Home Blog Page 13

ลิเวอร์พูลเปิดไพ่! ยื่น 130 ล้านยูโรล่าตัวเวียร์ตซ์รอบสอง

0

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เพิ่มระดับความพยายามในการคว้าตัว ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ มิดฟิลด์ตัวรุกของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยการยื่นข้อเสนอครั้งที่สองมูลค่าสูงถึง 130 ล้านยูโร ให้ทีมดังจากเยอรมันพิจารณา หลังข้อเสนอแรกถูกปฏิเสธไปก่อนหน้านี้

ตามรายงานล่าสุดจาก The Athletic สื่อวงในจากอังกฤษ ระบุว่า ลิเวอร์พูลได้รวมโบนัสตามผลงานและเงื่อนไขพิเศษเข้าไปในข้อเสนอครั้งใหม่ ทำให้ตัวเลขโดยรวมพุ่งขึ้นไปแตะ 110 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นดีลที่สะท้อนถึงความจริงจังของสโมสรในการเสริมทัพแนวรุก

เวียร์ตซ์ วัย 22 ปี ถือเป็นหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่งที่น่าจับตาที่สุดในยุโรป โดยฤดูกาลที่ผ่านมา เขามีบทบาทสำคัญพาเลเวอร์คูเซ่นคว้าแชมป์บุนเดสลีกาแบบไร้พ่าย และกำลังอยู่ระหว่างเข้าแคมป์ทีมชาติเยอรมนี เพื่อเตรียมลงเล่นในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ พบกับทีมชาติโปรตุเกส ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้

คาดว่าหากดีลนี้สำเร็จ จะกลายเป็นหนึ่งในดีลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล และส่งสัญญาณชัดเจนถึงยุคใหม่ภายใต้การนำของโค้ชคนใหม่ ที่ต้องการสร้างทีมรอบผู้เล่นดาวรุ่งฝีเท้าจัดจ้าน

คาดการณ์ 11 ตัวจริง แมนฯ ยูไนเต็ดของอโมริม ซีซั่นหน้า

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมยกเครื่องทีมครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อกลับคืนสู่เส้นทางความสำเร็จ หลังจบฤดูกาล 2024/25 อย่างน่าผิดหวัง โดยล่าสุด The Mirror สื่อชื่อดังจากอังกฤษ ได้เผยแผนการจัดทัพใหม่ของ “ปีศาจแดง” สำหรับฤดูกาล 2025/26 หากสโมสรสามารถเดินหน้าในตลาดซื้อขายได้ตามเป้าหมาย

ฤดูกาลที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม ประสบความล้มเหลวอย่างหนัก จบอันดับ 15 ในพรีเมียร์ลีก และพลาดแชมป์ยูโรป้าลีก หลังพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในนัดชิงชนะเลิศ ส่งผลให้บอร์ดบริหารเตรียมลงทุนมหาศาลเพื่อพลิกสถานการณ์ในฤดูกาลใหม่

หนึ่งในจุดที่สโมสรต้องเร่งแก้ไขคือเกมรุก หลังทีมขาดความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้ายตลอดทั้งซีซั่นที่ผ่านมา นักเตะอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจดอน ซานโช่ และอันโตนี่ อาจถูกปล่อยออกจากทีมแบบถาวร ขณะที่แข้งดาวรุ่งอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ และราสมุส ฮอยลุนด์ ก็มีโอกาสถูกพิจารณาปล่อยตัวเช่นกัน

หากแผนการซื้อขายเป็นไปตามเป้า นักเตะใหม่ที่มีลุ้นเข้ามาเสริมแนวรุกได้แก่ มาเตอุส คุนญ่า หัวหอกตัวเก่งของวูล์ฟส์ ที่ตกเป็นข่าวว่าปีศาจแดงพร้อมจ่ายค่าฉีกสัญญา 62.5 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวมาร่วมทีม ขณะเดียวกันยังเล็งดึง ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ปีกตัวจี๊ดจากเบรนท์ฟอร์ด ด้วยค่าตัวราว 50 ล้านปอนด์ แต่ต้องแย่งกับนิวคาสเซิ่ลที่ให้ความสนใจเช่นกัน

