Home Blog Page 18

วิเคราะห์ก่อนเกม: เรอัล มาดริด พบ ดอร์ทมุนด์

0

ในวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2024 นี้ แฟนฟุตบอลทั่วโลกจะได้พบกับการเจอกันที่รอคอยในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อ เรอัล มาดริด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว โดยเกมนี้เป็นการล้างตาจากนัดชิงชนะเลิศเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งมาดริดเอาชนะไป 2-0 และทั้งสองทีมกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี จึงคาดการณ์ได้ว่าเกมนี้จะเป็นอีกหนึ่งการเผชิญหน้าที่ตื่นเต้นเร้าใจ

เรอัล มาดริด

แม้จะมีผู้เล่นบาดเจ็บ แต่ทีมยังมีความแข็งแกร่งจากการฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ และ วินิซิอุส จูเนียร์ ซึ่งฟอร์มการเล่นของพวกเขายังคงร้อนแรง นอกจากนี้ จู๊ด เบลลิงแฮม กำลังทำผลงานได้ดีในตำแหน่งกองกลางที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมเกมรุกและเกมรับ​

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ถึงแม้จะมีปัญหาอาการบาดเจ็บของ เซบาสเตียน อัลแลร์ แต่พวกเขายังมีผู้เล่นสำคัญอย่าง จูเลียน บรันด์ท ที่สามารถสร้างปัญหาให้กับแนวรับของมาดริดได้ โดยเฉพาะการเล่นแบบสวนกลับที่ดอร์ทมุนด์ชำนาญ และการใช้ความเร็วของปีกอย่าง คาริม อเดเยมี่ ที่จะเจาะแนวรับของมาดริด

ความเป็นไปได้ของเกม

  • เรอัล มาดริด มีโอกาสที่จะครองเกมและใช้การโจมตีริมเส้นเป็นจุดเด่น ขณะที่ดอร์ทมุนด์จะมองหาช่องโหว่จากเกมโต้กลับ
  • เกมอาจจะออกมาอย่างสูสี โดยดอร์ทมุนด์มีโอกาสที่จะทำลายแนวรับมาดริดหากพวกเขาควบคุมพื้นที่ได้ดี
  • อย่างไรก็ตาม มาดริดยังคงเป็นทีมเต็งที่จะชนะ ด้วยความได้เปรียบในการเล่นในบ้านและฟอร์มของผู้เล่นตัวรุกที่เฉียบคม

สกอร์ที่คาด: เรอัล มาดริด ชนะ 2-1 หรือ เสมอ 1-1 ขึ้นอยู่กับว่าแนวรับของทั้งสองทีมจะรับมือกับการโจมตีได้ดีแค่ไหน.

วิเคราะห์ก่อนเกม: แอสตัน วิลล่า vs โบโลญญ่า

0

แอสตัน วิลล่า จะเปิดบ้านที่สนามวิลล่า พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของโบโลญญ่าในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งนัดนี้ถือเป็นศึกที่มีความสำคัญสำหรับทั้งสองทีม

แอสตัน วิลล่า

ซึ่งกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีหลังจากคว้าชัยชนะเหนือบาเยิร์น มิวนิค พวกเขาเก็บชัยชนะได้ 2 นัดรวดในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ขณะนี้อยู่ในตำแหน่งท็อปของกลุ่ม โดยนักเตะที่โดดเด่นอย่าง ยูริ ตีเลอมันส์ ก็ได้โชว์ฟอร์มดีในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยการยิง 1 ประตูและแอสซิสต์อีก 1 ครั้ง

โบโลญญ่าของกุนซือ วินเชนโซ่ มอนเตลล่า

กำลังเจอปัญหาฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวา หลังเก็บได้เพียงแต้มเดียวจากสองนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม พวกเขามีสถิติไม่ดีนักในการมาเยือนทีมจากอังกฤษ อีกทั้งในเกมล่าสุดในเซเรีย อา พวกเขายังพลาดชัยชนะจากการที่ปล่อยให้เจนัวตีเสมอหลังนำก่อนถึง 2-0 นักเตะสำคัญของโบโลญญ่าอย่าง ซานติอาโก้ กัสโตร จะเป็นความหวังในแนวรุกของทีม แม้ว่าพวกเขาจะมีปัญหาในเกมรับที่ต้องปรับแก้

