Home Blog Page 100

เรอัล มาดริด ประกาศคว้าตัว “เอ็มบัปเป้”

0

แนวรุกชาวฝรั่งเศสตัดสินใจไม่ต่อสัญญาและประกาศอำลา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หลังจบฤดูกาลล่าสุด ทำให้สามารถย้ายทีมได้แบบฟรีค่าตัว

ล่าสุด เขาก็ได้กลายเป็นสมาชิกใหม่ของราชันชุดขาวตามคาด หลังจากตกเป็นข่าวกันมายาวนานหลายปีคีเลียน เอ็มบัปเป้ กองหน้าดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส ตัดสินใจเซ็นสัญญากับเรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีก้า สเปน
เป็นการปิดฉากการคาดเดาเกี่ยวกับอนาคตของเขา

รายละเอียดสัญญา

  • เอ็มบัปเป้ เซ็นสัญญากับเรอัล มาดริด เป็นเวลา 5 ปี
  • คาดว่าเขาจะได้รับค่าเหนื่อย 25 ล้านยูโรต่อปี
  • เอ็มบัปเป้ จะสวมเสื้อหมายเลข 9 ซึ่งเคยเป็นของตำนานสโมสรอย่าง เบนเซม่า

การเปิดตัว

เอ็มบัปเป้ ได้รับการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2024 แฟนบอลเรอัล มาดริด มากกว่า 50,000 คน เข้าร่วมต้อนรับกองหน้าคนใหม่
ขณะที่ เอ็มบัปเป้ ก็ได้โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเองว่า “ฝันที่เป็นจริง. มีความสุขและภูมิใจมากที่ได้ร่วมทีมในฝันของผม เรอัล มาดริด”

ริคคาร์โด้ คาลาฟิโอรี่ เตรียมย้ายทีม

0

ประวัติ

ริคคาร์โด้ คาลาฟิโอรี่ เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2002 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรโรมาตั้งแต่ชุดเยาวชน โดยพาทีมคว้าแชมป์อิตาเลียน ยูธคัพ (U17) และ อิตาเลียน ซูเปอร์โคปปา (U17)

สถิติส่วนตัว

  • สโมสร
    • โรมา (2019-2021): ลงเล่น 3 นัด
    • โบโลญญ่า (2021-ปัจจุบัน): ลงเล่น 64 นัด ยิง 2 ประตู 5 แอสซิสต์
  • ทีมชาติ
    • อิตาลี U17: ลงเล่น 14 นัด
    • อิตาลี U19: ลงเล่น 9 นัด
    • อิตาลี U21: ลงเล่น 8 นัด
    • อิตาลีชุดใหญ่: ลงเล่น 4 นัด

รางวัลส่วนตัว

  • รางวัลผู้เล่นดาวรุ่งเซเรียอายอดเยี่ยมแห่งปี 2023

ข่าว

ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ตกเป็นข่าวกับ สโมสรใหญ่ในยุโรปมากมาย เช่น ลิเวอร์พูล และ อาเซน่อล แต่สุดท้าย ก็เป็น อาเซน่อล ที่เปิดโต๊ะเจรจา
อาร์เซนอล ขยับเข้าใกล้ที่จะคว้า ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติอิตาลี ของ โบโลญญ่า หลังตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับนักเตะได้แล้ว โดยเหลือเพียงแค่ให้ทั้งสองสโมสรเจรจาเรื่องค่าตัวกันให้ได้เท่านั้น

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เหยี่ยวข่าวลูกหนังคนดังชาวอิตาเลียน เป็นคนยืนยันข่าวดังกล่าว หลังโพสต์ข้อความลง เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) เมื่อวันศุกร์ที่ 5 ก.ค. ว่า “อาร์เซนอล ตกลงเงื่อนไขสัญญาของ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ได้แล้วถึงเดือนมิถุนายน 2029” 

จู๊ด เบลลิงแฮม ว่าที่นักเตะที่จะคว้าบัลลงดอร์ปี 2024

0

จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่ง เรอัล มาดริด ทำผลงานระดับโลกทั้งใน สโมสร และ ทีม ชาติ ในฟุตบอลยูโรครั้งนี้ ที่พาทีมชาติอังกฤษทะลุเข้าไปถึงรอบชิงได้สำเร็จ แต่ดันไปแพ้ทีมฟอร์มร้อนแรงอย่างสเปนในรอบชิง
ซึ่งผลงานส่วนตัวในสโมสร เรอัล มาดริด เจ้าตัวลงเล่นไป ถึง 42 นัด ยิงได้ 23 ประตู 12 แอสซิส เลยทีเดียว

