Home Blog Page 14

ยูเวนตุสขาด เบรเมอร์ เหมือนขาดใจ?

0

หลังจากกองหลังคนสำคัญของยูเวนตุสจะพลาดการลงสนามตลอดช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล หลังได้รับบาดเจ็บ ACL

ยูเวนตุสได้รับข่าวร้าย เมื่อกองหลังตัวเก่งอย่าง เบรเมอร์ ประสบอาการบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า (ACL) ซึ่งจะต้องพักฟื้นยาวจนจบฤดูกาลนี้

เบรเมอร์, ผู้เล่นทีมชาติบราซิลซึ่งได้รับหน้าที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม ที่บุกเยือนแอร์เบ ไลป์ซิก, ได้รับบาดเจ็บเพียง 10 นาทีแรกของเกม หลังปะทะกับ ลออิส โอเปนด้า และล้มลงในลักษณะผิดจังหวะ จนต้องรับการปฐมพยาบาลและถูกเปลี่ยนตัวออกทันที

รายงานระบุว่า เบรเมอร์มีอาการ ACL ฉีกขาด และยังพบความเสียหายที่หมอนรองกระดูกเข่าเพิ่มเติม ซึ่งทำให้จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดและใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อย 6-7 เดือน

ผลงานของ ยูเวนตุส ก่อนอาการบาดเจ็บของ เบรเม่ร์ :

  • 7 นัด เสีย 1 ประตู ยูเวนตุส

หลังอาการบาดเจ็บของ เบรเม่ร์ :

  • 6 นัด เสีย 10 ประตู

วิเคราะห์ก่อนเกม เลเวอร์คูเซ่น vs สตุ๊ตการ์ต

0

การแข่งขันที่น่าตื่นเต้นในศึกบุนเดสลีกา คืนนี้วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เมื่อเลเวอร์คูเซ่น ทีมอันดับสาม จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของสตุ๊ตการ์ตที่ตามมาติดๆในอันดับแปด สถานการณ์และฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีมกำลังอยู่ในช่วงเข้มข้น และมีโอกาสที่เกมนี้จะเป็นอีกหนึ่งนัดที่เต็มไปด้วยการยิงประตู

สภาพทีมและฟอร์มล่าสุด

เลเวอร์คูเซ่น ภายใต้การคุมทีมของ ชาบี อลอนโซ่ ทำผลงานได้ดีในฤดูกาลนี้ แม้จะจบเกมลีกล่าสุดด้วยผลเสมอกับ แวร์เดอร์ เบรเมน 2-2 แต่พวกเขายังคงมีความแข็งแกร่งจากเกมรุก โดยเฉพาะการทำประตูของ ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ ที่ถือเป็นตัวหลักของทีม แต่เลเวอร์คูเซ่นต้องพบกับปัญหานักเตะบาดเจ็บ โดยเฉพาะ อามีน อัดลี่ ที่ยังต้องพักยาว

ฝั่งสตุ๊ตการ์ต กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีเช่นกัน ล่าสุดพวกเขาชนะถึงสามเกมติดต่อกัน และกองหน้าอย่าง เดนิซ อุนดาฟ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในหลายเกมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องเสีย เซดริก ซาบอต กองหลังคนสำคัญไปจากการโดนแบนในเกมนี้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาผู้เล่นหลักบาดเจ็บอีกหลายราย ซึ่งจะเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับทีมเยือนในการเจาะเกมรับที่เหนียวแน่นของเจ้าบ้าน

คาดการณ์ 11 ตัวจริง

เลเวอร์คูเซ่น (4-2-3-1)

