Home Blog Page 19

รูดิเกอร์เดือด! เสี่ยงโดนแบนหลังปะทะผู้ตัดสิน โกปา เดล เรย์

0

เรอัล มาดริด เจ็บปวดสองต่อหลังพ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า 2-3 ในศึกโกปา เดล เรย์ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยนอกจากจะพลาดแชมป์ พวกเขายังต้องเผชิญปัญหาใหม่ เมื่อ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ปราการหลังเลือดร้อน ระเบิดอารมณ์อย่างหนักใส่ผู้ตัดสินช่วงท้ายเกม

ในช่วงนาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษ ผู้ตัดสิน รีการ์โด้ เด บูร์โกส เบงโกเอตเซีย เป่าให้ เอริก การ์เซีย ได้ฟาวล์จากการปะทะกับ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ทำเอาแข้งมาดริดหลายคนไม่พอใจอย่างรุนแรง ทั้ง ลูกัส บาสเกซ และ วินิซิอุส จูเนียร์ ต่างกรูเข้าหาผู้ตัดสิน ขณะที่ รือดิเกอร์ มีรายงานว่าขว้างสิ่งของใส่กรรมการแบบไม่ยั้ง

พฤติกรรมดังกล่าวทำให้ รือดิเกอร์ และ บาสเกซ ถูกไล่ออกจากสนามทันทีหลังหมดเวลา และยังมีข่าวลือว่าอีกหนึ่งแข้งมาดริดอย่าง วินิซิอุส หรือ จู๊ด เบลลิงแฮม ก็โดนใบแดงเช่นกัน จากการยืนยันของสื่อสเปนอย่างเรเลโบ

แม้ว่าสุดท้าย รือดิเกอร์ จะสงบลง และเดินเข้าไปจับมือกับนักเตะบาร์เซโลน่า แต่เหตุการณ์นี้น่าจะส่งผลเสียอย่างใหญ่หลวง เมื่อคาดว่า คณะกรรมการวินัยของสมาคมฟุตบอลสเปน เตรียมพิจารณาโทษในไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้ รือดิเกอร์ และเพื่อนร่วมทีมที่ถูกไล่ออก ต้องโดนแบนต่อเนื่องในเกมลีก รวมถึงมีโอกาสพลาดศึกเอล กลาซิโก้ รอบสุดท้ายของซีซั่นในอีกสองสัปดาห์ด้วย

แฟนบอลราชันชุดขาวคงต้องลุ้นกันหนัก ว่าโทษแบนนี้จะกระทบเส้นทางลุ้นแชมป์ลา ลีกามากแค่ไหน


อยากได้อีกแนวไหม เช่นแนว “ข่าวด่วนสั้นกระชับ”, “แนวบรรยายแบบเข้มข้น”, หรือ “สไตล์แฟนบอลเล่าเรื่องดราม่า”?
บอกได้เลยนะ เดี๋ยวทำให้ต่อ! ⚡

โธมัส มุลเลอร์ สร้างประวัติศาสตร์!

0

โธมัส มุลเลอร์ สร้างประวัติศาสตร์! ลงสนามนัดที่ 500 ในบุนเดสลีกา กับ บาเยิร์น มิวนิค

บทความ:
โธมัส มุลเลอร์ แนวรุกจอมเก๋าของ บาเยิร์น มิวนิค จารึกอีกหนึ่งความสำเร็จในอาชีพค้าแข้ง หลังลงสนามในศึกบุนเดสลีกาเป็นนัดที่ 500 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา เกมที่ “เสือใต้” เปิดบ้านไล่ต้อน ไมนซ์ 05 ด้วยสกอร์ 3-0 ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า

มุลเลอร์ วัย 35 ปี ถูกส่งลงมาแทน ลีรอย ซาเน่ ในนาทีที่ 84 และการลงเล่นในนัดนี้ทำให้เขากลายเป็นนักเตะรายที่ 13 ในหน้าประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดเยอรมัน ที่ลงสนามครบ 500 เกม ต่อจากตำนานอย่าง คาร์ล-ไฮนซ์ คอร์เบิล (602 นัด), มันเฟรด คัลท์ซ (581 นัด), และ โอลิเวอร์ คาห์น (557 นัด) เป็นต้น