อีกหนึ่งดีลที่น่าสนใจคือ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ดาวยิงทีมชาตินาเจียเรีย ซึ่งย้ายไปอยู่กับกาลาตาซาราย และมีค่าตัวราว 51 ล้านปอนด์ โดยเจ้าตัวก็อยู่ในลิสต์เป้าหมายลำดับต้น ๆ ของแมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน

แผนการเล่นที่คาด: 3-4-3

  • ผู้รักษาประตู: แมส แฮร์แมนเซิน
  • กองหลัง: เลนี่ โยโร่, มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ
  • กองกลาง / วิงแบ็ก: ดีโอโก้ ดาโลต์, เอแดร์ซอน, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, พาทริก ดอร์กู
  • แนวรุก: ไบรอัน เอ็มเบวโม่, วิคเตอร์ โอซิมเฮน, มาเตอุส คุนญ่า

แม้บทสรุปสุดท้ายของตลาดนักเตะยังไม่ชัดเจน แต่หาก “ปีศาจแดง” เดินหน้าได้ตามแผน ภาพลักษณ์ทีมชุดใหม่นี้อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของยุคฟื้นคืนชีพที่แฟนบอลรอคอยมาอย่างยาวนาน

เรอัล มาดริด ล่าเวียร์ตซ์ หวังตัดหน้า ลิเวอร์พูล

0

เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งสเปน ยังไม่ยอมยกธงขาวในการไล่ล่าตัว ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ มิดฟิลด์พรสวรรค์ของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แม้จะมีรายงานว่า ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ใกล้คว้าตัวแข้งรายนี้มากที่สุดแล้วก็ตาม

สื่อดังของสเปนอย่าง อาส เปิดเผยว่า แม้บาเยิร์น มิวนิคจะถอนตัวจากการแข่งขันแย่งชิงลายเซ็นของเวียร์ตซ์ และดูเหมือนว่า “หงส์แดง” จะเป็นทีมที่เต็งจ๋าในขณะนี้ แต่ราชันชุดขาวยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมเปิดฉากเจรจาทุกเมื่อ โดยมีปัจจัยสำคัญคือการแต่งตั้ง ชาบี อลอนโซ่ อดีตกุนซือของเวียร์ตซ์ ที่อาจเปลี่ยนใจนักเตะให้มุ่งหน้าสู่ซานติอาโก เบร์นาเบวแทน

เวียร์ตซ์ วัย 22 ปี ถือเป็นหัวใจหลักในทีมของ อลอนโซ่ ที่พาเลเวอร์คูเซ่นคว้าแชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาลล่าสุดแบบไร้พ่าย ขณะที่รายงานจากอังกฤษระบุว่า นักเตะรายนี้ได้ตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับลิเวอร์พูลเป็นที่เรียบร้อย และได้แจ้งต่อสโมสรต้นสังกัดว่าต้องการย้ายไปเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ช่วงซัมเมอร์นี้

แม้สถานการณ์จะดูเป็นใจให้กับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ แต่เรอัล มาดริด มีประวัติที่น่าประทับใจในตลาดซื้อขายนักเตะ โดยก่อนหน้านี้พวกเขาเคยตัดหน้าลิเวอร์พูลในการคว้าตัวสองกองกลางระดับเวิลด์คลาสอย่าง ออเรเลียง ชูอาเมนี่ และจู๊ด เบลลิงแฮม มาแล้ว

ด้านเลเวอร์คูเซ่นตั้งค่าตัว เวียร์ตซ์ ไว้สูงถึง 150 ล้านยูโร (ประมาณ 126 ล้านปอนด์) ขณะที่การเจรจาระหว่าง ริชาร์ด ฮิวจ์ส ผู้อำนวยการกีฬาของลิเวอร์พูล และผู้บริหารของเลเวอร์คูเซ่น ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์นี้ ท่ามกลางสายตาจับจ้องจากฝั่งมาดริดที่พร้อมเสียบแซงทุกเมื่อ

