Home Blog Page 26

เด เคอา โชว์เซฟสองจุดโทษ! เกมล่าสุด

0

ดาบิด เด เคอา ป้องกัน 2 จุดโทษจาก เตโอ แอร็งน็องเดซ และ แทมมี่ อับราฮัม พร้อมส่งบอลยาวนำมาซึ่งประตูชัย ช่วยให้ ฟิออเรนติน่า คว้าชัยชนะเหนือ เอซี มิลาน 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญและทำให้ “รอสโซเนรี่” พลาดโอกาสไล่ตามรองจ่าฝูง

การแข่งขันฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คืนวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม เอซี มิลาน ที่ชนะรวดในลีก 3 เกมติดต่อกัน แม้ผลงานในยุโรปจะไม่ดี ต้องมาเยือน ฟิออเรนติน่า ทีมอันดับ 14 ของตาราง

เกมครึ่งแรก

ฟิออเรนติน่า ได้จุดโทษนาทีที่ 22 แต่ มอยเซ่ คีน ยิงไปติดเซฟของ ไมค์ เมนญอง ทำให้พลาดโอกาสขึ้นนำ อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 35 ยาซีน อัดลี่ เลี้ยงบอลมาทางซ้าย ก่อนจะซัดโค้งเสียบเสาให้เจ้าถิ่นนำ 1-0

มิลานพยายามตีเสมอ และมาได้จุดโทษในช่วงทดเวลาครึ่งแรกเมื่อ ลูก้า รานิเอรี่ ทำฟาวล์ในเขตโทษ เตโอ แอร็งน็องเดซ รับหน้าที่สังหาร แต่ ดาบิด เด เคอา โชว์ฟอร์มสุดยอดป้องกันไว้ได้ หมดครึ่งแรก ฟิออเรนติน่านำ 1-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง

นาทีที่ 56 มอยเซ่ คีน ทำเสียจุดโทษอีกครั้ง มิลานมีโอกาสตีเสมอจาก แทมมี่ อับราฮัม แต่ เด เคอา โชว์เซฟอีกหน ทำให้สกอร์ยังคงเป็น 1-0

นาทีที่ 60 เตโอ แอร็งน็องเดซ เปิดบอลข้ามมาทางขวาให้ คริสเตียน พูลิซิซ ยิงตามน้ำเข้าประตู ตีเสมอ 1-1

แต่เจ้าถิ่นมาได้ประตูชัยในนาทีที่ 73 จากจังหวะที่ เด เคอา เปิดบอลยาวไปให้ มอยเซ่ คีน ต่อให้ อัลเบิร์ต กุ๊ดมุนด์สัน ซัดเต็มข้อให้ ฟิออเรนติน่า ขึ้นนำ 2-1 จบเกม ฟิออเรนติน่า ชนะ เอซี มิลาน 2-1 คว้าสามแต้มสำคัญ และทำให้ “รอสโซเนรี่” พลาดโอกาสไล่ตามรองจ่าฝูง

เฟเดริโก บัลเบร์เด: สถิติสุดยอดแข้งราชัน

0

เฟเดริโก บัลเบร์เด (Federico Valverde) มิดฟิลด์คนสำคัญของเรอัล มาดริด ยังคงเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมในปี 2024 ด้วยทักษะรอบด้าน ความเร็ว ความแม่นยำในการยิงประตู และบทบาทสำคัญในแผงกลางของทีม เขามีส่วนร่วมสำคัญทั้งในเกมรุกและรับให้กับ “ราชันชุดขาว” ในฤดูกาล 2024/25

สถิติการยิงประตู

ในฤดูกาล 2024/25 บัลเบร์เดยิงได้แล้ว 2 ประตูจากการลงสนาม 9 นัดในลาลีกา โดยมีอัตราการยิงที่เฉลี่ย 0.23 ประตูต่อนัด และมีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม (แอสซิสต์) 2 ครั้ง ด้วยการเล่นที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง ทั้งความแม่นยำในการจ่ายบอล (มีอัตราการจ่ายบอลสำเร็จถึง 92.08%) และการทำประตูสำคัญในหลายแมตช์ที่ผ่านมา ทำให้เขาเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่เรอัล มาดริดขาดไม่ได้

รางวัลและความสำเร็จส่วนตัว

บัลเบร์เดคว้ารางวัลมากมายทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยในปี 2024 เขาช่วยให้เรอัล มาดริดคว้าแชมป์ลาลีกาเป็นสมัยที่ 3 ของเขา นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย และแชมป์ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ 2 สมัยอีกด้วย ความสำเร็จเหล่านี้สะท้อนถึงความสามารถของเขาในฐานะนักเตะระดับโลกที่มีความสำคัญต่อทีมอย่างยิ่ง

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้: นักล่าประตูผู้ยิ่งใหญ่จากโปแลนด์