สำหรับ 500 เกมในบุนเดสลีกาของมุลเลอร์นั้น เกิดขึ้นทั้งหมดภายใต้สีเสื้อของ บาเยิร์น มิวนิค เพียงสโมสรเดียว ขณะที่ยอดการลงสนามรวมทุกรายการของเขากับทีมอยู่ที่ 748 นัด ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลของสโมสรแห่งนี้ ทั้งนี้ มุลเลอร์กำลังจะโบกมือลาทัพเสือใต้หลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้เมื่อสัญญาของเขาสิ้นสุดลง


อยากได้แนวอื่นเพิ่มอีกไหม เช่นแนว “ข่าวสั้นกระชับ”, “สไตล์กีฬาเข้มข้น”, หรือ “สไตล์เล่าเรื่องแบบแฟนบอล”?
บอกได้เลยนะ! 🔥

เปิดรายชื่อแข้ง “ลิเวอร์พูล” ลุ้นรับเหรียญแชมป์ซีซั่นนี้

0

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ขยับเข้าใกล้การสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมัยที่ 20 เต็มที หลังพวกเขาต้องการเพียง 1 คะแนนจากเกมที่เหลือ เพื่อการันตีตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุดฤดูกาล 2024-25 อย่างเป็นทางการ

ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล ยึดตำแหน่งจ่าฝูง ด้วยผลงาน 79 คะแนน ทิ้งห่าง อาร์เซนอล อันดับ 2 ที่มี 67 คะแนน ซึ่งลงแข่งมากกว่าหนึ่งนัด ทำให้โอกาสเถลิงแชมป์ของทีมหงส์แดงอยู่ใกล้แค่เอื้อม

ล่าสุด ฝ่ายจัดการแข่งขันพรีเมียร์ลีกได้เผยข้อมูลว่า ทีมที่คว้าแชมป์จะได้รับทั้งถ้วยรางวัลและเหรียญเกียรติยศจำนวน 40 เหรียญ สำหรับมอบให้ผู้จัดการทีม, นักเตะ และสตาฟฟ์สโมสร ตามความเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ตามข้อกำหนด C.13 นักเตะที่มีสิทธิ์รับเหรียญแชมป์ ต้องมีส่วนร่วมลงสนามอย่างน้อย 5 นัดในลีกตลอดฤดูกาลนี้

โดยรายชื่อนักเตะลิเวอร์พูลที่ลงสนามครบตามเกณฑ์แล้ว ได้แก่:

  • โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (33 นัด)
  • ไรอัน กราเฟนแบร์ก (33 นัด)
  • เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (33 นัด)
  • อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (32 นัด)
  • หลุยส์ ดิอาซ (32 นัด)
  • โดมินิค โซบอซไล (31 นัด)
  • แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (30 นัด)
  • โคดี้ กัคโป (30 นัด)
  • เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (29 นัด)
  • เคอร์ติส โจนส์ (28 นัด)
  • อิบราฮิม่า โกนาเต้ (27 นัด)
  • ดาร์วิน นูเญซ (25 นัด)
  • อลิสซอน เบ็คเกอร์ (23 นัด)
  • ดิโอโก้ โชต้า (22 นัด)
  • วาตารุ เอ็นโด (16 นัด)
  • คอสตาส ซิมิกาส (16 นัด)
  • คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ (16 นัด)
  • ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (13 นัด)
  • จาเรลล์ ควอนซาห์ (11 นัด)
  • ควีวิน เคลเลเฮอร์ (10 นัด)

ส่วนผู้เล่นที่ยังไม่ครบ 5 นัด และต้องเร่งเก็บสถิติในช่วงโปรแกรมที่เหลือเพื่อสิทธิ์รับเหรียญ ได้แก่:

  • โจ โกเมซ (9 นัด)
  • เฟเดริโก้ เคียซ่า (4 นัด)
  • วิเตซสลาฟ ยารอส (1 นัด)
  • เจย์เดน แดนน์ส (1 นัด)

ทั้งนี้ ลิเวอร์พูลยังเหลือเกมลีกอีก 5 นัดในฤดูกาลนี้ ทำให้นักเตะบางรายที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ มีโอกาสเร่งเครื่องลงสนามเพื่อเติมชื่อในทำเนียบแชมป์อย่างเต็มภาคภูมิ


อยากได้เวอร์ชันที่เขียนแบบ เร้าใจขึ้นอีก หรือ ทางการขึ้นอีก ไหมครับ จะได้ทำเพิ่มให้ ✨
อยากได้ไหม?

