วันที่ 26 ตุลาคม 2567 แอสตัน วิลล่าจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของบอร์นมัธที่สนามวิลล่าพาร์ค โดยเกมนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทั้งสองทีมในการไต่ตำแหน่งในตารางพรีเมียร์ลีก วิลล่าซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับที่ 4 และมีคะแนน 17 แต้ม กำลังทำผลงานได้ดีด้วยการชนะ 4 จาก 6 นัดล่าสุดในลีก ขณะที่บอร์นมัธซึ่งรั้งอันดับ 11 มี 11 คะแนน แต่มีสถิติการเล่นเกมเยือนที่ไม่สู้ดีนัก แพ้ถึง 3 นัดจาก 5 เกมเยือนหลังสุด​

ความพร้อมของทีม

แอสตัน วิลล่าเพิ่งผ่านศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกมาด้วยชัยชนะเหนือนโบโลญญ่า 2-0 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังการทำเกมรุกที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การปรับสมดุลทีมหลังจากเกมยุโรปเป็นเรื่องท้าทาย คาดว่าอูไน เอเมรี่จะหมุนเวียนนักเตะ โดยมีโอลลี่ วัตคินส์และเลออน ไบลี่ย์นำเกมรุก ขณะที่จอห์น แม็คกินน์และยูริ ตีเลอมองส์ คาดว่าจะคุมเกมแดนกลาง​

ฝั่งบอร์นมัธเพิ่งสร้างความฮือฮาด้วยการชนะอาร์เซนอล 2-0 ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้ทีมเยือนในการรับมือแอสตัน วิลล่า แม้จะมีปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะบางราย เช่น อเล็กซ์ สก็อตต์ ที่บาดเจ็บเข่า บอร์นมัธภายใต้การคุมทีมของอันโดนี อิราโอล่าจะต้องเล่นด้วยความรัดกุมเพื่อรับมือกับวิลล่าที่ฟอร์มแข็งแกร่งในบ้าน​

การคาดการณ์

สถิติตัวต่อตัวแสดงให้เห็นว่าการแข่งขันระหว่างสองทีมนี้มักสูสี โดยเฉพาะการเล่นที่วิลล่าพาร์คที่เจ้าบ้านมีความได้เปรียบเล็กน้อย การทำนายจากหลายสำนักระบุว่าวิลล่ามีโอกาสคว้าชัยชนะสูงถึง 53% ในขณะที่บอร์นมัธมีโอกาสชนะอยู่ที่ 24% และมีโอกาสเสมอที่ 22% สำหรับการคาดการณ์สกอร์ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ วิลล่า 2-1 บอร์นมัธ หรือ 1-1 ขึ้นอยู่กับรูปเกมที่เกิดขึ้น

การแข่งขันพรีเมียร์ลีกระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเซาแธมป์ตันในวันที่ 26 ตุลาคม 2567 นี้ คาดว่าจะเป็นโอกาสที่ยอดทีมอย่างแมนฯ ซิตี้จะเก็บแต้มสำคัญในการไล่ล่าจ่าฝูงต่อจากลิเวอร์พูล การแข่งขันจะจัดขึ้นที่สนามเอทิฮัด สเตเดียม ซึ่งซิตี้ครองความได้เปรียบจากสถิติการเจอเซาแธมป์ตัน โดยทีมเยือนยังไม่ชนะในการเจอกันที่สนามนี้กว่า 11 นัดหลังสุด

สถานการณ์ทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดี โดยนัดล่าสุดพวกเขาถล่มสปาร์ตาปราก 5-0 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก อย่างไรก็ตาม เกมลีกล่าสุด เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าตัวเก่งของซิตี้ยังคงห่างหายจากการทำประตูในพรีเมียร์ลีกถึงสามนัดติดต่อกัน ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เขาไม่ทำประตูในลีกตั้งแต่ย้ายมา อย่างไรก็ตาม เขาพร้อมจะกลับมาทำประตูในเกมนี้เมื่อเจอเซาแธมป์ตันที่เกมรับอ่อนแอและเสียประตูมากในฤดูกาลนี้

สำหรับทีมเยือน เซาแธมป์ตันกำลังเผชิญปัญหาภายหลังการพ่ายแพ้ 3-2 ในเกมล่าสุดกับเลสเตอร์ พวกเขามีเพียงแต้มเดียวจากแปดนัดแรก และต้องการพลิกฟื้นฟอร์มอย่างเร่งด่วนในนัดนี้แม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายใหญ่ในการหยุดยั้งเกมบุกอันแข็งแกร่งของซิตี้

