Home Blog Page 120

โกปา อเมริกา รอบ 8 ทีมสุดท้าย เวเนซุเอลา – แคนาดา

0
copa america 2024

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

เวเนซุเอลา (4-2-3-1) : ราฟาเอล โรโม่ – จอน อารัมบูรู, นาอวล แฟร์ราเรซี่, ยอร์ดาน โอโซริโอ, มิเกล นาวาร์โร่ – โฮเซ่ อันเดรส มาร์ตีเนซ, ยานเคล เอร์เรร่า – เอ็ดวาร์ด เบโย่, คริสเตียน กาสเซเรส, เยเฟอร์สัน โซเตลโด้ – ซาโลมอน รอนดอน

แคนาดา (4-2-3-1) : มักซีม เครโป้ – อลิสแตร์ จอห์นสตัน, โมอีส บอมบิโต้, ดีเร็ค คอร์เนเลียส, อัลฟอนโซ่ เดวิส – อิสมาแอล โกเน่, สตีเฟ่น ยูสตากีโอ – ริชี่ ลาร์เยีย, โจนาธาน เดวิด, อาลี อาเหม็ด – ไคล์ ลาริน

สนาม : เอที แอนด์ที สเตเดี้ยม

เวเนซุเอลา – เฟร์นานโด บาติสต้า นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์หมดสิทธิ์ใช้งาน ดาร์วิน มาชีส ปีกตัวเก่งสะสมใบเหลืองครบโควตาพักแข้ง คาดว่า เยเฟอร์สัน โซเตลโด้ จะได้เสียบแทนคอยช่วยงาน เอ็ดวาร์ด เบโย่, คริสเตียน กาสเซเรส สนับสนุนหน้าเป้าจอมเก๋า ซาโลมอน รอนดอน ขณะที่ นาอวล แฟร์ราเรซี่ และ มิเกล นาวาร์โร่ พร้อมคืนแนวรับหลังได้พักเกมส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มเพื่อเลี่ยงโดนเหลืองติดโทษแบนนัดนี้

แคนาดา – เจสซี่ มาร์ช เฮดโค้ชเลือดมะกันจะไม่มี ทายอน บัคคาแน่น จอมบุกกราบขวาสังกัด อินเตอร์ มิลาน ที่โชคร้ายกระดูกหน้าแข้งหักตอนซ้อมส่อแววพักยาวราวครึ่งปีเลยทีเดียว แต่ในราย อิสมาแอล โกเน่ แข้งใหม่สดๆ ร้อนๆ ของ มาร์กเซย พร้อมคัมแบ็กแดนกลางคู่ สตีเฟ่น ยูสตากีโอ ในแนวรุกวาง อาลี อาเหม็ด ออกสตาร์ทประสานงาน ริชี่ ลาร์เยีย, โจนาธาน เดวิด ดาวยิงสูงสุดทีมชาติ และหน้าเป้า ไคล์ ลาริน

เวเนซุเอลา ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย โคปา อเมริกา 2024 ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม A หลังจากพ่ายแพ้ต่ออาร์เจนติน่าในเกมนัดสุดท้าย

แคนาดา สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าอันดับสองของกลุ่ม B

การวิเคราะห์:

เกมนี้ เวเนซุเอลา เป็นทีมที่ถูกมองว่ามีโอกาสชนะมากกว่า ด้วยประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่ และขุมกำลังนักเตะที่เหนือกว่า

แคนาดา แม้จะเป็นทีมที่เพิ่งเข้าร่วมโคปา อเมริกาเป็นครั้งแรก แต่พวกเขาก็โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ เล่นได้อย่างมีระบบ และมีนักเตะที่เล่นในสโมสรชั้นนำของยุโรปหลายคน

สกอร์ที่คาดการณ์:

  • เวเนซุเอลา 2 – 1 แคนาดา
  • เวเนซุเอลา 1 – 0 แคนาดา

โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส : ผลบอล 0-0 (จุดโทษ 3-5)