“บาร์ซ่า เฉือนมาดริดสุดมัน 3-2 ผงาดแชมป์โกปา เดล เรย์”

0

บาร์เซโลน่า ผงาดคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ 2024/25 ได้อย่างยิ่งใหญ่ หลังเอาชนะ เรอัล มาดริด 3-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ จากประตูสำคัญของ ฌูลส์ กุนเด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 ที่สนาม เอสตาดิโอ เด ลา การ์ตูฆา เมืองเซบีย่า

นัดนี้ถือเป็นศึก “เอล กลาซิโก” รอบชิงชนะเลิศโกปาฯ ครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ หลังจากที่เคยเกิดขึ้นครั้งล่าสุดในปี 2014 ซึ่งมาดริดเป็นฝ่ายชนะไป 2-1

ความพร้อมก่อนเกม เรอัล มาดริด ต้องพลาดใช้งาน คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เป็นตัวจริง เนื่องจากความฟิตไม่เต็มร้อย ต้องนั่งสำรองไปก่อน

เริ่มเกมมา บาร์เซโลน่าออกสตาร์ตอย่างดุดัน และขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 28 จากจังหวะที่ ลามีน ยามาล ลากขึ้นทางขวา ก่อนหยอดให้ เปดรี ซัดไกลอย่างเด็ดขาดเสียบตาข่าย

มาดริดมีจังหวะส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายจาก จู๊ด เบลลิงแฮม ในนาทีที่ 35 แต่ VAR ริบสกอร์เพราะล้ำหน้า ขณะที่ช่วงท้ายครึ่งแรก บาร์ซ่าเกือบหนีห่างจากลูกโหม่งชนเสาของ เฟร์ราน ตอร์เรส จบ 45 นาทีแรก บาร์ซ่าออกนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 49 “ราชันชุดขาว” เร่งเครื่องทันที แต่ยังเจาะ วอยเชค เชสนี ไม่เข้า กระทั่งนาทีที่ 70 เอ็มบัปเป้ ที่ถูกส่งลงมาเป็นสำรอง ซัดฟรีคิกสุดสวยตีเสมอให้มาดริด 1-1

ถัดมาอีก 7 นาที มาดริดได้เฮอีกครั้ง เมื่อ อาร์ดา กือแลร์ เปิดเตะมุมให้ โอเรเลียง ชูอาเมนี โขกเข้าไปพลิกขึ้นนำ 2-1

แต่เกมยังไม่จบ บาร์ซ่าสู้เต็มที่และมาตามตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 84 จากการประสานงานของ ยามาล และ เฟร์ราน ตอร์เรส ที่หลบ กูร์กตัวส์ ก่อนยิงโล่งๆ เข้าไป

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+6 บาร์ซ่าเกือบได้จุดโทษจากจังหวะที่ ราฟินญา ถูกทำฟาวล์ แต่ผู้ตัดสินเปลี่ยนใจหลังดู VAR ทำให้ต้องไปต่อในช่วงต่อเวลา

ในช่วงต่อเวลา บาร์ซ่าได้ลุ้นอีกหลายครั้งแต่ยังไม่ได้ประตู โดยเฉพาะจังหวะหลุดยิงของ เฟร์ราน ที่หลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย

กระทั่งนาทีที่ 116 ฌูลส์ กุนเด กลายเป็นฮีโร่ของบาร์เซโลน่า ตัดบอลได้ก่อนกรอบเขตโทษแล้วซัดเต็มข้อด้วยขวา บอลพุ่งเสียบมุมอย่างเฉียบคม เป็นประตูชัยให้บาร์ซ่าเฉือนชนะ 3-2 และคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ สมัยที่ 32 ไปครองได้สำเร็จ

นอกจากนี้ยังเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ปี 2015 พร้อมรักษาความหวังในการลุ้น “ทริปเปิลแชมป์” ฤดูกาลนี้ได้อย่างเต็มตัว


รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

บาร์เซโลน่า (4-2-3-1) :
วอยเชค เชสนี ; ฌูลส์ กุนเด, เปา กูบาร์ซี, อินญีโก มาร์ตีเนซ, เคราร์ด มาร์ติน ; เฟรงกี เดอ ยอง, เปดรี ; ลามีน ยามาล, ดานี โอลโม, ราฟินญา ; เฟร์ราน ตอร์เรส