คาดการณ์การแข่งขัน

ผู้เชี่ยวชาญต่างให้แมนฯ ซิตี้เป็นฝ่ายชนะอย่างชัดเจน โดยคาดการณ์ว่าซิตี้จะสามารถครองเกมและใช้โอกาสเข้าทำได้อย่างเด็ดขาด ด้วยราคาต่อรองที่มากกว่า 1 ต่อ 10 สำหรับเจ้าบ้าน โอกาสที่จะเห็นสกอร์สูงยังมีสูงด้วย คาดว่าซิตี้อาจคว้าชัยชนะด้วยสกอร์ประมาณ 4-0 หรือมากกว่า

จากข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการคาดการณ์แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024-2025 นี่คือความน่าจะเป็นของแต่ละทีมในรูปแบบเปอร์เซ็นต์:

1. อาร์เซน่อล: 40%
   • อาร์เซน่อลได้รับการคาดหมายให้เป็นทีมเต็งในขณะนี้ เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม แม้มีอาการบาดเจ็บของนักเตะสำคัญ แต่ยังคงรักษาอันดับต้นๆ ของตารางได้​
2. แมนเชสเตอร์ ซิตี้: 35%
   • แม้จะมีปัญหาจากการบาดเจ็บของนักเตะสำคัญอย่าง เดอ บรอยน์ และ โรดรี้ แต่แมนฯ ซิตี้ ยังคงรักษาฟอร์มและเป็นทีมที่น่ากลัวที่สุดในช่วงท้ายฤดูกาล​
3. ลิเวอร์พูล: 25%
   • ลิเวอร์พูลอยู่ในฟอร์มที่แข็งแกร่งภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สล็อต และยังคงมีโอกาสท้าชิงแชมป์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหลังจากการเริ่มต้นฤดูกาลที่น่าประทับใจ

ทีมเหล่านี้มีความน่าจะเป็นสูงสุดในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องของฟอร์มการเล่นและปัจจัยอื่นๆ เช่น อาการบาดเจ็บของนักเตะ.

วิเคราะห์ก่อนเกม: FC ปอร์โต้ พบ ฮอฟเฟ่นไฮม์

การแข่งขันยูโรปาลีกในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ระหว่าง FC ปอร์โต้ และ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ที่สนาม เอสตาดิโอ โด ดราเกา เป็นแมตช์สำคัญในรอบแบ่งกลุ่มของทั้งสองทีม โดยปอร์โต้กำลังต้องการชัยชนะเพื่อยึดตำแหน่งในกลุ่ม ขณะที่ฮอฟเฟ่นไฮม์ต้องการกลับมาสู่ฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งหลังจากฟอร์มช่วงหลังไม่แน่นอนนัก

ปอร์โต้ มีผลงานที่ดีขึ้นในช่วงหลัง โดยเก็บชัยชนะได้หลายครั้งในเกมลีกและบอลถ้วย ล่าสุดเอาชนะ บราก้า 2-1 ในลีกโปรตุเกส และเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-3 ในยูโรปาลีก ทำให้ทีมของกุนซือ วิตอร์ บรูโน่ ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์กลุ่ม

ฮอฟเฟ่นไฮม์ ภายใต้การคุมทีมของ เปลเลกริโน มาตาราซโซ่ ก็ต้องการชัยชนะเช่นกันหลังจากเสมอและแพ้ในเกมบุนเดสลีกา โดยล่าสุดเสมอกับ สตุ๊ตการ์ท 1-1 และเอาชนะ ดินาโม เคียฟ 2-0 ในเกมยุโรป ฮอฟเฟ่นไฮม์ต้องหวังใช้จังหวะสวนกลับในการเยือนเกมนี้ ซึ่งพวกเขาจะต้องเผชิญกับการโจมตีที่แข็งแกร่งของปอร์โต้

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

FC ปอร์โต้ (4-2-3-1):

• GK: ดิโอโก้ คอสต้า
• RB: เจา มาริโอ
• CB: ดาวิด การ์โม
• CB: เปเป้
• LB: เวนเดล
• CM: สตีเฟน ยุสตากิโอ
• CM: โอตาวิโอ
• RW: เปเป้ อาควิโน่
• CAM: อลัน วาเรล่า
• LW: กาเลโน
• ST: เมห์ดี้ ทาเรมี่

ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-3):