0

ทัพฝอยทอง ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต้องอกหัก ตกรอบจากศึกยูโร 2024 เมื่อ ชูเอา เฟลิกซ์ ยิงลูกโทษพลาดไปชนเสาในช่วงการดวลจุดโทษตัดสิน ทำให้กลายเป็น ทีมตราไก่ ที่ดวลเป้าเอาชนะไป 5-3 หลังจากที่ทั้ง 2 ทีม เสมอกันใน 120 นาที 0-0 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปพบกับ สเปน ต่อไป

ศึกฟุตบอล ยูโร 2024″ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สนาม โฟล์คสปาร์ค สตาดิโอน โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส

เกมในครึ่งเวลาแรก ทั้ง 2 ทีม ต่างก็มีโอกาสทำประตูกันไม่มากนัก ทำให้จบ 45 นาทีแรก สกอร์เสมอกันอยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลัง นาที 50 คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้โอกาสยิงจากหน้าเขตโทษ แต่ ดิโอโก้ คอสต้า ก็ยังป้องกันไว้ได้

นาที 61 โปรตุเกส ได้ลุ้นประตู 2 จังหวะซ้อน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตวัดยิงตามน้ำด้วยขวา ทว่าบอลไปติดเซฟของ ไมค์ เมญอง จากนั้น ชูเอา คันเซโล่ ตั้งป้อมปั่นด้วยซ้าย แต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกหลังไป

ถัดมา นาที 63 ราฟาเอล เลเอา ปาดบอลเข้ากลางให้ วิตินญ่า แปเน้นๆ ในเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว ไมค์ เมญอง ก่อนที่บอลจะไปเข้าทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ตอกส้นจากบริเวณหน้าปากประตู ทว่า เมญอง ก็ยังตามไปปิดมุมไว้ได้ทัน

นาที 66 แรนดัล โคโล มูอานี่ ได้จังหวะหลุดเข้าเขตโทษมาสับไกโล่งๆ ทว่า รูเบน ดิอาส พุ่งบล็อก ทำให้บอลแฉลบเปลี่ยนทางแล้วหลุดเสาไกลไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น

ต่อมา นาที 70 เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ได้ยิงจากระยะเผาขน แต่ ดิโอโก้ คอสต้า ออกไปปิดมุม จนทำให้ คามาวิงก้า ยิงหลุดเสาสองออกไปแบบน่าเสียดายสุดๆ

กระทั่ง หมดเวลา 90 นาที ทั้ง 2 ทีม ก็ยังคงทำอะไรกันไม่ได้ ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป ทว่าสุดท้ายก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก จึงต้องไปตัดสินด้วยการดวลจุดโทษชี้ขาด

โปรตุเกส VS ฝรั่งเศส 0-0 (จุดโทษ 3-5) : ตราไก่ ดวลเป้าดับ ฝอยทอง ลิ่วชน สเปน

โดยผลปรากฏว่า เป็น ทัพตราไก่ ที่สังหารแม่นยำกว่า เมื่อยิงเข้าประตูครบทั้ง 5 คน ในขณะที่ ชูเอา เฟลิกซ์ ของทีมฝอยทอง ยิงไปชนเสา ทำให้จบเกมการแข่งขัน เป็น ทีมชาติฝรั่งเศส ที่เอาชนะ ทีมชาติโปรตุเกส ในการดวลจุดโทษ 5-3 หลังเสมอกันใน 120 นาที 0-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ สเปน ในคืนวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 เวลา 02.00 น.

โปรตุเกส VS ฝรั่งเศส 0-0 (จุดโทษ 3-5) : ตราไก่ ดวลเป้าดับ ฝอยทอง ลิ่วชน สเปน

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

โปรตุเกส : ดิโอโก้ คอสต้า (GK), ชูเอา คันเซโล่, เปเป้, รูเบน ดิอาส, นูโน่ เมนเดส, วิตินญ่า, ชูเอา ปาลินญ่า, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ราฟาเอล เลเอา

ฝรั่งเศส : ไมค์ เมญอง (GK), ฌูลส์ คุนเด้, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, วิลเลียม ซาลิบา, เตโอ แอร์กน็องเดซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, แรนดัล โคโล มูอานี่, อ็องตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้





สเปนเฉือนชนะเยอรมนี 2-1 ดราม่าต่อเวลาพิเศษ!

