Home Blog Page 12

ปาร์ค จี-ซอง ตำนานแดนกิมจิ ผู้สร้างแรงบันดาลใจในพรีเมียร์ลีก

0

ปาร์ค จี-ซอง อดีตมิดฟิลด์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงถูกยกย่องในฐานะหนึ่งในนักฟุตบอลชาวเอเชียที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลโลก แม้เขาจะเลิกเล่นอาชีพไปแล้วหลายปี แต่แรงกระเพื่อมที่เขาสร้างขึ้นยังคงมีอิทธิพลอย่างมากทั้งในเกาหลีใต้และบนเวทีฟุตบอลระดับโลก

ปาร์ค จี ซอง เข้าร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2005 และกลายเป็นส่วนสำคัญของทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลภายใต้การนำของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ความมุ่งมั่นและพลังการเล่นของเขา ทำให้ได้รับฉายาว่า “Three-Lung Park” หรือ “ปาร์คสามปอด” ด้วยความสามารถในการวิ่งไม่มีหมด ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้เขาได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอล

การที่ปาร์คสามารถปรับตัวและประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีก ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ของนักเตะชาวเอเชียในเวทีโลก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้เล่นรุ่นใหม่มากมาย โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ที่เริ่มเห็นนักเตะดาวรุ่งก้าวเข้าสู่สโมสรระดับโลกอย่างมากขึ้น การสร้างเส้นทางให้นักเตะเอเชียกล้าที่จะฝันใหญ่และเดินตามรอยเท้าของเขายังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญสำหรับวงการฟุตบอลในภูมิภาค

นอกจากนี้ ปาร์ค จี ซองยังมีบทบาทหลังแขวนสตั๊ด เขาได้ทำงานส่งเสริมกิจกรรมการกุศลและยังมีบทบาทในการพัฒนาวงการฟุตบอลผ่านโครงการต่างๆ ในเกาหลีใต้ เขายังคงใช้ชื่อเสียงและประสบการณ์ที่สั่งสมมาเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและวงการกีฬาอย่างต่อเนื่อง

จากความทรงจำในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด จนถึงการทำงานเพื่อสังคม ปาร์ค จี-ซอง ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ใช่แค่ยอดนักฟุตบอล แต่ยังเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจที่แท้จริงแก่คนทั่วโลก.

สรุปผลพรีเมียร์ลีก: ทีมใหญ่ประจำสัปดาห์

0

พลิกล็อกและดราม่าช่วงท้ายเกม: นิวคาสเซิลทำเซอร์ไพรส์อาร์เซนอล, แมนฯ ยูไนเต็ด และเชลซี เสมอกัน

สรุปผลการแข่งขันที่สำคัญ:

  • นิวคาสเซิล 1-0 อาร์เซนอล: นิวคาสเซิลสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะอาร์เซนอลได้สำเร็จจากเกมรับที่เหนียวแน่นและประตูสำคัญ การชนะครั้งนี้ช่วยให้นิวคาสเซิลมีลุ้นจบท็อปซิกซ์ได้อย่างน่าประทับใจ ขณะที่อาร์เซนอลพลาดโอกาสในการไล่จ่าฝูงไป
  • บอร์นมัธ 2-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้: บอร์นมัธสร้างความประหลาดใจอีกครั้งด้วยการเอาชนะแมนฯ ซิตี้คาบ้าน แม้ซิตี้จะครองบอลได้มากกว่า แต่ความเฉียบคมและการจัดการเกมรับของบอร์นมัธก็เพียงพอให้พวกเขาคว้าชัยชนะและทำให้ซิตี้พลาดโอกาสในการขึ้นนำ
  • ลิเวอร์พูล 2-1 ไบรท์ตัน: ลิเวอร์พูลยังคงฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง ด้วยการเฉือนชนะไบรท์ตันหลังจากที่โดนนำในช่วงครึ่งแรก การโจมตีไม่หยุดหย่อนของลิเวอร์พูล โดยเฉพาะการทำประตูของดาร์วิน นูนเญซที่ช่วยพลิกสถานการณ์ ทำให้ลิเวอร์พูลยังคงเป็นจ่าฝูงต่อไป
  • ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 4-1 แอสตัน วิลล่า: สเปอร์สโชว์ฟอร์มการโจมตีได้ยอดเยี่ยม โดยมีแนวรุกทำผลงานได้อย่างเฉียบขาด การชนะครั้งนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้สเปอร์ส หลังจากที่ผลงานก่อนหน้านี้ไม่แน่นอน
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เชลซี: ในแมตช์ที่ตึงเครียดทั้งสองทีมแบ่งแต้มกันไป โดยยูไนเต็ดทำประตูได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกม แต่เชลซีก็ไล่ตีเสมอได้สำเร็จ ทั้งสองทีมพลาดโอกาสในการคว้าชัยชนะ ซึ่งผลเสมอนี้ยังคงทำให้ทั้งสองทีมอยู่ในเส้นทางสู่การคว้าสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลยุโรป แต่ต้องการชัยชนะที่ต่อเนื่องเพื่อไต่อันดับขึ้นไป
  • น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-0 เวสต์แฮม: น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ยังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะเวสต์แฮมแบบขาดลอย 3-0 เสริมความแข็งแกร่งในอันดับท็อปโฟร์และเป็นหนึ่งในทีมที่ผลงานโดดเด่นในฤดูกาลนี้

