ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์

เป็นชื่อที่น่าจับตามองในวงการฟุตบอลโลกในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาได้เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมของสโมสร ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในพรีเมียร์ลีก ด้วยวัยเพียง 31 ปี ทำให้เขาเป็นกุนซือที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของลีกสูงสุดของอังกฤษ

ประวัติโดยย่อ

• เกิด: 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 ที่เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
• สัญชาติ: อเมริกัน-เยอรมัน
• เส้นทางค้าแข้ง: เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลในเยอรมนี เคยผ่านการฝึกฝนกับทีมเยาวชนของบาเยิร์น มิวนิค แต่สุดท้ายต้องแขวนสตั๊ดในวัย 23 ปี
• เส้นทางการเป็นโค้ช: เริ่มต้นศึกษาและเข้าสู่วงการโค้ชในปี 2016
• ความสำเร็จ: พาสโมสรซังต์ เพาลี เลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีกาได้สำเร็จ ก่อนจะย้ายมาคุมทีมไบรท์ตัน

จุดเด่นและเหตุผลที่น่าสนใจ

• อายุยังน้อย: อายุที่น้อยของเฮอร์เซเลอร์ เป็นจุดเด่นที่ทำให้เขามีความคิดที่สดใหม่ และมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้และพัฒนาทีม
• ความรู้ความสามารถ: แม้จะมีอายุยังน้อย แต่เฮอร์เซเลอร์มีความรู้ความสามารถทางด้านแท็คติกและการบริหารจัดการทีมเป็นอย่างดี ซึ่งเห็นได้จากผลงานที่เขาทำกับซังต์ เพาลี
• สไตล์การเล่นที่ทันสมัย: เฮอร์เซเลอร์นิยมใช้รูปแบบการเล่นที่เน้นการครองบอลและการสร้างโอกาสทำประตู ซึ่งเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน
• ความกล้าหาญ: การตัดสินใจย้ายมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีกในวัยเพียง 31 ปี แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความมั่นใจในตัวเองของเฮอร์เซเลอร์

ทำไมไบรท์ตันถึงเลือกเฮอร์เซเลอร์?

ไบรท์ตันเป็นสโมสรที่มักจะให้โอกาสกับผู้จัดการทีมคนหนุ่ม และมีความกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ การเลือกเฮอร์เซเลอร์มาคุมทีม จึงเป็นไปตามแนวทางของสโมสรที่ต้องการพัฒนาทีมไปในระยะยาว

อนาคตของเฮอร์เซเลอร์และไบรท์ตัน

การที่เฮอร์เซเลอร์เข้ามาคุมทีมไบรท์ตัน ถือเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสร และจะเป็นที่น่าจับตามองว่าเขาจะสามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้มากน้อยเพียงใด

หลุยส์ ฟิโก้

เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลปีกขวาที่เก่งที่สุดในยุคของเขา ด้วยความสามารถในการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม ความเร็ว และวิสัยทัศน์ที่เฉียบคม ทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และยังเป็นที่จดจำในฐานะนักเตะที่ย้ายทีมจากบาร์เซโลน่าไปเรอัล มาดริด ซึ่งเป็นการย้ายทีมที่สร้างความฮือฮาในวงการฟุตบอลเป็นอย่างมาก

ประวัติส่วนตัว

• เกิด: 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1972 ที่ ลิสบอน, โปรตุเกส
• ตำแหน่ง: ปีกขวา
• สโมสรอาชีพที่สำคัญ: สปอร์ติ้ง ลิสบอน, บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน
• ทีมชาติ: โปรตุเกส

สถิติการยิงประตูและแอสซิสต์

• สถิติโดยรวม: ตลอดอาชีพการค้าแข่งของฟิโก้ เขาทำประตูได้มากกว่า 100 ประตู และมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เกมให้กับทีมอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการแอสซิสต์
• จุดเด่น: ฟิโก้เป็นนักเตะที่เก่งในการเลี้ยงบอลริมเส้น และสามารถตัดเข้ามายิงประตูได้เอง หรือจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้

