Home Blog Page 13

ซาก้าอาจต้องพักเพิ่มอีก 8 สัปดาห์ หลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

0

บูกาโย่ ซาก้า ปีกตัวเก่งของ อาร์เซน่อล อาจต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีรายงานว่าเขาอาจต้องพักรักษาตัว เพิ่มอีก 8 สัปดาห์ หลังเข้ารับการผ่าตัดอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง

อาการบาดเจ็บที่ส่งผลกระทบต่อฤดูกาลของซาก้า

แข้งวัย 23 ปี ได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ในเกมที่ อาร์เซน่อล บุกถล่ม คริสตัล พาเลซ 5-1 ที่ เซลเฮิร์สต์ พาร์ค ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม โดยตอนแรกมีการคาดการณ์ว่าเขาจะต้องพักฟื้นเป็นระยะเวลา 10-12 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม The Sun รายงานว่า อาการบาดเจ็บของซาก้าอาจรุนแรงกว่าที่คาดไว้ ทำให้เขามีโอกาสกลับมาลงสนามได้เร็วที่สุดในช่วง กลางเดือนเมษายน 2025 ซึ่งถือเป็นข่าวร้ายสำหรับทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ที่กำลังลุ้นแชมป์ทั้ง พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ซาก้าเริ่มฟื้นตัว แต่ยังต้องใช้เวลา

แม้ว่าจะยังไม่สามารถกำหนดวันคืนสนามที่แน่ชัด แต่มีรายงานว่าซาก้าเริ่มกลับมาฝึกซ้อมเบาๆ ได้แล้ว เขาเดินทางไปยัง ดูไบ พร้อมกับทีมระหว่างแคมป์เก็บตัวเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย โดยคาดว่าเขาจะยังไม่พร้อมสำหรับเกมที่ อาร์เซน่อล มีคิวบุกเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ สุดสัปดาห์นี้

อาร์เซน่อลเจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บกระทบการลุ้นแชมป์

การขาดหายไปของซาก้าถือเป็น ปัญหาใหญ่ของอาร์เซน่อล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่พวกเขากำลังอยู่ในการแข่งขันลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยปัจจุบัน เดอะ กันเนอร์ส มีแต้มตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล อยู่ 7 คะแนน

มิเกล อาร์เตต้า ต้องหาทางปรับแท็กติกเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ เนื่องจากแนวรุกของทีมกำลังเผชิญปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลายราย ซึ่งอาจส่งผลต่อโอกาสการลุ้นแชมป์ของสโมสรในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

อดีตแข้งเยาวชน U17 จีนสมองตาย บาดเจ็บรุนแรงช่วงซ้อมที่สเปน

0

เกิดเหตุสะเทือนใจในวงการฟุตบอลเยาวชน กัว เจียซวน แข้งวัย 18 ปี อดีตนักเตะอคาเดมี่ บาเยิร์น มิวนิค และอดีตผู้เล่นทีมชาติจีนชุด U17 ถูกวินิจฉัยว่า สมองตาย หลังจากได้รับบาดเจ็บหนักที่ศีรษะในช่วงฝึกซ้อมกับทีมในประเทศสเปน

จังหวะปะทะที่เปลี่ยนชีวิต

รายงานจาก เดลี่ เมล์ ระบุว่า กัว เจียซวน ซึ่งปัจจุบันเล่นให้กับ ปักกิ่ง กั๋วอัน ประสบอุบัติเหตุระหว่างเกมอุ่นเครื่องกับ อัลโกเบนดาส สโมสรจากสเปน ในช่วงแคมป์เก็บตัวเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์

ในเหตุการณ์ดังกล่าว กัวได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงที่ศีรษะด้วยหัวเข่าของผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ส่งผลให้เกิด ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง แพทย์ที่เมืองมาดริดวินิจฉัยว่า สมองของเขาได้รับความเสียหายขั้นรุนแรงจนไม่สามารถฟื้นตัวได้