แอสตัน วิลล่า ดูเป็นทีมที่มีความได้เปรียบมากกว่า ด้วยฟอร์มที่แข็งแกร่งหลังจากชนะมาแล้วสองนัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม รวมถึงชัยชนะเหนือบาเยิร์น มิวนิค ในเกมที่ผ่านมา นอกจากนี้ พวกเขายังมีฟอร์มในบ้านที่น่าเกรงขาม โบโลญญ่าเองก็อยู่ในฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวาและมีปัญหาทางด้านเกมรับที่อาจเปิดช่องให้ทีมเจ้าบ้านทำประตูได้ง่าย

การคาดการณ์สกอร์: แอสตัน วิลล่า 2-0 โบโลญญ่า

วิเคราะห์ก่อนเกม: ยูเวนตุส vs สตุ๊ตการ์ต

0

การแข่งขันระหว่าง ยูเวนตุส กับ สตุ๊ตการ์ต ในวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่สนามอัลลิอันซ์ สเตเดียมในตูริน เป็นเกมที่ทั้งสองทีมต้องการคว้าแต้มสำคัญในรอบแบ่งกลุ่มของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยูเวนตุส ซึ่งยังไม่แพ้ใครในทัวร์นาเมนต์นี้ ต้องการเก็บชัยชนะนัดที่สามติดต่อกัน ในขณะที่สตุ๊ตการ์ต ยังคงค้นหาชัยชนะนัดแรกในรายการนี้ หลังจากพบกับความยากลำบากในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล

แผนการเล่นของยูเวนตุส:

ภายใต้การคุมทีมของ ธิอาโก้ ม็อตต้า ยูเวนตุสได้พัฒนาระบบที่เน้นการครองบอลและการเล่นที่สมดุล ทีมมีเกมรับที่แข็งแกร่ง โดยเสียประตูเฉลี่ยเพียง 0.7 ประตูต่อเกมเมื่อเล่นในบ้านในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก

ฟอร์มของสตุ๊ตการ์ต:

ภายใต้การนำของ เซบาสเตียน โฮเนสส์ สตุ๊ตการ์ตกำลังเดินทางมาพร้อมความมั่นใจ หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในบุนเดสลีกา รวมถึงการเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อย่างถล่มทลาย 5-1 แต่ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกพวกเขายังมีปัญหา โดยทำได้แค่เสมอ สปาร์ต้า ปราก และแพ้ให้กับ เรอัล มาดริด

ประเด็นสำคัญ:

การแข่งขันนี้คาดว่าจะเป็นการปะทะทางแท็คติก โดยยูเวนตุสจะเน้นการคุมเกมและเสถียรภาพ ขณะที่สตุ๊ตการ์ตจะพยายามใช้พื้นที่โต้กลับอย่างรวดเร็ว การต่อสู้ในแดนกลางจะเป็นจุดสำคัญ ซึ่งเกมรุกของสตุ๊ตการ์ตจะต้องเผชิญกับแนวรับที่แน่นหนาของยูเวนตุส

คาดการณ์: เกมนี้มีแนวโน้มที่จะจบลงด้วยจำนวนประตูที่น้อย โดยยูเวนตุสมีโอกาสสูงที่จะเอาชนะ แต่สตุ๊ตการ์ตยังคงมีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยเกมรุกที่ดุดันของพวกเขา

ส่วนใหญ่ชี้ว่าเกมนี้อาจจะจบลงด้วยสกอร์ 2-1 หรือ 1-1 โดยมีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองทีมจะทำประตูได้

วิเคราะห์ก่อนเกม: อาร์เซน่อล ปะทะ ชักตาร์ โดเน็ตส์

0

ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คืนวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567 อาร์เซน่อลจะเปิดบ้านที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของชักตาร์ โดเน็ตส์ ทีมจากยูเครน ในแมตช์สำคัญที่ส่งผลต่อโอกาสเข้ารอบของทั้งสองทีม