0

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (Robert Lewandowski) คือหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลยุโรป ด้วยฝีเท้าและทักษะการยิงประตูที่น่าทึ่ง เขาสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะนักเตะที่ยากจะหาใครเทียบได้จากทั้งสโมสรและทีมชาติ

ประวัติความเป็นมา:
เลวานดอฟสกี้ เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1988 ในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เขาเริ่มต้นอาชีพการเล่นฟุตบอลในโปแลนด์ก่อนจะย้ายมาเล่นให้กับสโมสรใหญ่ในยุโรป การเปลี่ยนสโมสรสำคัญครั้งแรกคือการย้ายไปยังโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) ภายใต้การคุมทีมของเจอร์เกน คล็อปป์ และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างชื่อเสียงในระดับสากล

สถิติการยิงประตูที่น่าประทับใจ:

  • โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์: ในช่วงที่เลวานดอฟสกี้อยู่กับดอร์ทมุนด์ (2010-2014) เขาทำประตูรวม 103 ประตูจาก 187 นัด ช่วยทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ UEFA Champions League ในปี 2013
  • บาเยิร์น มิวนิค: หลังจากย้ายมาอยู่กับบาเยิร์น มิวนิค (2014-2022) เลวานดอฟสกี้ทำลายสถิติต่าง ๆ ในเยอรมนี ด้วยการยิงไปทั้งหมด 344 ประตูจาก 375 นัด ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัยติด และแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2020
  • บาร์เซโลนา: ปัจจุบันเลวานดอฟสกี้อยู่กับบาร์เซโลนา (2022-ปัจจุบัน) และยังคงรักษามาตรฐานการยิงประตูได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขาเป็นหัวหอกหลักของทีมในลาลีกาและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

รางวัลส่วนตัวและความสำเร็จ:
เลวานดอฟสกี้ได้รับรางวัลส่วนตัวมากมาย รวมถึงรางวัล “The Best FIFA Men’s Player” สองสมัยติดต่อกันในปี 2020 และ 2021 เขายังได้รับรางวัล “Golden Shoe” ซึ่งมอบให้กับดาวซัลโวสูงสุดของยุโรปในปี 2021 ด้วยการยิงประตู 41 ประตูในฤดูกาลบุนเดสลีกา นอกจากนี้ยังทำลายสถิติการยิงประตูมากที่สุดในบุนเดสลีกาของแกร์ด มึลเลอร์ ด้วยจำนวนประตู 41 ประตูในฤดูกาล 2020-2021 อีกด้วย

ความสำเร็จที่เขาทำได้ทั้งในระดับสโมสรและรางวัลส่วนตัวทำให้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้เป็นกองหน้าระดับโลกที่หลายคนยกย่องว่าเป็น “นักล่าประตู” ที่สมบูรณ์แบบ

ซาวินโญ่: ปีกดาวรุ่งแห่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้

0

ซาวินโญ่ (Savinho) หรือชื่อเต็มคือ ซาวีโอ วิเอร่า เดอ โอลิเวร่า (Sávio Vieira de Oliveira) คือหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยความสามารถด้านการรุกที่โดดเด่นและทักษะการเล่นที่เหนือชั้น เขาได้สร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในวงการฟุตบอลโลก แม้อายุยังน้อย แต่ซาวินโญ่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่จะเป็นหนึ่งในปีกชั้นนำของพรีเมียร์ลีกในอนาคต

ประวัติของซาวินโญ่

ซาวินโญ่เกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2004 ที่เมืองดูเก้ เดอ คาซิอัส ประเทศบราซิล เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพฟุตบอลกับสโมสรอัตเลติโก มิเนโร (Atlético Mineiro) ในบราซิล และมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย จากทักษะการเลี้ยงบอล ความเร็ว และการควบคุมบอลที่ดีเยี่ยม ทำให้เขาได้รับความสนใจจากหลายสโมสรใหญ่ในยุโรป

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ตัดสินใจคว้าตัวซาวินโญ่มาร่วมทีมในปี 2023 โดยตั้งเป้าให้เขาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมในอนาคต การย้ายทีมนี้ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่สำหรับอาชีพของเขาในเวทีฟุตบอลยุโรป

สถิติการยิงประตู

ในฤดูกาลแรกที่เข้าร่วมทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซาวินโญ่ยังไม่เป็นตัวหลักของทีม แต่เขาได้รับโอกาสในการลงเล่นในบางนัดสำคัญ โดยเฉพาะในถ้วย EFL Cup และ FA Cup เขาทำผลงานได้โดดเด่นในด้านการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม และสามารถยิงประตูสำคัญให้ทีมได้บ้าง แม้จำนวนประตูจะยังไม่มากนัก เนื่องจากเขาเน้นไปที่บทบาทการเป็นปีกที่สร้างเกมรุก