• GK: โอลิเวอร์ เบามันน์
• CB: จอห์น บรู๊คส์
• CB: โอซาน คาบัค
• CB: เควิน โวกต์
• RM: พาเวล คาเดราเบค
• CM: อังเดรย์ ครามาริช
• CM: โฟลเรียน กริลลิตช์
• LM: โรเบิร์ต สคอฟ
• RW: อิลาส เบบู
• ST: วูท เว็กฮอร์สต์
• LW: จอร์จินิโอ รุตแตร์

การคาดการณ์ผลการแข่งขัน:

ปอร์โต้ น่าจะมีความได้เปรียบในการเล่นในบ้านและความสามารถในการครองบอล ขณะที่ ฮอฟเฟ่นไฮม์ อาจต้องพึ่งพาการสวนกลับ แต่ปอร์โต้มีแนวโน้มจะเก็บ 3 แต้มในนัดนี้ ด้วยการโจมตีที่หลากหลาย

คาดการณ์ผลการแข่งขัน: ปอร์โต้ 3-1 ฮอฟเฟ่นไฮม์

วิเคราะห์ก่อนเกม: ลียง พบ เบซิคตัส (ยูโรปาลีก)

วันที่ 25 ตุลาคม 2567 ลียงจะเปิดบ้านที่ กรูปาม่า สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ เบซิคตัส ในรอบแบ่งกลุ่มของ ยูฟ่า ยูโรปาลีก เกมนี้มีความสำคัญอย่างมากสำหรับทั้งสองทีม โดยลียงอยู่ในฟอร์มที่ค่อนข้างดีในยูโรปาลีก และต้องการเก็บชัยชนะเพิ่มเพื่อโอกาสเข้ารอบ ส่วนเบซิคตัสยังคงตามหาฟอร์มที่ดีที่สุดของพวกเขา หลังจากที่พ่ายแพ้ในนัดก่อนหน้านี้

ลียง ภายใต้การคุมทีมของ ฟาบิโอ โกรโซ่ มีฟอร์มที่แข็งแกร่งในบ้าน โดยพวกเขาชนะนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม แต่ฟอร์มในลีกภายในประเทศยังไม่คงที่นัก การทำประตูของ อเล็กซองดร์ ลากาแซ็ตต์ และ เรมี กาเบลล่า จะเป็นหัวใจสำคัญในการโจมตีของทีม

เบซิคตัส อยู่ในช่วงที่ยากลำบากในยูโรปาลีก พวกเขายังไม่สามารถเก็บแต้มได้ในรอบแบ่งกลุ่ม และฟอร์มในลีกตุรกีก็ไม่ดีเช่นกัน ผู้เล่นหลักอย่าง แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ และ จอร์จินโญ่ จะต้องสร้างความแตกต่างเพื่อให้ทีมมีโอกาสได้แต้มจากนัดนี้

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

ลียง (4-3-3):

• GK: อ็องโตนี่ โลเปส
• RB: ซาโลมง เอ็นดอมเบ
• CB: เดยัน ลอฟเรน
• CB: ไซนาลี เดมบ้า
• LB: นิโกลัส ตาเกลียฟิโก้
• CM: มักซ็องซ์ กาเกเรต์
• CM: โยฮัน เลเปน็องต์
• CAM: เรมี กาเบลล่า
• RW: โรแม็ง ฟาฟร์
• LW: ไรอัน แชร์กี
• ST: อเล็กซองดร์ ลากาแซ็ตต์

เบซิคตัส (4-4-2):

• GK: มาร์คุส เอลียาส
• RB: วาเลนติน โรซิเยร์
• CB: อันเต้ เรบิช
• CB: โอมาร์ โกลสัน
• LB: อาร์เธอร์ มาซูอากู
• CM: อิสมาเอล ยูคูซู
• CM: ซาลีห์ อูคาน
• RW: ราชิด เกซซาล
• LW: เคนาน คารามาน
• ST: แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์
• ST: จอร์จินโญ่

การคาดการณ์ผลการแข่งขัน:

ลียงมีความได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน และฟอร์มการเล่นของทีมก็ดีกว่าเบซิคตัสเล็กน้อย

ลียงคว้าชัยชนะได้ด้วยสกอร์ 2-1

โชเซ่ มูรินโญ่จะพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง ในคืนวันพฤหัสบดี เมื่อเฟเนร์บาห์เช่ของเขา ต้อนรับปีศาจแดงที่สนามกีฬาซูครู ซาราโคกลู ในเกมยูโรปาลีก ทั้งสองทีมพบกันครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 เมื่อมูรินโญ่คุมแมนฯยูไนเต็ด และพ่ายแพ้ 2-1 ให้กับยักษ์ใหญ่แห่งตุรกีในรอบแบ่งกลุ่มยูโรปาลีก