ทีมของมิเกล อาร์เตต้า ซึ่งอยู่ในฟอร์มดีในช่วงเปิดฤดูกาลลีกยุโรป มีโอกาสเพิ่มแต้มสำคัญในตารางหลังเก็บได้ 4 แต้มจาก 2 นัดที่ผ่านมา ความพร้อมของทีมเน้นไปที่ความแข็งแกร่งในเกมรุก โดยคาดว่า บูคาโย่ ซาก้า และเลอันโดร ทรอสซาร์ด จะเป็นคีย์แมนหลักในการสร้างสรรค์เกมรุกของทีม นอกจากนี้ กาเบรียล เชซุส ที่มีประสบการณ์การยิงประตูใส่ชักตาร์จากสมัยเล่นให้แมนฯ ซิตี้ ก็อาจได้รับโอกาสลงตัวจริงในแมตช์นี้​

ชักตาร์ โดเน็ตส์ แม้จะมาพร้อมประสบการณ์ในการแข่งขันระดับสูง แต่ยังต้องเร่งปรับตัวหลังจากเริ่มต้นแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยการเก็บได้เพียงแต้มเดียว เกมรับของพวกเขายังต้องระวังความเร็วและทักษะของตัวรุกอาร์เซน่อลที่มีความเด็ดขาดมากขึ้นในฤดูกาลนี้ อีกทั้งการขาดหายของผู้เล่นตัวหลักจากการบาดเจ็บ ทำให้ภารกิจในลอนดอนครั้งนี้ท้าทายอย่างยิ่ง

บทวิเคราะ

อาร์เซน่อล แม้ว่าจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลัก แต่ตัวแทนที่เข้ามายังมีคุณภาพเพียงพอในการครองเกมและสร้างโอกาสยิงประตู​​ในทางกลับกัน ชักตาร์ โดเน็ตส์ แม้ว่าจะมีเกมรับที่แข็งแกร่ง แต่ผลงานในแชมเปี้ยนส์ลีกยังค่อนข้างไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะจากการแพ้แอตาลันต้าไป 0-3 ในเกมล่าสุด

คาดการณ์ผลสกอร์: อาร์เซน่อล 2-0 ชักตาร์ โดเน็ตส์
คาดว่าอาร์เซน่อลจะสามารถควบคุมเกมและเก็บชัยชนะได้ด้วยการทำประตูในช่วงครึ่งหลัง

เอซี มิลาน เปิดบ้านพบ คลับ บรูจจ์ ในแมตช์สำคัญในแชมเปี้ยนส์ลีกที่ซาน ซีโร่

0

หลังจากแพ้สองนัดแรกเอซี มิลานจะพยายามฟื้นคืน การแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก ที่กำลังย่ำแย่ ในวันอังคาร โดยพวกเขาจะต้อนรับ คลับ บรูจจ์ ที่ซาน ซีโร่ แชมป์ยุโรป 7 สมัยยังไม่สามารถเก็บแต้มได้เลยในรอบลีก ปีนี้ ในขณะที่ทีมเยือนเริ่มต้นฤดูกาลด้วยชัยชนะเหนือ สตวร์ม กราซ เมื่อต้นเดือนนี้

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

เอซี มิลาน

  • ฟอร์มล่าสุด : เอซี มิลาน แพ้สองเกมแรกในแชมเปี้ยนส์ลีกปีนี้ รวมทั้งแพ้ลิเวอร์พูล 1-3 และแพ้ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 0-1 พวกเขายังไม่สามารถเก็บแต้มได้เลยในรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้พวกเขาตกอยู่ภายใต้ความกดดัน เนื่องจากพวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงการแพ้สามเกมแรกในแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งที่สองเท่านั้นในประวัติศาสตร์
  • ผลงานล่าสุด : มิลานเพิ่งเอาชนะอูดิเนเซ่ไปอย่างหวุดหวิด 1-0 ในศึกเซเรียอา นับเป็นชัยชนะเพียงนัดที่ 5 จาก 19 เกม พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความอดทนในบ้าน โดยชนะรวดทั้ง 3 นัดในเซเรียอาฤดูกาลนี้โดยไม่เสียประตู