ครอบครัวไม่ยอมแพ้ แม้โอกาสรอดริบหรี่

พี่ชายของกัวเปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียของจีนว่า “แพทย์แจ้งว่าเขามีเลือดออกในสมองอย่างหนัก และโอกาสรอดชีวิตแทบไม่มี โรงพยาบาลกำลังเตรียมถอดเครื่องช่วยหายใจ”

อย่างไรก็ตาม พ่อของกัวปฏิเสธคำแนะนำของแพทย์ ที่จะยุติการรักษา โดยเลือกให้มีการ ส่งตัวลูกชายกลับประเทศจีน เพื่อรับการดูแลเพิ่มเติม

ปัญหาการสนับสนุนจากต้นสังกัด

หนังสือพิมพ์ South China Morning Post รายงานว่าครอบครัวของกัวกำลังเรียกร้องให้ สมาคมฟุตบอลปักกิ่ง และต้นสังกัด ปักกิ่ง กั๋วอัน รับผิดชอบค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่มีการทำประกันสุขภาพและการเดินทางให้กับนักเตะ ขณะที่สโมสรออกแถลงการณ์ว่า จะช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งตัวกลับจีน

ด้าน อัลโกเบนดาส สโมสรคู่แข่งในเกมดังกล่าว ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์และส่งกำลังใจให้ครอบครัวของนักเตะ

ดาวรุ่งผู้มีอนาคตไกลที่ต้องพบชะตากรรมอันโหดร้าย

กัว เจียซวน เคยเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกซ้อมกับ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2023 ผ่านโครงการ Bayern Munich’s World Squad ซึ่งเป็นโปรแกรมพัฒนาเยาวชนระดับโลกของทีมเสือใต้ และยังเคยติดทีมชาติจีนชุด U17

เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงในวงการฟุตบอลเยาวชน และจุดประกายคำถามเกี่ยวกับ มาตรฐานการคุ้มครองสวัสดิการนักเตะเยาวชนในการแข่งขันและฝึกซ้อมในต่างแดน ซึ่งยังคงต้องได้รับการพัฒนาให้รัดกุมมากขึ้น

“แมนฯ ยูไนเต็ด” เตรียมปลดพนักงานเพิ่ม ลดภาระการเงิน

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียม ปลดพนักงานเพิ่ม เป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างองค์กรของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ และกลุ่ม INEOS ซึ่งมีเป้าหมายในการลดต้นทุนและบริหารการเงินของสโมสรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

หลังจาก แรตคลิฟฟ์ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 สโมสรได้ดำเนินมาตรการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้มี พนักงานราว 250 คนถูกเลิกจ้างไปแล้ว ล่าสุด มีรายงานว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อาจปลดพนักงานเพิ่มเติมอีก 100-200 คน

เหตุผลเบื้องหลังแผนปลดพนักงาน

สื่ออังกฤษ (Daily Mail) รายงานว่า การปรับลดพนักงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทาง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดภาระค่าใช้จ่าย เพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ โดยเฉพาะการสนับสนุน รูเบน อโมริม กุนซือของทีม รวมถึงการวางแผนสร้างสนามใหม่

ปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่มี จำนวนพนักงานมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยมีเจ้าหน้าที่ราว 1,112 คน ขณะที่คู่แข่งร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีพนักงานเพียง 520 คน เท่านั้น

ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ

แม้จะมีรายงานว่าแผนการปลดพนักงานจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการจากสโมสร อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า แรตคลิฟฟ์ และ INEOS กำลังเดินหน้าปรับปรุงสโมสรทั้งในและนอกสนาม เพื่อให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งทั้งด้านกีฬาและการเงิน

“ฟาน ไดจ์ค” ผิดหวังทีม ตั้งคำถามการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน

0

เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีมลิเวอร์พูล แสดงความผิดหวังที่ทีมทำได้เพียง เสมอ 2-2 กับ เอฟเวอร์ตัน หลังจากถูกตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พร้อมตั้งคำถามเกี่ยวกับการตัดสินของผู้ตัดสินที่อาจมีส่วนต่อรูปเกมช่วงท้าย