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาคว้าชัยชนะ 2-1 เหนือเบรนท์ฟอร์ดในพรีเมียร์ลีก ยุติสถิติไม่ชนะใคร 5 เกมติดต่อกัน แม้จะตามหลังจากลูกโหม่งของอีธาน พินน็อคในครึ่งแรก แต่ยูไนเต็ดตีเสมอได้จากวอลเลย์ของอเลฮานโดร การ์นาโช่ ก่อนที่ราสมุส ฮอยลุนด์จะยิงประตูชัยได้ เทน ฮากยังยอมรับถึงความกดดันที่มาพร้อมกับการคุมทีมใหญ่เช่นนี้ โดยทีมของเขารั้งอันดับ 12 ห่างจากท็อปโฟร์ 6 แต้ม ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าสู่ยูโรปาลีกเพื่อคว้าชัยชนะนัดแรกของฤดูกาล หลังเสมอสองนัดแรก ผลงานในยุโรปช่วงหลังของยูไนเต็ดไม่ดีนัก ชนะเพียงนัดเดียวจาก 10 เกมหลังสุด และไม่ชนะ 5 เกมติดต่อกัน

นับตั้งแต่เข้ามาคุมเฟเนร์บาห์เชในเดือนมิถุนายน โชเซ่ มูรินโญ่พาทีมชนะ 8 นัด เสมอ 4 และแพ้เพียง 2 จาก 14 เกมแรกในทุกรายการ โดยไม่แพ้ใครมา 4 นัดติดต่อกัน แม้จะเสมอ 2-2 กับซัมซุนสปอร์ในซูเปอร์ลีกตุรกีเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว หลังเสียประตูท้ายเกม มูรินโญ่แสดงความหงุดหงิดกับสื่อหลังเกมและยืนยันให้หยุดวิจารณ์การเลือกทีมของเขา ขณะนี้เฟเนร์บาห์เชรั้งอันดับ 4 ตามหลังจ่าฝูงกาลาตาซาราย 8 แต้ม แต่มีเกมในมือน้อยกว่า 1 นัด ในยูโรปาลีก เฟเนร์บาห์เชเริ่มต้นได้ดีด้วยการเก็บ 4 แต้มจาก 2 เกมแรก โดยพวกเขาหวังสานต่อผลงานไม่แพ้ใครในรายการนี้ 7 นัดติดต่อกัน

ข่าวทีมล่าสุด

เจย์เดน ออสเตอร์โวลเด แบ็กซ้ายของเฟเนร์บาห์เช ได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าฉีกขาดจากเกมที่พบกับซัมซุนสปอร์ และจะต้องเข้ารับการรักษาพร้อมกับผู้เล่นบาดเจ็บคนอื่นๆ อย่างเซนกิซ อุนเดอร์, อิสมาอิล ยุกเซค, ไบรท์ โอซายี-ซามูเอล และอิรฟาน คาน เอกริบายัต ขณะที่ ฟิลิป คอสติช, โอกุซ อายดิน, บาร์ทูก เอลมาซ และเลเวนต์ เมอร์คาน ต่างไม่ได้อยู่ในทีมชุดยูโรปาลีกของสโมสร ด้วยการขาดออสเตอร์โวลเด มูรินโญ่ อาจต้องเลือกใช้ เมิร์ต เมิลเดอร์ หรือ เฟร็ด ในตำแหน่งแบ็กซ้าย ส่วน อเล็กซานเดอร์ ชีกู อาจถูกโยกไปเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาถ้าเฟร็ดไม่ได้ถูกส่งไปเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย เขาอาจถูกวางตัวในแดนกลางร่วมกับโซเฟียน อัมราบัต ขณะที่อัลลัน แซงต์-มักซิแมงอาจลงเล่นแทนฟิลิป คอสติชทางฝั่งซ้าย ในแดนหน้า ยูเซฟ เอ็น-เนซีรี และ เอดิน เจโก้ จะแข่งขันกันเพื่อเป็นตัวเลือกกองหน้า

ส่วนทางฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าหลายคนจะกลับมาซ้อมได้แล้ว แต่ยังมีผู้เล่นสำคัญอย่างแฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์, และไทเรลล์ มาลาเซีย ที่ยังต้องพักรักษาตัวต่อไป หากกาเซมิโร่ฟิตพอ เขาอาจได้ลงเล่นในแดนกลางร่วมกับมานูเอล อูการ์เต้ และคริสเตียน เอริคเซ่นอาจรับบทหมายเลข 10 แทนบรูโน่ แฟร์นันเดส

