Home Blog Page 34

“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสริมทัพคว้า แพทริค ดอร์กู จากเลชเช่ “

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประกาศการเซ็นสัญญากับ แพทริค ดอร์กู กองหลังดาวรุ่งวัย 20 ปีจากสโมสรเลชเช่ ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ พร้อมเงื่อนไขเพิ่มเติมอีก 4.1 ล้านปอนด์

ดอร์กู ได้ลงสนามให้กับเลชเช่ในทุกรายการรวมทั้งหมด 57 นัด และทำได้ 5 ประตู นับตั้งแต่เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลที่ผ่านมา

หลังจากการเซ็นสัญญา ดอร์กู ได้กล่าวว่า “ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นี่เป็นวันที่พิเศษมากสำหรับครอบครัวของผม ผมแทบรอไม่ไหวที่จะได้ร่วมงานกับ รูเบน อาโมริม”

การเข้าร่วมทีมของดอร์กู คาดว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในแนวรับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของผู้จัดการทีม รูเบน อาโมริม

“ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ชี้: หงส์มีโอกาสคว้าแชมป์ลีกสูงเกิน90%”

0

ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2025 การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 ได้ดำเนินมาถึงสัปดาห์ที่ 24 จากทั้งหมด 38 สัปดาห์ โดยมี 16 ทีมที่ลงเล่นครบ 24 นัด ยกเว้น ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน ที่ลงเล่นไป 23 นัด เนื่องจากการแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากสภาพอากาศ ส่วน เชลซี และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มีกำหนดแข่งขันในคืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์

ล่าสุด ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จาก “ออปตา” เว็บไซต์สถิติฟุตบอลชื่อดัง ได้เผยผลการคำนวณโอกาสการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ผลปรากฏว่า ลิเวอร์พูล ซึ่งปัจจุบันเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนน 56 คะแนนจาก 23 นัด มีโอกาสคว้าแชมป์สูงถึง 90.7%

อาร์เซนอล ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน มี 50 คะแนนจาก 24 นัด ถูกจัดเป็นเต็งสองในการคว้าแชมป์ โดยมีโอกาส 9.2%

สำหรับสโมสรอื่น ๆ เช่น น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (อันดับ 3), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (แชมป์เก่า อันดับ 4), นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (อันดับ 5) และ เชลซี (อันดับ 6) ถูกประเมินว่าไม่มีโอกาสคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้

การคาดการณ์นี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของลิเวอร์พูลในฤดูกาลปัจจุบัน และความท้าทายที่สโมสรอื่น ๆ ต้องเผชิญในการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก

แมนซิ ทุ่มงบกว่า 180 ล้านปอนด์ เสริมทัพในตลาดนักเตะ มกราคม

0

ตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงฤดูหนาว ฤดูกาล 2024-25 ซึ่งเปิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 จนถึง 3 กุมภาพันธ์ 2025 ได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ในช่วงเวลานี้ มีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากหลายสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นผู้นำในการเสริมทัพ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้:

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ใช้จ่ายมากกว่า 180 ล้านปอนด์ในการเสริมทัพครั้งนี้ พวกเขาได้เซ็นสัญญากับ นิโก้ กอนซาเลซ กองกลางชาวสเปนจาก เอฟซี ปอร์โต้ ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ โอมาร์ มาร์มูช กองหน้าชาวอียิปต์จาก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต รวมถึงกองหลังอย่าง อับดุคอดีร์ คูซานอฟ และ วิตอร์ เรอิส การเสริมทัพครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีมที่ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ห้าของตารางลีก

แอสตัน วิลล่า:

แอสตัน วิลล่า ได้ขาย จอห์น ดูรัน กองหน้าให้กับ อัล-นาสร์ และได้ยืมตัว มาร์โก อาเซนซิโอ จาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ มาร์คัส แรชฟอร์ด จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแนวรุก

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์:

ท็อตแน่ม ได้เสริมทัพด้วยการเซ็นสัญญากับ อันโตนิน คินสกี้ ผู้รักษาประตูชาวเช็ก และยืมตัว มาธิส เทล จาก บาเยิร์น มิวนิค เพื่อเพิ่มความลึกในทีม

วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส:

วูล์ฟส์ ได้เสริมความแข็งแกร่งในแนวรับด้วยการเซ็นสัญญากับ เอ็มมานูเอล อักบาดู และ นาสเซอร์ จิก้า เพื่อเพิ่มความมั่นคงในแนวหลัง

สโมสรอื่น ๆ:

ในขณะที่สโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, เชลซี และ นิวคาสเซิล ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวที่สำคัญในตลาดครั้งนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจเนื่องจากพวกเขามักเป็นผู้นำในการเสริมทัพในตลาดก่อนหน้านี้

สรุปได้ว่าตลาดซื้อขายนักเตะพรีเมียร์ลีกในเดือนมกราคม 2025 มีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายประการ โดยเฉพาะการเสริมทัพครั้งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการแข่งขันในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล

“เป๊ป” ยอมรับแมนฯ ซิตี้พลาดเองช่วงท้ายเกม

0

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่าทีมของเขาเล่นได้ดีในช่วงต้นเกม แต่กลับเสียการควบคุมในช่วงท้าย ส่งผลให้พ่าย อาร์เซน่อล ไปแบบขาดลอย 5-1 พร้อมยอมรับว่านี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นหลายครั้งในฤดูกาลนี้

เป๊ปเสียดายช่วง 25 นาทีสุดท้าย

กุนซือชาวสเปนยังคงให้กำลังใจลูกทีม แม้จะผิดหวังกับการปล่อยให้ อาร์เซน่อล ฉวยโอกาสในช่วงท้ายเกมและปิดเกมไปได้อย่างเด็ดขาด

🗣️ “เราเล่นกันได้ดีเกือบตลอดเกม ผมไม่ติดใจอะไรเลย ยกเว้นช่วง 25 นาทีสุดท้าย ซึ่งเราปล่อยให้ทุกอย่างหลุดมือไป ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราควบคุมเกมได้ดีมาก เราเสียประตูเร็ว แต่นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราบ่อยครั้งในซีซั่นนี้”

🗣️ “หลังจากโดนนำ เรากลับมาได้เร็ว ตีเสมอเป็น 1-1 และมีช่วงเวลาที่เราทำได้ดีมาก เราเล่นตามแผน คุมจังหวะเกมได้ แต่จังหวะสุดท้ายเรายังขาดความเด็ดขาด”

แมนฯ ซิตี้ ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด

แม้ผลการแข่งขันจะออกมาไม่เป็นใจ แต่ กวาร์ดิโอล่า ย้ำว่าทีมต้องเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่ปล่อยให้ปัญหาเดิมๆ เกิดซ้ำ

🗣️ “เมื่อเกมมาถึงช่วงท้าย เราเริ่มขาดสมาธิและเสียการควบคุม พวกเขาอาศัยโอกาสนี้และปิดเกมได้อย่างเด็ดขาด ที่สกอร์ 3-1 ทุกอย่างเป็นใจให้พวกเขา และเราก็เจองานที่ยากขึ้นทันที”

🗣️ “นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับเราหลายครั้งในฤดูกาลนี้ เรารู้ว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น แต่สุดท้ายมันก็ยังเกิดขึ้น เราต้องแก้ไขมันให้ได้ถ้าอยากอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ต่อไป”

ซิตี้ ยังไม่หมดหวัง แต่ต้องเร่งแก้ไขข้อผิดพลาด

แม้จะพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งโดยตรง แต่ แมนฯ ซิตี้ ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตาม หากพวกเขายังไม่สามารถปิดเกมได้ดีขึ้นและควบคุมสถานการณ์ในช่วงท้ายเกมได้ โอกาสป้องกันแชมป์ก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ 🎯🔥

“ไรซ์” ประกาศลั่น! พร้อมเดินหน้ากดดันลิเวอร์พูล

0

เดแคลน ไรซ์ กองกลางคนสำคัญของ อาร์เซน่อล ส่งคำเตือนไปยัง ลิเวอร์พูล ว่าทีมของเขาจะยังคงเดินหน้ากดดันและไล่ล่าจ่าฝูงต่อไป เพื่อความหวังในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