  • ผู้รักษาประตู: ลูคัส ฮราเดคกี้
  • กองหลัง: เจเรมี ฟริมปง (แบ็คขวา), โยนาธาน ตาห์, เอ็ดมอนด์ ทัปโซบา, ปิเอโร่ ฮินคาปี (แบ็คซ้าย)
  • กองกลางตัวรับ: กรานิต ชาก้า, โรเบิร์ต อันดริช
  • ตัวรุกสามคน: ฟลอเรียน เวียร์ทซ์ (กลางรุก), อเล็กซ์ กริมาลโด้ (ซ้าย), มาร์กแต็ง แตร์ริเย่ร์ (ขวา)
  • กองหน้า: วิคเตอร์ โบนิเฟซ

สตุ๊ตการ์ต (4-3-3)

  • ผู้รักษาประตู: อเล็กซานเดอร์ นูเบิล
  • กองหลัง: ปาสคาล สเตนเซล (แบ็คขวา), อตาคาน คาราซอร์, วัลเดมาร์ อันทอน, บอร์นา โซซา (แบ็คซ้าย)
  • กองกลาง: เอ็นโซ มิโญต์, วาตารุ เอ็นโดะ, คริส ฟูห์ริค
  • กองหน้าสามคน: ซิลาส คาตอมป้า เอ็มวุมป้า (ขวา), เดนิซ อุนดาฟ (กลาง), จิล ดิอัส (ซ้าย)

เลเวอร์คูเซ่นจะยังคงเน้นเกมรุกด้วยการเปิดบอลจากฟริมปงและกริมาลโด้ ขณะที่สตุ๊ตการ์ตอาจต้องการการคุมเกมกลางสนามจากเอ็นโดและมิโญต์ เพื่อหยุดเกมรุกที่หลากหลายของเลเวอร์คูเซ่น

แนวโน้มและการคาดการณ์

การแข่งขันนัดนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการยิงประตูมากกว่า 2.5 ลูก เนื่องจากเลเวอร์คูเซ่นมักมีสถิติการยิงประตูสูง และสตุ๊ตการ์ตก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเกมรุกของพวกเขามีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม เลเวอร์คูเซ่นยังถือเป็นทีมที่มีภาษีดีกว่าในการเล่นในบ้านของตน และคาดว่าจะเก็บสามแต้มสำคัญได้

สกอร์ที่คาดการณ์: เลเวอร์คูเซ่น 3-1 สตุ๊ตการ์ต

วิเคราะห์เหตุผล โรดรี้ คว้ารางวัลบัลลังดอร์ 2024

0

โรดรี้, กองกลางแมนเชสเตอร์ซิตี้และทีมชาติสเปน, สร้างปรากฏการณ์ในวงการฟุตบอลจนสามารถคว้ารางวัลบัลลังดอร์ปี 2024 ไปครอง สาเหตุที่โรดรี้ได้รับรางวัลนี้ไม่ใช่เพียงเพราะความสามารถในสนามเท่านั้น แต่ยังมาจากการเป็นหัวใจสำคัญของทั้งสโมสรและทีมชาติ

โรดรี้มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของซิตี้ ทั้งการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และยูโร 2024 กับทีมชาติสเปน ความสามารถในการอ่านเกมและการคุมจังหวะบอลที่แม่นยำ ทำให้โรดรี้กลายเป็นผู้เล่นที่ทีมขาดไม่ได้ รวมถึงสถิติการครองบอลและแย่งบอลที่โดดเด่น ช่วยสร้างความสมดุลให้ทีมได้อย่างน่าประทับใจ

โรดรี้: บทวิเคราะห์เชิงลึกว่าทำไมเขาถึงคว้าบัลลงดอร์ปี 2024

1. บทบาทในทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ โรดรี้คือหัวใจของแดนกลางซิตี้ในฤดูกาลที่ผ่านมานี้ ทั้งเกมรับและเกมรุก เขาช่วยคุมจังหวะเกม, ป้องกันแนวหลัง และสนับสนุนการขึ้นเกมจากกลางสนามไปสู่แนวหน้า สถิติที่โดดเด่นในการแย่งบอลและส่งบอลทำให้เขาเป็นมิดฟิลด์ที่เพอร์เฟกต์สำหรับสไตล์การเล่นที่ซิตี้ต้องการ โดยเฉพาะในระบบการเล่นแบบ “Positional Play” ที่ต้องการการยืนตำแหน่งที่ชัดเจนและการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม

2. ความสำเร็จร่วมกับทีมชาติสเปน โรดรี้คือกุญแจสำคัญในการพาสเปนคว้าแชมป์ยูโร 2024 เขามีบทบาทมากทั้งในการตัดเกมและการกระจายบอลในแดนกลาง ช่วยสร้างโอกาสให้ทีมสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่องและทำลายเกมของฝ่ายตรงข้าม เขามีการส่งบอลที่แม่นยำสูงและความนิ่งซึ่งช่วยให้ทีมสามารถรักษาสไตล์การเล่นในทุกสถานการณ์

3. ความมั่นคงและความสม่ำเสมอ โรดรี้เล่นทุกเกมอย่างสม่ำเสมอและมีความมั่นคงในการทำหน้าที่ นี่เป็นคุณสมบัติที่ทำให้เขากลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของผู้จัดการทีมอย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่า และได้รับการยอมรับจากทั้งแฟนบอลและสื่อมวลชนทั่วโลก ทั้งในด้านเทคนิคและสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับในฟุตบอลยุคนี้

4. ความสามารถเชิงรุกและการทำประตู แม้จะเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ โรดรี้มีความสามารถในการขึ้นมาเติมเกมรุกและทำประตูในจังหวะสำคัญหลายครั้ง เช่นประตูชัยในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่ทำให้ทีมซิตี้สามารถคว้าแชมป์ยุโรปได้ ความสามารถนี้ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ และเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีอิทธิพลต่อเกมในทุกจังหวะ

โคโม่ 1907 เปิดบ้านพบ ลาซิโอ ทีมเยือนลุ้นทำแต้มขึ้นท็อป 4

0

การแข่งขันระหว่าง โคโม่ 1907 และ ลาซิโอ ในวันที่ 31 ตุลาคม 2024 เป็นการเผชิญหน้าที่น่าสนใจในเซเรียอา โดยลาซิโออยู่ในฟอร์มที่ดีด้วยอันดับที่ 6 ในตารางลีกและมีสถิติที่แข็งแกร่งในการแข่งขันนัดล่าสุด ขณะที่โคโม่อยู่ที่อันดับ 13 และมีผลงานที่ยังคงไม่สม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม โคโม่มักมีความแข็งแกร่งในบ้าน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้

วิเคราะห์ก่อนเกม

ลาซิโอมีเกมรุกที่ดุดัน โดยเฉพาะการพึ่งพาความสามารถของ ชิโร่ อิมโมบิเล่ และมิดฟิลด์คนสำคัญอย่าง หลุยส์ อัลแบร์โต้ ที่สร้างสรรค์โอกาสให้ทีมได้ต่อเนื่อง โดยลาซิโอเฉลี่ยการทำประตูประมาณ 2.2 ลูกต่อเกม

ขณะที่โคโม่มีสถิติทำประตูเฉลี่ยประมาณ 1.3 ลูกต่อเกม การป้องกันของโคโม่อาจเป็นจุดอ่อน เมื่อเทียบกับลาซิโอที่มีสถิติการเสียประตูที่น้อยกว่าและการจัดการเกมรับที่ดีกว่า

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

โคโม่ (ระบบ 4-2-3-1):

  • เอมิล ออเดโร่ (ผู้รักษาประตู)
  • อิกเนซ ฟาน เดอร์ เบรมป์ (แบ็กขวา)
  • อัลแบร์โต ดอสเซน่า (เซ็นเตอร์แบ็ก)
  • มาร์ค-โอลิเวอร์ เคมปฟ์ (เซ็นเตอร์แบ็ก)
  • อัลเบร์โต้ โมเรโน่ (แบ็กซ้าย)
  • แซร์ฌี รูแบร์ตู (กองกลางตัวรับ)
  • มักซิโม เปร์โรเน (กองกลางตัวรับ)
  • นิโก ปัซ (ตัวรุก)
  • กาเบรียล สเตรเฟซซ่า (ปีกขวา)
  • ปาตริก กูโตรเน (กองหน้า)
  • อาเลียว ฟาเดรา (ปีกซ้าย)

