อินเตอร์ ไมอามี่ ทีมดังแห่งเมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ สหรัฐอเมริกา ภายใต้การบริหารของ เดวิด เบ็คแฮม ตกเป็นข่าวว่ากำลังพิจารณาดึง เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีม หลังเจ้าตัวเตรียมโบกมือลาเวทีพรีเมียร์ลีกช่วงซัมเมอร์นี้

ดาวเตะวัย 33 ปี เพิ่งประกาศแยกทางกับ “เรือใบสีฟ้า” หลังจบฤดูกาล 2024/25 ปิดฉากช่วงเวลา 10 ปีในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม และจะกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดในวันที่ 30 มิถุนายน ทำให้หลายทีมทั่วโลกเริ่มจับตาโอกาสดึงตัวแบบไม่มีค่าตัว ซึ่งหนึ่งในนั้นคืออินเตอร์ ไมอามี่

อย่างไรก็ตาม การดึงเดอ บรอยน์มายังแดนมะกันอาจไม่ง่ายนัก เนื่องจากค่าเหนื่อยของเจ้าตัวในปัจจุบันกับแมนฯ ซิตี้ อยู่ที่ประมาณ 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งถือว่าสูงลิ่วเมื่อเทียบกับเพดานเงินเดือนของลีก MLS ในขณะนี้

ปัจจุบัน อินเตอร์ ไมอามี่ ใช้โควตานักเตะ “Designated Player” ครบทั้ง 3 รายแล้ว ได้แก่ ลิโอเนล เมสซี่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ จอร์ดี้ อัลบา ซึ่งทั้งหมดได้รับข้อยกเว้นจากข้อจำกัดด้านค่าจ้าง โดยเฉพาะเมสซี่ที่รับค่าเหนื่อยสูงถึง 12 ล้านดอลลาร์ต่อปี ส่วนบุสเก็ตส์รับอยู่ที่ 8.5 ล้านดอลลาร์

รายงานระบุว่า หากอินเตอร์ ไมอามี่ต้องการเพิ่มเดอ บรอยน์เข้าไป พวกเขาอาจต้องเลือกเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้เล่นดีไซเนต หรือเจรจาให้แข้งเบลเยียมยอมลดค่าเหนื่อยลงมาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งขณะนี้ ทีมยังมีงบประมาณอีกประมาณ 3.1 ล้านดอลลาร์สำหรับฤดูกาลนี้

นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขด้านเวลาเกี่ยวกับ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ที่จะจัดขึ้นในสหรัฐฯ ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม โดยทั้งอินเตอร์ ไมอามี่ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม หากเดอ บรอยน์หมดสัญญากับซิตี้ในวันที่ 30 มิถุนายน เขาจะไม่มีสิทธิ์ลงเล่นในรายการนี้ เว้นแต่เขาต่อสัญญาเพิ่มกับทีมชั่วคราว

อีกทั้ง เขาจะยังไม่สามารถลงเล่นให้กับอินเตอร์ ไมอามี่ได้ทันที เพราะตลาดซื้อขาย MLS จะเปิดอีกครั้งในวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 เท่านั้น

ไม่เพียงแต่ไมอามี่ที่แสดงความสนใจ ก่อนหน้านี้ ซานดิเอโก เอฟซี ทีมใหม่ของลีก ก็ออกมาเปิดเผยว่ามีการเจรจากับเอเยนต์ของเดอ บรอยน์เช่นกัน ทำให้ดีลนี้ยังคงเปิดกว้างในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้

อีวาน ยูริช กลายเป็นอดีตกุนซือของเซาธ์แฮมป์ตันเพียงไม่ถึงหนึ่งวันหลังความพ่ายแพ้ต่อท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 1-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ทีม “นักบุญ” ต้องหล่นชั้นจากพรีเมียร์ลีกเร็วกว่าทีมใดในประวัติศาสตร์ โดยยังเหลือโปรแกรมอีกถึง 7 นัดให้ลงเล่น