เรอัล มาดริด เจ้าตัวลงเล่นไป ถึง 42 นัด ยิงได้ 23 ประตู 12 แอสซิส

ชาติอังกฤษ ลงเล่น 7 นัด ยิงได้ 2 ประตู 1 แอสซิส

สถิตินี้ถือว่าเป็นสถิติที่ดี่ที่สุดของเจ้าตัว และ น่าทึ่งมาก สำหรับผู้เล่นในตำแหน่ง กองกลาง

โดย จู๊ด เบลลิงแฮม ถือว่า เป็นนักเตะ ที่มีลุ้น รางวัล บัลลงดอร์ปี 2024 คาดการว่ารายชื่อของเขา ติด TOP 3 อย่างแน่นอน

จากผลงาน

➖ คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยน ลีก
➖ คว้าแชมป์ลาลีกา
➖ พาอังกฤษเข้ารอบชิงยูโร

จู๊ด เบลลิงแฮม เตรียมเป็นนักเตะยุโรปที่อายุน้อยที่สุดที่คว้ารางวัลนี้ 21 ปี 3 เดือน 29 วัน 🏴󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿🏟️

ซาวิโอ้ ปีกขวา บราซิลวัย 20 ปี ที่กำลังจะเซ็นสัญญากับ เเมนเชสเตอร์ ซิตี้

0

ตามรายงานน่าจะมีการประกาศข่าวดี (เปิดตัว) ตามมาทันทีในฐานะผู้เล่นคนใหม่ ของเรือใบสีฟ้า

“ซาวิโอ้ (Savinho)” หรือชื่อเต็ม Savio Moreira de Oliveira ศูนย์หน้าที่ได้ฉาบาวันเดอร์คิดของสโมสรอัตเลติโก มิไนโร่ ในลีก บราซีเลย์เรา แซรียีอา ประเทศบราซิล โดยล่าสุดทีมเรือใบสีฟ้าได้เร่งเครื่องเต็มที่สำหรับที่จะปิดดีลนี้ให้ได้ ซึ่งมูลค่าในดีลครั้งนี้นอกจากที่จะมีมูลค่าที่ถือว่าเยอะพอสมควรสำหรับค่าตัวของเด็กวัยเพียง 17 ปี แถมยังมีออฟชั่นเสริมเพื่อล่อใจให้สโมสรปล่อยตัว ซาวิโอ้ (Savinho)ออกจากทีหลังจากจบฤดูกาลนี้ด้วย

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ยื่นข้อเสนอสำหรับการย้ายทีมของ ซาวิโอ้ ให้กับสโมสรอัตเลติโก มิไนโร่ พิจารณาครั้งแรกที่ 6.5 ล้านยูโร โดยมีออฟชั่นเสริมคือให้สโมสรงานจบจนฤดูกาลนี้ ซึ่งหากทางสโมสต้นสังกัดปฏิเสธในข้อเสนอนี้ ทางด้านเรือใบสีฟ้าก็พร้อมที่จะยื่นข้อเสนอใหม่อีกครั้ง ถ้าพูดภาษาง่าย ๆ ก็ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก แต่ถึงไม่รับข้อเสนอนี้ สัญญาของ ซาวิโอ้ ก็จะหมดลงหลังจากจบฤดูกาลนี้เช่นกันนั่นหมายความว่าสโมสรไม่มีทางเลือกนอกจากจะปล่อยตัวศูนย์หน้ารายนี้ออกจากทีมที่เสนอเงื่อนไขเข้ามา
นอกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังมี อาร์เซน่อล อาร์บี ไลซิก เรดบูล ซัลซ์บวร์ก ซึ่งได้ให้ความสนใจกับเจ้าหนูรายนี้มาตั้งแต่ก่อนตลากนักเตะเดือนมกราคมเปิดซะอีก แต่ก็นั่นแหละมีเพียงเรือใบสีฟ้าเท่านั้นที่เอาจริงเอาจริงเดินเครื่องเต็มที่เพื่อที่จะคว้านักเตะรายนี้มาร่วมทีม

สเปน แชมป์ยูโร เยอะที่สุดในโลก

0

เหล่าคอบอลยุโรปเตรียมปรบมือรัวๆ ให้กับ “กระทิงดุ” ทีมชาติสเปน 🇪🇸 ที่เพิ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
หรือที่รู้จักกันในชื่อยูโร ไปครองได้สำเร็จ กลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทวีปยุโรป ณ เวลานี้!