เรอัล มาดริด (4-4-2) :
ติโบต์ กูร์กตัวส์ ; ลูกัส บาซเกซ, ราอูล อาเซนซีโอ, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, แฟร์กล็องด์ เมนดี ; เฟเดรีโก วัลเวร์เด, โอเรเลียง ชูอาเมนี, ดานี เซบายอส, จู๊ด เบลลิงแฮม ; โรดรีโก, วินิซิอุส จูเนียร์


อยากได้แนวทางเขียนเพิ่มเติมแบบ เน้นสรุปสั้นกระชับ หรือ แบบบทวิเคราะห์หลังเกม ไหมครับ? 🚀

พรีวิว: ลิเวอร์พูลเตรียมคว้าแชมป์ เปิดบ้านรับมือสเปอร์ส

0

พรีวิวก่อนเกม: ลิเวอร์พูลเตรียมเถลิงแชมป์ เปิดแอนฟิลด์รับมือสเปอร์ส ศึกพรีเมียร์ลีก คืนวันอาทิตย์นี้

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 นัดที่ 34 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูงที่มี 79 คะแนน พร้อมเปิดสนามแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทีมอันดับ 16 ที่มีอยู่ 37 แต้ม ในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568 เวลา 22.30 น. ตามเวลาไทย
เพียงแค่ไม่แพ้ในเกมนี้ ลิเวอร์พูลก็จะการันตีตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 ทันที โดยไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันในนัดที่เหลือ

ย้อนสถิติการพบกัน 5 ครั้งหลังสุดในทุกรายการ ลิเวอร์พูลทำได้ดีกว่า โดยเก็บชัยชนะได้ถึง 3 นัด และแพ้ 2 นัด เกมล่าสุดที่เจอกันในถ้วยคาราบาวคัพ “หงส์แดง” เปิดบ้านถล่มไปถึง 4-0 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

สภาพความพร้อมของทีม

ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่อ สล็อต เพิ่งบุกเฉือนชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 จากลูกยิงสุดสวยของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เกมนี้ยังคงขาด โจ โกเมซ และ ไทเลอร์ มอร์ตัน ที่อยู่ในช่วงพักฟื้น ส่วนกำลังหลักอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ต่างฟิตเต็มร้อย พร้อมลงสนามครบครัน โดย หลุยส์ ดิอาซ ถูกวางให้เป็นหัวหอกตัวเป้า

ด้าน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ของ แองจ์ พอสเตโคกลู เพิ่งแพ้คาบ้านต่อ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-2 เกมนี้ยังไร้เงา ราดู ดรากูซิน และ ซน ฮึง-มิน ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่แนวรับส่ง คริสเตียน โรเมโร่ ยืนคู่กับ มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน ส่วนแนวรุกฝากความหวังไว้กับ เบรนแนน จอห์นสัน และ โดมินิก โซลันกี้

คาดการณ์ 11 ตัวจริง

  • ลิเวอร์พูล (4-2-3-1):
    อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, โคดี้ กัคโป – หลุยส์ ดิอาซ
  • สเปอร์ส (4-3-3):
    กูเยลโม่ วิคาริโอ – เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน, เดสตินี่ อูโดกี้ – ลูคัส เบิร์กวาลล์, โรดรีโก้ เบนตานกูร์, เจมส์ แมดดิสัน – เดยัน คูลูเซฟสกี้, โดมินิก โซลันกี้, เบรนแนน จอห์นสัน

บทวิเคราะห์เกม

ลิเวอร์พูลมีแรงจูงใจเต็มเปี่ยมที่จะคว้าแชมป์ต่อหน้าแฟนบอลในแอนฟิลด์ การได้ขุมกำลังหลักพร้อมหน้าพร้อมตาถือเป็นปัจจัยสำคัญ ในขณะที่สเปอร์สฟอร์มแกว่งและมีแนวโน้มพักผู้เล่นบางรายเพื่อเก็บสดสำหรับศึกยุโรป ศักยภาพและโมเมนตัมในตอนนี้ ลิเวอร์พูลเหนือกว่าชัดเจน คาดว่าจะปิดจ๊อบได้ตามเป้า

สกอร์ที่คาด:
ลิเวอร์พูล ชนะ สเปอร์ส 2-0


อยากได้อีกสักเวอร์ชันแบบเน้นสไตล์ “วิเคราะห์เจาะลึกเชิงแท็คติก” ไหมครับ เดี๋ยวผมจัดให้อีกแนวหนึ่งได้เลย! 🔥
เอาไหม?

ผลบอลพรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิ่ลถล่มอิปสวิช ส่งม้าขาวตกชั้น!

0

การแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 เมื่อวันเสาร์ที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เปิดสนามเซนต์เจมส์ พาร์ค รับมือ อิปสวิช ทาวน์ ในเกมนัดที่ 34 ของซีซั่น โดยสถานการณ์ก่อนเกม “สาลิกาดง” ต้องการ 3 คะแนนเพื่อขยับพื้นที่ลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก ขณะที่ทีมเยือน “ม้าขาว” เสี่ยงตกชั้นเต็มตัว

เอ็ดดี้ ฮาว หัวหน้าผู้ฝึกสอนของนิวคาสเซิ่ล กลับมาคุมทีมข้างสนามได้แล้ว หลังหายป่วยจากโรคปอดบวม และลูกทีมของเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เปิดเกมรุกไล่ยำใหญ่ อิปสวิช 3-0 โดยได้ประตูจากจุดโทษของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ทดเจ็บครึ่งแรก นาที 45+2 ตามด้วยลูกโหม่งของ แดน เบิร์น นาที 56 ก่อนที่ วิลเลียม โอซูล่า จะโขกปิดกล่อง นาที 80 เป็นประตูแรกของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีก

อิปสวิชต้องเล่น 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 37 เมื่อ เบน จอห์นสัน ถูกใบแดงไล่ออก ส่งผลให้สถานการณ์ยิ่งยากลำบาก และสุดท้ายไม่อาจต้านทานได้

ชัยชนะนัดนี้ทำให้นิวคาสเซิ่ลเก็บเพิ่มเป็น 62 คะแนนจาก 34 นัด ทะยานขึ้นอันดับ 3 ของตาราง มีลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกเต็มตัว ขณะที่อิปสวิช ทาวน์ รั้งอันดับ 18 มีเพียง 21 แต้ม ตกชั้นสู่แชมเปี้ยนชิพแน่นอนแล้ว ตามหลัง เซาธ์แฮมป์ตัน และ เลสเตอร์ ซิตี้

อโมริมคอนเฟิร์ม แรชฟอร์ดคืนแมนยู รอสรุปอนาคตซัมเมอร์

0

รูเบน อโมริม กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด จะกลับมาร่วมทีมหลังสิ้นสุดสัญญายืมตัวกับแอสตัน วิลล่าในช่วงซัมเมอร์นี้ พร้อมระบุว่าสโมสรจะพิจารณาอนาคตของนักเตะอีกครั้งหลังปิดฤดูกาล

แรชฟอร์ด วัย 27 ปี ย้ายไปร่วมทีมสิงห์ผงาดแบบยืมตัวในเดือนมกราคม หลังเสียตำแหน่งตัวจริง และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการยิง 4 ประตู และทำ 6 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 17 นัดทุกรายการ ภายใต้การคุมทีมของ อูไน เอเมรี่

อโมริมกล่าวถึงสถานการณ์ของแรชฟอร์ดว่า “นักเตะที่ถูกปล่อยยืมทุกคนจะกลับมา แล้วเราจะตัดสินใจเรื่องอนาคตของพวกเขาในช่วงซัมเมอร์นี้”

“สิ่งที่เราคาดหวังเมื่อนักเตะย้ายออกไปแบบยืมตัว คือการที่พวกเขาได้แสดงศักยภาพออกมา ซึ่งทั้งแรชฟอร์ด, แอนโทนี และคนอื่น ๆ ต่างก็ทำได้ดี นั่นเป็นเรื่องที่เป็นผลดีต่อสโมสร”

นอกจากแรชฟอร์ดแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีผู้เล่นที่ปล่อยยืมตัวอีกหลายรายในฤดูกาลนี้ ทั้ง จาดอน ซานโช (เชลซี), แอนโทนี (เรอัล เบติส) และ ไทเรลล์ มาลาเซีย (พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น)

แมนยูจ้องสลับขั้ว “ฮอยลุนด์-ลุคแมน” กับอตาลันต้า

0

​แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังพิจารณาข้อตกลงแลกเปลี่ยนระหว่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ กับ อเดโมล่า ลุคแมน ปีกตัวเก่งของอตาลันต้า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแนวรุกสำหรับฤดูกาลหน้า ​