รางวัลส่วนตัวและเกียรติประวัติ

• บัลลงดอร์: 2000
• ฟีฟ่า แพลตินัม อวอร์ด: หนึ่งใน 100 นักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
• แชมป์ลา ลีกา: 4 สมัย (กับบาร์เซโลน่าและเรอัล มาดริด)
• แชมป์โคปา เดล เรย์: 2 สมัย
• แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก: 1 สมัย
• แชมป์เซเรีย อา: 4 สมัย (กับอินเตอร์ มิลาน)
• แชมป์โคปปา อิตาเลีย: 1 สมัย

ความสามารถพิเศษ

• การเลี้ยงบอล: ฟิโก้มีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม สามารถหลบหลีกคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย
• ความเร็ว: เขามีความเร็วสูง ทำให้สามารถพาบอลไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว
• วิสัยทัศน์: ฟิโก้มีวิสัยทัศน์ในการมองเกมที่ยอดเยี่ยม สามารถจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างแม่นยำ
• ลูกฟรีคิก: เขาสามารถยิงลูกฟรีคิกได้อย่างแม่นยำ

มรดกที่หลุยส์ ฟิโก้ทิ้งไว้

หลุยส์ ฟิโก้ เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอล เขาเป็นตัวอย่างของนักฟุตบอลที่มีทั้งความสามารถและความเป็นมืออาชีพ การย้ายทีมของเขาจากบาร์เซโลน่าไปเรอัล มาดริด ถือเป็นการย้ายทีมที่สร้างความฮือฮาที่สุดครั้งหนึ่งในวงการฟุตบอล และยังคงเป็นที่พูดถึงกันมาจนถึงทุกวันนี้

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟิโก้:

• การย้ายทีม: การย้ายทีมจากบาร์เซโลน่าไปเรอัล มาดริด ทำให้ฟิโก้กลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ถูกแฟนบอลเกลียดชังมากที่สุดคนหนึ่ง
• ความสำเร็จ: ฟิโก้ประสบความสำเร็จกับทุกสโมสรที่เขาเล่นให้
• บุคลิก: ฟิโก้เป็นที่รู้จักในเรื่องของความเป็นมืออาชีพและความมุ่งมั่น

อันเดรีย ปีร์โล

เป็นหนึ่งในกองกลางตัวกลางที่เก่งที่สุดในยุคของเขา ด้วยสไตล์การเล่นที่สงบเยือกเย็น วิสัยทัศน์ที่เฉียบคม และความแม่นยำในการส่งบอลระยะไกล ทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะเพลย์เมกเกอร์ระดับโลก

ประวัติส่วนตัว

• เกิด: 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1979 ที่ เบเรกกาโร, อิตาลี
• ตำแหน่ง: กองกลางตัวกลาง
• สโมสรอาชีพที่สำคัญ: เรจจีนา, เบรสชา, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน, ยูเวนตุส, นิวยอร์ก ซิตี้
• ทีมชาติ: อิตาลี

สถิติการยิงประตูและแอสซิสต์

เนื่องจากปีร์โลเป็นนักฟุตบอลตำแหน่งกองกลางตัวกลาง สถิติการยิงประตูของเขาอาจไม่สูงเท่ากองหน้า แต่เขาโดดเด่นในเรื่องการสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม โดยเฉพาะการจ่ายบอลที่แม่นยำและลูกฟรีคิกที่อันตราย

• จุดเด่น:
  • ลูกฟรีคิก: ปีร์โลเป็นผู้เล่นที่เก่งในการยิงลูกฟรีคิกและลูกตั้งเตะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาวุธสำคัญที่เขาใช้สร้างสรรค์เกมให้กับทีม
  • จ่ายบอล: การจ่ายบอลที่แม่นยำและทะลุช่องของเขาเป็นสิ่งที่โดดเด่น ทำให้เกมรุกของทีมไหลลื่น

รางวัลส่วนตัวและเกียรติประวัติ

• ฟุตบอลโลก: ชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 กับทีมชาติอิตาลี
• ยูโรเปียน คัพ: ชนะเลิศ 2 สมัย กับเอซี มิลาน
• เซเรีย อา: ชนะเลิศหลายสมัย กับทั้งเอซี มิลาน และยูเวนตุส
• โคปปา อิตาเลีย: ชนะเลิศหลายสมัย
• ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย: ชนะเลิศหลายสมัย
• บัลลงดอร์: เคยติดอันดับผู้เข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์หลายครั้ง