  • ฤดูกาล 2023/24: ซาวินโญ่ลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในพรีเมียร์ลีก 12 นัด และยิงได้ 2 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์
  • การแข่งขันในถ้วย: ในรายการ EFL Cup ซาวินโญ่ยิงได้ 1 ประตูจากการลงเล่น 4 นัด และมีส่วนร่วมกับการเข้ารอบลึกของทีม

รางวัลส่วนตัวกับสโมสร

ถึงแม้ซาวินโญ่จะยังไม่ได้รับรางวัลส่วนตัวใหญ่อย่างเป็นทางการกับสโมสร แต่เขาก็ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในยุโรป ปีกหนุ่มรายนี้เคยได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำเดือนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเคยเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมในเกมที่เขามีส่วนช่วยทีมเอาชนะในการแข่งขันบอลถ้วย

ในอนาคตซาวินโญ่มีโอกาสที่จะได้รับรางวัลส่วนตัวอีกมากมาย หากเขายังคงพัฒนาฝีเท้าต่อไปภายใต้การฝึกสอนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และทีมงานของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

สรุป
ซาวินโญ่ถือเป็นปีกดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูง และเส้นทางในวงการฟุตบอลของเขายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ด้วยทักษะและความทุ่มเทที่เขาแสดงออกมาในสนาม เขามีอนาคตที่สดใสรออยู่ และไม่แน่ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาอาจกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก

โคล พาล์มเมอร์: เส้นทางดาวรุ่งสู่ความสำเร็จ

0

โคล พาล์มเมอร์ (Cole Palmer) หนึ่งในดาวรุ่งที่กำลังเฉิดฉายในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยศักยภาพ และพัฒนาฝีเท้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาเริ่มต้นจากการเป็นเด็กฝึกในศูนย์เยาวชนของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ ในเวลาอันรวดเร็ว พาล์มเมอร์ถือเป็นนักเตะที่มีทั้งความสามารถในเกมรุกที่หลากหลาย ทั้งการสร้างสรรค์เกมและการทำประตู

ประวัติส่วนตัว

โคล พาล์มเมอร์ เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2002 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เขาเริ่มเข้าร่วมศูนย์ฝึกเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่อายุ 8 ปี และก้าวหน้าขึ้นมาพร้อมกับความมุ่งมั่นและพรสวรรค์ที่โดดเด่น การปรากฏตัวในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นในปี 2020 ในการแข่งขันคาราบาว คัพ กับเบิร์นลี่ย์

สถิติในระดับสโมสร

ตั้งแต่พาล์มเมอร์เริ่มเล่นในทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาได้สร้างผลงานที่น่าประทับใจ ไม่เพียงแต่ในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลงสนามในรายการใหญ่ระดับยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก อีกด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้เล่นตัวหลักเสมอไป แต่การมีส่วนร่วมกับทีมในฐานะตัวสำรองหรือผู้เล่นโรเตชั่นถือว่าสำคัญและช่วยเพิ่มพลังให้กับทีมในช่วงเวลาที่ต้องการ

ในฤดูกาล 2023/24 พาล์มเมอร์ทำผลงานโดดเด่น โดยลงสนามรวมมากกว่า 25 นัดในทุกรายการ และทำประตูสำคัญในเกมต่าง ๆ ซึ่งทำให้แฟนบอลเห็นถึงศักยภาพและอนาคตที่สดใสของเขาในวงการฟุตบอลอังกฤษ

รางวัลส่วนตัวและความสำเร็จกับสโมสร

ในระดับสโมสร พาล์มเมอร์เป็นส่วนหนึ่งของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ คาราบาว คัพ ในหลายฤดูกาล การได้ลงเล่นเคียงข้างกับนักเตะระดับโลก เช่น เควิน เดอ บรอยน์ และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าในการพัฒนาฝีเท้า และยังทำให้เขาได้รับโอกาสเล่นในเกมสำคัญอย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

สำหรับรางวัลส่วนตัว พาล์มเมอร์ยังไม่ค่อยมีผลงานเด่นชัดในด้านการคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม เนื่องจากเขายังอยู่ในช่วงของการสร้างชื่อเสียง แต่การได้รับคำชื่นชมจากทั้งโค้ชและเพื่อนร่วมทีมว่าเป็นนักเตะที่มีอนาคตไกล ก็นับว่าเป็นการการันตีศักยภาพในระยะยาว

อนาคตที่สดใส

โคล พาล์มเมอร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองในวงการฟุตบอลอังกฤษ ด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยม ความสามารถในการเล่นหลากหลายตำแหน่งในแนวรุก และความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดยั้ง พาล์มเมอร์ยังมีเส้นทางการค้าแข้งที่ยาวไกลรออยู่ และเชื่อว่าในอนาคตเขาจะเป็นนักเตะคนสำคัญที่มีส่วนร่วมในการคว้าถ้วยรางวัลมากมาย ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ

“แมนยูฯ ไร้ชัย 5 นัดติด รอลุ้นอนาคต เทน ฮาก”

0

เอริก เทน ฮาก ยังไม่สามารถพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาเก็บชัยชนะได้ หลังบุกไปเสมอ แอสตัน วิลลา 0-0 เป็นเกมที่ 5 ติดต่อกันที่ทีมไร้ชัยชนะ

วันที่ 6 ตุลาคม 2567 การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในคืนวันอาทิตย์

ในเกมนี้ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ เดินทางมาชมการแข่งขันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ตั้งแต่เมษายน ท่ามกลางกระแสข่าวที่อนาคตของ เอริก เทน ฮาก เริ่มไม่แน่นอน

แม้ในครึ่งแรก ทั้งสองทีมจะมีโอกาสทำประตู แต่ยังขาดความเฉียบขาด ทำให้ 45 นาทีแรกจบลงแบบไร้สกอร์

เข้าสู่ครึ่งหลัง แอสตัน วิลลา มีโอกาสใกล้เคียงกับการทำประตูอยู่หลายครั้ง แต่ยังไม่ดีพอที่จะเปลี่ยนเป็นประตู สุดท้ายเกมจบลง 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เป็นนัดที่ 5 ติดต่อกัน

เอซี มิลาน เตรียมบุกไปเยือน ฟิออเรนติน่า ศึกกัลโช่ เซเรียอา วีคที่ 7

0

หลังจากผลงานที่แตกต่างกันอย่างมากในยุโรปฟิออเรนติน่าและเอซี มิลานจะพบกันที่สตาดิโอ อาร์เตมิโอ ฟรานกี้ ในเกมเซเรียอาคืนวันที่ 7 ตุลาคม 2567 เวลา 01.45 น. แม้ว่าในที่สุด “ไวโอล่า” ก็สามารถเอาชนะคู่แข่งจาก ยูฟ่าคอนเฟอเรนซ์ลีก ได้อย่างสบายๆ แต่มิลานก็ไม่สามารถสร้างผลงานที่ดียิ่งขึ้นในประเทศได้ โดยพ่ายแพ้เป็นนัดที่สองจากสองเกมในแชมเปี้ยนส์ลีก

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

ฟิออเรนติน่าเป็นทีมเต็งที่จะเอาชนะ เดอะ นิว เซนต์ส ในศึกคอนเฟอเรนซ์ลีก โดยใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงกว่าจะขึ้นนำจากประตูของ ยาซีน อัดลี ก่อนที่ มอยเซ่ คีน จะยิงเพิ่ม ทำให้พวกเขาชนะไปได้ หลังจากต้องผ่านด่านเพลย์ออฟด้วยการดวลจุดโทษกับ ปุชกาชแฟแร็นตส์ อคาเดเมีย ฟอร์มในเซเรียอาของพวกเขาก็ไม่สม่ำเสมอ โดยไม่ชนะใน 4 เกมแรก ก่อนจะเอาชนะลาซิโอในปลายเดือนกันยายน และเสมอกับเอ็มโปลี ทำให้ฟิออเรนติน่ารั้งอันดับ 11 อย่างไรก็ตาม พวกเขาแพ้เพียงเกมเดียวใน 11 นัดลีกหลังสุดที่บ้าน

เอซี มิลานชนะ 6 จาก 8 นัดหลังสุดในเซเรียอาที่พบกับฟิออเรนติน่า รวมถึงชัยชนะ 2-1 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ขณะที่ “รอสโซเนรี” ยังคงไม่แพ้ใครในลีก 4 เกมติดต่อกัน ซึ่งรวมถึงการหยุดฟอร์มอินเตอร์ในดาร์บี้แมตช์ แต่ผลงานในยุโรปยังน่าผิดหวัง โดยพวกเขาแพ้ลิเวอร์พูลและเลเวอร์คูเซ่นในแชมเปี้ยนส์ลีก แม้ว่ามิลานจะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในปี 2023 แต่พวกเขาชนะเพียง 9 นัดจาก 33 เกมหลังสุดในลีกระดับสูง ในเซเรียอาปัจจุบัน มิลานรั้งอันดับ 3 หลังจากชนะเลชเช่ 3-0 โดยทำไป 14 ประตูใน 6 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่ดีเป็นอันดับสองของสโมสร

ข่าวทีมล่าสุด

ฟิออเรนติน่าจะกลับมาพร้อมความแข็งแกร่งในเกมวันอาทิตย์ โดย ราฟฟาเอเล่ ปัลลาดิโน ปรับใช้แผน 4-2-3-1 ในเกมดาร์บี้กับเอ็มโปลีและเกมพบกับทีเอ็นเอส แม้มีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาใช้แผนสามกองหลังเพื่อรับมือมิลาน ลูก้า รานิเอรี, ปิเอโตร โคมุซโซ และ ลูกัส มาร์ติเนซ กวาร์ตา จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง

ด้านมิลานส่งทีมแข็งแกร่งในเกมกับเลเวอร์คูเซ่น และน่าจะมีการเปลี่ยนตัวไม่มากในเกมนี้ ราฟาเอล เลเอา และ คริสเตียน พูลิซิช จะนำแนวรุก โดยเลเอาทำประตูในสามเกมลีกหลังสุดที่พบฟิออเรนติน่า ขณะที่ พูลิซิช ก็ฟอร์มดีในลีกเช่นกัน มิลานจะขาด มาร์โก สปอร์ติเอลโล, อิสมาเอล เบนนาเซอร์ และ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่กัปตัน ดาวิเด คาลาเบรีย กลับมาพร้อมเล่นแล้ว

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

  • ฟิออเรนติน่า
    เด เคอา; มาร์ติเนซ กวาร์ต้า, โคมุซโซ่, รานิเอรี; โดโด, คาตาลดี, โบเว, โกเซนส์; โคลปานี, กุดมุนด์สสัน; คีน
  • เอซี มิลาน
    ไมญ็อง; เอเมอร์สัน, กับเบีย, ปาฟโลวิช, เอร์นันเดซ; โฟฟานา, ไรน์เดอร์ส; พูลิซิช, โมราต้า, เลเอา; อับราฮัม

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

แม้ว่าฟอร์มการเล่นภายในประเทศของมิลานจะกำลังดีขึ้น แต่ฟิออเรนติน่าก็แทบจะไม่พ่ายแพ้ในสนามหญ้าของทัสคานีเลย และน่าจะสามารถต้านทานทีมเยือนจากเมืองรองได้ ทัพรอสโซเนรี่ยังคงเปราะบางในแนวรับ ดังนั้น ไวโอล่าจึงมีโอกาสยิงประตูได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งและเพิ่มอีกหนึ่งแต้มให้กับผลงานในเซเรียอาของพวกเขา

ฟิออเรนติน่า 1-1 เอซี มิลาน

ยูเวนตุส เปิดบ้านพบกับ กายารี ศึกกัลโช่ เซเรียอา วีคที่ 7

0

หลังจากชนะรวดสองนัดเยือนยูเวนตุสจะกลับมาที่ตูรินในวันอาทิตย์ โดยพวกเขาจะพบกับกายารี ทีมที่ตกชั้นจากเซเรียอา หลังจากขยับมาใกล้ตำแหน่งจ่าฝูงของอิตาลียูเวนตุสก็คว้าชัยชนะในเกมที่ต้องใช้การดวลกันถึง 5 ประตูเหนือ RB ไลป์ซิก ขณะเดียวกัน กายารีเพิ่งคว้าชัยชนะในลีกนัดแรกของฤดูกาลนี้มาได้ไม่นาน

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

ยูเวนตุสภายใต้การคุมทีมของธีอาโก้ ม็อตต้า แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นอย่างมาก โดยแม้จะเหลือผู้เล่น 10 คนและตามหลัง 2-1 พวกเขายังกลับมาเอาชนะ RB ไลป์ซิก 3-2 ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ดุซาน วลาโฮวิชทำ 2 ประตูสำคัญช่วยให้ทีมตีเสมอ ก่อนที่ตัวสำรอง เซอร์จิโอ คอนเซเซา จะยิงประตูชัย ยูเวนตุสยังเอาชนะพีเอสวี 3-1 ในเกมก่อนหน้า โดยมีแนวรับที่แข็งแกร่ง เสียเพียง 3 ประตูในทุกรายการ พวกเขารักษาคลีนชีตได้ในเกมเซเรียอา 6 นัดแรก ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของสโมสร ยูเว่ชนะกายารีในบ้าน 7 นัดหลังสุด และคาดว่าจะรักษาฟอร์มที่ยอดเยี่ยมนี้ต่อไปในเกมวันอาทิตย์

กายารีแพ้ยูเวนตุสถึง 12 จาก 14 นัดหลังสุดในลีกสูงสุด โดยเสีย 2 ประตูต่อเกมใน 4 นัดล่าสุด อย่างไรก็ตาม ทีมของ ดาวิเด นิโคล่า เพิ่งคว้าชัยชนะในลีกได้อย่างดราม่า 3-2 เหนือปาร์ม่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จากการทำประตูของ นาดีร์ ซอร์เตอา, ราซวาน มาริน และ โรแบร์โต้ ปิคโคลี่ ซึ่งช่วยให้กายารีขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 16 ด้วย 5 คะแนน แม้จะยังไม่มาก แต่ถือว่าดีกว่าสองฤดูกาลก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ พวกเขายังผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโคปปา อิตาเลีย และจะเจอกับยูเวนตุสอีกครั้ง