คลับ บรูจจ์

  • ฟอร์มล่าสุด : คลับ บรูจจ์ ลงสนามด้วยความมั่นใจหลังจากเอาชนะ สตวร์ม กราซ ไปได้ 1-0 และเอาชนะ เวสเตอร์โล ไปได้ 2-1 ในลีกในประเทศ พวกเขาไม่แพ้ใครเลยใน 4 เกมเยือนหลังสุด และรักษาคลีนชีตได้ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว
  • สถิติประวัติศาสตร์ : บรูจจ์เคยประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นที่ซาน ซีโร่ มาแล้ว รวมถึงชัยชนะอันน่าจดจำ 1-0 ในแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อ 21 ปีก่อน

ข่าวทีมล่าสุด

เอซี มิลาน มีอาการบาดเจ็บ  อิสมาเอล เบนนาเซอร์, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี และดาวิเด คาลาเบรีย ต่างต้องพักรักษาตัว อย่างไรก็ตาม ธีโอ เอร์นานเดซ กลับมาจากโทษแบนแล้ว

คลับ บรูจจ์ อาการบาดเจ็บ อันเดรียส สคอฟ โอลเซ่น กองหน้าทีมชาติเดนมาร์ก ยังไม่แน่ใจว่าจะลงสนามได้หรือไม่ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่น่อง ส่วนนักเตะคนอื่นๆ เช่น กุสตาฟ นิลส์สัน และแคสเปอร์ นิลเซ่น ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะลงสนามในเกมนี้ได้หรือไม่

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

เอซี มิลาน
ไมญ็อง; เอเมอร์สัน, โทโมรี, ปาฟโลวิช, เอร์นันเดซ; โฟฟานา, ไรน์เดอร์ส; ชุคเวเซ่, พูลิซิช, เลเอา; โมราต้า

คลับ บรูจจ์
มินโญเลต์; เซย์ส, สไปเออร์ส, เมเคอเล่, เด คุยแปร์; เวตเลเซ่น, ออนเยดิกา; สโกรัส, วานาเกน, โซลิส; จตุกลา

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

คาดว่าแมตช์นี้จะเป็นการแข่งขันที่สูสี เมื่อพิจารณาจากความได้เปรียบในบ้านของเอซี มิลานและผลงานที่ผ่านมาเมื่อเจอกับทีมระดับกลางอย่างบรูจจ์

เอซี มิลาน 2-1 คลับ บรูจจ์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สนใจคว้าตัว ราอูล โมโรปีกวัย 21 ปีจากเรอัล บายาโดลิด

0

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อคว้าตัว ราอูล โมโร ปีกวัย 21 ปีจากเรอัล บายาโดลิด ซึ่งได้รับความสนใจจากลิเวอร์พูลและท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ด้วย แม้ว่าบาลาโดลิดจะเริ่มต้นฤดูกาล 2024/25 ลาลีกาได้อย่างยากลำบาก แต่โมโรก็สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นด้วยการยิงไป 2 ประตูและมีบทบาทสำคัญในการพาทีมเลื่อนชั้นจากเซกุนด้า ดิวิชั่นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

โมโร ย้ายมาอยู่กับบายาโดลิดอย่างถาวรในเดือนมิถุนายน หลังจากยืมตัวมาจากลาซิโอได้สำเร็จ โดยเซ็นสัญญา 4 ปี มูลค่าปัจจุบันของเขาอยู่ที่ประมาณ10 ล้านยูโรแต่บายาโดลิดไม่น่าจะรับข้อเสนอในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม เนื่องจากพวกเขามองว่าเขามีความสำคัญต่อความพยายามในการหลีกเลี่ยงการตกชั้น ความสนใจจากสโมสร ในพรีเมียร์ลีกเน้นย้ำถึงศักยภาพของโมโรในฐานะหนึ่งในดาวรุ่งในวงการฟุตบอลยุโรป ด้วยความเร็วและความตรงไปตรงมาในการเล่นริมเส้นทำให้เขาเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับทีมชั้นนำ