อาร์เซน่อล ทุบ แมนฯ ซิตี้ ไล่จี้ ลิเวอร์พูล

“เดอะ กันเนอร์ส” โชว์ฟอร์มสุดโหด เปิดบ้านถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-1 ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำให้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ยืดสถิติไร้พ่ายในลีกเป็น 14 นัดติดต่อกัน และลดช่องว่างกับ ลิเวอร์พูล เหลือ 6 คะแนน แม้ว่าจะลงเล่นมากกว่า 1 นัดก็ตาม

ไรซ์ มีบทบาทสำคัญในชัยชนะครั้งนี้ โดยทำ 2 แอสซิสต์ในครึ่งหลังให้สองดาวรุ่งอย่าง ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี และ อีธาน นวาเนรี ซึ่งกองกลางทีมชาติอังกฤษวัย 26 ปี ได้ออกมาแสดงความมุ่งมั่นหลังเกม

🗣️ “ลิเวอร์พูลยังนำหน้าเราอยู่ และพวกเขามีเกมตกค้างในมือ แต่เราจะไม่ยอมแพ้ เราต้องชนะให้ได้ทุกเกมเพื่อกดดันพวกเขาต่อไป”

🗣️ “แน่นอนว่ามันน่าผิดหวังที่เราเสียแต้มไปในเกมกับ แอสตัน วิลล่า เพราะเรานำอยู่ 2-0 แต่กลับพลาดไป ถ้าเราชนะวันนั้น เราอาจอยู่ใกล้ลิเวอร์พูลมากกว่านี้”

🗣️ “แต่ตราบใดที่เรายังอยู่ในการแข่งขัน เรายังคงเชื่อมั่น เป้าหมายของเราคือการตามล่าพวกเขาและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก”

🗣️ “เราต้องคิดบวกและทำงานหนักต่อไป ผมมั่นใจว่าเราจะเดินหน้าต่อได้อย่างแข็งแกร่ง”

โอกาสลุ้นแชมป์ของ อาร์เซน่อล

แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะยังคงเป็นจ่าฝูงและมีเกมอยู่ในมือ แต่อาร์เซน่อลก็ยังคงมีโอกาสในการลุ้นแชมป์ หากสามารถรักษาฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ไว้ได้จนถึงช่วงท้ายฤดูกาล

แรงกดดันจาก ไรซ์ และเพื่อนร่วมทีม อาจสร้างความท้าทายให้กับ ลิเวอร์พูลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขันพรีเมียร์ลีกได้อย่างแน่นอน 🔥⚽

OFFICIAL! แรชฟอร์ด เปิดตัวกับ แอสตัน วิลล่า

0

แอสตัน วิลล่า ประกาศเปิดตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด อย่างเป็นทางการ หลังคว้าตัวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล พร้อมออปชั่นซื้อขาด

แรชฟอร์ด เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ วิลล่า

ดาวยิงวัย 27 ปี ชูเสื้อเปิดตัวกับ แอสตัน วิลล่า หลังผ่านการตรวจร่างกายเรียบร้อย โดยการย้ายทีมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก แรชฟอร์ด ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เลยตลอด 12 นัดหลังสุด นับตั้งแต่ รูเบน อโมริม เข้ามาคุมทีมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ในการให้สัมภาษณ์หลังการย้ายทีม แรชฟอร์ด เปิดใจผ่านอินสตาแกรมว่า
🗣️ “ผมขอขอบคุณทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า สำหรับโอกาสในครั้งนี้ ผมโชคดีที่มีข้อเสนอจากหลายสโมสร แต่สุดท้าย วิลล่า คือทางเลือกที่ง่ายสำหรับผม ผมชื่นชมแนวทางการเล่นของพวกเขาในฤดูกาลนี้ รวมถึงความทะเยอทะยานของผู้จัดการทีม”