ผลกระทบต่อตารางคะแนน

ลิเวอร์พูลยังคงนำจ่าฝูงหลังจากคว้าชัยชนะครั้งนี้และสร้างความกดดันให้แมนฯ ซิตี้ ขณะที่อาร์เซนอลและเชลซีต้องสะดุดจากผลเสมอและแพ้ นิวคาสเซิลและน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์สร้างความฮือฮาในการลุ้นอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรป โดยทั้งสองทีมได้แสดงศักยภาพและเป็นคู่แข่งสำคัญในครึ่งบนของตาราง

การตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายของ “การ์นาโช่”

0

ในแมตช์ล่าสุดที่ อาเลฆันโดร การ์นาโช ลงสนามพบกับเชลซี การ์นาโชได้ลงเล่นในฐานะริมเส้นฝั่งซ้าย

เขาได้ลงตัวหลักในการดวลกับเชลซี แต่แมตช์เมื่อคืนนี้เขายังขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์ หลายครั้งที่ได้โอกาสยิงประตูสำคัญ แต่พลาดเป้าไป ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับเชลซี 1-1 อย่างไรก็ตาม มีบางจังหวะที่การ์นาโชยังขาดความเด็ดขาดในการตัดสินใจสุดท้าย ซึ่งเป็นส่วนที่เขาอาจต้องพัฒนาเพื่อให้เกมของเขามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่จะยิงหรือส่งในจังหวะที่ถูกต้อง รวมถึงการตัดสินใจในการเลือกทำชิ่งหรือการเล่นบอลสั้นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมแฟนบอลเรียกร้องให้เขาปรับปรุงการตัดสินใจในสนาม และการเล่นที่นิ่งขึ้นเมื่อเผชิญกับแนวรับทีมใหญ่ ทั้งนี้ การ์นาโชยังต้องพัฒนาความสม่ำเสมอเพื่อยืนเป็นตัวจริงในทีมชุดหลักได้ในอนาคต​

ลิเวอร์พูล ก้าวขึ้นลุ้นแชมป์เต็มตัว

0

ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มแกร่งในการแข่งขันที่แอนฟิลด์ สร้างความฮึกเหิมให้แฟน ๆ และก้าวขึ้นลุ้นตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ความพ่ายแพ้ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอาร์เซนอลในสัปดาห์นี้ เปิดโอกาสให้ทีมของอาร์เน่ สล็อตขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงตัวจริง กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์ให้สัมภาษณ์ว่า “เราต้องรักษาความต่อเนื่องและทุ่มเทในทุกแมตช์ที่เหลือ” เกมรุกอันร้อนแรงและการประสานงานของผู้เล่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ลิเวอร์พูลกลับมามีลุ้นแชมป์อย่างเข้มข้นในฤดูกาลนี้.