บาร์ซ่าขยายสัญญายามาลถึงปี 2031 ค่าฉีกพันล้านยูโร

0

สโมสรบาร์เซโลน่า ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ได้ตกลงต่อสัญญาฉบับใหม่กับดาวรุ่งตัวเก่ง ลามีน ยามาล ออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2031 โดยในสัญญาฉบับใหม่นี้ได้ระบุค่าฉีกสัญญาไว้สูงถึง 1,000 ล้านยูโร เพื่อกันท่าบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่จากยุโรปที่กำลังจับตามอง

แข้งวัย 17 ปี ทีมชาติสเปน ซึ่งสัญญาเดิมจะสิ้นสุดในปี 2026 ได้รับการประเมินว่าเป็นหนึ่งในโครงการระยะยาวของ “เจ้าบุญทุ่ม” และการต่อสัญญาครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงถึงความเชื่อมั่นจากสโมสรที่มีต่อตัวเขาอย่างชัดเจน โดยค่าฉีกสัญญาจะมีผลทันทีหลังเจ้าตัวมีอายุครบ 18 ปี

แหล่งข่าวใกล้ชิดในสเปนเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ยามาล จะได้รับค่าจ้างในสัญญาใหม่ราว 15 ล้านยูโรต่อปี และตัวเลขอาจแตะระดับ 20 ล้านยูโร ต่อปีเมื่อรวมโบนัสผลงานและเป้าหมายที่ระบุไว้ในสัญญา

ยามาล เป็นผลผลิตโดยตรงจากศูนย์ฝึก ลา มาเซีย โดยเจ้าตัวย้ายจากบ้านเกิดในย่านมาตาโร่มาเข้าร่วมอคาเดมี่ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในเดือนเมษายน ปี 2023 ด้วยวัยเพียง 15 ปี ก่อนจะสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วกับฟอร์มการเล่นที่เกินวัย

ในฤดูกาลที่ผ่านมา เขามีส่วนสำคัญกับการพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในประเทศ ได้แก่ ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และ สแปนิช ซูเปอร์คัพ โดยจนถึงตอนนี้ ยามาล ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ไปแล้ว 106 นัด ยิงได้ 25 ประตู และทำอีก 34 แอสซิสต์ พร้อมกับสร้างสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้สโมสรครบ 100 นัด

ผลบอล: แมนฯ ยูไนเต็ด พ่าย ASEAN All-Stars 0-1

0

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามปิดฤดูกาลด้วยแมตช์พิเศษในทัวร์เอเชีย ก่อนพ่ายให้กับทีมรวมดาว ASEAN All-Stars ไปด้วยสกอร์ 0-1 โดยประตูชัยของเกมนี้มาจากฝีเท้าของ หม่อง หม่อง ลวิน แนวรุกทีมชาติเมียนมาจากสโมสรลำพูน วอริเออร์

การคุมทัพ ASEAN All-Stars ตกเป็นหน้าที่ของ คิม ซังชิก กุนซือทีมชาติเวียดนามวัย 48 ปี ที่นำทีมผสมซูเปอร์สตาร์จากหลายชาติในอาเซียน โดยมี ปฏิวัติ คำไหม นายด่านทีมชาติไทยรับหน้าที่เฝ้าเสา และ อับเดล คูลิบาลี่ ยืนค้ำในแดนหน้า

ด้าน รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด จัดทัพแบบหมุนเวียนหลายตำแหน่ง ส่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ รับปลอกแขนกัปตันทีม ขณะที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เริ่มเกมจากม้านั่งสำรอง โดยใช้ แจ็ค มัวร์เฮาส์ กับ ค็อบบี้ เมนู สนับสนุนแนวรุกอยู่ด้านหลัง ราสมุส ฮอยลุนด์