หลังจบเกมที่ กูดิสัน พาร์ก ซึ่งเป็นศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ ลิเวอร์พูลเกือบคว้าชัยได้จากการนำ 2-1 แต่สุดท้ายถูก เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ โขกตีเสมอในนาที 90+8 นอกจากนี้ เคอร์ติส โจนส์ ยังโดนใบแดงหลังมีปัญหากับ อับดูลาย ดูคูเร่ ขณะที่ อาร์เน่ สล็อต กุนซือหงส์แดงก็ถูกไล่ออกจากสนามเช่นกัน

ฟาน ไดจ์ค: “เสียประตูท้ายเกมน่าผิดหวัง แต่ต้องเดินหน้าต่อ”

เซ็นเตอร์แบ็กวัย 33 ปี ยอมรับว่า แม้ผลเสมอจะส่งผลกระทบต่อทีม แต่ลิเวอร์พูลต้องรีบกลับมาโฟกัสกับโปรแกรมหนักที่รออยู่

“มันเป็นเกมที่ยาก และเสียประตูช่วงท้ายแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมาก เราเห็นพวกเขาฉลองอย่างสุดเหวี่ยง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผลการแข่งขันนี้สำคัญกับพวกเขาแค่ไหน แต่สำหรับเรามันน่าผิดหวังจริงๆ ตอนนี้เราต้องรับมือกับผลการแข่งขันและเตรียมพร้อมสำหรับเกมกับ วูล์ฟส์ ต่อไป”

“เราอยู่ในจุดที่ดีแล้วหลังจากขึ้นนำ 2-1 แต่เรากลับไม่สามารถปิดเกมได้ เราต้องสู้ต่อไป และมันชัดเจนว่าวันนี้เราทำได้ไม่ดีพอที่จะเก็บสามแต้ม”

ตั้งคำถามการตัดสินของ ไมเคิล โอลิเวอร์

ฟาน ไดจ์ค ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ช่วงท้ายเกมที่มีการปะทะกันระหว่างนักเตะทั้งสองทีม พร้อมตั้งคำถามเกี่ยวกับการควบคุมสถานการณ์ของ ไมเคิล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินในเกมนี้

“มีการยั่วยุเกิดขึ้น และทุกคนในสนามก็เห็นชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น เราพยายามจัดการกับมันในฐานะทีม แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นเหตุการณ์วุ่นวาย มันไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ แต่นั่นคือสิ่งที่กรรมการต้องรับผิดชอบ และผมไม่แน่ใจว่าเขาควบคุมเกมได้ดีพอหรือเปล่า”

“ต้องโฟกัสที่ตัวเองและเดินหน้าต่อ”

ฟาน ไดจ์ค ย้ำว่าลิเวอร์พูลยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ และต้องไม่เสียสมาธิจากผลการแข่งขันที่น่าผิดหวัง

“เราต้องมุ่งมั่นต่อไปและมองไปข้างหน้า ทุกเกมจากนี้จะเป็นเกมที่ยากจนกว่าจะจบฤดูกาล เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีและต้องพยายามเดินหน้าต่อไป”

“แฟนบอลควรโฟกัสที่เรา ไม่ต้องสนใจเสียงรอบข้าง เราจะสู้จนถึงที่สุด และเมื่อฤดูกาลจบลง เราจะมาดูกันว่ามันเพียงพอหรือไม่”

แม้จะพลาดสามแต้มในดาร์บี้แมตช์ แต่ ลิเวอร์พูลยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ โดยพวกเขาจะต้องเตรียมตัวสำหรับเกมถัดไปกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของทีมในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล

“คอลลิน่า” เสนอเปลี่ยนกฎจุดโทษ ห้ามยิงซ้ำหากพลาด

0

ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินของฟีฟ่า เสนอแนวคิดใหม่เกี่ยวกับการยิงจุดโทษ โดยต้องการ ห้ามผู้เล่นตามซ้ำ หากยิงไม่เข้า เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมให้กับผู้รักษาประตู

อดีตผู้ตัดสินระดับตำนานวัย 65 ปี ซึ่งเคยทำหน้าที่ในนัดชิงชนะเลิศทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ฟุตบอลโลก มองว่ากฎปัจจุบันเอื้อให้ผู้เล่นฝั่งรุกได้เปรียบมากเกินไป และเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความสมดุลในการแข่งขัน