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

เฟเนร์บาห์เช่
ลิวาโควิช, จิกู, โซยุนชู, เบเคา, มัลดูร์, อัมราบัต, เฟร็ด, ทาดิช, ชีมันสกี้, แซงต์-มักซิมิน, เอน-เนซีรี

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โอนาน่า; มาซราอุย, เดอ ลิกต์, มาร์ติเนซ, ดาโลต์; อูการ์เต, คาเซมิโร่; การ์นาโช่, อีริคเซ่น, แรชฟอร์ด; ฮอยลุนด์

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

การแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองทีมที่ไม่ได้มีกำลังเต็มร้อยอาจเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ และยังคาดว่าจะมีประตูเกิดขึ้นด้วยเมื่อพิจารณาจากผลงานการป้องกันที่ไม่สม่ำเสมอของทั้งสองสโมสรในแมตช์ล่าสุด

แมนฯยูไนเต็ดยังไม่ชนะเกมเยือนในลีกยุโรปมา 4 นัดติดต่อกันแล้ว แม้จะยิงได้ 3 ประตูใน 4 นัดก็ตาม ด้วยเหตุนี้ เราคงเห็นลูกทีมของมูรินโญ่ยืนหยัดและเก็บแต้มให้ได้อย่างน้อย 100 แต้มในอิสตันบูล

เฟเนร์บาห์เช่ 3-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สองทีมที่กำลังแสวงหาชัยชนะนัดแรกในยูโรปาลีก ฤดูกาลนี้ จะต้องปะทะกันที่สตาดิโอ โอลิมปิโก้ ในวันพฤหัสบดี โดยโรม่าจะเป็นเจ้าบ้านพบกับดินาโม เคียฟ แม้ว่า โรม่า จะพ่ายแพ้อย่างยับเยินในสวีเดนเมื่อเกมล่าสุด แต่คู่แข่งจากยูเครนกลับพ่ายแพ้เป็นนัดที่สองติดต่อกัน ดังนั้นทั้งสองทีมต้องการคะแนนเพื่อเริ่มไต่อันดับตารางคะแนนในลีก

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่งด้วยการชนะสองเกมในลีกภายใต้การคุมทีมของอีวาน ยูริช และเสมอกับแอธเลติก บิลเบาในเกมยูโรปาลีก โรม่าก็กลับมาพบกับฟอร์มที่ต่ำกว่ามาตรฐานในเดือนตุลาคม โดยแพ้เอลฟ์สบอร์ก 1-0 แม้ว่าจะครองเกมได้เหนือกว่า พวกเขาเสมอกับมอนซ่า 1-1 ก่อนจะพ่ายอินเตอร์ มิลาน จากความผิดพลาดในเกมที่สูสี ผลงานที่ย่ำแย่นี้ทำให้โรมาไร้ชัยชนะสามเกมติด และมีข่าวลือว่า ยูริชอาจโดนปลดโดยมีดานิเอเล เด รอสซี่เป็นตัวแทน โรม่าต้องการยุติสถิติไม่ชนะ 4 นัดรวดในยูโรปาลีก และเกมพบดินาโมถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับยูริชในการกู้สถานการณ์

ดินาโมเริ่มต้นยูโรปาลีกอย่างยากลำบากด้วยการแพ้ลาซิโอ 3-0 ในเกมเปิดสนาม และตามมาด้วยการพ่ายฮอฟเฟ่นไฮม์ 2-0 ทำให้พวกเขาไม่มีแต้มจากสองนัดแรก ความหวังที่จะจบในอันดับท็อป 8 ของรอบลีกเริ่มเลือนลาง หลังจากพ่ายในเยอรมนี พวกเขาแพ้ 9 จาก 10 นัดหลังสุดในยูโรปาลีกและยังไม่สามารถทำประตูได้เลยในฤดูกาลนี้ ขณะที่ในพรีเมียร์ลีกยูเครน ดินาโมยังคงโชว์ฟอร์มแข็งแกร่ง โดยล่าสุดเอาชนะเอฟซี โอโบลอน 5-1 นำเป็นจ่าฝูงของลีก