ความสามารถพิเศษ

• วิสัยทัศน์: ปีร์โลมีวิสัยทัศน์ในการมองเกมที่ยอดเยี่ยม สามารถจ่ายบอลทะลุช่องให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างแม่นยำ
• ความสงบเยือกเย็น: เขาเล่นด้วยความสงบเยือกเย็น ไม่ตื่นเต้นกับสถานการณ์กดดัน
• ลูกฟรีคิก: ปีร์โลเป็นผู้เล่นที่เก่งในการยิงลูกฟรีคิกและลูกตั้งเตะ
• การควบคุมบอล: เขาสามารถควบคุมบอลได้อย่างนุ่มนวลและแม่นยำ

มรดกที่อันเดรีย ปีร์โลทิ้งไว้

อันเดรีย ปีร์โล เป็นหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล เขาเป็นตัวอย่างของนักฟุตบอลที่เล่นด้วยความคิดและเทคนิคที่ยอดเยี่ยม สไตล์การเล่นของเขาได้รับอิทธิพลจากนักฟุตบอลรุ่นเก่าอย่าง โจวันนี ริเวรา และได้กลายเป็นต้นแบบให้กับนักฟุตบอลรุ่นหลัง ๆ

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับปีร์โล:

• สไตล์การเล่น: ปีร์โลมีสไตล์การเล่นที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เขาไม่ค่อยวิ่งมากแต่สามารถควบคุมเกมได้อย่างยอดเยี่ยม
• บุคลิก: ปีร์โลเป็นที่รู้จักในเรื่องของความสงบเยือกเย็นและความเป็นผู้นำ
• อิทธิพล: ปีร์โลมีอิทธิพลต่อนักฟุตบอลรุ่นหลัง ๆ หลายคน โดยเฉพาะในเรื่องของการจ่ายบอลและการควบคุมเกม

แฟแร็นตส์ ปุชกาช (Ferenc Puskás)

คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเป็นที่รู้จักในเรื่องความสามารถในการทำประตูที่ยอดเยี่ยม และเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมชาติฮังการีในยุคทองที่เรียกว่า “ทีมทองคำ” (Golden Team)

ประวัติส่วนตัว

• เกิด: 1 เมษายน ค.ศ. 1927 ที่บูคาเปสต์ ประเทศฮังการี
• เสียชีวิต: 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2006
• ตำแหน่ง: กองหน้า
• สโมสรอาชีพ: คิชเปสต์, บูดาเปสต์ ฮอนเวด, เรอัล มาดริด
• ทีมชาติ: ฮังการี และ สเปน

สถิติการยิงประตูที่น่าทึ่ง

• ทำประตูได้มากกว่า 800 ประตู: ตลอดอาชีพการค้าแข่งของเขา ปุชกาชทำประตูได้มากกว่า 800 ประตู ซึ่งเป็นสถิติที่น่าทึ่งมาก
• ผู้ทำประตูสูงสุดในลีกฮังการีและลา ลีกา: เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในลีกฮังการีและลา ลีกาหลายครั้ง
• ทำประตูได้ 7 ประตูในนัดชิงชนะเลิศยูโรเปียน คัพ 2 ครั้ง: นี่เป็นสถิติที่ไม่มีใครทำลายได้
• ทำประตูให้ทีมชาติฮังการี 84 ประตูจาก 85 นัด: แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมในการทำประตูของเขา

รางวัลส่วนตัวและเกียรติประวัติ

• ผู้ทำประตูสูงสุดในยุโรป: ในปี ค.ศ. 1948
• ชนะเลิศโอลิมปิก: ค.ศ. 1952 กับทีมชาติฮังการี
• ชนะเลิศยูโรเปียน คัพ 3 สมัย: กับเรอัล มาดริด
• ชนะเลิศลีกแห่งชาติ 10 สมัย: ทั้งในฮังการีและสเปน
• ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล: โดยสหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลระหว่างประเทศ
  
  
  

ความสามารถพิเศษ

• การยิงประตู: ปุชกาชมีทักษะการยิงประตูที่ยอดเยี่ยม สามารถยิงได้ทั้งเท้าซ้าย เท้าขวา และหัว
• ความแข็งแกร่ง: เขาเป็นนักเตะที่แข็งแกร่ง สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ง่าย
• วิสัยทัศน์: มีวิสัยทัศน์ในการทำประตูที่ยอดเยี่ยม