เหตุผลที่ต้องเปลี่ยนกฎจุดโทษ

คอลลิน่า อธิบายว่า “โดยปกติแล้ว จุดโทษถือเป็นโอกาสทำประตูที่สูงมาก และโดยเฉลี่ยแล้ว มีโอกาสยิงเข้าถึง 75% ตั้งแต่จังหวะแรก แต่ที่สำคัญคือ หากผู้รักษาประตูเซฟไว้ได้ ทีมรุกยังมีโอกาสตามซ้ำ ซึ่งในมุมมองของผม มันเป็นสิ่งที่ควรถูกทบทวน”

ข้อเสนอใหม่: ยิงครั้งเดียวจบเหมือนดวลจุดโทษ

เขาเสนอให้ปรับเปลี่ยนกฎโดยห้ามทีมรุกตามซ้ำ หากยิงไม่เข้าหรือถูกเซฟ ผู้รักษาประตูจะได้เริ่มเกมใหม่ด้วยการตั้งเตะจากเส้นประตู

“ผมได้หารือเรื่องนี้กับ IFAB แล้ว และแนวทางที่ดีที่สุดคือ ให้จุดโทษเป็นโอกาสยิงครั้งเดียว เหมือนการดวลจุดโทษหลังต่อเวลาพิเศษ หากยิงไม่เข้าหรือถูกเซฟ เกมต้องหยุดทันที”

“นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังช่วยลดสถานการณ์ที่นักเตะจำนวนมากเข้าไปปักหลักรอบกรอบเขตโทษเพื่อรอโอกาสซ้ำจังหวะยิงจุดโทษ ซึ่งเป็นภาพที่เราเห็นบ่อยครั้งในเกมฟุตบอล”

ข้อเสนอนี้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกฎของฟุตบอล และต้องรอดูว่า IFAB จะพิจารณาแนวคิดนี้อย่างไรในอนาคต

เป๊ปยอมรับพลาดเอง เร่งเกมเกินไปทำให้แพ้ มาดริด

0

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่าการตัดสินใจของเขามีส่วนทำให้ทีมพ่าย เรอัล มาดริด หลังจากเร่งเกมมากเกินไปในช่วงท้าย ส่งผลให้ จู๊ด เบลลิงแฮม ซัดประตูชัยให้ ราชันชุดขาว พลิกแซงชนะในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ นัดแรก

เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำก่อนถึงสองครั้งจากการทำประตูของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ แต่สุดท้ายถูก เรอัล มาดริด แซงกลับมาเป็น 3-2 ทำให้ทีมจากสเปนกุมความได้เปรียบก่อนจะกลับไปเล่นที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในนัดที่สอง วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์

เป๊ปเผยสาเหตุพ่ายเกมนี้ เพราะเร่งเกมเร็วเกินไป

หลังจบเกม กวาร์ดิโอล่า ให้สัมภาษณ์กับ Amazon Prime ว่า “เราทำพลาดหลายครั้งในฤดูกาลนี้ และวันนี้ก็เช่นกัน ผมรู้ว่า เรอัล มาดริด เป็นทีมที่มีคุณภาพสูง เราพยายามเร่งเกมในครึ่งหลังและโจมตีเร็วเกินไป ซึ่งเป็นความผิดพลาดใหญ่ เพราะพวกเขาพร้อมลงโทษทุกจังหวะที่ผิดพลาด”

“มันไม่ใช่แค่ปัญหาของนักเตะหรือทีม แต่เป็นเรื่องของทุกคนในสโมสร ผมยอมรับความผิดพลาดนี้”

“ผมต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อช่วยให้ทีมรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้ ปีนี้ผมต้องยอมรับว่า บางครั้งเราสู้คู่แข่งไม่ได้ และผมยังไม่ดีพอที่จะทำให้ทีมมีสมาธิและจัดการเกมให้ดีกว่านี้”