ลาซิโอ (ระบบ 4-2-3-1):

  • อิวาน โปรเวเดล (ผู้รักษาประตู)
  • อดัม มารูซิช (แบ็กขวา)
  • มาริโอ จิลา (เซ็นเตอร์แบ็ก)
  • อเลสซิโอ โรมาญโญลี่ (เซ็นเตอร์แบ็ก)
  • นูโน ตาวาเรส (แบ็กซ้าย)
  • มาธิอัส เบซิโน่ (กองกลาง)
  • นิโคโล่ โรเวลล่า (กองกลาง)
  • แมตเทีย ซัคคาญี่ (ปีกซ้าย)
  • บูลายี ดิอา (ตัวรุก)
  • กุสตาฟ อิซัคเซ่น (ปีกขวา)
  • วาเลนติน กาสตีลลานอส (กองหน้า)

ลาซิโอมีโอกาสเป็นฝ่ายชนะมากกว่า เนื่องจากฟอร์มที่แข็งแกร่งและมีเกมรุกที่มีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม โคโม่อาจใช้ความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านเพื่อรับมือกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งเช่นลาซิโอ ทำให้มีโอกาสที่เกมนี้อาจจบด้วยผลเสมอหรือลาซิโอเฉือนชนะอย่างเฉียดฉิว

โคโม่ 1-2 ลาซิโอ

เจนัว เปิดบ้านพบ ฟิออเรนติน่า ฟิออหวังคว้าชัยขึ้นท็อป 4

0

การแข่งขันระหว่าง เจนัว และ ฟิออเรนติน่า ในเซเรีย อา วันที่ 31 ตุลาคม 2024 ถือเป็นเกมสำคัญสำหรับทั้งสองทีม เนื่องจากเจนัวต้องการคะแนนเพื่อหนีจากโซนท้ายตาราง ขณะที่ฟิออเรนติน่ากำลังอยู่ในฟอร์มที่แข็งแกร่งและมองหาโอกาสเก็บสามแต้มเต็มเพื่อลุ้นอันดับสูงขึ้นในตาราง

การวิเคราะห์ก่อนเกม

เจนัว มีฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอและเจอปัญหาแนวรับที่เสียประตูค่อนข้างมาก โดยพวกเขาไม่ชนะใครเลยใน 8 เกมหลังสุด แถมยังเสียประตูมากถึง 13 ลูกใน 4 เกมล่าสุด ทำให้พวกเขาต้องเน้นเกมรับเป็นพิเศษในเกมนี้

ฟิออเรนติน่า กำลังมีผลงานที่โดดเด่น โดยชนะ 5 นัดติดต่อกัน และทำประตูได้มากถึง 15 ลูกใน 3 เกมหลังสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในเกมรุก พวกเขาจะพึ่งพาการเล่นเกมบุกที่รวดเร็วและประสิทธิภาพของผู้เล่นตัวรุกอย่าง นิโคลัส กอนซาเลซ และ ลูก้า โยวิช

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

คาดการณ์รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง

เจนัว (ระบบ 4-3-3):

  • นิโกล่า เลอาลี่ (ผู้รักษาประตู)
  • อเลสซานโดร ว็อกเลียคโค่ (เซ็นเตอร์แบ็ก)
  • อาลัน มัตเตอร์โร (เซ็นเตอร์แบ็ก)
  • โยฮัน วาสเกซ (เซ็นเตอร์แบ็ก)
  • อเลสซานโดร ซาโนลี่ (วิงแบ็กขวา)
  • อารอน มาร์ติน (วิงแบ็กซ้าย)
  • อมิล โบฮีเนน (กองกลาง)
  • กัสตอน เปเรย์โร (กองกลาง)
  • มอร์เตน ทอชบี (กองกลาง)
  • ฟาบีโอ มีเรตติ (ตัวรุก)
  • อันเดรอา ปีนามอนติ (กองหน้า)​