กุนซือชาวโครเอเชียถูกแต่งตั้งเข้ามารับงานในถิ่นเซนต์ แมรี่ส์ เมื่อปลายเดือนธันวาคม ด้วยสัญญา 18 เดือน แต่กลับพาทีมเก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัดจาก 16 เกม และเก็บแต้มรวมได้แค่ 10 คะแนน กลายเป็นผลงานที่ต่ำกว่าฤดูกาลอันเลวร้ายของดาร์บี้ เคาน์ตี้ในปี 2007/08 ซึ่งทำไว้ที่ 11 แต้ม

ยูริชกลายเป็นกุนซือที่พาทีมแพ้ถึง 25 นัดจาก 31 เกม ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับทีมอย่างซันเดอร์แลนด์ในปี 2005/06 และเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2020/21

นอกจากผลการแข่งขันที่ย่ำแย่แล้ว เซาธ์แฮมป์ตันยังมีเกมรับที่เลวร้ายที่สุดในลีก โดยเสียไปแล้วถึง 74 ประตู และยิงได้เพียง 23 ลูก ถือว่าน้อยที่สุดในบรรดา 4 ลีกอาชีพสูงสุดของอังกฤษ ณ ตอนนี้

ตามรายงานจาก BBC ระบุว่า ไซม่อน รัสก์ จะขยับขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการกุนซือไปจนจบฤดูกาลนี้ โดยมีอดีตแข้งขวัญใจแฟนบอลอย่าง อดัม ลัลลานา รับหน้าที่เป็นผู้ช่วย

สำหรับยูริช นี่ถือเป็นประสบการณ์คุมทีมครั้งแรกนอกประเทศอิตาลี โดยก่อนหน้านี้เพิ่งแยกทางกับโรม่าหลังคุมทีมเพียง 12 นัดในช่วงเวลาสั้นๆ แค่ 53 วันเท่านั้น

เส้นทางการคุมทีมของเขาเริ่มต้นกับ มานโตว่า ในปี 2014 ก่อนจะไล่เติบโตในเวทีเซเรีย อากับทีมอย่าง โครโตเน่, เจนัว และเวโรน่า แต่ดูเหมือนว่าภารกิจในอังกฤษจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อหาทายาทในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ หลังจากที่ เควิน เดอ บรอยน์ ยืนยันว่าจะโบกมือลาทีมหลังจบฤดูกาล 2024/25 ซึ่งถือเป็นการปิดฉากเส้นทางอันยิ่งใหญ่กว่า 10 ปีในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม

ล่าสุดรายงานจากอังกฤษระบุว่า เป้าหมายเบอร์หนึ่งของทีมเรือใบสีฟ้าคือ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นภายใต้การคุมทีมของ ชาบี อลอนโซ่ โดย ซิตี้ พร้อมทุ่มทุนมหาศาลกว่า 100 ล้านปอนด์ เพื่อดึงดาวรุ่งทีมชาติเยอรมนีวัย 21 ปี มาเสริมแกร่งแดนกลาง

แม้ เวิร์ตซ์ ยังมีสัญญากับเลเวอร์คูเซ่นถึงปี 2027 แต่ทางต้นสังกัดก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดัน เนื่องจากทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ บาเยิร์น มิวนิค ต่างจับตาดูสถานการณ์ใกล้ชิด ขณะที่เจ้าตัวเองยังไม่ได้ตอบรับการต่อสัญญาใหม่

ในฝั่งของซิตี้ การวางโครงสร้างทีมใหม่หลังยุคเดอ บรอยน์ กำลังอยู่ในมือของ ฮูโก้ วิอาน่า ผู้อำนวยการฟุตบอลคนใหม่ ที่ได้รับไฟเขียวจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในการผลักดันดีลระดับบิ๊กเนม โดยหวังให้ เวิร์ตซ์ กลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมในยุคถัดไป เช่นเดียวกับดีลของ แจ็ค กรีลิช ที่เคยสร้างสถิติค่าตัวระดับ 100 ล้านปอนด์จากแอสตัน วิลล่า

ขณะเดียวกัน ซิตี้ก็พร้อมเสนอสัญญาที่มีค่าเหนื่อยระดับสูงเพื่อจูงใจแข้งดาวรุ่งรายนี้ ซึ่งปัจจุบันรับอยู่ราว 73,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ กับทีมในเยอรมนี โดยคาดว่าการย้ายทีมอาจเกิดขึ้นหลังจบศึกยูโร 2024 ที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพ

หากการย้ายทีมลุล่วง ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ จะกลายเป็นเพลย์เมกเกอร์รุ่นใหม่ของซิตี้ ที่มีภารกิจแบกรับความคาดหวังแทนตำนานอย่างเดอ บรอยน์ และอาจเป็นฟันเฟืองสำคัญในการทวงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกคืนจากอาร์เซน่อลและลิเวอร์พูล

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กำลังตกเป็นข่าวว่าเตรียมขยับสู่บทบาทเจ้าของสโมสรใน ลา ลีกา สเปน หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยพูดถึงความฝันในการมีสโมสรเป็นของตัวเอง ซึ่งมีรายงานล่าสุดว่าเขาจริงจังกับการแผนนี้มากขึ้น และอาจเริ่มต้นด้วยการเข้าซื้อ บาเลนเซีย หากทีมไม่ตกชั้นในซีซั่นนี้

แม้ยังค้าแข้งอยู่กับ อัล-นาสเซอร์ ในซาอุดีอาระเบีย แต่สตาร์วัย 40 ปี ได้พูดเอาไว้เมื่อปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจนว่า “ผมยังมีเป้าหมายอีกมาก และการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลคือหนึ่งในนั้น… ผมจะมีสโมสรใหญ่เป็นของตัวเอง” ซึ่งตอนนี้แนวโน้มดังกล่าวเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อย ๆ

รายงานจาก Mundo Deportivo ระบุว่า โรนัลโด้มีความสนใจจริงจังในการเข้าเทคโอเวอร์ บาเลนเซีย โดยมีจุดเชื่อมโยงสำคัญคือมิตรภาพแนบแน่นกับ ปีเตอร์ ลิม เจ้าของสโมสรชาวสิงคโปร์ แม้ก่อนหน้านี้ ลิม เคยประกาศไม่ต้องการขายทีมก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขสำคัญที่อาจกำหนดอนาคตของดีลนี้คือ บาเลนเซีย จะต้องไม่ตกชั้น ไปเล่นในเซกุนด้า ดิวิชั่นในฤดูกาลหน้า หากพวกเขายังสามารถยืนหยัดอยู่ในลีกสูงสุด โรนัลโด้ก็พร้อมเดินหน้าสู่การเจรจาครั้งสำคัญ

อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงคือความเป็นไปได้ด้านการเงิน ซึ่งเชื่อว่า โรนัลโด้อาจได้รับการสนับสนุนจากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย หรือกองทุน PIF ที่อยู่เบื้องหลังหลายการลงทุนกีฬาในประเทศ โดยเฉพาะความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS)

ตั้งแต่ย้ายมาเล่นในซาอุดี โปร ลีก เมื่อปลายปี 2022 โรนัลโด้ก็กลายเป็นตัวแทนของการผลักดันกีฬาในซาอุฯ ทั้งในแง่การประชาสัมพันธ์และการลงทุน เขาปรากฏตัวในอีเวนต์สำคัญระดับโลกหลายรายการ รวมถึงมวยและ UFC ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์เชิงกลยุทธ์ของประเทศ

ทั้งนี้ จากการประเมินของ Forbes ในปี 2023 สโมสรบาเลนเซียมีมูลค่าประมาณ 169 ล้านปอนด์ รวมรายได้ในวันแข่งขัน, สิทธิ์การถ่ายทอดสด, รายได้เชิงพาณิชย์ และมูลค่าของแบรนด์

แม้จะยังอยู่ในช่วงท้ายของเส้นทางการค้าแข้ง แต่การที่ ฟีฟ่า ไม่ได้ห้ามนักเตะเป็นเจ้าของสโมสรอื่น หากไม่ได้อยู่ในลีกหรือรายการเดียวกัน ก็เปิดทางให้โรนัลโด้สามารถครองทีมในสเปน ขณะยังเล่นให้ทีมในซาอุฯ ได้ในทางกฎหมาย