โดยสเปนคว้าแชมป์ไปแล้วทั้งหมด 4 สมัย ดังนี้

  • ปี 1964
  • ปี 2008
  • ปี 2012
  • และล่าสุดในปี 2024

ซึ่งชัยชนะในปี 2024 นี้ ถือว่าพิเศษเป็นพิเศษ เพราะว่า:

  • พวกเขาชนะรวดทั้ง 7 นัดในทัวร์นาเมนต์
  • เป็นการคว้าแชมป์โดยไม่ต้องดวลจุดโทษแม้แต่นัดเดียว ⚽️
  • เป็นการคว้าแชมป์ยูโรสมัยที่ 4 มากที่สุดในประวัติศาสตร์รายการนี้

ปัจจุบันนี้ สเปนจึงครองตำแหน่งแชมป์ยูโรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง
เยอรมนี และ อิตาลี ที่มี 3 สมัย 🇮🇹🇩🇪

ยิ่งไปกว่านั้น ชัยชนะในครั้งนี้ยังพิสูจน์ให้เห็นถึงพลังอันไร้เทียมทานของสเปน 🇪🇸 ที่ผสมผสานความเก๋าประสบการณ์เข้ากับนักเตะดาวรุ่งไฟแรงได้อย่างลงตัว

แฟนบอลชาวไทย ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจกับผลงานอันสุดยอดของสเปน 🇹🇭 ที่โชว์ฟอร์มการเล่นที่ดุดัน สวยงาม และน่าติดตาม ⚽️ สมกับฉายา “กระทิงดุ” จริงๆ

สเปน 🇪🇸 จงก้าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเท รักษาแชมป์ และสร้างตำนานบทใหม่ต่อไป! ⚽️

สเปน เฉือนชนะ อังกฤษ 2-1 คว้าแชมป์ยูโร 2024!

0

การแข่งขัน: ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 รอบชิงชนะเลิศ สนาม: โอลิมเปียชตาดิโยน, เบอร์ลิน, เยอรมนี วันที่: 15 กรกฎาคม 2567 เวลา: 02:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

สเปน 2-1 อังกฤษ ไฮไลท์ฟุตบอล ยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ

เริ่มครึ่งแรก สเปน เป็นฝ่ายยบุกเข้าใส่มากกว่าแต่ยังไม่มีจังหวะจะแจ้งนัก จบครึ่งแรกเสมอกันไป 0-0
เริ่มครึ่งหลัง สเปน เปลี่ยนตัวเอา มาร์ติน ซูบีเมนดี้ ลงแทน โรดี้ ที่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนาที 46 ลามีน ยามาล หหลุดมาทางขวาก่อนปาดให้ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ยิงขึ้นนำ 1-0
นาที 70 แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดสินใจส่ง โคล พาลเมอร์ ลงมาแทน ค็อบบี้ ไมนู และผ่านไปเพีย 3 นาที ซาก้าหลุดขึ้นมาทางขวาก่อนเข้ามาให้ เบลลิ่งแฮม ตั้งบอลหน้ากรอบให้ พาลเมอร์ ซัดไกลตีเสมอ 1-1
นาที 86 มาร์ค คูคูเรญ่า จะปาดบอลเข้ามาให้ มิเกล โอยาร์ซาบัล จิ้มบอลสวนตัวพิคฟอร์ดพา สเปน ขึ้นนำ 2-1

เหตุการณ์สำคัญ:

  • นาทีที่ 47: นิโก วิลเลียมส์ กองหน้าดาวรุ่งของสเปน ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ด้วย จากการแอสซิสของ ลามีน ยามัล
  • นาทีที่ 73: โคล พาล์มเมอร์ ตัวรุกของอังกฤษ ยิงประตูตีเสมอ 1-1 แบบสุดสวย
  • นาทีที่ 86: มิเกล โอยาร์ซาบัล ของสเปน ยิงประตูชัยให้ทีมคว้าชัยชนะ 2-1
  • สเปน คว้าแชมป์ยูโรสมัยที่ 4