เกมครึ่งแรกเต็มไปด้วยจังหวะลุ้นประตูจากทั้งสองฝั่ง แต่ยังไม่มีฝ่ายใดเฉียบคมพอ ส่งผลให้จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง ยูไนเต็ดพยายามเร่งเกมรุก โดยส่งทั้ง บรูโน่ และ อาหมัด ดิยัลโล่ ลงสนาม ขณะที่ฝั่ง ASEAN All-Stars ก็เปลี่ยนตัวสำคัญ โดยส่ง เบน เดวิส แข้งลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ลงเล่นแทน เอเซเกียล อเกวโร่ ในนาทีที่ 54

กระทั่งนาทีที่ 71 ความพยายามของทีมอาเซียนสัมฤทธิ์ผล เมื่อหม่อง หม่อง ลวิน กดประตูสุดคมพาทีมขึ้นนำ 1-0 และกลายเป็นประตูชัยของเกม แม้แมนฯ ยูไนเต็ดจะพยายามโหมบุกในช่วงท้ายเกม แต่ไม่อาจเจาะแนวรับของทีมรวมดาวอาเซียนได้ จบเกมพ่ายไปด้วยสกอร์ 0-1

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ASEAN All-Stars (3-4-2-1):
ปฏิวัติ คำไหม – อมานี อกินัลโด้, คาน โม, แฮร์ริสัน เดลบริดจ์ – คีเลย์ อดัมสัน, ซานโดร เรเยส, เอเซเกียล อเกวโร, เดเคลน แลมเบิร์ต – เหงียน ไฮ ลอง, ยาย่า ดูคูลี่ – อับเดล คูลิบาลี่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-2-1):
อ็องเดร โอนาน่า – ไทรอน มุนโร่, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เอเดน เฮเว่น – ดีโอโก้ ดาโลต์, มานูเอล อูการ์เต้, กาซีเมโร่, พาทริก ดอร์กู – แจ็ค มัวร์เฮาส์, ค็อบบี้ เมนู – ราสมุส ฮอยลุนด์

นายกฯ ลิเวอร์พูลห่วงเหยื่อเหตุรถชนแฟนฉลองแชมป์

0

สตีฟ โรเธอร์แฮม นายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูล ออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ระหว่างขบวนพาเหรดฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกของสโมสรลิเวอร์พูล เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกิดเหตุรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่รวมตัวอยู่ในใจกลางเมือง

เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองแชมป์ของ “หงส์แดง” กำลังเข้าสู่ช่วงท้าย ได้มีรถยนต์สีดำพุ่งเข้าชนกลุ่มแฟนบอล ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ล่าสุดมีรายงานว่าผู้บาดเจ็บทั้งหมดเกือบ 50 ราย และในจำนวนนั้นมีผู้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลถึง 27 ราย รวมทั้งเด็ก 4 คน และมีผู้บาดเจ็บสาหัสเพิ่มขึ้นจาก 2 เป็น 4 ราย

เจ้าหน้าที่ตำรวจเมอร์ซีย์ไซด์สามารถควบคุมตัวชายวัย 53 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองในพื้นที่ได้ทันทีที่เกิดเหตุ โดยเบื้องต้นยังไม่มีการเปิดเผยแรงจูงใจในการก่อเหตุ

โรเธอร์แฮม ซึ่งเดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานที่เกิดเหตุในช่วงเช้าของวันอังคาร กล่าวผ่าน Liverpool Echo ว่าขณะนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยสืบสวนอยู่ในพื้นที่ และจะยังไม่เปิดถนนจนกว่าการรวบรวมพยานหลักฐานจะแล้วเสร็จ

“พื้นที่ยังคงถูกปิดล้อมไว้เพื่อการสืบสวน เราต้องให้ความสำคัญกับผู้บาดเจ็บทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล นี่คือสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก” เขากล่าว

เขายังสะท้อนถึงภาพความแตกต่างระหว่างบรรยากาศความสุขจากแฟนบอลนับล้านคนในค่ำวันก่อนหน้า กับความเงียบเหงาหลังเหตุร้ายที่เกิดขึ้น

“เมื่อคืนก่อนเต็มไปด้วยความยินดีจากแฟนบอลทั่วเมืองที่ออกมาเฉลิมฉลองแชมป์ แต่วันนี้เรากลับต้องเผชิญกับความเศร้าและความวิตกกังวล สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิด”