ปลุกเสพผี คาดไลน์อัพ รูเบน อโมริม 3-4-3

0

รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุกีส เข้ามาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ และจะเริ่มงานวันจันทร์ที่ 11 พ.ย. ก่อนประเดิมคุมนัดแรกในเกมออกไปเยือน อิปสวิช ทาวน์ วันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ 

อโมริม ใช้ระบบ 3-4-3 กับการคุม สปอร์ติ้ง ลิสบอน และหากนำมาใช้กับ แมนยู โดยยังไม่คิดไปถึงการดึงนักเตะใหม่มาเสริมทัพคงมีหน้าตาดังนี้ 

ผู้รักษาประตู: อ็องเดร โอนาน่า

นายทวารทีมชาติแคเมอรูน จะยังได้ลงเฝ้าเสาตัวจริงต่อไปแน่นอน

กองหลัง : เลนี่ โยโร่, มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์, ลีซานโดร มาร์ตีเนซ

หาก เลนี่ โยโร่ หายเจ็บกลับมาฟิตสมบูรณ์ก็จะได้ลงเล่นตัวจริงในระบบกองหลังสามคนร่วมกับ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ และ ลีซานโดร มาร์ตีเนซ

กองกลาง : ดิโอโก้ ดาโลต์, มานูเอล อูการ์เต้, ค็อบบี้ เมนู, ลุค ชอว์

ดิโอโก้ ดาโลต์ จะทำหน้าที่วิงแบ็กฝั่งขวา ส่วนด้านซ้ายหาก ลุค ชอว์ หายเจ็บก็จะได้เป็นตัวจริง แต่ถ้ายังไม่หายก็จะเป็น นุสแซร์ มาซราวี หรือเจ้าหนู แฮร์รี่ อามาสส์ ขณะที่มิดฟิลด์คู่กลางเป็น มานูเอล อูการ์เต้ กับ ค็อบบี้ เมนู

กองหน้า: บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ราสมุส ฮอยลุนด์, อเลฮานโดร การ์นาโช่

บรูโน่ แฟร์นันด์ส คงต้องขยับไปยืนเป็นสามประสานแนวรุกทางฝั่งขวา ส่วนด้านซ้ายต้องแย่งชิงตำแหน่งกันระหว่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ขณะที่กองหน้าตัวเป้า ราสมุส ฮอยลุนด์ มีโอกาสมากกว่า โจชัว เซิร์กซี่

นอตทิงแฮม ฟอเรสต์ สร้างเซอร์ไพรส์! ทะยานสู่อันดับ 3

0

นอตทิงแฮม ฟอเรสต์ กำลังสร้างความฮือฮาในพรีเมียร์ลีก โดยขึ้นสู่อันดับ 3 หลังคว้าชัยชนะติดต่อกันสามนัด ล่าสุด พวกเขาเอาชนะเวสต์แฮม 3-0 โดย คริส วูด, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย และโอลา ไอนา ช่วยกันทำประตู นูโน่ เอสปิริโต ซานโต ผู้จัดการทีม กล่าวชมลูกทีมที่ทำงานหนัก และเน้นการเล่นเกมรับให้แข็งแกร่งเพื่อสร้างโอกาสในการรุก ชัยชนะนี้ทำให้แฟนๆ ที่รอคอยความสำเร็จปลื้มใจสุดๆ

นอตทิงแฮม ฟอเรสต์ ภายใต้การคุมทีมของ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต กำลังมีฤดูกาลที่น่าประทับใจ หลังจากเอาชนะคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเน้นการเล่นที่มีความสมดุลระหว่างเกมรับและเกมรุก โดยสร้างความมั่นคงในแนวหลังและต่อยอดด้วยการโจมตีที่เฉียบขาด ทั้งทีมได้แสดงความมุ่งมั่นในทุกเกม ทำให้พวกเขาทะยานขึ้นสู่อันดับ 3 อย่างไม่น่าเชื่อ นูโน่ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมแรงร่วมใจและการสนับสนุนจากแฟนๆ ที่รอคอยความสำเร็จมานาน

สุดช็อก! บอร์นมัธหยุดสถิติไร้พ่าย 32 นัดของ แมนฯ ซิตี้

0

ก่อนการแข่งขันนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือครองสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีกถึง 32 นัดรวด นอกจากนี้ ทุกครั้งที่พบกับบอร์นมัธในลีกสูงสุด ซิตี้ไม่เคยพลาดเก็บชัยชนะเลย ทั้งหมด 14 นัด ทำให้หลายคนมองว่าเกมนี้ไม่น่ามีปัญหาสำหรับทีมแชมป์เก่า

