Home Blog Page 117

จู๊ด เบลลิงแฮม: ดาวรุ่งพุ่งแรง สู่ตำนานกองกลางระดับโลก

0

จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวอังกฤษ กำลังสร้างปรากฏการณ์บนเวทีฟุตบอลโลก

ด้วยผลงานอันเฉียบคม

พาทีมชาติอังกฤษทะยานสู่รอบชิงชนะเลิศ

พร้อมคว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์

เบลลิงแฮม เกิดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 2003

เริ่มต้นอาชีพกับเบอร์มิงแฮม ซิตี้

ก่อนแจ้งเกิดเต็มตัวกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

และปัจจุบันค้าแข้งกับเรอัล มาดริด

สถิติอันน่าทึ่ง:

  • ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 20 นัด ยิง 3 ประตู 4 แอสซิสต์
  • ช่วยทีมชาติอังกฤษคว้ารองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024
  • คว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2024
  • คว้ารางวัลโกลเดนบอย 2023
  • คว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของบุนเดสลีกา 2 สมัย (2020/21, 2021/22)
  • คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ 2020

สไตล์การเล่น:

  • เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวกลางและตัวรุก
  • เทคนิคการเลี้ยงบอลเหนือชั้น
  • จ่ายบอลแม่นยำ ตัดเกมเฉียบคม
  • ยิงประตูได้ดี
  • มีวิสัยทัศน์กว้างไกล

เบลลิงแฮม เปรียบเสมือนเพชรน้ำงาม

ที่เปล่งประกายบนเวทีฟุตบอล

ด้วยพรสวรรค์ ความมุ่งมั่น

และความทุ่มเท

เขาถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลก

และ

มีอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน

แฟนบอลทั่วโลกต่างจับตาดู

ว่าดาวรุ่งพุ่งแรงคนนี้

จะสร้างตำนานบทใหม่บนถนนลูกหนังได้อย่างไร

สถิติของ โรนัลด์ คูมัน ในฐานะผู้จัดการทีมชาติเนเธอร์แลนด์

0

รวม

  • ลงคุมทีม 20 นัด
  • ชนะ 13 เสมอ 4 แพ้ 3
  • ทำประตูได้ 45 เสีย 17
  • อัตราชนะ 65%

รายการใหญ่

  • ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก 2020–21: อันดับ 2 รอบชิงชนะเลิศ
  • ฟุตบอลโลก 2022: รอบ 16 ทีมสุดท้าย
  • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024: กำลังแข่งขัน (รอบรองชนะเลิศ)

สถิติอื่นๆ

  • เป็นผู้จัดการทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่พาทีมชนะมากเป็นอันดับ 3 (รองจาก ลุยส์ ฟาน กัล และ ดิก อัดโวคาต)
  • เป็นผู้จัดการทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่มีอัตราชนะสูงเป็นอันดับ 2 (รองจาก รินุส มิเชลส์)

รางวัล

  • รางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมฟุตบอลเนเธอร์แลนด์: 1 สมัย (2021)

สถิติของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ในฐานะผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ

0

รวม

  • ลงคุมทีม 80 นัด
  • ชนะ 49 เสมอ 17 แพ้ 14
  • ทำประตูได้ 174 เสีย 68
  • อัตราชนะ 61.25%

รายการใหญ่

  • ฟุตบอลโลก 2018: เข้ารอบรองชนะเลิศ
  • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020: รองแชมป์
  • ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก 2018–19: อันดับ 4 รอบรองชนะเลิศ
  • ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก 2020–21: อันดับ 3 รอบชิงชนะเลิศ

สถิติอื่นๆ

  • เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่คุมทีมนานเป็นอันดับ 3 (รองจาก เวน เกอร์เบิร์ต และ อัลฟ์ แรมซีย์)
  • เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่พาทีมชนะมากเป็นอันดับ 2 (รองจาก เวน เกอร์เบิร์ต)
  • เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่มีอัตราชนะสูงเป็นอันดับ 2 (รองจาก เวน เกอร์เบิร์ต)

รางวัล

  • รางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอลอังกฤษ: 2 สมัย (2018, 2021)

วิเคราะห์ 11 ตัวจริง ฟุตบอลยูโร 2024: เนเธอร์แลนด์ vs อังกฤษ (10 กรกฎาคม 2567)

0

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ภายใต้การคุมทีมของ โรนัลด์ คูมันด์ เกมรุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเตะอย่าง โคดี้ กัคโป กองหน้าตัวเก่งที่ฟอร์มดี นำเป็นดาวซัลโวอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่ค่อยช่วยสนับสนุนทีมงานชาบี ซิม่อน, เมลฟิส  เดปาย, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เป็นต้น สภาพความพร้อมของนักเตะในทีมพวกเขาจะไร้ผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนในเกมนี้คาดว่าจะใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากนัดที่ผ่านมา