การลงทุนครั้งนี้ อาจเป็นอีกหนึ่งบทบาทใหม่ของซีอาร์7 ที่จะพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของเขา จากผู้เล่นระดับตำนาน สู่การเป็นเจ้าของทีมระดับแถวหน้าในยุโรป

โธมัส มุลเลอร์ ตัดสินใจโบกมือลาสโมสรที่เขารับใช้มาเกือบทั้งชีวิตอย่าง บาเยิร์น มิวนิค โดยการแยกทางจะเกิดขึ้นหลังจบฤดูกาล 2024/25 ซึ่งถือเป็นจุดสิ้นสุดของการเดินทางอันยาวนานถึง 25 ปีเต็ม กับทัพ “เสือใต้”

บทสรุปของเส้นทางแห่งความสำเร็จ

ดาวเตะวัย 35 ปี เริ่มต้นกับอะคาเดมีของบาเยิร์นตั้งแต่ปี 2000 ตอนอายุเพียง 10 ขวบ และก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2008 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มุลเลอร์กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของสโมสร คว้าแชมป์รวมถึง 33 รายการ ตลอดการค้าแข้งในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า

ความสำเร็จของเขารวมถึงแชมป์บุนเดสลีกา 12 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 6 ครั้ง และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2 สมัย พร้อมกับสถิติลงสนามมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรถึง 734 นัด

สโมสรโลกคือฉากสุดท้าย

รายการ FIFA Club World Cup 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน ถึง 13 กรกฎาคม จะเป็นเวทีสุดท้ายที่แฟนบอลได้เห็นมุลเลอร์ในสีเสื้อบาเยิร์น ซึ่งเขาเพิ่งลงสนามล่าสุดในเกมที่ต้นสังกัดบุกชนะ เอาก์สบวร์ก 3-1 โดยรับบทบาทเป็นตัวสำรอง

การอำลาครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การจากทีม แต่เป็นการปิดฉากบทหนึ่งของนักเตะที่เปรียบเสมือนดีเอ็นเอของบาเยิร์น มิวนิค และยังคงเป็นที่รักของแฟนบอลทั่วโลก

อันโตนี่ ปีกชาวบราซิลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังได้รับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำในยุโรป หลังจากโชว์ฟอร์มโดดเด่นระหว่างถูกยืมตัวไปเล่นกับ เรอัล เบติส ซึ่งทาง “ปีศาจแดง” ก็พร้อมพิจารณาข้อเสนอขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้

อาร์เซน่อล นำทัพล่าตัว – หลายทีมยุโรปร่วมวง

ตามรายงานจาก Fichajes สื่อสเปน ระบุว่า อาร์เซน่อล กำลังแสดงความสนใจอย่างจริงจังในการเซ็นสัญญากับ อันโตนี่ หลังจากดาวเตะวัย 24 ปีทำไป 4 ประตู 4 แอสซิสต์ นับตั้งแต่ย้ายไปเล่นให้ เบติส แบบยืมตัวเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

นอกจาก “ปืนใหญ่” แล้ว แอตเลติโก มาดริด ก็จับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับสโมสรจาก เซเรีย อา ที่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ และ บาเยิร์น มิวนิค ก็เคยตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับแข้งรายนี้เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม

มีรายงานเพิ่มเติมว่า อาร์เซน่อล ต้องการเร่งเปิดการเจรจากับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพื่อปิดดีลให้เร็วที่สุด และตัดหน้าคู่แข่งอย่าง เบติส ที่หวังจะเซ็นสัญญาถาวรกับปีกชาวบราซิลรายนี้

แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งราคาขาย 40 ล้านปอนด์

แม้ อันโตนี่ จะถูกซื้อตัวมาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัวมหาศาล 85 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2022 ภายใต้ยุคของ เอริก เทน ฮาก แต่ปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมปล่อยตัวเขาออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ และ i Paper รายงานว่าพวกเขาหวังจะได้รับค่าตัวคืนประมาณ 40 ล้านปอนด์

ปีกบราซิเลียนยังมีสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงปี 2027 แต่ด้วยผลงานที่ไม่เข้าเป้าตลอดช่วงเวลาที่เล่นในพรีเมียร์ลีก บวกกับความต้องการของสโมสรที่จะระดมทุนเสริมทัพใหม่ ทำให้โอกาสที่เขาจะย้ายทีมในตลาดซัมเมอร์นี้มีสูงมาก