นอกจากนี้ เขายังกล่าวขอบคุณหน่วยกู้ชีพ แพทย์ พยาบาล รวมถึงประชาชนที่ให้ความช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุทันที พร้อมทั้งส่งกำลังใจไปยังครอบครัวและผู้บาดเจ็บทุกคน

“ในนามของทุกคนในลิเวอร์พูล ผมขอส่งความห่วงใยไปถึงครอบครัวผู้บาดเจ็บ และภาวนาให้ทุกคนฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด”

อันโตนี่ เปิดใจทั้งน้ำตา! เผยชีวิตสุดอึดอัดตอนอยู่แมนยู

0

“เดอะหมุน” อันโตนี่ ปีกชาวบราซิเลียนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจถึงช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุดในอาชีพค้าแข้ง ระหว่างสวมเสื้อปีศาจแดง โดยยอมรับว่าเคยเครียดหนักถึงขั้นกินอะไรไม่ลง และต้องแยกตัวออกจากครอบครัว ก่อนกลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งกับ เรอัล เบติส ในลาลีกา สเปน

แข้งวัย 25 ปี รายนี้ถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นให้เบติสเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังฟอร์มกับยูไนเต็ดไม่เป็นไปตามความคาดหวัง โดยเขายังได้รับโอกาสลงสนามในฤดูกาล 2024/25 ภายใต้การคุมทีมของทั้ง เอริก เทน ฮาก และ รูเบน อาโมริม แต่กลับไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ โดยเฉพาะในด้านจิตใจที่เจ้าตัวเผยว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญ

“ผมผ่านอะไรมาเยอะมาก ตอนอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด ทุกอย่างมันไม่เป็นอย่างที่หวัง ผมถึงขั้นต้องระบายกับพี่ชาย บอกเขาว่าผมไม่ไหวแล้ว” อันโตนี่ กล่าวกับ TNT Sports Brazil ด้วยน้ำตาคลอ

เขายังเล่าว่า ช่วงเวลานั้นเขาแทบไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะเล่นกับลูก ไม่แตะอาหารเลยหลายวัน และเลือกเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องคนเดียวเป็นเวลานาน

“มันซับซ้อนมากสำหรับผม แต่ด้วยความช่วยเหลือจากครอบครัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพระเจ้า ผมก็สามารถผ่านมันมาได้ วันนี้ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับเบติสอีกครั้ง”

หลังย้ายมาค้าแข้งในลาลีกาเพียงครึ่งฤดูกาล อันโตนี่ก็กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ยิงไป 9 ประตู พร้อมทำอีก 5 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 25 นัดรวมทุกรายการ ช่วยให้ เรอัล เบติส จบอันดับ 6 พร้อมคว้าตั๋วไปลุยศึกยูโรป้า ลีก ซีซั่นหน้า และยังพาทีมทะลุเข้าชิงยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก อีกด้วย

เทียบกับผลงานในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดที่เขาทำได้เพียง 12 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ จาก 96 นัดตลอดการค้าแข้งกับแมนยู ดูเหมือนว่าการย้ายมาเบติสจะเป็นการปลดล็อกตัวตนที่แท้จริงของแข้งรายนี้

“การได้มาอยู่ที่นี่ทำให้ผมได้ตามหาตัวเอง ได้กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง”

สำหรับอนาคตของอันโตนี่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูเหมือนว่าอาจไม่ได้ไปต่อ โดยมีรายงานจากสื่อหลายสำนักคาดว่าปีศาจแดงพร้อมขายขาดหากได้ข้อเสนอในระดับ 30-35 ล้านปอนด์ หลังจากเขาไม่สามารถตอบแทนค่าตัว 85 ล้านปอนด์ที่สโมสรจ่ายให้ อาแจ็กซ์ ได้ตามที่คาดหวัง