มรดกที่แฟแร็นตส์ ปุชกาชทิ้งไว้

แฟแร็นตส์ ปุชกาช เป็นตำนานของวงการฟุตบอล เขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลรุ่นหลัง ๆ ด้วยความสามารถในการทำประตูที่ยอดเยี่ยม และเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดตลอดกาล ชื่อของเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลตลอดไป และ สหพันธ์ฟุตบอลฟีฟ่ายังได้ใช้ชื่อรางวัลของตัวเขาเป็นชื่อรางวัลผู้ทำประตูสวยที่สุดประจะปีอย่าง ปุสกัส อวอร์ด

โลทาร์ มัทเทอุส (Lothar Matthäus)

ถือเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล เขาโดดเด่นด้วยความสามารถรอบด้าน, ความแข็งแกร่ง, และวิสัยทัศน์ที่เฉียบคม ทำให้เขาสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในสนาม โดยเฉพาะตำแหน่งกองกลางตัวรับ

ประวัติส่วนตัว

• เกิด: 21 มีนาคม 1961 ที่เมืองเออร์ลังเงิน ประเทศเยอรมนี
• ตำแหน่ง: กองกลางตัวรับ (แต่สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง)
• สโมสรอาชีพ: เริ่มต้นอาชีพกับแฮร์ทโซเกินเอารัค ก่อนจะย้ายไปโบรุสเซีย เมินเชนกลัทบัค, ไบเอิร์น มิวนิก, อินเตอร์ มิลาน, และกลับมาอยู่กับไบเอิร์น มิวนิกอีกครั้ง
• ทีมชาติ: แข่งขันให้กับทีมชาติเยอรมนีตะวันตกและเยอรมนีรวม 150 นัด ยิงได้ 23 ประตู

สถิติที่น่าทึ่ง

• ลงเล่นฟุตบอลโลก 5 ครั้ง: สถิตินี้ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ลงเล่นฟุตบอลโลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์
• คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1 ครั้ง: ในปี 1990 กับทีมชาติเยอรมนีตะวันตก
• คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1 ครั้ง: ในปี 1980 กับทีมชาติเยอรมนีตะวันตก
• ได้รับรางวัลบัลลงดอร์: ในปี 1991 ซึ่งเป็นรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป
• ได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปีคนแรก: ในปี 1991
• โดยเขาเล่นสนามไปมากถึง 768 นัด ยิง 204 ประตู

รางวัลส่วนตัวและเกียรติประวัติ

• บัลลงดอร์: 1991
• นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี: 1991
• นักฟุตบอลเยอรมันแห่งปี: หลายครั้ง
• ติดทีมยอดเยี่ยมของฟุตบอลโลกและฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: หลายครั้ง
• ติดทีมยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกา: หลายครั้ง
• เป็นหนึ่งในสมาชิกของดรีมทีมบาลงดอร์: ในปี 2020

ความสามารถพิเศษ

• ความแข็งแกร่ง: มัทเทอุสเป็นนักเตะที่แข็งแกร่งมาก สามารถแย่งบอลได้ดี และไม่กลัวการปะทะ
• วิสัยทัศน์: เขามีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม สามารถจ่ายบอลได้แม่นยำ และคาดการณ์เกมได้อย่างยอดเยี่ยม
• ความหลากหลาย: สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในสนาม ทำให้เป็นนักเตะที่ยืดหยุ่นและมีประโยชน์ต่อทีม
  
  
  

มรดกที่โลทาร์ มัทเทอุสทิ้งไว้

โลทาร์ มัทเทอุส เป็นมากกว่านักฟุตบอล เขาเป็นตำนานที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลรุ่นหลัง ๆ ด้วยความมุ่งมั่น, ความทุ่มเท, และความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเขา เขาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล และชื่อของเขาจะถูกจารึกไว้ในหอเกียรติยศของวงการฟุตบอลตลอดไป

เกมนี้เป็นการพบกันระหว่างทีมกลางตารางอย่างบอร์นมัธ กับทีมหัวตารางอย่างนิวคาสเซิล

บอร์นมัธ

• จุดแข็ง:
  • เกมรุกที่หลากหลาย: บอร์นมัธมีนักเตะที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์โอกาสทำประตูหลายคน
  • เล่นในบ้าน: การได้เล่นในสนามเหย้าจะทำให้บอร์นมัธได้รับแรงเชียร์จากแฟนบอล ซึ่งจะช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับนักเตะ
• จุดอ่อน:
  • เกมรับยังไม่นิ่ง: แนวรับของบอร์นมัธยังดูไม่ค่อยแน่นอน และมักจะเสียประตูจากความผิดพลาดส่วนตัว
  • ขาดความสม่ำเสมอ: ฟอร์มการเล่นของบอร์นมัธยังไม่ค่อยสม่ำเสมอ