0
euro2024

มิเกล เมริโน่ ตัวสำรองลงมาโหม่งประตูชัยช่วงต่อเวลาพิเศษให้ สเปน เฉือนชนะ เยอรมนี แบบหืดจับ 2-1 ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ ศึกยูโร 2024

เริ่มเกมเพียงแค่นาทีเดียว สเปนได้โอกาสทักทายก่อนจาก เปรดี้ ยิงด้วยซ้ายแต่ มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูเยอรมนี เซฟไว้ได้ 

นาที 8 สเปนมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลัง เปรดี้ ได้รับบาดเจ็บการจังหวะ โทนี่ โครส เข้าปะทะหนัก จนเล่นต่อไม่ได้ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ส่ง ดานี โอลโม ลงมาแทน

 นาที 21 เยอรมนี ได้ลุ้นจากจังหวะ อายเมอริก ลาปอร์ต วางบอลเขาเขตโทษ ไค ฮาแวร์ตซ์ ขึ้นโหม่งแต่ไม่ผ่านมือของ อูไน ซิม่อน นายทวารสเปน 

นาที 39 สเปน ได้ลุ้นจากจังหวะ ไค ฮาแวร์ตซ์ เสียบอลกลางสนาม ดานี่ โอลโม่ เก็บบอลได้แล้วยิงเต็มข้อ แต่ มานูเอล นอยเออ์ ยังเซฟเอาไว้ได้

จบครึ่งแรก สเปน เสมอ เยอรมนี 0-0 



นาที 46 สเปน มีโอกาสจาก ลามีน ยามาล จ่ายบอลให้ อัลบาโร่ โมราต้า หมุนหนึ่งรอบก่อนยิงด้วยขวาตรงปากประตูแต่บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย 

นาที 51 ลามีน ยามาล จ่ายบอลตัดเข้ากลางเขตโทษ ดานี่ โอลโม่ สอดขึ้นมาจากแถวสองยิงด้วยขวาบอลหนีมือ มานูเอล นอยเออร์ เข้าประตูไป สเปน ขึ้นนำ 1-0

นาที 70 เยอรมนี พลาดโอกาสได้ประตูตีเสมอจากจังหวะ นิคลาส ฟูลล์ครุก วางบอลให้ โรเบิร์ต อันดริช ยิงจากนอกเขตโทษ แต่ อูไน ซิม่อน พุ่งเซฟเอาไว้ 

นาที 77 ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ตัวสำรอง ลากบอลจากด้านขวาตัดเข้ากลางมาให้ นิคลาส ฟูลล์ครุก ยิงไปชนเสาแบบน่าเสียดาย ทำให้ เยอรมนี ยังไม่สามารถตามตีเสมอได้ 

นาที 89 เยอรมนี ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ โยชัว คิมมิช โหม่งย้อนเข้ามาให้ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ฮาลฟ์วอลเลย์ด้วยขวาเข้าประตูไปสวยงาม 

ครบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษเป็น และช่วงท้ายในนาที 119 ดานี่ โอลโม่ วางบอลเข้าเขตโทษให้ มิเกล เมริโน่ ตัวสำรอง กระโดดขึ้นโหม่งเข้าประตูไป สเปน หนีไปเป็น 2-1 จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มครบ 120 นาที สเปน เอาชนะ เจ้าภาพ เยอรมนี แบบหืดจับ 2-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส ในวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
สเปน (4-2-3-1) :
 อูไน ซิม่อน – ดานี่ การ์บาฆาล, โรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์, อายเมอริก ลาปอร์ต, มาร์ก กูกูเรย่า – โรดรี้, ฟาเบียน รุยซ์ – เปดรี้, ลามีน ยามาล, นิโก วิลเลี่ยมส์ – อัลบาโร่ โมราต้า

