นส์ ในแดนหน้า


เชลซี

เอ็นโซ่ มาเรสก้า ต้องปวดหัวกับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย นำโดย นิโกลัส แจ็คสัน, โรเมโอ ลาเวีย, โนนี่ มาดูเอเก้, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เวสเล่ย์ โฟฟาน่า และ มิไคโล มูดริค ที่ต้องพักยาวจากปัญหาตรวจพบสารกระตุ้น

อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะได้ รีซ เจมส์ และ โทซิน อดาราบิโอโย่ กลับมาช่วยแนวรับ ส่วนแนวรุกอาจมีการปรับเปลี่ยน โดยมีลุ้นให้ เจดอน ซานโช่ ได้ออกสตาร์ทประสานงานกับ โคล พาลเมอร์ และ เปโดร เนโต้ ขณะที่หน้าเป้าเป็นหน้าที่ของ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู


คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง

แอสตัน วิลล่า (4-2-3-1):
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ – อันเดรส การ์เซีย, ลามาเร่ โบการ์เด้, ไทโรน มิงส์, ลูก้าส์ ดีญ – ยูริ ตีเลอมันส์, จอห์น แม็คกินน์ – มอร์แกน โรเจอร์ส, มาร์โก อาเซนซิโอ, เจค็อบ แรมซี่ย์ – โอลลี่ วัตกิ้นส์

เชลซี (4-2-3-1):
ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น – รีซ เจมส์, โทซิน อดาราบิโอโย่, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า – มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – เปโดร เนโต้, โคล พาลเมอร์, เจดอน ซานโช่ – คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู


วิเคราะห์ก่อนเกม

แอสตัน วิลล่า แม้จะขาดผู้เล่นตัวหลัก แต่การเล่นในบ้านของพวกเขายังมีจุดแข็ง โดยเฉพาะ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ที่อันตรายในพื้นที่สุดท้าย ขณะที่ เชลซี ฟอร์มไม่แน่นอนในช่วงหลัง และการขาดตัวหลักหลายรายอาจส่งผลต่อเกมรับที่ไม่ค่อยนิ่ง

สถิติที่ผ่านมาชี้ว่า เชลซี มักทำได้ดีกว่าเมื่อเจอกับ วิลล่า แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน วิลล่า ดูมีภาษีดีกว่าเล็กน้อย และมีโอกาสเฉือนคว้าชัยได้ หากสามารถใช้ความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านให้เป็นประโยชน์

สกอร์ที่คาด:
🟣 แอสตัน วิลล่า 2-1 เชลซี (สิงห์ผงาดล้างอาถรรพ์ เบียดชนะสุดมันส์!)

ห้ามพลาด!