แต่กลับเกิดสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้น เมื่อบอร์นมัธพลิกความคาดหมายและสามารถหยุดสถิติไร้พ่ายของซิตี้ลงได้สำเร็จ ไม่เพียงแต่พวกเขาได้กลายเป็นทีมแรกที่เอาชนะซิตี้ได้ในรอบ 32 นัดของลีก แต่ยังสามารถลบสถิติที่พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับซิตี้มาตลอด 14 นัดติดต่อกันอีกด้วย ผลลัพธ์นี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของบอร์นมัธในการยกระดับทีมและแสดงศักยภาพในลีกสูงสุด

วิเคราะห์ก่อนเกม: แมนฯ ยูไนเต็ด vs เชลซี

0

วันนี้ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 พรีเมียร์ลีกอังกฤษแมตช์สุดเดือดระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด โดยการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทั้งสองทีมที่กำลังหาทางปรับทิศทางใหม่หลังจากฟอร์มไม่คงเส้นคงวาในฤดูกาลนี้

บทวิเคราะห์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมพบกับ เชลซี ในศึกพรีเมียร์ลีกคืนนี้ โดยมี รุด ฟาน นิสเตลรอย เป็นกุนซือชั่วคราวหลังจากการปลด เอริก เทน ฮาก โดยคาดว่า ฟาน นิสเตลรอย จะใช้ผู้เล่นหลักที่สร้างผลงานชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 5-2 ในคาราบาวคัพเมื่อกลางสัปดาห์ ซึ่งชัยชนะครั้งนั้นช่วยเรียกความมั่นใจกลับมาสู่ทีมที่อยู่ในอันดับ 14 ของตารางอย่างมาก​​

เชลซี ที่คุมทีมโดย เอนโซ มาเรสก้า แสดงให้เห็นความสามารถในการโจมตีเร็วและกดดันสูง ตัวหลักอย่าง โคล พาลเมอร์ ที่ทำไปแล้ว 7 ประตูและ 5 แอสซิสต์ จะเป็นอาวุธเด็ดในเกมรุก เชลซีหวังที่จะคว้าชัยเพื่อรักษาตำแหน่งในท็อปโฟร์ ขณะที่ยูไนเต็ดเองหวังสร้างผลงานพลิกสถานการณ์เพื่อลดช่องว่างระหว่างสองทีม

สำหรับเกมนี้ ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ต่างอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านและมีความไม่แน่นอนในฟอร์ม แต่ความได้เปรียบของยูไนเต็ดในการเล่นที่โอลด์แทรฟฟอร์ด รวมถึงพลังของ “New Manager Bounce” จากการเปลี่ยนโค้ชเป็น รุด ฟาน นิสเตลรอย อาจช่วยให้พวกเขาแสดงศักยภาพมากขึ้นในเกมนี้ อย่างไรก็ตาม เชลซี มีเกมโต้กลับที่อันตราย และแนวรุกที่นำโดย พาลเมอร์ และ แจ็คสัน มีความเฉียบคมและพร้อมท้าทายแนวรับยูไนเต็ด

คาดการณ์สกอร์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-2 เชลซี

วิเคราะห์ก่อนเกม สเปอร์ส vs แอสตัน วิลล่า

0

การพบกันในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 2024 ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ แอสตัน วิลล่า ถือเป็นแมตช์ที่น่าสนใจของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ด้วยผลงานที่โดดเด่นของทั้งสองทีมในช่วงต้นฤดูกาล ฝ่ายของ อังเก้ ปอสเตโคกลู (Tottenham Hotspur) และ อูไน เอเมรี (Aston Villa) ต่างมีแนวรุกที่แข็งแกร่งและใช้แผนเกมรุกที่แตกต่างอย่างชัดเจน

ฟอร์มการเล่นและความพร้อมของทีม

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

เปิดฤดูกาลนี้ได้อย่างน่าประทับใจจากการทำเกมบุกและการครองเกมของพวกเขา แต่ต้องระมัดระวังในเรื่องเกมรับ ซึ่งในบางครั้งแสดงถึงความอ่อนแอ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของเกม ล่าสุด พวกเขามีการใช้ มิกกี้ ฟาน เดอ เวน (Micky van de Ven) ในการยืนแบ็คไลน์คุมแดนหลัง อย่างไรก็ตาม เขามีปัญหาบาดเจ็บบางส่วนที่อาจจะกระทบต่อการลงสนามในเกมนี้