ข่าวทีมล่าสุด

หลังจากพ่ายแพ้ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและก่อนเกมเยือนฟิออเรนติน่าในวันอาทิตย์ อีวาน ยูริช กุนซือโรม่าเตรียมหมุนเวียนผู้เล่นสำหรับเกมยูโรปาลีก โดยมีเพียงสเตฟาน เอล ชาราวีและอเล็กซิส ซาเลมาเกอร์สที่ยังบาดเจ็บ ขณะที่เอนโซ เลอฟี กองกลางฝรั่งเศสหายจากอาการบาดเจ็บและพร้อมเป็นตัวเลือก มัตส์ ฮุมเมิลส์ อาจได้ลงสนามเป็นครั้งแรกในแนวรับ ส่วนมาติอัส ซูเล่มีโอกาสแทนที่เปาโล ดิบาล่าในแนวรุก

ด้านดินาโมจะขาดมักซิม บราการูที่ยังติดโทษแบน และนาซาร์ โวโลชินน่าจะได้ลงเล่นทางปีกขวา

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

โรม่า
สวิลาร์, เอร์โมโซ, ฮุมเมิลส์, เอ็นดิกก้า, เซลิก, ปิซิลลี, คริสตันเต้, อังเจลิโน, ซูล, บัลดานซี, โชโมรูดอฟ

ดินาโม เคียฟ
บุชชาน; คาราวาเยฟ, โปปอฟ, มิคาฟโก, ดูบินชัค; บราจโก, มิโคเลนโก; โวโลชิน, บูยาลสกี้, คาบาเยฟ; วนาท

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

โรมาทำประตูได้ในเกมเหย้า 24 นัดติดต่อกันในศึกเซเรียอา ก่อนที่จะพ่ายแพ้ไป 1-0 ในวันอาทิตย์นี้ ดังนั้นพวกเขาน่าจะหาทางผ่านแนวรับที่สั่นคลอนของดินาโมให้ได้

ทีมเยือนไม่เพียงแต่ต้องดิ้นรนเพื่อปิดประตูหลังเท่านั้น แต่ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้เข้าข้างพวกเขาด้วยเช่นกัน สโมสรเคียฟชนะเพียงครั้งเดียวจากการเยือนอิตาลี 13 ครั้ง แม้ว่าจะเป็นชัยชนะ 3-0 เหนือโรมาในเดือนกันยายน 2004 

โรม่า 2-1 ดินาโม เคียฟ

ในวันพฤหัสบดีแอธเลติก บิลเบาจะต้อนรับสลาเวียปรากที่ซาน มาเมส สำหรับเกมที่สามของการแข่งขันยูโรปาลีก ทั้งสองฝ่ายจะพยายามรักษาสถิติไม่แพ้ใครในรอบแบ่งกลุ่มเอาไว้ให้ได้ หลังจากเก็บไปได้ 4 แต้มจาก 2 นัดแรก

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

แอธเลติก บิลเบา กำลังแข่งขันในรายการยุโรปเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2017-18 หลังจากจบอันดับที่ 5 ในลาลีกาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยมีความฝันที่จะไปถึงนัดชิงชนะเลิศที่ซาน มาเมส สนามเหย้าของพวกเขาในศึกยูโรปาลีก แอธเลติกเริ่มต้นฤดูกาลในยุโรปได้อย่างยอดเยี่ยม เก็บได้ 4 แต้มจากสองนัดแรก โดยเสมอกับโรม่า 1-1 ในอิตาลีจากประตูตีเสมอท้ายเกมของไอตอร์ ปาเรเดส และเอาชนะอาแซด อัลค์มาร์ 2-0 ในบ้านจากประตูของอินากิ วิลเลียมส์ และโออิฮาน ซานเซ็ตในครึ่งหลัง แม้จะแพ้ให้กับคิโรน่าในลีกหลังจากนั้น แต่แอธเลติกก็คืนฟอร์มด้วยการถล่มเอสปันญ่อล 4-1 โดยตอนนี้พวกเขาไม่แพ้ใครในบ้านมา 4 นัดติด (ชนะ 3 เสมอ 1) และเตรียมลงเล่นนัดถัดไปในวันพฤหัสบดีนี้ด้วยความหวังจะคว้าชัยในบ้านเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน

สลาเวีย ปราก เริ่มต้นการผจญภัยในยุโรปด้วยความหวังที่จะผ่านเข้ารอบเมนดรอว์ของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แต่ต้องผิดหวังหลังจากพ่ายลีลล์ 3-2 ในรอบเพลย์ออฟ ส่งผลให้พวกเขาต้องลงเล่นในยูโรปาลีกแทน อย่างไรก็ตาม สลาเวียฟื้นตัวได้ดี เริ่มต้นแคมเปญยูโรปาลีกโดยไม่แพ้ใครและรั้งอันดับ 9 นำหน้าแอธเลติก บิลเบาที่อันดับ 12 พวกเขาเอาชนะลูโดโกเร็ตส์ 2-0 และเสมอกับอาแจ็กซ์ 1-1 ในบ้าน ขณะที่ในลีกเช็ก สลาเวียชนะ 8 จาก 9 นัดหลังสุด รวมถึงการชนะสปาร์ต้า ปราก และยาโบลเนค ทำให้เป็นจ่าฝูงของลีกพร้อมคะแนนทิ้งห่างถึง 6 แต้ม