นิวคาสเซิล

• จุดแข็ง:
  • เกมรุกที่ทรงพลัง: นิวคาสเซิลมีแนวรุกที่แข็งแกร่ง โดยมีนักเตะฝีเท้าดีหลายคนคอยสร้างสรรค์โอกาสทำประตู
  • เกมรับที่เหนียวแน่น: แนวรับของนิวคาสเซิลแข็งแกร่งและมีระเบียบวินัยสูง
  • ฟอร์มการเล่นที่ดี: นิวคาสเซิลกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดี และมีคะแนนติดอยู่ในกลุ่มหัวตาราง
• จุดอ่อน:
  • อาจจะไม่มีจุดบอดที่เห็นได้ชัดแต่ก็ยังพอมีผิดพลาดให้เห็นอยู่บ้าง เช่น ชอบเสียในจังหวะง่ายๆ

คาดการนักเตะตัวจริงของทั้ง2ทีม

บอร์นมัธ: 4 – 2 – 3 – 1 : เนโต้- อดัม สมิธ, อิลเลีย ซาบาร์นยี, ดีน ฮุยจ์เซน, มิลอส เคอร์เคซ – อเล็กซ์ สก็อตต์, ลูอิส คุก – ดองโก้ วาตารา, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, หลุยส์ ซินิสเตร์รา –  อองตวน เซเมนโย

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด: 4 – 3 – 3 : นิค โป๊ป – ติโน ลิฟราเมนโต้, ลอยด์ เคลลี, แดน เบิร์น, ลูอิส ฮอลล์ – ฌอน ลองสตาฟฟ์, บรูโน กิลมาไรส์, โจลินตัน – เจค็อบ เมอร์ฟี, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, แอนโธนี กอร์ดอน

วิเคราะห์และคาดการณ์

เกมนี้คาดว่านิวคาสเซิลน่าจะเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ เนื่องจากมีทีมที่แข็งแกร่งกว่าและกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดี แต่บอร์นมัธก็ไม่ใช่ทีมที่ง่ายจะเอาชนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เล่นในบ้านอย่างไรก็ตามผลเสมอมีโอกาสเป็นไปได้สูง

คาดการผลสกอ: บอร์นมัธ เสมอ นิวคาสเซิล 1-1

เกมนี้เป็นการพบกันระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “ผึ้งพิฆาต” เบรนท์ฟอร์ด สองทีมที่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ลิเวอร์พูล

• จุดแข็ง:
  • เกมรุกทรงพลัง: ลิเวอร์พูลมีแนวรุกที่แข็งแกร่งและหลากหลาย โดยมีนักเตะฝีเท้าดีหลายคนคอยสร้างสรรค์โอกาสทำประตู
  • ประสบการณ์: นักเตะส่วนใหญ่ของลิเวอร์พูลมีประสบการณ์ในการเล่นในระดับสูง ทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งทางจิตใจ
  • แรงเชียร์จากแฟนบอล: การเล่นในแอนฟิลด์จะทำให้ลิเวอร์พูลได้รับแรงเชียร์จากแฟนบอลเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับนักเตะ
• จุดอ่อน:
  • เกมรับยังไม่นิ่ง: แนวรับของลิเวอร์พูลยังดูไม่ค่อยแน่นอน และมักจะเสียประตูจากความผิดพลาดส่วนตัว
  • การปรับตัวของกุนซือ: กุนซือใหม่อาจจะใช้ไม่มีความแน่นอนที่มากนักกับแผนการเล่นและยังต้องปรับตัวกับนักเตะอยู่บ้าง