แอสตัน วิลล่า

ทีมของ อูไน เอเมรี มาพร้อมฟอร์มที่ดีมาก โดยเฉพาะการทำประตูที่ไม่ยอมแพ้ให้กับทีมอื่นง่าย ๆ ผู้เล่นอย่าง โอลลี่ วัตกินส์ (Ollie Watkins) มีความสามารถในการใช้โอกาสทำประตูได้ดี โดยเฉพาะกับการยิงประตูในจังหวะสวนกลับและความคล่องตัวของแดนกลางที่เล่นเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการทำประตูที่สำคัญของทีมนี้

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

แม้ทั้งสองทีมมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่ก็อาจเป็นเกมที่สูสีด้วยการทำเกมรุกที่ดุดันและการสร้างสรรค์เกมของผู้จัดการทั้งสองฝ่าย ความได้เปรียบเล็กน้อยอาจตกเป็นของท็อตแน่มในฐานะทีมเหย้า อย่างไรก็ตาม หากวิลล่าสามารถโจมตีได้ดีจากการสวนกลับ ก็มีโอกาสสูงที่จะจบลงด้วยการแบ่งแต้ม

สกอร์ที่เป็นไปได้อาจอยู่ที่ 2-2

รูเบน อาโมริม: ความท้าทายใหม่ที่ไม่ใช่เพราะเงิน

0

เมื่อข่าวใหญ่เรื่องการเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของรูเบน อาโมริม แฟนฟุตบอลและสื่อหลายสำนักต่างจับตามองเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยหนึ่งในประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างมากคือเรื่องเงินเดือนมหาศาลที่อาโมริมอาจได้รับจากหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ อย่างไรก็ตาม กุนซือหนุ่มชาวโปรตุเกสได้ออกมาชี้แจงชัดเจนถึงเหตุผลที่แท้จริงที่เขาเลือกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่เพราะค่าตอบแทน แต่เพราะความฝันและความหลงใหลในสโมสรแห่งนี้

การเลือกที่ท้าทายเหนือเงิน
รูเบน อาโมริม กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “บางคนบอกว่าผมเข้าร่วมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อเงิน แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเลย” เขาเปิดเผยว่าสโมสรอื่นยื่นข้อเสนอให้ค่าตอบแทนสูงกว่าสามเท่า แต่เขาปฏิเสธ เพราะสิ่งที่เขามองหาคือความท้าทายที่แท้จริงกับสโมสรในฝัน ไม่ใช่ผลประโยชน์ทางการเงินเท่านั้น

ปรัชญาการทำทีมของอาโมริม
การเข้ามาของอาโมริมไม่เพียงเป็นการเปลี่ยนแปลงในแง่ของแท็คติกเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมการทำทีมแบบโปรตุเกสที่เขานำมาปรับใช้ในพรีเมียร์ลีก อาโมริมขึ้นชื่อในเรื่องของการทำทีมให้เล่นด้วยจิตวิญญาณ การเน้นการกดดันคู่ต่อสู้ตั้งแต่แดนบน และการพัฒนาผู้เล่นดาวรุ่งให้สามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทในทีมชุดใหญ่

อนาคตของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของอาโมริม
แฟนบอลยูไนเต็ดต่างหวังว่าการมาถึงของกุนซือหนุ่มที่เคยนำสปอร์ติง ลิสบอน ประสบความสำเร็จในโปรตุเกสจะสามารถเปลี่ยนโฉมหน้าทีมได้ เขาจะต้องเจอความกดดันมหาศาลจากการคาดหวังของแฟนๆ แต่ความทะเยอทะยานและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของเขาอาจช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์ได้อีกครั้ง

การเลือกเส้นทางชีวิตของรูเบน อาโมริม บอกอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับตัวเขา: คนที่หลงใหลในเกมฟุตบอลมากกว่าความร่ำรวย การรับตำแหน่งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นบทพิสูจน์ถึงความสามารถของเขา แต่ยังเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับสโมสรที่เขารัก

ห้ามพลาด!