ต้องรอดูกันว่า อันโตนี่ จะลงเอยกับสโมสรใดในซีซั่นหน้า และ แมนฯ ยูไนเต็ด จะสามารถปล่อยตัวเขาออกไปได้ในราคาที่ต้องการหรือไม่! 🚨🔥

วิคเตอร์ เยอเคเรส ดาวยิงตัวเก่งของสปอร์ติ้ง ลิสบอน กำลังเป็นหนึ่งในนักเตะที่เนื้อหอมที่สุดของตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ โดยมีถึง 7 สโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปที่เขาสนใจย้ายไปร่วมทีม ซึ่งรวมถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

กองหน้าชาวสวีเดนวัย 26 ปี ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับหลายทีม โดยเฉพาะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กำลังมองหาหัวหอกตัวเป้า อย่างไรก็ตาม สื่อโปรตุเกส A Bola รายงานว่า เยอเคเรส ไม่สนใจย้ายไป “ปีศาจแดง” หรือ เชลซี แต่มีความต้องการเล่นให้กับสโมสรอย่าง อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ บาเยิร์น มิวนิค

สัญญาและค่าฉีกสัญญา

ปัจจุบัน เยอเคเรส มีสัญญากับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน จนถึงปี 2028 และทีมดังจากโปรตุเกสตั้งค่าฉีกสัญญาไว้สูงถึง 100 ล้านยูโร (ประมาณ 84 ล้านปอนด์) ซึ่งเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว พวกเขาปฏิเสธข้อเสนอจากหลายทีมที่ต้องการคว้าตัวนักเตะ

เจ้าตัวเปิดใจถึงอนาคต

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เยอเคเรส เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตของตัวเองว่า
“เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังมีข่าวลือมากมายแพร่สะพัด แต่ตอนนี้ผมยังโฟกัสกับฤดูกาลที่เหลือ เราจะได้รู้กันเมื่อถึงเวลา”

นอกจากนี้ เมื่อถูกถามว่าเขามองตัวเองอยู่ที่ไหนในอีก 4 ปีข้างหน้า เจ้าตัวตอบอย่างชัดเจนว่า
“แน่นอนว่าต้องเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในยุโรป นั่นคือเป้าหมายของผม”

แมนฯ ยูไนเต็ด อาจต้องเปลี่ยนเป้าหมาย

จากกระแสข่าวล่าสุด ดูเหมือนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่ใช่หนึ่งในสโมสรที่ เยอเคเรส ให้ความสนใจ ทำให้พวกเขาอาจต้องหันไปมองเป้าหมายอื่นแทน โดยมีรายงานว่า “ปีศาจแดง” กำลังพิจารณาคว้าตัว เลียม ดีแลป กองหน้าจาก อิปสวิช ทาวน์ ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์แทน

การแย่งลายเซ็นของ เยอเคเรส กำลังจะเป็นหนึ่งในมหากาพย์ตลาดซัมเมอร์นี้ ต้องติดตามกันว่าแข้งสวีดิชรายนี้จะเลือกปลายทางใหม่ที่ไหน! 🚨🔥

คณะกรรมการผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PGMOL) ยอมรับความผิดพลาดในเกมพรีเมียร์ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เอฟเวอร์ตัน โดยระบุว่า เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ควรถูกไล่ออกจากสนามจากจังหวะเปิดปุ่มเข้าสกัด อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

“ลอนดอน อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด” และสื่ออังกฤษหลายสำนักรายงานว่า PGMOL ได้ทบทวนเหตุการณ์ในนาทีที่ 10 ของเกมที่แอนฟิลด์ ซึ่งเป็นจังหวะที่ ทาร์คอฟสกี้ เข้าบอลอย่างรุนแรงใส่ แม็ค อัลลิสเตอร์ แต่ผู้ตัดสิน ซามูเอล บาร์ร็อตต์ กลับให้เพียงใบเหลือง ขณะที่ทีมงาน VAR ก็ไม่ได้เรียกให้เปลี่ยนคำตัดสินเป็นใบแดง อย่างไรก็ตาม แม็ค อัลลิสเตอร์ ยังสามารถลงเล่นจนครบ 90 นาที