ข่าวทีมล่าสุด

แอธเลติก บิลเบา ยังคงขาดอูไน ซิมง ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนที่ยังไม่ได้ลงสนามในฤดูกาลนี้หลังจากผ่าตัดข้อมือ แต่พวกเขาได้มิเกล เวสก้า และโออิฮาน ซานเซ็ต กลับมาจากอาการบาดเจ็บ และไอตอร์ ปาเรเดสพ้นโทษแบนพร้อมกลับมาช่วยทีม ขณะที่อันโดนี โกโรซาเบลอาจได้ลงตัวจริงในแนวรับฝั่งขวา อินากิ วิลเลียมส์ กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี ยิง 4 ประตูและทำ 4 แอสซิสต์จาก 12 นัด

ฝั่งสลาเวีย ปราก มีผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย แต่แอนโทนิน คินสกี้จะได้เฝ้าเสาพร้อมแนวรับนำโดยโทมัส โฮลส์ และออสการ์ ดอร์ลีย์กับดาบิด ดูเดรา กลับมาลงสนามหลังพ้นโทษแบน

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

แอธเลติก บิลเบา
อกีร์เรซาบาลา; โกโรซาเบล, วิเวียน, ปาเรเดส, เบอร์ชิเช่; รุยซ์ เด กาลาเรต้า, เฮาเรจิซาร์; ไอ. วิลเลียมส์, แซนเซ็ต, เอ็น. วิลเลียมส์; กูรูเซต้า

สลาเวีย ปราก
คินสกี้; โฮลส์, ซีมา, บอริล; ดูเดรา, เพรบเซิล, ดอร์ลีย์, ดิยุฟ; ลิงเกอร์, โพรโวด, คอรี

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

สลาเวียพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นทีมที่ยากที่จะเอาชนะได้ในช่วงหลัง และเราคิดว่าพวกเขาจะให้แอธเลติกพบกับการทดสอบที่ยากในนัดยูโรปาลีกวันพฤหัสบดีนี้

อย่างไรก็ตาม แอธเลติก มีแนวโน้มที่จะเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่ซาน มาเมส และเราคิดว่าความได้เปรียบในบ้านจะช่วยให้พวกเขาคว้าชัยชนะอย่างหวุดหวิดในนัดที่สามได้

แอธเลติก บิลเบา 2-1 สลาเวีย ปราก

วิเคราะห์ก่อนเกม: สเปอร์ พบ AZ Alkmaar (ยูโรปาลีก)

ในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 สเปอร์สจะเปิดสนาม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ AZ Alkmaar ในศึกยูโรปาลีก แม้ว่าฟอร์มของสเปอร์สในลีกจะมีทั้งขึ้นและลง แต่พวกเขายังมีความมั่นใจจากการชนะ 4 ใน 5 เกมหลังสุด ส่วน AZ Alkmaar ฟอร์มล่าสุดไม่ดีนัก โดยแพ้ 4 นัดติดต่อกันในทุกรายการ

สเปอร์ส ภายใต้การคุมทีมของ แองจ์ โพสเตโคกลู นำทีมด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นเกมรุกและการครองบอลสูง โดยมีนักเตะดาวรุ่งอย่าง มิคกี้ มัวร์ และ อาร์ชี เกรย์ ที่คาดว่าจะได้ลงเล่นในเกมนี้ ขณะที่ตัวหลักอย่าง ซน ฮึง-มิน จะถูกพักเนื่องจากอาการล้า

AZ Alkmaar ยังคงพึ่งพาความสามารถของ รูเบน ฟาน บอมเมล ในเกมรุก แต่ทีมต้องการปรับปรุงเกมรับหลังจากเสียประตูหลายลูกในการแข่งขันที่ผ่านมา ทีมเยือนมีผู้เล่นตัวหลักหลายคนที่อาจไม่ฟิตสมบูรณ์ รวมถึงการขาดความแน่นอนในการทำประตูในช่วงหลังๆ

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

สเปอร์ส (4-3-3):