เยอรมนี (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ – โยชัว คิมมิช, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, โยนาธาน ทาห์, เดวิด เราม์ – เอ็มเร ชาน, โทนี่ โครส – จามาล มูเซียล่า, อิลคาย กุนโดกัน, ลีรอย ซาเน่ – ไค ฮาแวร์ตซ์

วิเคราะห์ เยอรมัน vs สเปน : ยูโร 2024 (5 กรกฎาคม 2567)

0

การวิเคราะห์:

เกมนี้เป็นการพบกันของสองทีมที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในทัวร์นาเมนต์ สเปน ชนะรวดมาทั้ง 5 นัด ยิงไป 9 ประตู เสียเพียง 1 ประตู เยอรมนี เองก็ยังไม่แพ้ใคร แต่เสมอ 1 นัดในนัดที่พบกับสวิตเซอร์แลนด์

สเปน

  • ข้อได้เปรียบ:
    • ฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรง
    • แนวรุกที่เฉียบคม
    • ประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่
  • ข้อเสียเปรียบ:
    • เล่นในเกมใหญ่กับเยอรมนีที่สนามเหย้าของคู่แข่ง

เยอรมนี

  • ข้อได้เปรียบ:
    • ได้เล่นในสนามเหย้า
    • มีนักเตะที่เล่นในสโมสรชั้นนำของยุโรปจำนวนมาก
  • ข้อเสียเปรียบ:
    • ประสิทธิภาพการจบสกอร์ที่ยังไม่ดีนัก

ผลการคาดการณ์:

เกมนี้สูสีคาดเดายากเป็นเกมที่อาจจะไปถึงแชมป์ด้วยกันทั้งคู่ ทั้งสองทีมมีโอกาสคว้าชัยชนะพอๆกันผล เสมอ ใน 90 นาที มีโอกาสเป็นไปได้สูง
ถ้าให้เลือก ผู้ชนะ ขอมองไปที่เจ้าบ้าน เพราะด้วยเรื่องเสียเชียร์และขวัญกำลังใจจากการเป็นชาติเจ้าภาพ

คาดการณ์ผล: เสมอ 1-1 2-2

แฮร์รี่ เคน สถิติ และ รางวัลส่วนตัว

0

แฮร์รี่ เอ็ดเวิร์ด เคน เกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1993 ในย่านวอลทัมสโตว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันค้าแข้งให้กับสโมสร ไบเอิร์น มิวนิค ในบุนเดสลีก้า เยอรมัน และเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ

ครอบครัวและชีวิตส่วนตัว:

  • เคน เติบโตมากับครอบครัวที่เป็นแฟนบอลสโมสร ทอตนัม ฮอตสเปอร์ จึงทำให้เขามีความฝันอยากเป็นนักเตะของสโมสรนี้ตั้งแต่เด็ก
  • เคน สมรสกับ เคที่ กู๊ดแลนด์ เมื่อปี 2019 ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน

การเริ่มต้นอาชีพ:

  • เคน เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสร ริจ์เวย์ โรเวอร์ส เมื่ออายุ 6 ขวบ
  • ต่อมา เซ็นสัญญากับสโมสร ทอตนัม ฮอตสเปอร์ ในปี 2009
  • เคน ถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นให้กับหลายสโมสร เช่น เลย์ตัน โอเรียนท์ มิลล์วอลล์ เลสเตอร์ ซิตี้ และ นอริช ซิตี้
  • เคน กลับมาสู่สโมสรทอตนัม ฮอตสเปอร์ ในปี 2012 และกลายเป็นกองหน้าตัวหลักของทีม

ความสำเร็จ:

รางวัลระดับสโมสร:

  • ทอตนัม ฮอตสเปอร์:
    • รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย (2018-19)
    • รองแชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย (2014-15)
    • รองแชมป์ลีกคัพ 2 สมัย (2014-15, 2015-16)
  • ไบเอิร์น มิวนิค:
    • แชมป์บุนเดสลีก้า 1 สมัย (2023-24)

รางวัลส่วนตัว:

  • พรีเมียร์ลีก:
    • ดาวซัลโว 2 สมัย (2016-17, 2018-19)
    • ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือน 7 สมัย
    • ทีมยอดเยี่ยมแห่งปี 4 สมัย
    • ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 1 สมัย
  • ฟุตบอลโลก:
    • รองเท้าทองคำ 1 สมัย (2018)
  • รางวัลอื่นๆ:
    • รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ 1 สมัย (2018)
    • รางวัลรองเท้าทองคำยุโรป 1 สมัย (2021)
    • ทีมยอดเยี่ยมของยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย (2018-19)
    • ทีมยอดเยี่ยมของยูฟ่า เนชันส์ ลีก 1 สมัย (2018-19)

รางวัลระดับทีมชาติ:

  • ทีมชาติอังกฤษ:
    • รองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1 สมัย (2020)

สถิติ:

  • สโมสร:
    • ลงเล่น 415 นัด ยิง 302 ประตู (เฉลี่ย 0.73 ประตูต่อนัด)
  • ทีมชาติ:
    • ลงเล่น 101 นัด ยิง 66 ประตู (เฉลี่ย 0.66 ประตูต่อนัด)

เลาตาโร มาร์ติเนซ ฟอร์มร้อนแรง: นำดาวซัลโวโคปา ?

0

ฟอร์มในระดับสโมสร:

  • ลงเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน ในลีคฤดูกาล 2023/24
  • ลงเล่นไปแล้ว 33 นัด
  • ยิงประตูไป 24 ประตู (อันดับ 1 ของดาวซัลโว Serie A)
  • แอสซิสต์ 3 แอสซิสต์

ฟอร์มในระดับทีมชาติ:

  • ลงเล่นให้กับทีมชาติ อาร์เจนตินา 5 เกมล่าสุด
  • ยิงประตูไป 4 ประตู จากการลงเล่น 3 เกม (ดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์โกปาอเมริกา 2024)
  • แอสซิสต์ 0 แอสซิสต์
  • ยิงประตูเฉลี่ยต่อนัด 0.8 ประตู

จากสถิติข้างต้น แสดงให้เห็นว่า เลาตาโร มาร์ติเนซ กำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดี ยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ

โดยเฉพาะในศึกโกปาอเมริกา 2024 เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ยิง 4 ประตูจาก 5 นัด พาทีมชาติอาร์เจนตินาเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางนัดที่เขายังทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร และยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอีกหลายอย่าง

แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงในตอนนี้ เชื่อได้ว่า เลาตาโร มาร์ติเนซ จะกลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่สำคัญที่สุดของโลกในอนาคตอย่างแน่นอน

สถิติรวมของ ลิโอเนล เมสซี่ ในระดับทีมชาติ:

0
Lionel Messi

สถิติในระดับทีมชาติ:

  • ทีมชาติอาร์เจนตินา:
    • ลงเล่น 162 นัด (อันดับ 2 ของผู้เล่นที่ลงเล่นมากที่สุดตลอดกาล)
    • ยิงประตู 86 ประตู (อันดับ 3 ของผู้เล่นที่ยิงประตูมากที่สุดตลอดกาล)
    • แอสซิสต์ 52 แอสซิสต์
    • คว้าแชมป์โคปาอเมริกา 1 สมัย
    • คว้าแชมป์ฟีฟ่า เวิลด์คัพ 1 สมัย

รางวัลส่วนตัว:

  • รางวัลบัลลงดอร์ 7 รางวัล (สถิติมากที่สุด)
  • รางวัลรองเท้าทองคำยุโรป 6 รางวัล (สถิติมากที่สุด)
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่า 1 รางวัล
  • รางวัลเดอะเบสต์ฟีฟ่าเล่นชาย 1 รางวัล

    ลิโอเนล เมสซี่ ถือเป็นตำนานนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลก เขาสร้างสถิติมากมายที่ยากจะโค่นล้ม และยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในปัจจุบัน แฟนบอลทั่วโลกต่างรอติดตามผลงานของเขาต่อไปว่าจะสร้างตำนานบทใหม่ต่อไปได้หรือไม่

ทีมเต็งแชมป์ฟุตบอลโคปาอเมริกา 2024

0

ศึกฟุตบอล โคปาอเมริกา 2024 กำลังเข้มข้น! เหลือเพียงรอบ 8 ทีมเท่านั้น ทีมไหนมีโอกาสคว้าแชมป์มากที่สุด? มาดูกัน!