หลังจบเกม มีการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่ง PGMOL ยอมรับว่า การเข้าสกัดของ ทาร์คอฟสกี้ ถือเป็นการฟาวล์อันตราย และควรได้รับใบแดง ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปเกมของทั้งสองทีม

ดันแคน เฟอร์กูสัน อดีตกองหน้าตำนานของเอฟเวอร์ตัน แสดงความคิดเห็นว่า
“ทาร์คอฟสกี้ รู้ดีว่าเขากำลังทำอะไร เขาพุ่งเข้าใส่ตรงๆ และมันเสี่ยงต่อการทำให้คู่แข่งขาหัก นี่ควรเป็นใบแดงอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้ตัดสินยังใหม่กับเกมดาร์บี้ อาจมีความกดดัน แต่เขาควรไปดูจอ VAR ด้วยตัวเอง”

เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับการทำงานของ VAR ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งยังคงมีปัญหาการตัดสินที่ขัดแย้งและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่แฟนบอล

รูเบน อโมริม กุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันหนักแน่นว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมคนสำคัญจะไม่ถูกขายออกไปในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ แม้จะมีข่าวลือเกี่ยวกับการย้ายไป เรอัล มาดริด

บรูโน่ ยังเป็นแกนหลักของ แมนฯ ยูไนเต็ด

บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพิ่งต่อสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปจนถึงปี 2027 และยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีมในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่า เรอัล มาดริด กำลังจับตาดูสถานการณ์ของมิดฟิลด์วัย 30 ปี และอาจเดินหน้าคว้าตัวเขาไปร่วมทีม

แต่ล่าสุด อโมริม ได้ให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า “ไม่มีทางเกิดขึ้น บรูโน่ จะอยู่กับเราแน่นอน เพราะเขาคือผู้เล่นที่เราต้องการ และผมก็ได้บอกเขาไปแล้ว!”

กุนซือชาวโปรตุเกสยังกล่าวเสริมว่า “แม้เขาจะอายุ 30 ปี แต่เขายังฟิตมาก ลงเล่นไม่ต่ำกว่า 55 นัดต่อฤดูกาล และมีส่วนร่วมทั้งการทำประตูและแอสซิสต์ เขาคือกุญแจสำคัญของเรา”

แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการ บรูโน่ เพื่อล่าแชมป์

“เป้าหมายของเราคือการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ดังนั้นเราจำเป็นต้องเก็บนักเตะที่ดีที่สุดไว้กับทีม” อโมริม กล่าว “เราควบคุมสถานการณ์ได้ และผมรู้ว่าเขามีความสุขกับที่นี่ เพราะเขาเข้าใจในโปรเจ็กต์ของเรา และเขาเองก็เป็นแฟนบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย”

“หลายคนอาจมองว่าการแสดงอารมณ์ในสนามของเขาไม่ใช่ลักษณะที่ดีของกัปตันทีม แต่สำหรับผม นั่นคือสัญญาณของคนที่ทุ่มเทและต้องการพาทีมประสบความสำเร็จ”

สถิติสุดโหดของ บรูโน่ ในฤดูกาลนี้

ในซีซั่นปัจจุบัน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำไปแล้ว 16 ประตู จากทุกรายการ โดยไม่มีผู้เล่นคนอื่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ยิงเกิน 10 ประตู ในทีม

ก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติ เขาทำ 5 ประตู ในสัปดาห์เดียว รวมถึง แฮตทริก ในเกมที่เอาชนะ เรอัล โซเซียดาด ศึก ยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย

แมนฯ ยูไนเต็ด ยังต้องดิ้นรนในพรีเมียร์ลีก

แม้จะมีผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับต้องเจอกับฤดูกาลที่ยากลำบาก ปัจจุบันรั้งอันดับ 13 ของตารางพรีเมียร์ลีก ก่อนเกมสำคัญกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมอันดับ 3 ในคืนวันอังคารที่ 1 เมษายน 2568