รายชื่อ 11 ผู้เล้นตัวจริงที่คาดของทีมชาติเนเธอร์แลนด์

ผู้รักษาประตู : บาร์ท แฟร์บรู๊กเก้น

กองหลัง : เดนเซล ดุมฟรีส์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, สเตฟาน เดอ ไฟรจ์, นาธาน อาเก้

กองกลาง : เยอร์ดี เชาเทน, ทิยานี่ ไรจ์นเดอร์ส, ดอนเยลล์ มาเลน, ชาบี ซิมมอนส์, โคดี้ กักโป

กองหน้า : เมมฟิส เดปาย



ทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่ผ่านเข้ารอบมาแบบหืดจับทั้ง 2 เกมในรอบน็อคเอาท์คาดว่าอังกฤษน่าจะใช้แผนเดิมจากนัดก่อนในระบบหลัง 3 และใช้ชอว์กับซาก้าเล่นเป็นวิงแบ็คส่วนที่เหลือคาดว่าจะเป็นผู้เล่นชุดเดิมทั้งหมด

รายชื่อ 11 ตัวจริงที่คาดของทีมชาติอังกฤษ

ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด

ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, มาร์ค เกฮี

กองกลาง : ลุค ชอว์, ดีแคลน ไรซ์, ค็อบบี้ ไมนู, บูกาโย ซาก้า

กองหน้า : จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเด้น, แฮร์รี เคน

คาดการณ์ผล บอลยูโร อังกฤษ vs เนเธอร์แลนด์: 10 กรกฎาคม 2567

0

การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ คู่ระหว่าง อังกฤษ พบ เนเธอร์แลนด์ จะมีขึ้นในคืนวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 02:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ สนามเวสท์ฟาเลินชตาดิโอน เมืองดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมนี

สถิติการพบกัน:

  • ทั้งสองทีมเคยพบกันมาแล้ว 22 นัด
  • อังกฤษ ชนะ 7 เสมอ 4 แพ้ 11
  • อังกฤษ ชนะเพียง 1 จาก 9 นัดล่าสุด

วิเคราะห์:

  • อังกฤษ:
    • ทีมแข็งแกร่ง มีผู้เล่นที่ครบเครื่อง
    • เกมรุกเฉียบคม
    • เกมรับแน่นหนา
    • จุดแข็งอยู่ที่ลูกกลางอากาศ
    • จุดอ่อนอยู่ที่เกมรับริมเส้น
  • เนเธอร์แลนด์:
    • ทีมที่เล่นได้อย่างสวยงาม
    • เกมรุกหลากหลาย
    • เน้นการครองบอล
    • จุดแข็งอยู่ที่การเล่นบอลสั้น
    • จุดอ่อนอยู่ที่เกมรับลูกกลางอากาศ

คาดการณ์ผล:

  • เกมนี้สูสี
  • สกอร์: อังกฤษ 1 – 1 เนเธอร์แลนด์

เควิน เดอ บรอยน์: จอมทัพแห่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้

0

เกฟิน เดอ บรอยน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ เควิน เดอ บรอยน์ เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1991 ในเมืองดรอนเกน ประเทศเบลเยียม

ปัจจุบัน เขาเล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตำแหน่งกองกลางตัวรุก และ ทีมชาติเบลเยียม

เดอ บรอยน์ ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุดในโลก

ด้วยทักษะการเลี้ยงบอลที่เหนือชั้น การส่งบอลที่แม่นยำ และวิสัยทัศน์ในการเล่นที่เฉียบคม

เขามีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของทั้งสโมสรและทีมชาติ

ประวัติ:

  • เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสร KVV Drongen ในบ้านเกิด
  • ย้ายไปเล่นให้กับ เกนต์ ในปี 2005 และคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของลีกเบลเยียมในปี 2011
  • สร้างชื่อเสียงโด่งดังกับ โวล์ฟสบวร์ก ในบุนเดสลีกา เยอรมัน
  • ย้ายไปร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2015 ด้วยค่าตัวมหาศาล
  • กลายเป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งของทีม
  • พาทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, แชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย และแชมป์อีเอฟแอลคัพ 6 สมัย
  • เป็นกำลังสำคัญของ ทีมชาติเบลเยียม
  • พาทีมคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 และคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโร 2020

สถิติ:

  • ลงเล่นให้กับสโมสรทั้งหมด 543 นัด ยิง 148 ประตู
  • ลงเล่นให้กับทีมชาติเบลเยียม 98 นัด ยิง 45 ประตู

รางวัลส่วนตัว:

  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก: 2 สมัย (2019/20, 2021/22)
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของยูฟ่า: 1 สมัย (2020/21)
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของแมนเชสเตอร์ ซิตี้: 4 สมัย (2015/16, 2017/18, 2019/20, 2021/22)
  • รางวัลรองเท้าทองคำยูโร: 1 สมัย (2020)
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของเอทิฮัด: 4 สมัย (2015/16)

  • เควิน เดอ บรอยน์ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จ
  • ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และพรสวรรค์
  • เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จได้
  • หากมีความตั้งใจจริง

ลูกา มอดริช: ยอดกองกลางผู้พาโครเอเชียสู่จุดสูงสุด

0

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องราวของ ลูกา มอดริช ยอดกองกลางผู้พาโครเอเชียคว้าแชมป์และรางวัลมากมาย

มอดริช เกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1985 ในหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ Modrići ประเทศโครเอเชีย

ชีวิตวัยเด็กของเขาไม่ง่ายนัก เพราะต้องเผชิญกับสงคราม แต่ฟุตบอลคือสิ่งที่มอดริชรัก

เขามีพรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็ก

และเริ่มเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังกับสโมสร Dinamo Zagreb

มอดริชโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม

พาทีม Dinamo Zagreb คว้าแชมป์ลีกโครเอเชียหลายสมัย

ฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของเขาไปเตะตาสโมสรท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

และย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกในปี 2008

ที่ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ มอดริชกลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุด

เขาสร้างสรรค์เกมได้อย่างยอดเยี่ยม

ยิงประตูได้สวยๆ หลายลูก

และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร

ในปี 2012 มอดริชย้ายไปเล่นให้กับเรอัลมาดริด

สโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

และกลายเป็นตำนานของสโมสรแห่งนี้

เขาพาทีมเรอัลมาดริดคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 5 สมัย

แชมป์ลาลีกา 3 สมัย

และแชมป์สโมสรโลกอีก 4 สมัย

มอดริชยังเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติโครเอเชีย

เขาพาทีมชาติโครเอเชียคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018

และคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขา

ทำให้เขาคว้ารางวัลบัลลงดอร์ในปี 2018

และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่าในปีเดียวกัน

ลูกา มอดริช ถือเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก

เขาเป็นแรงบันดาลใจให้นักฟุตบอลรุ่นเยาว์ทั่วโลก

ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และพรสวรรค์

มอดริชพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จ

ได้แม้จะมาจากครอบครัวที่ยากจน

นี่คือเรื่องราวของ ลูกา มอดริช ยอดกองกลางผู้พาโครเอเชียสู่จุดสูงสุด

แกเร็ธ เบล: ดาวเตะผู้ว่องไวและทรงพลัง

0

แกเร็ธ แฟรงค์ เบล เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1989 ในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์

เขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรเซาท์แฮมป์ตัน

ก่อนที่จะย้ายไปท็อตแนมฮ็อตสเปอร์ในปี 2007

ในช่วงเวลาที่อยู่กับสเปอร์ส เบลกลายเป็นหนึ่งในปีกที่เก่งที่สุดในโลก

ด้วยความเร็ว สปีด และทักษะการยิงประตูที่เฉียบคม

เขาทำประตูให้สเปอร์สไป 168 ประตู

และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักเตะอาชีพอังกฤษ (PFA) 2 สมัย

ในปี 2013 เบลย้ายไปเรอัลมาดริดด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร

ซึ่งเป็นสถิติโลกสำหรับค่าตัวนักฟุตบอลในเวลานั้น

เขาประสบความสำเร็จอย่างมากกับเรอัลมาดริด

คว้าแชมป์ลาลีกา 3 สมัย

แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 5 สมัย

และแชมป์สโมสรโลก 4 สมัย

เขายังทำประตูให้เรอัลมาดริดไป 106 ประตู

เบลเล่นให้กับทีมชาติเวลส์มาตั้งแต่ปี 2006

เขาลงเล่นให้กับทีมชาติไปมากกว่า 100 นัด

และยิงประตูไป 40 ประตู

เขาพาทีมชาติเวลส์คว้าแชมป์ยูโร 2016

ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทีมชาติเวลส์

เบลประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 2023

หลังจากประสบปัญหาอาการบาดเจ็บและฟอร์มการเล่นที่ตกลง

เขาถือเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในยุคของเขา

และเป็นตำนานของทั้งสโมสรท็อตแนมฮ็อตสเปอร์และเรอัลมาดริด

สถิติและรางวัลส่วนตัว:

  • สโมสร:
    • แชมป์ลาลีกา: 3 สมัย (เรอัลมาดริด)
    • แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 5 สมัย (เรอัลมาดริด)
    • แชมป์สโมสรโลก: 4 สมัย (เรอัลมาดริด)
    • แชมป์เอฟเอคัพ: 1 สมัย (ท็อตแนมฮ็อตสเปอร์)
    • แชมป์ลีกคัพ: 1 สมัย (ท็อตแนมฮ็อตสเปอร์)
  • ส่วนตัว:
    • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักเตะอาชีพอังกฤษ (PFA): 2 สมัย (2010/11, 2012/13)
    • รางวัลผู้เล่นแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล (FWA): 1 สมัย (2012/13)
    • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก: 1 สมัย (2012/13)
    • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสร ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์: 1 สมัย (2012/13)
    • รางวัลรองเท้าทองคำยุโรป: 1 สมัย (2012/13)
    • รางวัลบัลลงดอร์ดอเนอร์: 1 สมัย (2013)

ประวัติ ชนาธิป สรงกระสินธ์

0

ชื่อเต็ม: ชนาธิป สรงกระสินธ์ ชื่อเล่น: เจ วันเกิด: 5 ตุลาคม 2536 อายุ: 29 ปี (ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2567) ตำแหน่ง: กองกลางตัวรุก สโมสรปัจจุบัน: บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ประวัติ:

  • เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 4 ขวบ
  • เล่นฟุตบอลให้กับโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร และ โรงเรียนเพ็ญสมิทธิ์
  • เซ็นสัญญากับ บีอีซี เทโรศาสน (ปัจจุบันคือ โปลิศ เทโร) ในปี 2555
  • ย้ายไปเล่นให้กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ในปี 2561
  • กลับมาเล่นให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในปี 2564

สถิติ:

  • ลงเล่นให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่ 83 นัด ยิง 17 ประตู
  • ลงเล่นให้กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร 123 นัด ยิง 15 ประตู
  • ลงเล่นให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 50 นัด ยิง 12 ประตู

รางวัลส่วนตัว:

  • นักเตะยอดเยี่ยม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014, 2016
  • ผู้เล่นทรงคุณค่า สโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร ฤดูกาล 2018
  • ติดทีมยอดเยี่ยมเจลีก ฤดูกาล 2018
  • รางวัลนักกีฬาดีเด่นแห่งชาติ ประเภททีมชาย ปี 2562
  • รางวัลช้างทอง ประเภทนักกีฬาดีเด่นชายยอดเยี่ยม ปี 2562

ความสำเร็จ:

  • พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014, 2016
  • พาทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ 2013
  • พาทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ 2015
  • รองแชมป์ เอเชียนคัพ 2019

เจ ชนาธิป ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของไทย ด้วยทักษะการเลี้ยงบอล การจ่ายบอล และการยิงประตูที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นไอดอลของแฟนบอลไทยจำนวนมาก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลรุ่นเยาว์หลายคน

สเปน พลิกชนะ ฝรั่งเศส 2-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ยูโร 2024!

0
Soccer Football - Euro 2024 - Semi Final - Spain v France - Munich Football Arena, Munich, Germany - July 9, 2024 Spain's Lamine Yamal in action with France's William Saliba and Eduardo Camavinga REUTERS/Leonhard Simon

ทัพกระทิงดุ สเปน ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง แซงเอาชนะ ฝรั่งเศส 2-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศศึกยูโร ไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 4

ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง สเปน พบกับ ฝรั่งเศส ที่มิวนิค ฟุตบอล อารีน่า คืนวันที่ 9 กรกฎาคม 2567

หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ กุนซือสเปน จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น ลามีน ยามาล, อัลบาโร โมราต้า และ นิโก้ วิลเลียมส์

ด้านฝรั่งเศสของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เลือกใช้แผน 4-3-3 ดร็อป อ็องตวน กรีซมันน์ แล้วใช้สามแนวรุกเป็น อุสมาน เดมเบเล, ร็องดาล โคโล มูอานี และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้



สรุปเหตุการณ์สำคัญ:

  • 🇪🇸⚽️ 8′: ฝรั่งเศส ขึ้นนำ 1-0 จากลูกโหม่งของ ร็องดาล กอโล มัวนี
  • 🇫🇷⚽️ 21′: สเปน ตีเสมอ 1-1 จากลูกปั่นสุดสวยของ ลามีน ยามัล
  • 🇪🇸⚽️ 25′: สเปน ยิงประตูชัย 2-1 จากลูกยิงของ ดานิ โอลโม

โดยรวมแล้ว สเปน เล่นได้ดีกว่าและสมควรเป็นผู้ชนะ คว้าตั๋วเข้าชิงชนะเลิศ ยูโร 2024 ไปรอเจอกับผู้ชนะระหว่าง อังกฤษ กับ เนเธอร์แลนด์!

ห้ามพลาด!