ข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2567:

เต็ง 1: อาร์เจนตินา 🇦🇷

  • แชมป์เก่า
  • ฟอร์มร้อนแรง ชนะรวด 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม
  • มีดาวดังอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ นำทัพ

เต็ง 2: บราซิล 🇧🇷

  • ทีมที่มีประสบการณ์สูง
  • อุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้าดี
  • มุ่งมั่นทวงคืนแชมป์

ม้ามืด: อุรุกวัย 🇺🇾

  • แชมป์ 15 สมัย
  • เล่นได้อย่างเหนียวแน่น
  • มีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์

ทีมอื่นๆ ที่น่าจับตา:

  • โคลอมเบีย 🇨🇴
  • ชิลี 🇨🇱
  • ปารากวัย 🇵🇾
  • เปรู 🇵🇪

อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ ยังมีอีกหลายนัดที่รอการฟาดฟัน ทีมไหนจะคว้าแชมป์ ต้องติดตามกันต่อ!

โคปาอเมริกา เริ่มต้นยังไง? ฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก!

0

โคปาอเมริกา เริ่มต้นยังไง? ฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก!

เคยได้ยินเรื่องราวฟุตบอล โคปาอเมริกา กันบ้างไหม? ใช่แล้ว! การแข่งขันฟุตบอลที่รวมสุดยอดนักเตะจากทวีปอเมริกาใต้ แต่รู้ไหมว่า มันเริ่มต้นมาจากไหน?

ย้อนกลับไปปี ค.ศ. 1916 ที่ประเทศอาร์เจนตินา มีการจัดงานฉลองครบรอบ 100 ปี เอกราช คุณฮวน โดมิงโก บราวน์ ข้าราชการผู้หลงใหลในฟุตบอล คิดไอเดียเจ๋งๆ ว่า จะจัดการแข่งฟุตบอลแบบทัวร์นาเมนต์ ขึ้นมา 1 ครั้ง เชิญทีมชาติจากทวีปอเมริกาใต้มาดวลฝีเท้ากัน

และแล้ว การแข่งขัน Campeonato Sudamericano de Football (การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อเมริกาใต้) ก็ถือกำเนิดขึ้น! มี 4 ทีมแรกที่ร่วมประเดิมสนาม ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี และอุรุกวัย

แต่การแข่งขันในช่วงแรกๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก เพราะปัญหาเรื่องการเดินทางและสื่อสาร ยังไม่สะดวก แต่แล้ว ปี ค.ศ. 1930 ก็มีการก่อตั้ง สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (CONMEBOL) ขึ้นมาดูแลการแข่งขันอย่างเป็นทางการ

ปี ค.ศ. 1975 เปลี่ยนชื่อเป็น Copa América และเริ่มมีการแข่งขันทุกๆ 4 ปี ยกเว้นปี 2001 และ 2007 ที่มีการแข่งขันพิเศษ

แต่แล้วปี 1986 ก็มีเหตุการณ์พลิกผัน! CONMEBOL ยกเลิกการแข่งขันชั่วคราว ไปโฟกัสกับ Copa Libertadores (ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสร) แทน

แต่ไม่นาน ในปี 1987 ก็กลับมาจัด Copa América อีกครั้ง แต่เปลี่ยนรูปแบบใหม่ เป็นแบบพบกันหมด 2 รอบ

จนถึงปัจจุบัน โกปาอเมริกา กลายเป็นมหกรรมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ รวมสุดยอดนักเตะจากสโมสรชั้นนำทั่วโลก ดึงดูดแฟนบอลจากทั่วทุกมุมโลกให้ติดตามชม