ฮอยลุนด์: ฟอร์มตกและอนาคตที่ไม่แน่นอน

ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าวัย 22 ปี ย้ายจากอตาลันต้า มาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ด้วยค่าตัวประมาณ 72 ล้านยูโร อย่างไรก็ตาม เขายังไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่น่าประทับใจได้ โดยทำได้เพียง 3 ประตูจากการลงเล่น 28 นัดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อาโมริม ฮอยลุนด์ถูกลดบทบาทลง และมีแนวโน้มว่าจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมสำหรับฤดูกาลหน้า ​

ลุคแมน: เป้าหมายใหม่ของปีศาจแดง

อเดโมล่า ลุคแมน ปีกทีมชาติไนจีเรีย วัย 27 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับอตาลันต้าในฤดูกาลนี้ โดยทำไป 18 ประตูและ 7 แอสซิสต์จากการลงสนาม 36 นัดในทุกรายการ เขายังเป็นฮีโร่ในนัดชิงชนะเลิศยูโรป้าลีกปี 2024 ด้วยการทำแฮตทริกใส่ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น พาอตาลันต้าคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ลุคแมนเคยมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีกกับเอฟเวอร์ตัน, ฟูแล่ม และเลสเตอร์ ซิตี้ และแสดงความสนใจที่จะกลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้ง

ข้อตกลงแลกเปลี่ยน: ผลประโยชน์ร่วมกัน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองว่าการแลกเปลี่ยนฮอยลุนด์กับลุคแมนจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยอตาลันต้าเองก็สนใจที่จะดึงฮอยลุนด์กลับไปร่วมทีมอีกครั้ง ขณะที่ลุคแมนมีค่าตัวประมาณ 60 ล้านยูโร และอตาลันต้าอาจพิจารณาข้อเสนอที่เหมาะสมเพื่อปล่อยตัวเขาในช่วงซัมเมอร์นี้

การเจรจาระหว่างทั้งสองสโมสรยังอยู่ในขั้นต้น และขึ้นอยู่กับความเต็มใจของลุคแมนในการย้ายทีม หากข้อตกลงนี้สำเร็จ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ผู้เล่นที่มีความเร็วและความสามารถในการทำประตูเข้ามาเสริมทัพ ขณะที่ฮอยลุนด์จะได้โอกาสเริ่มต้นใหม่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย​

แฟนบอลปีศาจแดงคงต้องติดตามความคืบหน้าของดีลนี้อย่างใกล้ชิดในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่จะถึงนี้

“อาร์เน่อ” ย้ำลิเวอร์พูลยังไม่การันตีแชมป์แม้จ่อถ้วยพรีเมียร์ลีก

0

อาร์เน่อ สล็อต กุนซือลิเวอร์พูล ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนเกมพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญที่จะเปิดบ้านรับมือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนนี้ โดยแม้ “หงส์แดง” จะเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024-25 เหลืออีกเพียงแต้มเดียวเท่านั้นจาก 5 นัดสุดท้าย แต่กุนซือชาวดัตช์ยังยืนยันว่าทีมจะไม่ประมาทและต้องการจบภารกิจให้สมบูรณ์แบบที่สุด

ลิเวอร์พูลปัจจุบันนำจ่าฝูงของตาราง มีอยู่ 79 คะแนน จาก 33 นัด ทิ้งห่าง อาร์เซน่อล รองจ่าฝูงถึง 12 แต้ม และแข่งน้อยกว่า 1 นัด หมายความว่า หากทีมของสล็อตเก็บได้เพียงแต้มเดียวจากเกมกับสเปอร์ส ก็จะการันตีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกทันที และนั่นจะเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 20 ของสโมสร

“มันเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่” อาร์เน่อ กล่าว “เรารู้ดีว่าแฟนบอลตั้งตารอวันอาทิตย์นี้ เพราะครั้งล่าสุดที่เราคว้าแชมป์ลีกคือช่วงโควิด พวกเขาไม่ได้ฉลองร่วมกันในสนามเลย ดังนั้นมันพิเศษมาก แต่เรายังมีงานต้องทำ เราต้องการอย่างน้อยหนึ่งแต้ม และหวังว่าแฟนๆ จะมอบแรงสนับสนุนให้เราเหมือนที่ทำมาตลอดฤดูกาล”

สล็อต ยังกล่าวถึงคู่แข่งว่า “ท็อตแน่มยังมีลุ้นพื้นที่ยุโรป และพวกเขาก็ต้องการชนะเช่นกัน ดังนั้นนี่จะไม่ใช่งานง่าย พวกเขาคือทีมที่มีคุณภาพ และเราจะเตรียมทีมให้พร้อมที่สุดเช่นเคย”