พรีเมียร์ลีก 2024/25 จบซีซั่น เปิดเงินรางวัลครบทุกทีม

0

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024/25 ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ หลังลงสนามครบ 38 นัด โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อจากอังกฤษได้เปิดเผยตัวเลขรายได้จากเงินรางวัลที่แต่ละทีมจะได้รับตามอันดับในตารางคะแนน ซึ่งเป็นการคำนวณเบื้องต้นก่อนที่พรีเมียร์ลีกจะเผยรายงานการเงินฉบับสมบูรณ์ในภายหลัง

ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษไปครองในซีซั่นนี้ พร้อมรับสิทธิ์ลงเตะในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า ร่วมกับ อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี โดย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในฐานะแชมป์ยูโรป้า ลีก จะได้สิทธิ์เข้าเล่นถ้วยใหญ่เช่นกัน ขณะที่ แอสตัน วิลล่า ที่แม้จะมีแต้มเท่ากับ นิวคาสเซิล แต่ผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง จึงจบอันดับ 6 ได้ไปลุยยูโรป้า ลีก เช่นเดียวกับ คริสตัล พาเลซ ที่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ

น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ยังได้โควต้าลุยศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ฤดูกาลหน้า ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องปิดฉากฤดูกาลมือเปล่าไร้ถ้วยรางวัล

โดยรายงานจาก The Mirror ระบุการจัดสรรเงินรางวัลเบื้องต้นสำหรับทั้ง 20 สโมสรตามลำดับอันดับดังนี้:


🏆 เงินรางวัลพรีเมียร์ลีก 2024/25 (หน่วย: ล้านปอนด์)

  1. ลิเวอร์พูล – £56.4
  2. อาร์เซน่อล – £53.5
  3. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – £50.7
  4. เชลซี – £47.9
  5. นิวคาสเซิล – £45.1
  6. แอสตัน วิลล่า – £42.2
  7. น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ – £39.4
  8. ไบรท์ตัน – £36.7
  9. บอร์นมัธ – £33.8
  10. เบรนท์ฟอร์ด – £31.0
  11. ฟูแล่ม – £28.2
  12. คริสตัล พาเลซ – £25.4
  13. เอฟเวอร์ตัน – £22.5
  14. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – £19.7
  15. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – £16.9
  16. วูล์ฟแฮมป์ตัน – £14.0
  17. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ – £11.3
  18. เลสเตอร์ ซิตี้ – £8.5
  19. อิปสวิช ทาวน์ – £5.7
  20. เซาแธมป์ตัน – £2.8

💷 อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ: 1 ปอนด์ = 44 บาท


หมายเหตุ: ตัวเลขข้างต้นเป็นการคาดการณ์เบื้องต้น ยังไม่ใช่ยอดสุทธิอย่างเป็นทางการ โดยพรีเมียร์ลีกจะเผยแพร่รายงานทางการเงินในรูปแบบละเอียดต่อไปภายหลัง

เลเวอร์คูเซ่น เปิดตัว เอริก เทน ฮาก เซ็นยาวถึงปี 2027

0

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน ฤดูกาลล่าสุด ประกาศแต่งตั้ง เอริก เทน ฮาก รับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมเซ็นสัญญา 2 ปี โดยจะทำหน้าที่คุมทีมจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2027

การมาของกุนซือชาวดัตช์วัย 55 ปี เป็นการสานต่อผลงานจาก ชาบี อลอนโซ่ ซึ่งเพิ่งอำลาตำแหน่งไปรับงานคุมทีมเรอัล มาดริด โดย เทน ฮาก ถือเป็นกุนซือที่มีโปรไฟล์โดดเด่น เคยสร้างความสำเร็จทั้งในลีกเนเธอร์แลนด์และอังกฤษ รวมถึงเคยมีประสบการณ์คุมทีมในเยอรมนีมาก่อน

เจ้าตัวกล่าวเปิดใจหลังเซ็นสัญญาว่า

“ไบเออร์ 04 คือหนึ่งในสโมสรชั้นนำของเยอรมนี และกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในเวทียุโรป ผมรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งกับทิศทางของสโมสรและความจริงจังในการเจรจา นี่คือโอกาสในการร่วมกันพัฒนาและยกระดับความทะเยอทะยานของทีมในช่วงเวลาสำคัญ”