“ความรับผิดชอบเป็นของเราทุกคน ไม่ใช่แค่นักเตะ ผมสามารถโทษพวกเขาได้ แต่มันไม่มีประโยชน์ เพราะสุดท้ายแล้ว ผมคือตัวหลักที่ต้องรับผิดชอบ”

แมนฯ ซิตี้ ต้องบุกไปคว่ำมาดริดเพื่อเข้ารอบ

ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้สถานการณ์ของ แมนฯ ซิตี้ ยากขึ้น เพราะพวกเขาจะต้องบุกไปเอาชนะ เรอัล มาดริด ในเกมเลกสอง หากต้องการผ่านเข้ารอบต่อไป

กวาร์ดิโอล่ากล่าวเพิ่มเติมว่า “แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่เราต้องฟื้นตัวให้เร็วที่สุด ตอนนี้ผมต้องโฟกัสไปที่เกมกับ นิวคาสเซิ่ล ในพรีเมียร์ลีกวันเสาร์นี้ ก่อนที่เราจะเดินทางไปเบร์นาเบวเพื่อทำให้ดีที่สุด”

ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสไตล์เกาหลีเหนือ!

0

38 North เว็บไซต์วิเคราะห์สถานการณ์ในเกาหลีเหนือของ Stimson Center สถาบันวิจัยจากสหรัฐฯ เปิดเผยว่า พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ถูกถ่ายทอดในเกาหลีเหนือช้ากว่าความเป็นจริงถึง 5 เดือน โดยแต่ละแมตช์จะถูกตัดลดจาก 90 นาที เหลือเพียง 60 นาที และที่สำคัญ มี 3 ทีมที่ถูกตัดออกจากการออกอากาศ

ตามรายงานของ 38 North ทีมที่ไม่ได้รับการถ่ายทอดในเกาหลีเหนือ ได้แก่

  • ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (ซน ฮึง-มิน)
  • วูล์ฟแฮมป์ตัน (ฮวาง ฮี-ชาน)
  • เบรนท์ฟอร์ด (คิม จี-ซู)

เหตุผลที่ทั้งสามทีมถูกแบนจากการออกอากาศ คาดว่าเป็นเพราะมี นักเตะชาวเกาหลีใต้ อยู่ในทีม ซึ่งอาจเป็นเหตุผลด้านนโยบายของทางการเกาหลีเหนือ

เกมแรกของฤดูกาลถูกถ่ายทอดล่าช้าเกือบครึ่งปี

พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024/25 เปิดฉากเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 แต่เกมแรกที่ถูกนำมาออกอากาศในเกาหลีเหนือคือ ลิเวอร์พูล ชนะ อิปสวิช 2-0 ซึ่งแข่งขันกันตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2024 แต่เพิ่งถูกถ่ายทอดให้ชาวเกาหลีเหนือได้ชมเมื่อ 13 มกราคม 2025 หรือช้ากว่า 5 เดือน

นอกจากนี้ ยังมีการเซ็นเซอร์ โลโก้ของแบรนด์สินค้าต่างประเทศ ที่ปรากฏอยู่ในการแข่งขัน ทำให้ผู้ชมในเกาหลีเหนือได้รับชมเกมในรูปแบบที่ถูกตัดต่ออย่างหนัก

พรีเมียร์ลีกในเกาหลีเหนือ มีเพียง 21 เกมตลอดฤดูกาล

แม้ว่าพรีเมียร์ลีกจะถูกออกอากาศในเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ปี 2022 แต่จำนวนแมตช์ที่ได้รับชมยังมี ข้อจำกัดสูงมาก โดยฤดูกาลที่แล้ว มีการถ่ายทอดสดเพียง 21 เกม จากทั้งหมด 380 เกม เท่านั้น และบางเกมยังถูกนำมาฉายซ้ำ

อีกหนึ่งข้อสังเกตจาก 38 North คือ เกมที่มีผลต่อการตัดสินแชมป์ ไม่ถูกนำมาออกอากาศ ซึ่งหมายความว่าชาวเกาหลีเหนือ อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