จุดแข็งสำคัญของ ราอูล โมโร ที่ดึงดูดสโมสรในพรีเมียร์ลีกคืออะไร

ความเร็ว : โมโรเป็นที่รู้จักในเรื่องความเร็วที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาสามารถขยายแนวรับและสร้างพื้นที่ได้ ความสามารถของเขาในการรับมือกับกองหลังแบบตัวต่อตัวทำให้เขาเป็นภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องที่ริมเส้น

ทักษะทางเทคนิค : ความสามารถในการควบคุมบอลและการเลี้ยงบอลทำให้เขาสามารถเคลื่อนที่ในพื้นที่แคบๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะชุดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทีมที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และไหวพริบในการเล่นเกมรุก

ผลงานในการเล่นเกมรุก : แม้ว่าเขาจะยิงประตูได้ 2 ประตูและทำแอสซิสต์ได้ 1 ครั้งในฤดูกาลนี้ แต่ผลงานโดยรวมของเขาในเกมนี้ก็ถือว่าสำคัญมาก การที่เขามีส่วนร่วมในเกมรุกมักจะทำให้มีโอกาสทำประตูได้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สโมสรต่างๆ ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพในการเล่นเกมรุกให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

ศักยภาพของเยาวชน : ด้วยวัยเพียง 21 ปี โมโรถือเป็นการลงทุนระยะยาวสำหรับสโมสรต่างๆ อายุของเขาช่วยให้พัฒนาได้อีกมากภายใต้การฝึกสอนของโค้ชที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะในระบบที่สนับสนุนปีกที่มีพลัง เช่น ปีกที่แมนเชสเตอร์ซิตี้และลิเวอร์พูลจ้างมา

ความสามารถในการปรับตัว : ประสบการณ์ของโมโรในลาลีกาและช่วงเวลาที่เขาถูกยืมตัวไปอยู่กับลาซิโอแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการเล่นและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ความสามารถรอบด้านนี้ดึงดูดใจสโมสรต่างๆ ที่กำลังมองหาผู้เล่นที่สามารถปรับตัวเข้ากับระบบของตนได้อย่างราบรื่น

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีก 31 นัด

0

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญด้วยการยืดสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีกเป็น31 นัดสร้างสถิติใหม่ให้กับสโมสร โดยสถิตินี้รวมถึงการชนะ 25 นัดและเสมอ 6 นัด ทำลายสถิติเดิมที่ทำได้ในปี 2018

ไฮไลท์สำคัญ

  • นัดล่าสุด : แมนฯ ซิตี้ คว้าชัยชนะเหนือ ฟูแล่ม (3-2) และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส (2-1) โดย จอห์น สโตนส์ ยิงประตูชัยในนาทีสุดท้ายเหนือ วูล์ฟส์
  • ผลงานในฤดูกาลปัจจุบัน : ณ ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงเป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024-25 โดยมีชัยชนะ 6 นัด
    และเสมอ 2 นัดจาก 8 นัด
  • สถิติในประวัติศาสตร์ : สถิติไร้พ่ายนี้ถือเป็นหนึ่งในสถิติที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก แม้ว่าจะยังห่างไกลจากตำนานเดอะอินวินซิเบิลส์ของอาร์เซนอลที่ไม่แพ้ใครตลอดทั้งฤดูกาลในฤดูกาล 2003-04 ก็ตาม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ใช้กลยุทธ์อะไรเพื่อรักษาสถิติไร้พ่ายของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

แผนการเล่น

  • การจัดรูปแบบที่คล่องตัว : กวาร์ดิโอลาใช้การจัดรูปแบบ 4-3-3 ที่ยืดหยุ่นได้บ่อยครั้ง ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นระบบ 3 แบ็กในระหว่างการโจมตี ช่วยให้ควบคุมแดนกลางได้ดีขึ้น และสร้างความได้เปรียบด้านตัวเลขเหนือคู่ต่อสู้
  • ฟูลแบ็คแบบอินเวิร์ต : กวาร์ดิโอลาเพิ่มการเก็บบอลและสร้างการโอเวอร์โหลดในพื้นที่ตรงกลาง โดยการดันฟูลแบ็คเข้าไปในแดนกลาง ซึ่งช่วยให้ครองบอลได้เหนือกว่าและควบคุมจังหวะของเกม