ข่าวทีมล่าสุด

การตรวจสอบทางการแพทย์ยืนยันว่า เบรเมอร์ กองหลังของยูเวนตุสได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่ชนะไลป์ซิก ทำให้ต้องพักหลายเดือน เฟเดอริโก้ กัตติ จะจับคู่กับ ปิแอร์ คาลูลู ในแนวรับ ขณะที่ เซร์คิโอ คอนเซเซา ผู้ทำประตูชัยในเกมนั้น อาจแทนที่ นิโก้ กอนซาเลซ ที่บาดเจ็บ ส่วน อาร์คาดิอุสซ์ มิลลิก เข้ารับการผ่าตัดเข่าด้านดุซาน วลาโฮวิช เตรียมลงเป็นตัวจริง โดยเขายิงไป 6 ประตูจาก 9 นัดที่พบกับกายารี

ขณะที่ทีมเยือนยังขาดผู้เล่นหลักหลายคน ทำให้ โรแบร์โต ปิกโกลี และ ซิโต้ ลูวุมโบ้ น่าจะได้ลงเล่นต่อไป

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

  • ยูเวนตุส
    ดิ เกรกอริโอ; ดานิโล, คาลูลู, กัตติ, กัมเบียโซ; โลกาเทลลี, แม็คเคนนี่; คอนเซเซา, คูปไมเนอร์ส, ยิลดิซ; วลาโฮวิช
  • กายารี
    สคัฟเก็ต; ซัปปา, มินา, ลูแปร์โต, โอเบิร์ต; มาคุมบู, มาริน; ซอร์เทีย, เกตาโน, ลูวุมโบ้; พิคโคลี่

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

เมื่อพิจารณาจากการขาดความเฉียบขาดของคัลยารี และสถิติที่ย่ำแย่กับยูเว่ที่ตูริน เจ้าบ้านน่าจะรักษาสถิติคลีนชีตอันน่าทึ่งนี้ต่อไปได้อีก 90 นาที ยูเวนตุสดูเหมือนจะเป็นคู่แข่งที่จริงจังในการลุ้นสคูเด็ตโต้ในฤดูกาลนี้ ดังนั้นพวกเขาจะไม่ปล่อยให้คู่แข่งที่ค่อนข้างเจียมตัวมาหยุดพวกเขาในการแข่งขันเซเรียอาช่วงเที่ยงวันอาทิตย์

ยูเวนตุส 2-0 กายารี

แอร์เบ ไลป์ซิก บุกเยือน ไฮเดนไฮม์ ศึกบุนเดสลีกา วีคที่ 6

0

ไฮเดนไฮม์หวังว่าจะคว้าชัยชนะสามนัดติดต่อกันได้เมื่อพวกเขาต้อนรับทีมประจำในแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างแอร์เบ ไลป์ซิกที่วอยธ์อารีน่าในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2567 เวลา 20.30 น. ซึ่งเป็นนัดที่หกของพวกเขาในบุนเดสลีกา เจ้าบ้านรั้งอันดับที่ 6 ของตาราง มี 9 แต้ม และเอาชนะไมนซ์ 05 ไปได้ 2-0 เมื่อวันที่ 28 กันยายน ในเกมลีกนัดล่าสุด ในขณะที่เจ้าบ้านรั้งอันดับที่ 3 มี 11 แต้มและเอาชนะเอาก์สบวร์กไปได้ 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

หลังจากพ่ายแพ้สองนัดติดต่อกันให้กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์และไฟรบวร์ก ไฮเดนไฮม์กลับมาคว้าชัยได้ด้วยการเอาชนะไมนซ์ในลีกและโอลิมปิจา 2-1 ในคอนเฟอเรนซ์ลีกเมื่อวันพฤหัสบดี แม้ครองบอลได้ถึง 67% ในเกมกับโอลิมปิจา แต่ไฮเดนไฮม์สร้างโอกาสได้น้อย และต้องอาศัยประตูของพอล วานเนอร์ในนาทีที่ 83 เพื่อคว้าชัย เกมดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่สโมสรได้เล่นในรอบแรกของการแข่งขันยูฟ่ารายการใหญ่ แฟรงค์ ชมิดท์ ผู้จัดการทีม คงพอใจกับฟอร์มการเล่นที่พวกเขาจำกัดไมนซ์ให้มีโอกาสยิงเพียง 0.1 xG ไฮเดนไฮม์ชนะ 7 จาก 9 นัดในฤดูกาลนี้ แต่ผลงานในบ้านยังไม่แน่นอน ชนะแค่ 3 จาก 11 เกมหลังสุดในบุนเดสลีกา