• GK: กูเยลโม่ วิคาริโอ
• RB: อาร์ชี เกรย์
• CB: คริสเตียน โรเมโร
• CB: ราดู ดรากูชิน
• LB: เดสตินี่ อูโดกี้
• CM: ปาเป้ ซาร์
• CM: โรดริโก้ เบนทานกูร์
• CM: เจมส์ แมดดิสัน
• RW: มิคกี้ มัวร์
• ST: ริชาร์ลิซอน
• LW: ติโม แวร์เนอร์

AZ Alkmaar (4-2-3-1):

• GK: อดัม อูวูซู
• RB: มาคูมะ
• CB: มักซี ปาเนตรา
• CB: ดีแคลน เด็กเกอร์
• LB: เดวิด มอลเลอร์ วูล์ฟ
• CM: จอร์ดี้ คลาซี่
• CM: คริสติยาน เบลิช
• RW: อิบราฮิม ซาดิก
• CAM: ซูเยน มายนันส์
• LW: รูเบน ฟาน บอมเมล
• ST: ทรอย แพร์รอตต์

คาดการณ์ผลการแข่งขัน:

สเปอร์สที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงน่าจะสามารถคว้าชัยเหนือ AZ Alkmaar ได้ในบ้าน

โดยเกมนี้อาจจะจบลงด้วยสกอร์ 3-1สำหรับสเปอร์ส

คืนนี้เป็นการแข่งขันสำคัญในรอบแบ่งกลุ่มของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกระหว่าง RB ไลป์ซิก และ ลิเวอร์พูล ที่สนามเร้ดบูลล์ อารีน่า (เมืองไลป์ซิก) ในเวลา 02:00 น. (ตามเวลาไทย) ซึ่งเกมนี้มีความสำคัญสำหรับทั้งสองทีมที่ต้องการรักษาความหวังในการผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์

วิเคราะห์ทีม: RB ไลป์ซิก หลังจากเริ่มต้นแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างยากลำบาก ไลป์ซิกแพ้ให้กับทั้งแอตเลติโก มาดริด และยูเวนตุส ซึ่งทำให้พวกเขายังไม่มีคะแนนจากสองนัดแรก ทำให้ทีมจากเยอรมันจำเป็นต้องเก็บแต้มในเกมนี้ หากต้องการอยู่ในการแข่งขันต่อไป ฟอร์มของไลป์ซิกในบุนเดสลีกาล่าสุดดีขึ้น หลังจากชนะไฮเดนไฮม์ และไมนซ์ ในบ้าน อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากับลิเวอร์พูลจะเป็นบททดสอบที่ยากลำบากอีกครั้ง

ลิเวอร์พูล: ลิเวอร์พูลกำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรงทั้งในพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก ชนะรวดสองนัดแรกในกลุ่ม C เอาชนะเอซี มิลาน และโบโลญญ่าได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้พวกเขาขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม การบุกมาเยือนไลป์ซิก ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการชัยชนะต่อเนื่องเพื่อยืนยันการผ่านเข้าสู่รอบต่อไปเร็วที่สุด ฟอร์มในเกมรุกที่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และโคดี้ กัคโป ยังคงเป็นที่น่ากลัว รวมถึงการเล่นที่ดุดันของเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ที่อาจสร้างปัญหาให้กับเกมรับของไลป์ซิกได้

ปัจจัยสำคัญ:

• RB ไลป์ซิกจำเป็นต้องเก็บแต้มในนัดนี้ แต่ลิเวอร์พูลดูมีความมั่นใจและคงเส้นคงวามากกว่า การสร้างสรรค์เกมของลิเวอร์พูลทั้งจากปีกและการสวนกลับอาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำลายแนวรับของไลป์ซิก
• ฟอร์มของแนวรุกอย่าง เบนจามิน เซสโก้ จากไลป์ซิก อาจเป็นโอกาสสำคัญ หากเขาสามารถหลุดพ้นจากการประกบของเกมรับลิเวอร์พูลที่นำโดย อิบราฮิมา โคนาเต้

การคาดการณ์: ลิเวอร์พูลมีความได้เปรียบทั้งด้านประสบการณ์และฟอร์มการเล่น พวกเขาอาจจะเก็บ 3 แต้มในเกมนี้ได้ แม้ไลป์ซิกจะทำเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้เสียประตูและเก็บแต้มในบ้าน แต่การที่เกมรุกของลิเวอร์พูลคมและเร็ว ทำให้คาดว่า ลิเวอร์พูลจะชนะไปด้วยสกอร์ 2-1