การเล่นแบบครองบอล

  • การรักษาบอล : แมนฯ ซิตี้เน้นสไตล์การครองบอลโดยใช้การจ่ายบอลสั้น ๆ เพื่อสร้างเกมจากแนวหลัง วิธีนี้ช่วยให้พวกเขาเอาชนะคู่ต่อสู้และควบคุมจังหวะของเกมได้
  • หลักการบุคคลที่สาม : ทีมของกวาร์ดิโอลาใช้ผู้เล่นบุคคลที่สามบ่อยครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันจากฝ่ายรับและค้นหาผู้เล่นอิสระในตำแหน่งที่ได้เปรียบ ซึ่งช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวรุกได้อย่างคล่องตัว

โครงสร้างการกดดันและการป้องกัน

  • การกดดันสูง : แมนฯ ซิตี้ใช้กลยุทธ์การกดดันอย่างประสานกันเพื่อแย่งบอลกลับมาอย่างรวดเร็วหลังจากเสียไป กลยุทธ์นี้จะบีบพื้นที่และบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามทำผิดพลาด
  • การป้องกันมิดบล็อค : เมื่อทำการป้องกัน กวาร์ดิโอลาจะตั้งมิดบล็อคเพื่อบีบฝ่ายตรงข้ามให้ออกไปกว้าง ทำให้ตัวเลือกของพวกเขาลดลง และสร้างโอกาสได้ยากขึ้น

การจัดการผู้เล่น

  • ความคิดและวัฒนธรรม : กวาร์ดิโอลาปลูกฝังความคิดที่แข็งแกร่งของทีมโดยมุ่งเน้นที่การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เขาเน้นย้ำว่าสมาชิกทุกคนของสโมสรมีส่วนสนับสนุนความสำเร็จ สร้างวัฒนธรรมที่ผู้เล่นมีแรงจูงใจที่จะทำผลงานให้ดีที่สุดอย่างสม่ำเสมอ
  • การหมุนเวียนผู้เล่น : แม้ว่าผู้เล่นหลักอย่างโรดรี้และเควิน เดอ บรอยน์จะได้รับบาดเจ็บ แต่กวาร์ดิโอลาก็หมุนเวียนผู้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีผู้เล่นสำรองจำนวนมากเช่นนี้ทำให้แมนฯ ซิตี้สามารถรักษาระดับผลงานในการแข่งขันต่างๆ ได้ พร้อมทั้งบูรณาการผู้เล่นใหม่ เช่น มาเตโอ โควาซิช เข้ากับบทบาทสำคัญ

“หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ วิจารณ์หนัก: ไม่ได้ขึ้นค่าเหนื่อยแม้พาสเปนคว้าแชมป์ยูโร 2024!”

0

หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ กุนซือทีมชาติสเปน ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนหลังจากที่ไม่ได้รับการปรับค่าเหนื่อย แม้จะพาสเปนคว้าแชมป์ยูโร 2024 โดยเขาชี้ว่า “มันไม่ปกติ” ที่เขายังไม่ได้รับการเพิ่มเงินเดือนหรือสัญญาฉบับใหม่ หลังจากที่สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์รายการใหญ่ 2 รายการในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ได้แก่ เนชันส์ลีก และ ยูโร 2024 การเจรจาเรื่องสัญญายังคงดำเนินต่อไป และเด ลา ฟวนเต้กดดันให้มีการพิจารณาเพิ่มค่าเหนื่อยอย่างจริงจัง

แม้เขาจะได้รับคำสัญญาว่าจะมีการปรับค่าเหนื่อยตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการยืนยันจากสมาคมฟุตบอลสเปน (RFEF) เขาได้รับค่าเหนื่อยประมาณ 1 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งต่ำกว่าโค้ชคนก่อนหน้านี้ เช่น หลุยส์ เอ็นริเก้ ที่ได้รับมากกว่า 3 เท่า ทำให้เด ลา ฟวนเต้รู้สึกว่างานของเขายังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเพียงพอ

“บาร์เซโลน่าปฏิเสธข้อเสนอ 250 ล้านยูโรจากปารีสฯ สำหรับ ลามิน ยามาล!”