ฟิออเรนติน่า (ระบบ 4-4-2):

  • เด เกอา (ผู้รักษาประตู)
  • โดโด (แบ็กขวา)
  • ปีเอโตร โคมุซโซ (เซ็นเตอร์แบ็ก)
  • ลูก้า ราเนียรี่ (เซ็นเตอร์แบ็ก)
  • โรบิน โกเซินส์ (แบ็กซ้าย)
  • ยาซีน อัดลี่(กองกลาง)
  • ดานิโล่ กาตัลดี้ (กองกลาง)
  • เอโดอาร์โด โบเว (กองกลาง)
  • อันเดรีย โคลปานี่ (กองกลาง)
  • โมอิเซ คีน (กองหน้า)
  • ลูคัส เบลทราน (กองหน้า)

คาดว่าเกมนี้ ฟิออเรนติน่า จะเป็นฝ่ายได้เปรียบเนื่องจากฟอร์มการเล่นที่ดีกว่าและศักยภาพในเกมรุกที่ดุดัน โดยมีโอกาสสูงที่จะเก็บชัยชนะจากเจนัวที่กำลังประสบปัญหาในแนวรับ

เจนัว 1-3 ฟิออเรนติน่า

ฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายครบแล้ว

0

ฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้ประกาศออกมาแล้ว โดยศึกที่น่าจับตามองที่สุดในรอบนี้คือการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าของรายการ จะต้องออกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน

การจับสลากในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อคัด 4 ทีมสุดท้าย โดย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะต้องบุกถิ่น “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน ส่วน “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด เจองานยากในการไปเยือน “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ที่ลอนดอน ด้าน “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล จะเปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ดิ อีเกิ้ลส์” คริสตัล พาเลซ ในศึกลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ส่วน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะเปิดรังเซนต์ เจมส์ ปาร์ค รับมือ เบรนท์ฟอร์ด

สรุปผลการจับสลากคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย:

  • ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  • อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ
  • นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พบ เบรนท์ฟอร์ด
  • เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ลิเวอร์พูล


สรุปผลคาราบาว คัพ อังกฤษ (30 ตุลาคม 2567)

0

ในการแข่งขันฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบที่สี่ เมื่อคืนวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา มีหลายเกมที่น่าตื่นเต้นและมีการพลิกล็อกที่สำคัญ โดยสโมสรยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกต่างลงสนามเพื่อชิงตำแหน่งในรอบต่อไป

  • สเปอร์ส สร้างเซอร์ไพรส์ เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ตีตั๋วเข้ารอบด้วยประตูจาก เจมส์ แมดดิสัน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้
  • ลิเวอร์พูล เอาชนะไบรท์ตัน 3-1 คว้าตั๋วเข้าสู่รอบลึกในศึกคาราบาว คัพ
  • คริสตัล พาเลซ เฉือนชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 จากการทำประตูของ เอเซ่ และ คามาดะ
  • อาร์เซน่อล เอาชนะ เปรสตัน นอร์ท เอนด์ 2-0 ด้วยฟอร์มเหนียวแน่น

ทีมใหญ่หลายทีมยังคงแข่งขันเข้มข้น เพื่อแย่งชิงตำแหน่งแชมป์ถ้วยใบนี้​

“ทำไม วินิซิอุส จูเนียร์ ถึงพลาดรางวัลบัลลงดอร์ 2024?