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน: ตำนานแห่งวงการฟุตบอล

0

ประวัติ:

  • กำเนิด: เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1941 ในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
  • อาชีพนักเตะ: เฟอร์กูสันเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรควีนออฟเดอะเซาท์
  • ผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีม: เฟอร์กูสันเริ่มต้นการเป็นผู้จัดการทีมกับสโมสรเซนต์จอห์นสตัน และสโมสรแอบรดีน ก่อนที่จะย้ายไปคุมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในปี 1986
  • แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด: เฟอร์กูสันคุมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นเวลา 26 ปี พาทีมคว้าแชมป์มากมาย รวมถึง:
    • พรีเมียร์ลีก 13 สมัย
    • เอฟเอคัพ 5 สมัย
    • ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย
    • ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย
    • ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย
    • อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 1 สมัย
    • ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ 1 สมัย
  • รางวัลส่วนตัว: เฟอร์กูสันได้รับรางวัลมากมายในฐานะผู้จัดการทีม รวมถึง:
    • ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก 11 สมัย
    • ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้จัดการทีมฟุตบอล 4 สมัย
    • บีบีซีผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี 3 สมัย
    • รางวัล knighthood ในปี 1999

สถิติ:

  • เฟอร์กูสันเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ
  • เขานำแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมากกว่าทีมอื่นๆ
  • เขาคุมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนานกว่าผู้จัดการทีมคนอื่นๆ
  • เขาเป็นผู้จัดการทีมคนเดียวที่พาทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน

รางวัลส่วนตัว:

  • เฟอร์กูสันได้รับรางวัลมากมายในฐานะผู้จัดการทีม รวมถึง:
    • ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก 11 สมัย
    • ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้จัดการทีมฟุตบอล 4 สมัย
    • บีบีซีผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี 3 สมัย
    • รางวัล knighthood ในปี 1999

มรดก:

  • เฟอร์กูสันถือเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
  • เขามีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการฟุตบอล และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้จัดการทีมและนักเตะรุ่นหลัง
  • เขาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความมุ่งมั่น ความทุ่มเท และความสามารถในการพัฒนานักเตะ

ประวัติศาสตร์อันยาวนานของฟุตบอล: จากอดีตสู่ปัจจุบัน

0

ฟุตบอล กีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ย้อนกลับไปหลายพันปีก่อน เริ่มต้นจากการเล่นแบบดั้งเดิมในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ก่อนที่จะพัฒนาเป็นกีฬาสมัยใหม่อย่างที่เราทราบกันดีในปัจจุบัน

จุดกำเนิด:

  • หลักฐานการเล่นฟุตบอลในรูปแบบดั้งเดิมสามารถพบได้ในอารยธรรมโบราณหลายแห่ง เช่น จีน กรีก โรมัน และอเมริกากลาง
  • เกมเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับการเตะลูกบอลด้วยเท้าเพื่อความสนุกสนาน พิธีกรรม หรือการฝึกทหาร

ยุคกลาง:

  • ในช่วงยุคกลาง ฟุตบอลได้รับความนิยมในหมู่ประชาชนทั่วไป แต่กฎกติกาการเล่นยังไม่เป็นมาตรฐาน มักเล่นกันแบบอิสระ ไร้กฎเกณฑ์
  • บางครั้งการเล่นฟุตบอลในยุคนั้นอาจรุนแรงจนนำไปสู่ความวุ่นวายและการบาดเจ็บ

การกำเนิดฟุตบอลสมัยใหม่:

  • จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 ในประเทศอังกฤษ
  • โรงเรียนมัธยมปลายหลายแห่งเริ่มพัฒนากฎกติกาฟุตบอลที่เป็นมาตรฐาน
  • ในปี พ.ศ. 2406 สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ก่อตั้งขึ้น
  • เหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของฟุตบอลสมัยใหม่

การแพร่กระจายของฟุตบอล:

  • ฟุตบอลได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ชนชั้นแรงงานอังกฤษ
  • ต่อมาแพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป อเมริกาใต้ และส่วนอื่นๆ ของโลก
  • การก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ในปี พ.ศ. 2457 มีบทบาทสำคัญในการขยายขอบเขตของกีฬาฟุตบอล
  • ฟุตบอลกลายเป็นกีฬาที่มีการแข่งขันระดับนานาชาติอย่างเป็นทางการ

ฟุตบอลในประเทศไทย:

  • ฟุตบอลเข้ามาในประเทศไทยในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศ
  • ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีการส่งเสริมให้เล่นฟุตบอลในโรงเรียน
  • ฟุตบอลได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นกีฬายอดนิยมของคนไทยจนถึงปัจจุบัน

ความสำคัญของฟุตบอล:

  • ฟุตบอลมากกว่าแค่กีฬา เป็นกีฬาที่รวมผู้คนเข้าด้วยกัน
  • สร้างมิตรภาพ ส่งเสริมสุขภาพ และปลูกฝังวินัย
  • ฟุตบอลยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม

ฟุตบอลในปัจจุบัน:

  • ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมที่สุดในโลก
  • มีผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกที่ติดตามชมการแข่งขันฟุตบอล
  • ฟุตบอลเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
  • ฟุตบอลยังคงพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มีกฎกติกาใหม่ๆ เกิดขึ้น ผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากขึ้น และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

สถิติที่น่าสนใจก่อนเกม “สเปน พบ อังกฤษ” ฟุตบอลยูโร 2024

0

สเปน:

  • 🇪🇸 สเปน ลงเล่นในศึกยูโรรอบสุดท้าย 5 เกม เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด ถือเป็นทีมแรกที่ทำได้ในศึกฟุตบอลยูโร ยิงได้ 13 ประตู เสียไป 3 ประตู
  • 🇪🇸 ฟอร์มสุดแกร่ง! เสียประตูน้อยที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้
  • 🇪🇸 แดนรุกเฉียบคม! ยิงประตูได้กระจาย
  • 🇪🇸 ดาวรุ่งพุ่งแรง “ลามีน ยามาล” น่าจับตามอง

อังกฤษ:

  • 󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 อังกฤษ ลงเล่นในศึกยูโรรอบสุดท้าย 5 เกม ชนะ 2 เสมอ 3 ยังไม่แพ้ใคร ยิงได้ 5 ประตู เสียไป 3 ประตู
  • 󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 ฟอร์มดุดัน! เล่นได้อย่างเหนียวแน่น
  • 󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 “โอลลี่ วัตกิ้นส์” ฮีโร่คนใหม่ ยิงประตูชัยในรอบรองชนะเลิศ
  • 󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 ยังไม่เคยคว้าแชมป์ยูโร รอคอยความสำเร็จมานาน 58 ปี

สถิติการพบกัน:

  • 🇪🇸󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 ผลงาน 5 นัดล่าสุด ถือว่าสูสี ทั้งสองทีมผลัดกันแพ้ชนะทีมละ 2 ครั้ง และเสมอกัน 1 ครั้ง
  • 🇪🇸󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 เกมล่าสุดที่พบกัน อังกฤษ ชนะ สเปน 3-2 ในศึกเนชันส์ลีก เมื่อปี 2018

ฟุตบอลแฟนๆ เตรียมตัวให้พร้อม! คืนนี้มันส์แน่! ⚽️

0

ยูโร 2024: 🇪🇸 สเปน ปะทะ 󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 อังกฤษ

ชิงแชมป์กันที่: โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี 🇩🇪

เตะเวลา: 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ⏰🇹🇭

ห้ามพลาดการลุ้นระทึก ว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์ยูโรสมัยนี้!



โกปาอเมริกา 2024: 🇦🇷 อาร์เจนตินา แชมป์เก่า ลงดวลกับ 🇨🇴 โคลอมเบีย

ชิงชัยกันที่: ฮาร์ด ร็อค สเตเดี้ยม เมืองไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา 🇺🇸

เตะเวลา: 07.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ⏰🇹🇭

ลุ้นกันว่า ทีมไหนจะคว้าแชมป์โกปาอเมริกาสมัยนี้!

ใครเชียร์ทีมไหน? มาคอมเมนต์บอกกันหน่อย!

ห้ามพลาด!