นอกจากประเด็นแชมป์ กุนซือลิเวอร์พูลยังอัปเดตอาการบาดเจ็บของ โจ โกเมซ และ คอเนอร์ แบรดลีย์ ว่าทั้งคู่มีลุ้นกลับมาลงสนามช่วงปลายฤดูกาล โดยเฉพาะโกเมซ ที่แม้ยังไม่ได้กลับมาซ้อมกับทีมเต็มรูปแบบ แต่หากฟื้นตัวได้ดี จะอาจได้ลงเล่นใน 1-2 เกมสุดท้าย

“เขา (โกเมซ) หายหน้าไปนานมาก แต่ใกล้จะกลับมาแล้ว ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ผมเชื่อว่าเขาจะมีโอกาสลงเล่นก่อนจบฤดูกาล” สล็อตกล่าว

สำหรับ คอเนอร์ แบรดลีย์ กำลังเร่งความฟิตและอาจพร้อมลงสนามเต็ม 90 นาทีในเร็วๆ นี้ แต่ยังต้องเบียดแย่งตำแหน่งกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่กลับมาเป็นตัวหลักอีกครั้ง

“เขาคือฟูลแบ็กพรสวรรค์สูง แต่เราต้องดูแลเขาให้ดี เพราะมีอาการบาดเจ็บมาก่อน ตอนนี้เขาใกล้เคียงแล้ว และผมหวังว่าเขาจะได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในช่วงที่เหลือ แต่แน่นอน การมีเทรนต์อยู่ในทีมก็ไม่ง่ายสำหรับเขา”

ลิเวอร์พูลมีโอกาสจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ลีกอย่างสมบูรณ์แบบ หากสามารถรักษาฟอร์มยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อไปได้ โดยเกมพบสเปอร์สที่แอนฟิลด์อาจกลายเป็นค่ำคืนแห่งประวัติศาสตร์อีกครั้งของ “หงส์แดง”.

แมนฯ ซิตี้ ฟันเงินจากยูฟ่าสูงสุด หลังปล่อยแข้งรับใช้ชาติ

0

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นสโมสรที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก ยูฟ่า มากที่สุด จากการมีนักเตะร่วมรับใช้ทีมชาติในรายการแข่งขันระดับชาติที่จัดโดยสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปในช่วงที่ผ่านมา

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ยูฟ่า ได้ดำเนินการแจกจ่ายเงินจำนวนรวม 233 ล้านยูโร ให้กับ 901 สโมสรทั่วทั้งทวีปยุโรป ซึ่งมีฐานะเป็นสมาชิกของ 55 สมาคมฟุตบอลระดับชาติ โดยเป็นผลตอบแทนจากการที่สโมสรต่าง ๆ ปล่อยนักเตะไปร่วมทีมชาติในรายการต่าง ๆ ที่ยูฟ่าดูแล อาทิ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก (ฤดูกาล 2020–21 และ 2022–23), รอบคัดเลือกยูโร 2024 และ รอบสุดท้ายของยูโร 2024

จากการคำนวณส่วนแบ่งดังกล่าว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่ได้รับค่าตอบแทนมากที่สุด คิดเป็นมูลค่า ประมาณ 5.17 ล้านยูโร ขณะที่ เรอัล มาดริด ตามมาเป็นอันดับสองด้วยจำนวน 4.79 ล้านยูโร และ อินเตอร์ มิลาน รับไป 4.65 ล้านยูโร

การจัดสรรเงินทุนในครั้งนี้ครอบคลุมสโมสรทุกระดับ ไม่จำกัดแค่ทีมยักษ์ใหญ่ โดยทีมระดับล่างอย่าง ยอร์กเชียร์ เอฟซี ซึ่งแข่งขันในลีกระดับ 10 ของอังกฤษ ก็ยังได้รับเงินสนับสนุนเช่นกัน เป็นจำนวน 7,300 ยูโร

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางของยูฟ่าในการกระจายผลประโยชน์จากการแข่งขันทีมชาติให้กับสโมสรต้นสังกัดของนักเตะ เพื่อชดเชยการใช้งานนักเตะในช่วงฟีฟ่าเดย์ และการแข่งขันระดับทวีป

ห้ามพลาด!