เบรนท์ฟอร์ด

• จุดแข็ง:
  • เกมรับเหนียวแน่น: เบรนท์ฟอร์ดมีเกมรับที่แข็งแกร่งและมีระเบียบวินัยสูง ทำให้คู่แข่งเจาะยาก
  • ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: นักเตะของเบรนท์ฟอร์ดส่วนใหญ่มีความแข็งแกร่งทางกายภาพ ทำให้สามารถต่อสู้กับคู่แข่งได้อย่างสูสี
  • สไตล์การเล่นที่ไม่ธรรมดา: เบรนท์ฟอร์ดมีสไตล์การเล่นที่ไม่ธรรมดา และมักจะสร้างความประหลาดใจให้กับคู่แข่ง
• จุดอ่อน:
  • การขาดนักเตะระดับโลก: เบรนท์ฟอร์ดไม่มีนักเตะระดับโลก ทำให้ทีมขาดความสามารถในการตัดสินเกมในช่วงเวลาสำคัญ
  • ความกดดัน: การเจอกับทีมใหญ่เช่นลิเวอร์พูล อาจทำให้เบรนท์ฟอร์ดรู้สึกกดดันและเล่นผิดพลาดได้

คาดการนักเตะตัวจริงของทั้ง2ทีม

ลิเวอร์พูล : 4-2-3-1 อลิสสัน เบคเกอร์ (GK), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จาร์ราล ควอนซาห์, เวอร์จิล ฟาน ไดก์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนเบิร์ช, โดมินิค โซโบซไล, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก โชตา, หลุยส์ ดิอาช

เบรนท์ฟอร์ด : 4-3-3 มาร์ค เฟล็คเคน (GK),แมดส์ โจเออร์สเลฟ, นาธาน คอลลินส์, อีธาน พินน็อค, คริสโตเฟอร์ เอเยอร์, คริสเตียน นอร์การ์ด, วิตาลี ยาเนลท์, มาธิอัส เยนเซน, ไบรอัน เอ็มบูโม, โยอัน วีซา, เควิน เชค

วิเคราะห์และคาดการณ์

เกมนี้คาดว่าลิเวอร์พูลน่าจะเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบแลดครองเกมมากกว่า เนื่องจากมีทีมที่แข็งแกร่งกว่าและได้เล่นในบ้าน แต่เบรนท์ฟอร์ดก็ไม่ใช่ทีมที่ง่ายจะเอาชนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยเกมรับที่เหนียวแน่นของพวกเขาแต่ดูแล้วน่าจะต้านลิเวอร์พูลที่เล่นในบ้านได้ยากเลยมองไปทางเจ้าบ้านน่าจะเอาชนะเกมนี้ไปได้แบบไม่ยากเย็นเท่าไร

คาดการผลสกอ: ลิเวอร์พูล ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 3-1 4-0

เกมนี้เป็นการพบกันของสองทีมที่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

วูล์ฟแฮมป์ตัน

• จุดแข็ง:
  • เกมรับที่แข็งแกร่งและมีระเบียบวินัยสูง: วูล์ฟส์มักจะตั้งรับเป็นหลัก และใช้ความแข็งแกร่งทางกายภาพในการป้องกันพื้นที่สำคัญ
  • ความสามารถในการเล่นเกมสวนกลับ: เมื่อได้โอกาส วูล์ฟส์จะใช้ความเร็วในการสวนกลับทำประตูได้อย่างรวดเร็ว
  • ความคุ้นเคยกับสนามเหย้า: การได้เล่นในโมลินิวซ์ สเตเดี้ยม จะเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญสำหรับวูล์ฟส์
• จุดอ่อน:
  • การสร้างสรรค์โอกาสทำประตู: วูล์ฟส์มักจะขาดความหลากหลายในการสร้างโอกาสทำประตู และมักจะพึ่งพาจังหวะสวนกลับเป็นหลัก

เชลซี

ความสม่ำเสมอ: เชลซีอาจยังขาดความสม่ำเสมอในการเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นฤดูกาล

จุดแข็ง:

• การเสริมทัพที่แข็งแกร่ง: เชลซีได้เสริมทัพด้วยนักเตะที่มีคุณภาพหลายคน ทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

• ความสามารถในการครองบอล: เชลซีมีนักเตะที่มีทักษะในการครองบอลและผ่านบอลที่ดี ทำให้ทีมสามารถครองเกมได้

• ประสบการณ์ในการเล่นในระดับสูง: นักเตะของเชลซีส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการเล่นในระดับสูง ทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งทางจิตใจ

จุดอ่อน:

• การปรับตัวของนักเตะใหม่: นักเตะใหม่ที่เข้ามาอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของทีม

• ความเฉียบคมของผู้เล่นในแนวรุก

คาดการนักเตะตัวจริงของทั้ง2ทีม

วูล์ฟแฮมป์ตัน: 3 – 5 – 2 : โจเซ่ ซา – แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, โตติ, เยอร์สัน มอสเกร่า – โรดิโก้ โกเมส, เจา โกเมส, มาริโอ เลอมินาร์, ฌองริคเนอร์ เบลเลการ์ด, รายาน เอต-นูรี – ฮวาง ฮี ชาน, ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น

เชลซี: 4 – 2 – 3 – 1 : โรเบิร์ต ซานเชซ – มาโล กุสโต้, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ค คูคูเรย่า – มอยเซส ไกเซโด, โรเมโอ ลาเวีย  – โคล พาลเมอร์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู – นิโคลัส แจ็คสัน

วิเคราะห์และคาดการณ์

วูล์ฟส์จะเน้นเกมรับที่แข็งแกร่งและรอโอกาสสวนกลับทำประตู ในขณะที่เชลซีจะพยายามครองบอลและหาช่องทำประตูจากความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ

คาดการผลสกอ: วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้ เชลซี 1-3

การพบกันของสิงห์ผยองกับปืนใหญ่ เกมนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง?

เกมนี้ถือเป็นแมตช์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะทั้ง แอสตัน วิลล่า และ อาร์เซนอล ต่างก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ และต้องการพิสูจน์ตัวเองในฤดูกาลใหม่

แอสตัน วิลล่า

• จุดแข็ง:
  • เกมรุกที่หลากหลาย: วิลล่ามีนักเตะที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์โอกาสได้หลายคน ทั้ง อูนาอิ เอเมรี กุนซือชาวสเปน ก็มีแท็คติกที่หลากหลาย
  • ความแข็งแกร่งในบ้าน: วิลล่า พาร์ค มักจะเป็นสนามที่เล่นยากสำหรับทีมเยือน
• จุดอ่อน:
  • ความสม่ำเสมอ: ฟอร์มการเล่นยังไม่คงเส้นคงวา อาจจะเล่นดีในบางเกม แต่ก็อาจจะเล่นได้ไม่ดีในบางเกม
  • การขาดหายไปของตัวหลักในฤดูกาลที่แล้ว: การหายไปของ ดักลาส ลุยซ์ และ มุสซ่า ยาบี้ อาจทำให้เกมของ วิลล่า ดูอันตรายน้อยลงไปพอสมคาร

อาร์เซนอล

• จุดแข็ง:
  • การเสริมทัพ: อาร์เซนอลได้ผู้เล่นใหม่อย่าง คาลาฟิโอลี่ เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีม
  • เกมรุกที่ดุดัน: อาร์เซนอลมีเกมรุกที่ดุดันและสามารถสร้างโอกาสทำประตูได้มากมาย
• จุดอ่อน:
  • เป็นทีมที่มีดาวรุ่งเยอะ: อาจจะทำให้ใจร้อนในการเร่งจังหวะเกมหรือขาดประสบการณ์อยู่บ้าง
  • ความกดดัน: อาร์เซนอลมีเป้าหมายในการคว้าแชมป์ ซึ่งจะทำให้ทีมตกอยู่ภายใต้ความกดดัน

คาดการนักเตะตัวจริงของทั้ง2ทีม

แอสตันวิลล่า: เอมิเลียโน มาร์ติเนซ(GK)- แมตตี แคช/ เอซรี่ คอนซ่า/ เปา ตอร์เรส/ ลูก้า ดีน/ อมาดู โอนาน่า/ ยูริ ตีเลอมองส์/ จอห์น แม็คกินน์/ มอร์แกน โรเจอร์ส/ ลีออน เบลีย์/ โอลลี่ วัตคินส์

อาร์เซนอล: ดาบิด รายา(GK)- เบน ไวต์/ วิลเลียม ซาลิบา/ กาเบรียล มากัลเญส/ ซินเชนโก้/ โธมัส ปาร์เตย์/ ดีแคลน ไรซ์/ มาร์ติน โอเดการ์ด/ บูกาโย ซาก้า/ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่/ ไค ฮาเวิทซ์