แอร์เบ ไลป์ซิก ประสบความผิดหวังในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดที่สองของฤดูกาล 2024-25 เมื่อพ่ายยูเวนตุส 3-2 แม้จะขึ้นนำถึงสองครั้งในเกม สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือพวกเขามีผู้เล่นมากกว่าตั้งแต่นาทีที่ 58 หลังจากผู้รักษาประตูของยูเวนตุสถูกไล่ออก แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสที่สร้างขึ้นมาได้ โค้ชมาร์โก โรส ยอมรับว่าแนวรับของทีมเปราะบางและต้องปรับปรุง แม้ในลีกพวกเขาจะมีสถิติการป้องกันดีที่สุด เสียเพียง 2 ประตูจาก 5 เกม และยังไม่แพ้ใครในลีก ร่วมกับบาเยิร์น มิวนิค ผลงานล่าสุดของไลป์ซิกไม่คงที่ ชนะ 1 เสมอ 2 และแพ้ 2 จาก 5 นัดหลังสุด แต่ยังมีสถิติที่ดีในการเล่นเกมเยือนในบุนเดสลีกา ชนะ 5 จาก 8 นัด

ข่าวทีมล่าสุด

เจ้าบ้านจะขาดกองกลาง นิคลาส ดอร์ช ที่ถูกไล่ออกในเกมกับไมนซ์ และ จูเลียน นีฮูเอส ที่บาดเจ็บเอ็นไขว้ คาดว่าจะกลับมาในเดือนธันวาคม ขณะที่ มาเธียส ฮอนซัค และ มิคเคล คอฟมันน์ ไม่น่าจะพร้อมลงเล่นจนถึงเดือนพฤศจิกายน โค้ชแฟรงค์ ชมิดท์อาจใช้ผู้เล่น 11 คนชุดเดิมจากชัยชนะเหนือไมนซ์ โดยมี เลนนาร์ด มาโลนีย์ ลงแทนดอร์ชในแดนกลาง

ส่วนทีมเยือน ไลป์ซิก จะขาด ชาแวร์ ชลาเกอร์ จนถึงปี 2025 และ เควิน คัมเพิล คาดว่าจะกลับมากลางเดือนนี้ โค้ชมาร์โก โรสอาจจัดกองกลางสี่คน โดยมี นิโกลัส เซอิวัลด์ และ อมาดู ไฮดารา เป็นตัวรับ ส่วน ลัวส์ โอเพนดา และ เบนจามิน เซสโก จะนำแนวรุก โดยเซสโกฟอร์มดี ยิงไปแล้ว 5 ประตูในฤดูกาลนี้

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

  • ไฮเดนไฮม์
    มุลเลอร์; บุช, ไมน์ก้า, กิมเบอร์, โฟห์เรนบัค; ชอปเนอร์, มาโลนี่ย์; ตราโอเร่, วานเนอร์, ไซเอนซา; เพียร์ริงเกอร์
  • แอร์เบ ไลป์ซิก
    กูลัคซี; เฮนริชส์, ออร์บัน, คาสเตลโล, ราวม์; นูซา, ไฮดารา, ไซวัลด์, ชาบี; เซสโก้, โอเพ่นดา

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

เมื่อพิจารณาถึงประสิทธิภาพการป้องกันที่แข็งแกร่งของไฮเดนไฮม์เมื่อต้องเจอกับทั้งไมนซ์และโอลิมปิจา มันคงไม่น่าแปลกใจหากพวกเขาจะสามารถขัดขวางผู้เล่นแนวรุกของไลป์ซิกได้ อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเอาชนะได้ยากในเกมเยือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นเรื่องยากที่จะเห็นพวกเขาพ่ายแพ้ในวันอาทิตย์

ไฮเดนไฮม์ 1-3 แอร์เบ ไลป์ซิก

ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต พบ บาเยิร์น มิวนิค ศึกบุนเดสลีกา วีคที่ 6

0

บาเยิร์น มิวนิคของ แว็งซองต์ กอมปานี หวังว่าจะฟื้นตัวจากความพ่ายแพ้ในแชมเปี้ยนส์ลีกในวันพุธ โดยพวกเขาจะเดินทางไปพบกับไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ตที่ ดอยช์แบงก์ พาร์ค ในบุนเดลีกา ปัจจุบันทีม แฟร้งค์เฟิร์ต รั้งอันดับสองด้วย 12 คะแนนจาก 5 เกมลีก ส่วนทีมเยือนรั้งอันดับจ่าฝูงด้วย 13 คะแนน แต่พ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ให้กับแอสตัน วิลล่าในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกนัดที่แล้ว