0

บาร์เซโลน่าได้ปฏิเสธข้อเสนอมหาศาลจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ยื่นขอซื้อ ลามิน ยามาล ด้วยมูลค่า 250 ล้านยูโร ในช่วงก่อนศึกยูโร 2024 ข้อเสนอนี้ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลและถูกยื่นให้กับบาร์เซโลน่าเพื่อดึงดาวรุ่งวัย 17 ปี ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในวงการฟุตบอลโลก หลังจากที่เขากลายเป็นนักเตะตัวหลักของทั้งบาร์เซโลน่าและทีมชาติสเปน

ยามาลได้แสดงศักยภาพที่น่าประทับใจอย่างมากในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยทำไป 7 ประตูและ 10 แอสซิสต์จากการลงเล่นกว่า 50 นัดให้กับบาร์เซโลน่า และยังมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในศึกยูโร 2024 ซึ่งเขาช่วยให้สเปนคว้าแชมป์ นอกจากนี้ ความสามารถและทักษะที่เกินวัยของเขาทำให้ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มองว่า ยามาล คือทายาทที่เหมาะสมในการแทนที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ที่ย้ายออกจากทีม

อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่าได้ชี้แจงชัดเจนว่า ยามาลคือกำลังสำคัญของทีมและจะไม่พิจารณาขายเขาไม่ว่าด้วยราคาใดก็ตาม เนื่องจากเขาเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตระยะยาวของสโมสร

“ประธานยูฟ่าตอบโต้เสียงวิจารณ์: มีแต่นักเตะค่าเหนื่อยสูงที่บ่นเรื่องโปรแกรมแข่งแน่น!”

0

ประธานยูฟ่า อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ได้ออกมาตอบโต้เสียงวิจารณ์จากนักเตะและสโมสรบางส่วนที่บ่นเรื่องตารางแข่งขันที่แออัดเกินไป โดยเฉพาะหลังจากการประกาศขยายทัวร์นาเมนต์ Club World Cup ที่จะเริ่มในปี 2025 เซเฟรินชี้ว่า “นักเตะที่บ่นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีค่าเหนื่อยสูงและสโมสรที่มีนักเตะระดับท็อปถึง 25 คน” ขณะที่นักเตะและสโมสรที่มีนักเตะน้อยและค่าเหนื่อยต่ำไม่เคยบ่น กลับสนุกกับการลงเล่นทุกนัด

การวิจารณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากนักเตะชั้นนำหลายคน เช่น โรดรี ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาพูดถึงความกังวลเกี่ยวกับการบาดเจ็บจากโปรแกรมการแข่งขันที่หนักหน่วง นักเตะบางคนถึงกับเสนอให้มีการประท้วงหยุดแข่งขันเพื่อลดความเสี่ยงต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม เซเฟรินเชื่อว่าโปรแกรมการแข่งขันในปัจจุบันได้ถูกจัดให้ถึงขีดจำกัดแล้ว และไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับแมตช์เพิ่มเติม

แม้ว่าความคิดเห็นของเซเฟรินจะได้รับการสนับสนุนจากบางฝ่าย เช่น CEO ของบาเยิร์น มิวนิค ที่เห็นด้วยว่าไม่ควรให้กลุ่มนักเตะระดับสูงบ่นมากเกินไป แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากกลุ่มนักเตะที่เชื่อว่า ปัญหาการบาดเจ็บและความเหนื่อยล้าจากการแข่งขันหลายรายการ เป็นเรื่องที่ควรได้รับความใส่ใจมากขึ้นในอนาคต

การตอบสนองของเซเฟรินสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างมุมมองของนักเตะและผู้จัดการในวงการฟุตบอล โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีรายได้สูงกับกลุ่มที่มีรายได้น้อยกว่า

ห้ามพลาด!