วิเคราะห์และคาดการณ์

ทั้งสองทีมต่างมีโอกาสที่จะคว้าชัยชนะไปได้ อาร์เซนอล อาจจะได้เปรียบในเรื่องขุมกำลัง แต่ วิลล่า ก็มีความแข็งแกร่งในบ้านมองแล้วว่าเกมนี้ผลออกได้ทั้ง3หน้าแต่ถ้าให้เลือกผู้ชนะทีมเยือนยังดูมีภาษีที่ดีกว่า

คาดการผลสกอ: แอสตันวิลล่า แพ้ อาร์เซนอล 1-2

การพบกันของสองทีมที่ต่างต้องการ 3 แต้มเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลอย่างสวยงาม

เกมนี้ถือเป็นแมตช์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะทั้ง เซาแธมป์ตัน และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ต่างก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ และต้องการพิสูจน์ตัวเองในฤดูกาลใหม่

เซาแธมป์ตัน

• จุดแข็ง:
  • ประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก: เซาแธมป์ตันมีประสบการณ์ในการเล่นในพรีเมียร์ลีกมานาน และมีนักเตะหลายคนที่คุ้นเคยกับการเล่นในลีกสูงสุด
  • เกมรุกที่หลากหลาย: เซาแธมป์ตันมีนักเตะที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์โอกาสได้หลายคน
• จุดอ่อน:
  • ความสม่ำเสมอ: ฟอร์มการเล่นยังไม่คงเส้นคงวา อาจจะเล่นดีในบางเกม แต่ก็อาจจะเล่นได้ไม่ดีในบางเกม
  • เกมรับยังไม่นิ่ง: แนวรับยังต้องปรับจูนกันอีกหลายอย่าง

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

• จุดแข็ง:
  • การเสริมทัพ: ฟอเรสต์ได้ผู้เล่นใหม่หลายรายเข้ามาเสริมทัพ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีม
  • ความกระหาย: เป็นทีมที่เต็มไปด้วยความกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีก
• จุดอ่อน:
  • ความเข้าขากัน: ผู้เล่นใหม่ยังต้องใช้เวลาในการปรับตัวและสร้างความเข้าขากันกับเพื่อนร่วมทีม
  • ประสบการณ์: บางส่วนของทีมยังขาดประสบการณ์ในการเล่นในพรีเมียร์ลีก

ปัจจัยที่น่าสนใจ

• การปรับตัวของฟอเรสต์: ฟอเรสต์จะสามารถปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นใหม่ได้เร็วแค่ไหน
• ความแข็งแกร่งของแนวรับเซาแธมป์ตัน: เซาแธมป์ตันจะสามารถรับมือกับเกมรุกของฟอเรสต์ได้หรือไม่
• ความฟิตของนักเตะ: ความฟิตของนักเตะทั้งสองทีมจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลการแข่งขัน โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูกาลที่นักเตะยังไม่ฟิตเต็มร้อย

คาดการนักเตะตัวจริงของทั้ง2ทีม

เซาแธมป์ตัน: อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ย์(GK)- แจ็ค สตีเฟนส์/ ยาน เบดนาเร็ก/ เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส/ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส/ ยูกินาริ ซูกาวาระ/ ฟลินน์ ดาวนส์/ วิล สมอลโบน/ โจ อารีโบ/ เบรเรตัน ดิอาซ/ อดัม อาร์มสตรอง

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์: มัทซ์ เซลส์(GK)- เนโก้ วิลเลียมส์/ วิลลี่ โบลีย์/ มูริลโล/ แฮร์รี่ ทอฟโฟโล/ อิบราอิม ซ็องกาเร่/ ไรอัน เยตส์/ มอร์แกน กิบส์-ไวต์/ เอลเลียต แอนเดอร์สัน/ แอนโธนี่ย์ อีแลงก้า/ คริส วู้ด

วิเคราะห์และคาดการณ์

เกมนี้คาดว่าจะเป็นเกมที่สูสีและสนุกสนาน ทั้งสองทีมต่างมีโอกาสที่จะคว้าชัยชนะไปได้ เซาแธมป์ตันอาจจะได้เปรียบในการได้เล่นในบ้าน แต่ฟอเรสต์ก็มีความกระหายชัยชนะอยู่เหมือนกันคิดว่าถ้าให้เลือกผู้ชนะขอเลือกไปที่ทีมเยือน

คาดการผลสกอ: เซาแธมป์ตัน VS น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-1 1-2