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

หลังจากแพ้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-0 ในเกมเปิดฤดูกาล 2024-25 ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต กลับมาชนะรวดในลีก 4 นัดติดต่อกัน ล่าสุดเอาชนะโฮลสไตน์ คีล 4-2 แม้คีลจะตีเสมอ 2-2 หลังผ่าน 50 นาที แต่แฟร้งค์เฟิร์ตก็ทำ 3 ประตูในครึ่งหลังเพื่อคว้าชัย ในเกมยูโรปาลีกเมื่อวันพฤหัสบดี พวกเขาชนะเบซิคตัส 3-1 ขึ้นนำ 3-0 ก่อนที่ทีมตุรกีจะยิงประตูปลอบใจในนาทีที่ 93 กุนซือดีโน่ ท็อปมอลเลอร์ชื่นชมการควบคุมเกมของทีม แต่กังวลเรื่อง xG ที่เบซิคตัสทำได้มากกว่า ทีมชนะ 5 จาก 6 นัดหลังสุดในทุกรายการ แม้สถิติในบ้านจะไม่แน่นอน ชนะ 4 เสมอ 6 และแพ้ 2 จาก 12 นัด แต่แฟร้งค์เฟิร์ตยังคงสร้างโอกาสทำประตูได้มากเป็นอันดับสองในลีก

บาเยิร์น มิวนิคจะลงสนามในวันอาทิตย์นี้หลังพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลให้กับแอสตัน วิลล่าของอูไน เอเมรี่ 1-0 ที่วิลล่า พาร์ค ประตูเดียวของเกมมาจาก จอห์น ดูรัน ในนาทีที่ 79 หลังจากที่มานูเอล นอยเออร์ถูกจับนอกเส้นประตู โค้ช แวงซองต์ กอมปานีวิจารณ์ทีมว่าช้าเกินไปในการเล่น และแฮร์รี่ เคนก็แสดงความหงุดหงิดกับการขาดการส่งบอลในพื้นที่สุดท้าย แม้บาเยิร์นจะชนะ 5 นัดรวดในบุนเดสลีกา ยิงได้ 17 ประตู และเสียแค่ 4 ประตู ในเกมลีกล่าสุดพวกเขาเสมอไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 1-1 และจำกัดคู่แข่งให้มีโอกาสยิงเพียง 3 ครั้ง บาเยิร์นทำผลงานได้ดีในเกมเยือนฤดูกาลนี้ ชนะ 4 จาก 5 เกม

ข่าวทีมล่าสุด

เจ้าบ้านจะขาดกองกลาง เมห์ดี ลูน และ ออสการ์ โฮจลุนด์ จนถึงปลายเดือนตุลาคมและธันวาคมตามลำดับ ขณะที่ผู้รักษาประตู เควิน แทร็ปป์ ยังต้องรอเช็คความฟิตจากอาการบาดเจ็บสะโพก คาวา ซานโตส อาจได้ลงแทนอีกครั้ง แผงหลังคาดว่า ราสมุส คริสเตนเซ่น และ อาร์เธอร์ เทอาเต้ จะลงเป็นแบ็กขวาและซ้าย ส่วน ตูต้า และ โรบิน คอช จะเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก มาริโอ เกิทเซ อาจพลาดลงเล่นจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ฟาเรส ไชบีอาจได้ลงแทน

ด้านบาเยิร์นจะขาดผู้รักษาประตู สเวน อุลไรช์ เนื่องจากถูกแบน ขณะที่ ซาชา โบอี้ พักยาวถึงธันวาคม และ โยซิป สตานิซิช กับ จามาล มูเซียล่า คาดว่าจะกลับมาในเดือนพฤศจิกายนและตุลาคมตามลำดับ โค้ช แวงซองต์ กอมปานีอาจตัดสินใจว่าจะให้ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ที่ถูกวิจารณ์เรื่องฟอร์มล่าสุด ลงสนามต่อไปหรือไม่

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

  • ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต
    ซานโตส; คริสเตนเซ่น, ทูต้า, คอช, เธียต; ดินา เอบิมเบ, ชคีรี, ลาร์สสัน, ไชบี; เอคิทิก, มาร์มูช
  • บาเยิร์น มิวนิค
    นอยเออร์; เกร์เรโร, อูปาเมกาโน่, คิม, เดวีส์; คิมมิช, พาฟโลวิช; โอลิเซ่, มุลเลอร์, นาบรี้; เคน

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

เนื่องจากบาเยิร์นยิงได้เพียงครั้งเดียวในสองเกมหลังสุด และจะต้องลงสนามโดยไม่มีมูเซียลา มันคงไม่น่าแปลกใจหากพวกเขาจะต้องดิ้นรนเพื่อสร้างโอกาสมากมายในวันอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนชนะการแข่งขันในประเทศมาทั้งหมดในฤดูกาลนี้ และเมื่อพิจารณาว่าสถิติในบ้านของไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ตนั้นไม่สู้ดีนักพวกเขาอาจแพ้ให้กับบาเยิร์นของกอมปานี

ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 1-2 บาเยิร์น มิวนิค

ห้ามพลาด!