🗣️ “สิ่งที่ผมต้องการคือการได้ลงสนามและสนุกกับฟุตบอลของตัวเองอีกครั้ง ผมตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นกับทีมใหม่ และขออวยพรให้ทุกคนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จตลอดช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล”

รายละเอียดดีล & สถานะของ แรชฟอร์ด

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวชื่อดังด้านตลาดซื้อขายนักเตะ รายงานว่า แอสตัน วิลล่า จะจ่ายค่าเหนื่อยของ แรชฟอร์ด 75% จากเดิมที่รับอยู่ 325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ขณะที่ออปชั่นซื้อขาดถูกตั้งไว้ที่ 40 ล้านปอนด์ หากวิลล่าตัดสินใจเซ็นถาวรในช่วงซัมเมอร์

แรชฟอร์ด ถือเป็นหนึ่งในผลผลิตจาก อะคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2016 มีสถิติลงสนาม 426 นัด ยิง 138 ประตู และทำ 63 แอสซิสต์ ขณะที่ผลงานกับทีมชาติอังกฤษ เจ้าตัวติดธงไปแล้ว 60 นัด ยิง 17 ประตู

การย้ายมาเล่นกับ แอสตัน วิลล่า ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ แรชฟอร์ด จะได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งภายใต้การคุมทีมของ อูไน เอเมรี่ และมีลุ้นช่วยทีมล่าพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลนี้ 💜🟣

อโมริมชมการ์นาโช่ เปลี่ยนแปลงตัวเองนับตั้งแต่ถูกดร็อป

0

รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกปากชม อเลฮันโดร การ์นาโช่ หลังเจ้าตัวมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน นับตั้งแต่ถูกดร็อปในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

จากตัวสำรองสู่แข้งคนสำคัญ

การเข้ามาคุมทีมของ อโมริม ส่งผลให้ทั้ง การ์นาโช่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ต้องหลุดจาก 11 ตัวจริง โดยเฉพาะในเกมดาร์บี้แมตช์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม

อย่างไรก็ตาม การ์นาโช่ กลับมาได้รับโอกาสลงสนามอีกครั้งในเกม ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ที่ทีมบุกไปชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 2-0 โดยเจ้าตัวลงสนามเป็นตัวสำรองและทำแอสซิสต์ให้ ค็อบบี้ เมนู ยิงประตูที่สอง ซึ่งเป็นผลงานที่ อโมริม ยกย่องว่าเป็นผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของแข้งวัย 19 ปี

อโมริม: “เขาเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการ”

“ผมไม่คิดว่าเขาพัฒนาเพราะผมหรอกนะ แต่เขาเปลี่ยนไปทันทีหลังจากเกมเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาเริ่มเข้าใจหลายสิ่งมากขึ้น และที่สำคัญคือเขาตระหนักว่าผมแค่ต้องการช่วยให้เขาดีขึ้น และต้องการชัยชนะ” อโมริม กล่าว

“เขาปรับปรุงตัวเองในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติในสนาม, การฟื้นฟูร่างกาย หรือแม้แต่การพูดคุยกับโค้ช เขาเริ่มเข้าใจในแนวทางของผม แม้ว่าผมจะมีสไตล์การทำงานที่แตกต่างจากเดิมก็ตาม”

“บางครั้งมันอาจจะยากที่ต้องปรับตัวเข้ากับแนวทางใหม่ แต่เขาทำได้ดี และทั้งหมดนี้คือเครดิตที่เขาควรได้รับ”

นอกจากนี้ อโมริม ยังกล่าวถึงพัฒนาการด้านแท็คติกของการ์นาโช่ โดยเฉพาะการยืนตำแหน่งและการเคลื่อนที่ “เขาเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าต้องขยับไปที่ไหน ควรรับบอลตรงจุดไหน และเล่นประสานกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง ดิโอโก้ ดาโลต์ ได้ดีขึ้นมาก”

จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ การ์นาโช่ กำลังกลายเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ อโมริม และดูเหมือนว่าอนาคตของเขากับ “ปีศาจแดง” กำลังสดใสขึ้นเรื่อย ๆ 🚀🔴