สรุปง่ายๆ ว่า โคปาอเมริกา เริ่มต้นจากไอเดียเจ๋งๆ ของคุณฮวน โดมิงโก บราวน์ พัฒนาจนกลายเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ใครที่เป็นแฟนบอลห้ามพลาดเด็ด


จุดเปลี่ยนสำคัญ:

  • ปี ค.ศ. 1930: มีการจัดตั้ง สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (CONMEBOL) ขึ้นมาดูแลการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
  • ปี ค.ศ. 1975: เปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น Copa América และเริ่มมีการแข่งขันอย่างเป็นทางการทุกๆ 4 ปี ยกเว้นในปี ค.ศ. 2001 และ ค.ศ. 2007 ที่มีการแข่งขันพิเศษ
  • ปี ค.ศ. 1986: CONMEBOL ตัดสินใจยกเลิกการแข่งขัน Copa América ชั่วคราว เนื่องจากมีการจัดตั้ง Copa Libertadores (การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรแห่งอเมริกาใต้) ขึ้นมา
  • ปี ค.ศ. 1987: กลับมาจัดการแข่งขัน Copa América อีกครั้ง แต่เปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันเป็นแบบพบกันหมด 2 รอบ

ปัจจุบัน:

โกปาอาเมริกา กลายเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับทีมชาติชายที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ เป็นการแข่งขันที่รวมสุดยอดนักเตะจากสโมสรชั้นนำทั่วโลก ดึงดูดแฟนบอลจากทั่วโลกให้ติดตามชม

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ โกปาอาเมริกา:

  • จำนวนครั้งที่จัดการแข่งขัน: 47 ครั้ง (ไม่รวมปี ค.ศ. 1986)
  • ทีมชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด: อุรุกวัย (15 สมัย)
  • ผู้ชนะเลิศล่าสุด: อาร์เจนตินา
  • ทีมชาติที่เข้าร่วม: 10 ทีมจากสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้

วิเคราะห์ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโคปาอเมริกา 2024: อาร์เจนตินา vs เอกวาดอร์

0

วันที่: 5 กรกฎาคม 2567 เวลา: 08:00 น. (เวลาไทย) สถานที่: เอ็นอาร์จี สเตเดียม, ฮิวสตัน, สหรัฐอเมริกา

ฟอร์มล่าสุด:

  • อาร์เจนตินา: ชนะ 5 จาก 5 นัด ยิงได้ 12 ประตู เสีย 1 ประตู
  • เอกวาดอร์: ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิงได้ 4 ประตู เสีย 4 ประตู

สถิติการพบกัน:

  • อาร์เจนตินา ชนะ เอกวาดอร์ 6 นัด เสมอ 1 นัด แพ้ 0 นัด

การวิเคราะห์:

อาร์เจนตินา มาในฐานะแชมป์เก่าและเต็งแชมป์รายการนี้ ฟอร์มการเล่นช่วง 5 นัดหลังสุดร้อนแรง ชนะทุกนัด ยิงได้ 12 ประตู เสียเพียงประตูเดียว ขุมกำลังผู้เล่นครบครัน มีทั้งดาวรุ่งและดาวดัง โดยเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมที่ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่อง

เอกวาดอร์ เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแบบฉิวเฉียด ฟอร์มการเล่นช่วง 5 นัดหลังสุด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 ขุมกำลังผู้เล่นชุดนี้มีดาวรุ่งน่าสนใจหลายราย แต่โดยรวมแล้ว ยังเป็นรอง อาร์เจนตินา อยู่พอสมควร

ผลการแข่งขันที่คาด:

อาร์เจนตินา น่าจะเอาชนะ เอกวาดอร์ ไปได้ ด้วยความแข็งแกร่งและประสบการณ์ที่เหนือกว่า

แต่ฟุตบอลไม่มีอะไรแน่นอน เอกวาดอร์ ก็มีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ได้

สำหรับ คาดเดาสกอ มองว่า อาร์เจนตินา น่าจะเอาชนะ เอกวาดอร์ ไปได้ 2-1



ห้ามพลาด!