0

ทำไม วินิซิอุส จูเนียร์ ถึงพลาดรางวัลบัลลงดอร์ปี 2024? เจาะลึกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดาวรุ่งชาวบราซิลไม่ได้รับรางวัลใหญ่

ในปี 2024 วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinícius Júnior) ปีกดาวรุ่งของเรอัล มาดริด ได้สร้างผลงานโดดเด่นให้แฟนบอลทั่วโลกประทับใจ ความเร็วและทักษะการทำประตูที่เหนือชั้นทำให้เขากลายเป็นหัวใจหลักของทีมในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ถึงแม้จะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม วินิซิอุสก็ต้องพลาดรางวัลบัลลงดอร์ ซึ่งเป็นรางวัลที่แฟนๆ และนักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่าเขาจะคว้ามาครองได้ แต่เหตุใดเขาจึงพลาดโอกาสนี้? ลองมาวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุสำคัญในการตัดสินใจของผู้ลงคะแนนในปีนี้

1. ผลงานที่ไม่ได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่องในระดับนานาชาติ

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้วินิซิอุส จูเนียร์ เสียคะแนนโหวตคือการขาดผลงานที่โดดเด่นในระดับทีมชาติ แม้ว่าเขาจะเป็นกำลังหลักของทีมชาติบราซิลในการแข่งขันรายการใหญ่ เช่น โคปาอเมริกาและฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แต่เขายังไม่สามารถพาบราซิลไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ และในบางแมตช์สำคัญเขาอาจยังขาดความต่อเนื่องในผลงานที่คาดหวัง

2. ความสม่ำเสมอในการทำประตู

วินิซิอุสโดดเด่นในด้านการสร้างโอกาส แต่ถ้าพูดถึงการทำประตู ผลงานของเขายังถือว่าต่ำกว่าเพื่อนร่วมทีมในลีกอื่นๆ ที่เข้าชิงบัลลงดอร์ เช่น เออร์ลิง ฮาลันด์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่มีสถิติการทำประตูที่สูงกว่า การขาดการทำประตูที่สม่ำเสมออาจทำให้ผู้ลงคะแนนรู้สึกว่าวินิซิอุสยังไม่ถึงขั้นผู้เล่นที่สมควรได้รับรางวัลบัลลงดอร์

3. การแข่งขันจากคู่แข่งที่มีฟอร์มการเล่นสุดแกร่ง

ปี 2024 มีผู้เล่นระดับท็อปหลายคนที่ฟอร์มโดดเด่นในหลายลีก ทั้งฮาลันด์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำสถิติการทำประตูในพรีเมียร์ลีกและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอย่างไม่หยุดหย่อน รวมถึงเอ็มบัปเป้ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในลีกเอิงและทีมชาติฝรั่งเศส การแข่งขันที่ดุเดือดทำให้คะแนนเสียงกระจายไปยังผู้เล่นคนอื่นมากขึ้น วินิซิอุสอาจขาดโชคในแง่ของกระแสและความโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งในรายการใหญ่

4. การบาดเจ็บและความสม่ำเสมอในฤดูกาลสโมสร

วินิซิอุสต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บระหว่างฤดูกาล ทำให้เขาพลาดเกมสำคัญและมีช่วงเวลาที่ฟอร์มตกอยู่บ้าง ขณะที่เรอัล มาดริดพยายามทำผลงานในลาลีกาและแชมเปียนส์ลีก การหายไปของวินิซิอุสทำให้ทีมสูญเสียความต่อเนื่องในเกมรุก แม้ว่าเขาจะกลับมาได้และช่วยทีมได้ในหลายแมตช์ แต่การบาดเจ็บนั้นทำให้เขาเสียโอกาสในการสร้างสถิติที่ต่อเนื่องและยาวนาน