แม้ล่าช้าและถูกตัดต่อ แต่แฟนบอลยังคงติดตาม

แม้ว่าแฟนบอลในเกาหลีเหนือจะได้รับชมการแข่งขันแบบล่าช้า มีการเซ็นเซอร์ และถูกตัดต่อให้เหลือเพียง 60 นาที แต่รายงานระบุว่า สถานีโทรทัศน์ของรัฐ (KCTV) ยังคงได้รับความนิยมจากแฟนฟุตบอลส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นช่องทางเดียวที่สามารถรับชมเกมพรีเมียร์ลีกได้ แม้ว่าจะไม่มีการซื้อลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการก็ตาม

การออกอากาศพรีเมียร์ลีกในเกาหลีเหนือยังคงเป็น “ปริศนา” ว่า KCTV ได้ภาพฟุตเทจมาอย่างไร เนื่องจากพวกเขา ไม่ได้มีลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลอังกฤษ แต่ก็ยังสามารถออกอากาศได้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2022

แม็คโทมิเนย์ ฟอร์มแรง! ยิงในลีกมากกว่ากองหน้าแมนยู

0

สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ อดีตกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังโชว์ฟอร์มร้อนแรงกับ นาโปลี หลังจากทำประตูในลีกได้มากกว่าสองกองหน้าของปีศาจแดงอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ และ โจชัว เซิร์กซี่ รวมกันในฤดูกาลนี้

หลังจากใช้เวลากว่า 20 ปี ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงทีมชุดใหญ่ และลงสนามไปมากกว่า 250 นัด แม็คโทมิเนย์ ตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งในกัลโช่ เซเรีย อา กับนาโปลีเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และกลายเป็นหนึ่งในตัวจบสกอร์ที่ดีที่สุดของทีม

แม็คโทมิเนย์ ผลงานเหนือสองกองหน้าผีแดง

กองกลางวัย 28 ปี ซัดไปแล้ว 7 ประตูจาก 23 นัดในทุกรายการ โดยในเกมล่าสุดที่พบกับ อูดิเนเซ่ เขายิงประตูที่ 6 ในเซเรีย อา ฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นสถิติที่เหนือกว่าผลงานรวมกันของ ฮอยลุนด์ และ เซิร์กซี่ ในพรีเมียร์ลีก

สำหรับ โจชัว เซิร์กซี่ หัวหอกทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ทำไปเพียง 3 ประตู ในลีก โดย 2 ประตูเกิดขึ้นในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนธันวาคม และหลังจากนั้นเขาก็ไม่สามารถทำประตูได้อีกเลย

ขณะที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าชาวเดนมาร์ก ทำไปเพียง 2 ประตู โดยหนึ่งในนั้นเกิดขึ้นในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-2 และเขากำลังเผชิญปัญหา ปืนฝืด 9 นัดติดต่อกัน

แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเร่งแก้ปัญหากองหน้าฝืด

จากผลงานของ ฮอยลุนด์ และ เซิร์กซี่ แสดงให้เห็นว่าปัญหาการจบสกอร์ยังคงเป็นเรื่องที่ รูเบน อาโมริม กุนซือของทีม ต้องหาทางแก้ไขโดยด่วน หากต้องการให้ปีศาจแดงกลับมาลุ้นพื้นที่ยุโรปในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล

ในขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังดิ้นรนเรื่องเกมรุก อดีตกองกลางของพวกเขาอย่าง แม็คโทมิเนย์ กลับกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ทำประตูได้สม่ำเสมอที่สุดของนาโปลี ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่แฟนบอลปีศาจแดงอาจไม่คาดคิดมาก่อน

สเปอร์ส เตรียมปล่อย ซน ฮึง-มิน และแนวรุกอีก 2 ราย

0

มีรายงานจาก Give Me Sports สื่อดังของอังกฤษว่า ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กำลังพิจารณาปรับโครงสร้างทีมครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยอาจปล่อยตัว ซน ฮึง-มิน พร้อมกับแนวรุกอีก 2 ราย เพื่อลดภาระค่าเหนื่อยที่สูงถึง 445,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และเปิดทางให้กับแนวทางใหม่ของสโมสร