เนย์มาร์ น้ำตาคลอ เปิดตัวซบ ซานโต๊ส อีกครั้ง

0

เนย์มาร์ สตาร์ดังชาวบราซิลถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ในงานเปิดตัวกลับคืนสู่ ซานโต๊ส สโมสรที่เป็นจุดเริ่มต้นอาชีพของเขา ท่ามกลางบรรยากาศสุดซึ้งของแฟนบอลนับหมื่น

ปิดฉากอัล ฮิลาล คืนถิ่นกำเนิด

หลังจากแยกทางกับ อัล ฮิลาล สโมสรดังจาก ซาอุดีอาระเบีย ดาวเตะวัย 30 ปี ตัดสินใจกลับมาค้าแข้งกับ ซานโต๊ส สโมสรบ้านเกิดที่เขาเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชน และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ระหว่างปี 2009-2013 ก่อนสร้างชื่อจนได้ย้ายไป บาร์เซโลน่า

บรรยากาศสุดซึ้ง แม้ฝนตกหนัก

งานเปิดตัวครั้งนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แม้ฝนจะโปรยปราย แต่ไม่ได้ลดทอนความยิ่งใหญ่ของค่ำคืนแห่งความทรงจำ เนย์มาร์ ซึ่งจะสวมเสื้อหมายเลข 10 ภายใต้สัญญา 6 เดือน ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจ

เสียงร้องเพลงต้อนรับจากแฟนบอลดังกึกก้องไปทั่วสนาม “เนย์มาร์ เนย์มาร์ โอเล่ โอเล่ โอเล่ โอลาร์ เนย์มาร์ เนย์มาร์” ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก นักเตะเองก็แสดงความผูกพันด้วยการ ก้มลงจูบตราสโมสร ที่ถูกจัดแสดงบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่กลางสนาม

นี่คือการกลับบ้านอย่างแท้จริงของ เนย์มาร์ กับภารกิจนำ ซานโต๊ส คืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง! 🌟⚽

แอสตัน วิลล่า สนคว้ายืม มาร์คัส แรชฟอร์ด

0

แอสตัน วิลล่า ตกเป็นข่าวว่ากำลังพิจารณาคว้าตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงท้ายของตลาดซื้อขายเดือนมกราคม

“สิงห์ผงาด” หวังดึงแทน ดูรัน หลังย้ายไปซาอุฯ

ตามรายงานจาก The Athletic สื่อดังของอังกฤษระบุว่า วิลล่า กำลังมองหาแนวรุกตัวใหม่ หลังจากปล่อย จอน ดูรัน ย้ายไป อัล นาสเซอร์ ในลีกซาอุดีอาระเบีย และมองว่า แรชฟอร์ด เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

ดาวยิงวัย 26 ปี ไม่ได้รับโอกาสลงเล่นให้กับ “ปีศาจแดง” ใน 12 นัดหลังสุด ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของเขา โดยก่อนหน้านี้ บาร์เซโลน่า เคยให้ความสนใจ แต่ดีลดังกล่าวดูเหมือนจะเงียบลง

ค่าเหนื่อยสูงอาจเป็นอุปสรรคใหญ่

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจพิจารณาปล่อยยืม แรชฟอร์ด คือค่าเหนื่อยสูงถึง 325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ วิลล่า อาจต้องเจรจาขอลดภาระส่วนหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม แอสตัน วิลล่า ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ยุโรป โดยผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งอาจเป็นโอกาสให้ แรชฟอร์ด ได้กลับมาโชว์ฟอร์ม

ชูเอา เฟลิกซ์ & มาร์โก้ อเซนซิโอ เป็นอีกสองทางเลือก

รายงานยังระบุว่า วิลล่า ไม่ได้พิจารณาเพียงแค่ แรชฟอร์ด เท่านั้น แต่ยังมองไปที่ ชูเอา เฟลิกซ์ และ มาร์โก้ อเซนซิโอ เป็นตัวเลือกเสริมแนวรุกเช่นกัน

ดีลนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขาย! 🚨🔥

พรีวิวพรีเมียร์ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดรังดวล คริสตัล พาเลซ

0

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-2025 เดินทางมาถึงนัดที่ 24 โดยในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมเปิดสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ “ดิ อีเกิ้ลส์” คริสตัล พาเลซ

🔎 สถานการณ์ของทั้งสองทีม

  • แมนฯ ยูไนเต็ด ปัจจุบันรั้งอันดับ 12 ของตาราง มี 29 คะแนน จาก 23 นัด
  • คริสตัล พาเลซ อยู่อันดับ 13 มี 27 คะแนน ตามหลังเพียง 2 แต้ม
  • คิกออฟเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ผลงานการพบกัน 5 นัดหลังสุด คู่นี้สูสีกันอย่างมาก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2 เสมอ 1 และแพ้ 2 นัด โดยการเจอกันครั้งล่าสุดในลีกเมื่อเดือนกันยายน จบลงด้วยผลเสมอ 0-0


🔴 แมนฯ ยูไนเต็ด

ฟอร์มล่าสุด

  • เกมยูโรป้า ลีก บุกชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 2-0 คว้าตั๋วรอบ 16 ทีม
  • นัดล่าสุดในลีก เฉือน ฟูแล่ม 1-0
  • คว้าชัย 3 นัดติดในทุกรายการ

สภาพทีม

  • ขาด ลุค ชอว์, เมสัน เมาท์ และ จอนนี่ อีแวนส์ ที่บาดเจ็บ
  • วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ต้องรอเช็กความฟิต
  • กุนซือ รูเบน อโมริม อาจใช้แผน 3-4-2-1 ต่อเนื่อง

คาดการณ์ 11 ตัวจริง (3-4-2-1)

  • GK : อ็องเดร โอนาน่า
  • CB : มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ
  • WB : ดีโอโก้ ดาโล่ต์, นุสซาร์ มาซราอุย
  • CM : บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มานูเอล อูการ์เต้
  • AM : อาหมัด ดิยัลโล่, ค็อบบี้ เมนู
  • ST : โจชัว เซิร์กซี่

🦅 คริสตัล พาเลซ

ฟอร์มล่าสุด

  • เกมลีกนัดล่าสุด พ่ายคาบ้านต่อ เบรนท์ฟอร์ด 1-2
  • สถิติ 5 นัดหลังสุด ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1

สภาพทีม

  • ไม่มี ชาดี รีอาด, โจเอล วอร์ด และ ชีค ดูกูเร่ ที่บาดเจ็บ
  • คาดว่า โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ จะใช้แผน 3-4-2-1 เช่นกัน

คาดการณ์ 11 ตัวจริง (3-4-2-1)

  • GK : ดีน เฮนเดอร์สัน
  • CB : คริส ริชาร์ดส์, มักซ็องซ์ ลาครัวซ์, มาร์ค เกฮี
  • WB : ดาเนียล มูนญอซ, ไทริค มิตเชลล์
  • CM : วิลล์ ฮิวส์, เจฟเฟอร์สัน เลอมาร์
  • AM : โรแม็ง เอสเซ่, เอเบเรชี่ เอเซ่
  • ST : ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า

🔮 วิเคราะห์เกม & คาดการณ์ผลการแข่งขัน

แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจ หลังคว้าชัย 3 นัดรวดในทุกรายการ โดยการปรับแท็กติกของ รูเบน อโมริม ให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ลงมาช่วยแดนกลาง และดัน ค็อบบี้ เมนู ขึ้นไปเล่นเพลย์เมกเกอร์ดูจะให้ผลดี อย่างไรก็ตาม คริสตัล พาเลซ เป็นทีมที่เล่นเกมเยือนได้แข็งแกร่ง แต่ความพ่ายแพ้ในเกมล่าสุดอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ

เกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เปรียบจากการเล่นในบ้านและความมั่นใจที่สูงกว่า น่าจะเบียดเอาชนะไปได้แบบไม่ง่ายนัก

🎯 สกอร์ที่คาด : แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 คริสตัล พาเลซ

ห้ามพลาด!