5. การตัดสินใจในแนวทางการเล่นที่ส่งผลต่อการสร้างสถิติ

ฟอร์มการเล่นของเรอัล มาดริดที่มีโค้ชใหม่และปรับระบบทีมบ่อยครั้งทำให้สไตล์การเล่นของทีมเปลี่ยนไป และส่งผลกระทบต่อการเล่นของวินิซิอุส เขาถูกปรับบทบาทให้เป็นผู้เล่นที่ต้องเน้นการเชื่อมเกมในแนวกว้างมากขึ้น ซึ่งอาจลดจำนวนการยิงประตูและสถิติส่วนตัวลงเมื่อเทียบกับผู้เล่นที่ได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการทำประตูในทีมอื่นๆ

บทสรุป

แม้ว่าวินิซิอุส จูเนียร์จะโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในหลายด้าน แต่หลายปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เขาพลาดรางวัลบัลลงดอร์ในปี 2024 การแข่งขันที่เข้มข้นในปีนี้และความไม่สม่ำเสมอในบางช่วงเวลาทำให้เขาไม่ได้รับรางวัลที่หลายคนคาดหวัง อย่างไรก็ตาม วินิซิอุสยังคงเป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพสูง และมีโอกาสคว้ารางวัลบัลลงดอร์ในอนาคต หากเขาสามารถพัฒนาฟอร์มการเล่นให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เรอัล มาดริด แจงเหตุงานบัลลงดอร์

0

เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งลา ลีกา สเปน ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่มีผู้แทนของสโมสรเข้าร่วมงานประกาศรางวัลบัลลงดอร์ ประจำปี 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในคืนวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคมนี้

นักข่าวคนดัง ฟาบริซิโอ โรมาโน รายงานว่าการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ วินิซิอุส จูเนียร์ ทราบล่วงหน้าแล้วว่าเขาจะไม่ได้รับรางวัล โดยผู้ชนะในปีนี้ตกเป็นของ โรดรี้ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นเหตุผลให้วินิซิอุส รวมถึงคาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีม ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร และ จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางชาวอังกฤษ ไม่เข้าร่วมงานนี้ด้วย

เรอัล มาดริด แถลงเพิ่มเติมถึงสาเหตุสำคัญที่ปฏิเสธการเข้าร่วมงานว่าเกิดจากความไม่พอใจในเกณฑ์การตัดสินที่มองว่าไม่ยุติธรรม โดยระบุว่า “หากเกณฑ์การให้รางวัลไม่เห็นคุณค่าของ วินิซิอุส ผู้มีความสามารถ ควรจะยกให้ (ดานี่) การ์บาฆาล ด้วยเช่นกัน” พร้อมกล่าวเน้นย้ำว่า “การจัดรางวัลบัลลงดอร์ครั้งนี้ไม่เคารพสโมสร เรอัล มาดริด และเราจะไม่เข้าร่วมในงานที่ไม่แสดงความเคารพต่อเรา”

“Here we go!” รูเบน อโมริม คุมแมนยู

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินหน้าดึงตัว รูเบน อโมริม อย่างรวดเร็ว หลังจากที่สโมสรได้ตัดสินใจปลด เอริค เทน ฮาก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีแนวโน้มสูงที่กุนซือวัย 39 ปีจะตอบรับงานนี้ เนื่องจากเขามีความสนใจในการคุมทีมในพรีเมียร์ลีกมาอย่างยาวนาน หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีข่าวเชื่อมโยงกับ เวสต์แฮม และ ลิเวอร์พูล

ฟาบริซิโอ โรมาโน นักข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดนักเตะ ระบุว่า “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมจ่ายค่าฉีกสัญญา 10 ล้านยูโร เพื่อให้ อโมริม เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่” พร้อมกับยืนยันคำพูดสุดฮิตว่า “Here we go!”

ทั้งนี้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาได้รับการติดต่อจาก แมนฯ ยูไนเต็ด สำหรับการพูดคุยในการแต่งตั้ง อโมริม ขณะที่ตัว อโมริม เองก็ตอบรับข้อเสนอและแผนงานที่ทางสโมสรได้เสนอให้

ห้ามพลาด!