เทน ฮาก เพิ่งแยกทางกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยในอังกฤษ 2 รายการ ได้แก่ คาราบาว คัพ (2023) และ เอฟเอ คัพ (2024) แม้ต้องเผชิญแรงกดดันเรื่องผลงานในพรีเมียร์ลีกก็ตาม

ก่อนหน้านี้ เขาเคยสร้างชื่อกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยสไตล์การเล่นเกมรุกที่โดดเด่น รวมถึงผลงานพาทีมทะลุถึงรอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปี 2019 ขณะที่ประสบการณ์ในเยอรมนีก็ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเขา หลังเคยคุมทีม บาเยิร์น มิวนิค II ระหว่างปี 2013-2015 และได้เรียนรู้จาก เป๊ป กวาร์ดิโอลา ซึ่งคุมทีมชุดใหญ่ในเวลานั้น

การเข้ามาของเทน ฮาก จึงถูกจับตามองว่า จะสามารถสานต่อโมเมนตัมแห่งความสำเร็จของ “ห้างขายยา” ภายใต้โครงสร้างทีมอันแข็งแกร่ง และพาทีมก้าวขึ้นสู่ระดับแนวหน้าของยุโรปได้หรือไม่

ชาบี อลอนโซ่ เปิดตัวคุมทัพราชันชุดขาว เซ็นยาว 3 ปี

0

เรอัล มาดริด ประกาศแต่งตั้ง ชาบี อลอนโซ่ เป็นเฮดโค้ชคนใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมเซ็นสัญญาคุมทีมระยะเวลา 3 ปี โดยมีเป้าหมายพาสโมสรเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่แห่งความสำเร็จ

อดีตกุนซือไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น วัย 43 ปี เปิดตัวเคียงข้าง ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสร ที่ศูนย์ฝึกซ้อมบัลเดเบบาส ก่อนจะมีการให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงภารกิจครั้งสำคัญ หลังรับไม้ต่อจาก คาร์โล อันเชล็อตติ ซึ่งแยกทางไปคุมทีมชาติบราซิล

อลอนโซ่ จะเริ่มงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดยภารกิจแรกคือการเตรียมทีมสู้ศึก ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ซึ่งเรอัล มาดริด มีคิวเข้าร่วมในฐานะแชมป์ยุโรป

กุนซือเลือดกระทิงรายนี้เผยว่า “การได้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของเรอัล มาดริด คือช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับผม สโมสรแห่งนี้เป็นบ้านของผม และผมขอขอบคุณท่านประธานที่เชื่อมั่นในวิสัยทัศน์และโปรเจ็กต์ของผม ผมตระหนักดีว่านี่คือจุดเริ่มต้นของบทใหม่ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน”

อลอนโซ่ ยังกล่าวยกย่อง อันเชล็อตติ ว่าเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลอย่างมากในเส้นทางสายโค้ชของตน พร้อมขอบคุณทีมงานชุดปัจจุบันที่ร่วมสร้างผลงานยอดเยี่ยม

อดีตมิดฟิลด์จอมวางบอล เคยค้าแข้งกับราชันชุดขาวระหว่างปี 2009-2014 ลงเล่นไปทั้งสิ้น 236 นัด และคว้าแชมป์ถึง 6 รายการ ก่อนผันตัวเข้าสู่เส้นทางโค้ช โดยเริ่มจากทีมเยาวชนของมาดริด, คุมเรอัล โซเซียดาด เบ และสร้างชื่อพาเลเวอร์คูเซ่นคว้าแชมป์บุนเดสลีกาครั้งประวัติศาสตร์ในฤดูกาล 2023/24

เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของชาบี อลอนโซ่ จะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่แฟนบอลทั่วโลกจับตามอง โดยเฉพาะการสร้างทีมผสมผสานดาวรุ่งอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม, เอนดริก และวินิซิอุส จูเนียร์ กับแข้งประสบการณ์ เพื่อทวงคืนความยิ่งใหญ่ทั้งในสเปนและเวทียุโรปอีกครั้ง.

ห้ามพลาด!