ตามรายงานระบุว่า สเปอร์สกำลังตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของแนวรุก โดย ซน ฮึง-มิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเกมรุกทีม อาจถูกปล่อยตัวเพื่อให้สโมสรสามารถสร้างทีมที่มีความยืดหยุ่นและพัฒนาในระยะยาวได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีชื่อของ ริชาร์ลิซอน และ ติโม แวร์เนอร์ ที่อาจย้ายออกไปพร้อมกัน ซึ่งหากการปล่อยตัวทั้งสามเกิดขึ้น จะช่วยให้สโมสรประหยัดงบประมาณไปได้มหาศาล

สื่อดังยังมองว่า นี่เป็นหนึ่งในตัดสินใจที่สำคัญที่สุดของสเปอร์สในรอบหลายปี โดยเฉพาะกรณีของ ซน ฮึง-มิน ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีอิทธิพลมากที่สุดในทีมตั้งแต่ย้ายมาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในปี 2015 อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับความสนใจจากสโมสรอื่นที่ต้องการดึงตัวแข้งเกาหลีใต้รายนี้ไปร่วมทีม

การตัดสินใจปล่อยนักเตะตัวหลักออกไปถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายสำหรับสเปอร์ส แต่ก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยให้ทีมพัฒนาไปสู่ทิศทางใหม่ในอนาคต แฟนบอลต้องรอดูว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลต่อทีมอย่างไรในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์

“ราชันบุกเรือใบ” เปิดศึกเพลย์ออฟ UCL นัดแรก

0

ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2024/25 รอบเพลย์ออฟน็อกเอาต์ นัดแรก คืนนี้จะเป็นเกมบิ๊กแมตช์ เมื่อ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เจ้าของแชมป์ยุโรป 15 สมัยจากลาลีกา สเปน

🔥 ความพร้อมก่อนเกม

เรอัล มาดริด เดินทางถึงเมืองแมนเชสเตอร์และลงฝึกซ้อมทันที พร้อมขุมกำลังแนวรุกสุดอันตราย นำโดย วินิซิอุส จูเนียร์, โรดริโก และ คีลิยัน เอ็มบัปเป อย่างไรก็ตาม แนวรับของทีมเจอปัญหาหนักเมื่อ อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดานี การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา และ ดาวิด อลาบา ต่างมีอาการบาดเจ็บและไม่ได้เดินทางมากับทีม ขณะที่ ลูก้า โมดริช, จู๊ด เบลลิงแฮม, เอดูอาร์โด กามาวินกา และ โอเรเลียง ชูอาเมนี ต้องระวังตัว เนื่องจากหากได้รับใบเหลืองเพิ่ม จะติดโทษแบนในเกมถัดไป

คาร์โล อันเชล็อตติ เฮดโค้ชมาดริด ยอมรับว่า “นี่เป็นเกมที่ยาก และใครก็ตามที่ผ่านเข้ารอบไปได้ มีโอกาสสูงที่จะไปถึงแชมป์”

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้รับข่าวดีเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ พร้อมคืนสนาม ส่วนกำลังหลักอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์, ฟิล โฟเด้น และ ยอชโก้ กวาร์ดิโอล พร้อมลงเล่นทั้งหมด ก่อนเกม เป๊ปยอมรับว่า ฤดูกาลนี้ทีมของเขาอาจเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ก็เป็นโอกาสดีในการพิสูจน์ตัวเอง “เราต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพื่อกลับไปสู่ฟอร์มที่ดีที่สุดให้ได้”

📅 โปรแกรมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก คืนนี้

00.45 น. แบรสต์ 🆚 เปแอสเช
03.00 น. แมนฯ ซิตี้ 🆚 เรอัล มาดริด
03.00 น. ยูเวนตุส 🆚 พีเอสวี
03.00 น. สปอร์ติง ลิสบอน 🆚 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

🔜 ศึกใหญ่ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ และ เรอัล มาดริด จะระเบิดความมันส์คืนนี้ 03.00 น. ตามเวลาไทย! 🚀🔥

ห้ามพลาด!