Home Blog Page 39

“บาเยิร์นพร้อมทุ่ม? เชลซีตั้งค่าตัว ‘เอ็นคุนคู’65 ล้านปอนด์”

0

วันที่ 15 มกราคม 2568 – สถานการณ์การย้ายทีมของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู มิดฟิลด์ตัวรุกของเชลซีกำลังเป็นที่จับตามองอย่างมาก หลังจากมีรายงานว่า บาเยิร์น มิวนิก สนใจดึงตัวนักเตะรายนี้ไปร่วมทีม โดยเชลซีตั้งค่าตัวไว้ไม่ต่ำกว่า 65 ล้านปอนด์ ตามรายงานจาก Sky Sports

บาเยิร์น แสดงความจริงจัง
มีรายงานว่าบาเยิร์น มิวนิกได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับเอ็นคุนคูเรียบร้อยแล้ว แต่การเจรจายังติดอยู่ที่ตัวเลขค่าตัว ซึ่งเชลซีต้องการตัวเลขในระดับใกล้เคียงกับดีลยักษ์ใหญ่อย่าง ควิชา ควารัตสเคเลีย ที่ย้ายจากนาโปลีไปปารีส แซงต์-แชร์กแมง โดยค่าตัวของเอ็นคุนคูอาจแตะถึง 70 ล้านปอนด์ ตามคำกล่าวของนักข่าวชื่อดัง ฟาบริซิโอ โรมาโน

ดีลแลกตัวสะดุด
ขณะเดียวกัน มีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการแลกตัวกับ มาธีส แตล กองหน้าดาวรุ่งของบาเยิร์น แต่ดีลดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้น เนื่องจากแตลไม่มีความสนใจที่จะย้ายไปค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกในเวลานี้

บาเยิร์นยังเดินหน้าเต็มที่
แม้ว่าการแลกตัวจะเป็นไปได้ยาก แต่บาเยิร์นยังคงมุ่งมั่นที่จะเซ็นสัญญากับเอ็นคุนคู โดยมองว่าเขาจะเป็นตัวเลือกสำคัญในแนวรุกสำหรับการไล่ล่าความสำเร็จในฤดูกาลถัดไป

อนาคตที่ต้องจับตา
เชลซีเองก็ยังไม่เร่งรีบปล่อยตัวเอ็นคุนคูออกจากทีม หากไม่ได้ข้อเสนอที่พอใจ เนื่องจากนักเตะยังอยู่ในแผนระยะยาวของสโมสร แต่ด้วยความสนใจที่ชัดเจนจากบาเยิร์น มิวนิก สถานการณ์นี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ

แฟนบอลทั้งสองทีมคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ดีลนี้จะจบลงอย่างไร และเอ็นคุนคูจะได้ย้ายไปสร้างชื่อในเวทีบุนเดสลีกาหรือไม่!

แมนฯ ซิตี้หลุดฟอร์ม! นำก่อน 2 ลูก แต่จบแค่เสมอเบรนท์ฟอร์ด

0

วันที่ 15 มกราคม 2568 – ความผิดหวังเกิดขึ้นกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และลูกทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อพวกเขาบุกไปเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 2-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก แม้จะขึ้นนำก่อนถึงสองประตูจาก ฟิล โฟเดน แต่กลับโดนตีเสมอในช่วงท้ายเกม

เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำ 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก จากการโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมของโฟเดน ทว่าในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เบรนท์ฟอร์ดที่ไม่ยอมแพ้ ใช้ความได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน ไล่บี้จนได้สองประตูจาก โยอัน วิสซา นาทีที่ 82 และ คริสเตียน นอร์การ์ด นาทีที่ 90+2 จบเกมแบ่งกันไปทีมละแต้ม

หลังจบเกม เป๊ป กวาร์ดิโอลา กล่าวอย่างผิดหวังว่า “เราเริ่มต้นได้ดีและควบคุมเกมได้ แต่ในช่วงท้ายเราขาดความเด็ดขาด และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเสียสองแต้ม ความล้าในช่วงท้ายอาจเป็นปัจจัย แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะปิดเกมให้ได้ดีกว่านี้”

สถานการณ์ในตารางคะแนน
ผลเสมอครั้งนี้ทำให้แมนฯ ซิตี้ยังคงอยู่อันดับ 6 ของตาราง มี 38 คะแนน ตามหลังกลุ่มท็อปโฟร์อยู่ 2 แต้ม และห่างจากจ่าฝูงลิเวอร์พูลถึง 12 แต้ม ถือเป็นช่องว่างที่สร้างความกดดันในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล

โปรแกรมนัดถัดไป
แมนฯ ซิตี้จะมีโอกาสกลับมาแก้ตัวในเกมนัดถัดไป โดยพวกเขาจะต้องบุกไปเยือน อิปสวิช ทาวน์ ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ซึ่งเป๊ปย้ำว่าทีมต้องเร่งฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมเรียกร้องให้ลูกทีมกลับมาโชว์ฟอร์มที่แข็งแกร่งอีกครั้ง

เกมนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับแมนฯ ซิตี้ ว่าการควบคุมจังหวะเกมและความนิ่งในช่วงท้ายมีผลอย่างมาก หากพวกเขายังต้องการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ การแก้ไขจุดอ่อนเหล่านี้คือสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ลิเวอร์พูลต้องเร่งปรับเกมรับ! สะดุดต่อเนื่อง

0

“ลิเวอร์พูลต้องเร่งปรับเกมรับ! หงส์แดงสะดุดต่อเนื่อง เสียแต้มสำคัญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ”

ลิเวอร์พูลกำลังเผชิญกับปัญหาที่ต้องแก้ไขด่วนในแผงเกมรับ หลังจากพลาดเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีก 2 นัดล่าสุด โดยเสมอกับทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ทำให้ได้เพียง 2 แต้มจาก 6 แต้มเต็มในเดือนมกราคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อโอกาสในการลุ้นแชมป์ทันที

เกมรับที่เปราะบาง กลายเป็นจุดอ่อนสำคัญที่คู่แข่งมองออกได้ชัด โดยเฉพาะการเสียประตูในช่วงต้นเกม อย่างในเกมล่าสุดที่ถูก ฟอเรสต์ ยิงนำตั้งแต่นาทีที่ 8 จากจังหวะผิดพลาดในแนวรับที่ขาดการประสานงาน โจเอล มาติป, อิบราฮิมา โกนาเต และไรอัน กราเฟนแบร์ก ต่างยืนตำแหน่งไม่ลงตัว เปิดโอกาสให้ คริส วูด หลุดเข้าไปจบสกอร์อย่างง่ายดาย

แม้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะถูกตำหนิในจังหวะนี้ แต่ความจริงคือปัญหามาจากการประสานงานในแผงหลังที่ยังไม่ลงตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ เยอร์เกน คล็อปป์ และ จอห์นนี ไฮติงก้า ผู้ช่วยโค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านเกมรับ ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน

7 นัดหลังสุด ลิเวอร์พูลเสียประตูแรกถึง 5 เกม ทำให้ต้องเร่งไล่ตีเสมอและเอาชนะคู่แข่งในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การปล่อยให้คู่แข่งขึ้นนำบ่อยครั้งไม่เพียงส่งผลต่อเกม แต่ยังลดความมั่นใจในทีมและเพิ่มภาระให้กับแผงแนวรุกอย่างชัดเจน

ในด้านบวก ลิเวอร์พูลยังคงมีศักยภาพในเกมรุก โดยเฉพาะช่วง 30 นาทีสุดท้ายของเกมกับฟอเรสต์ ทีมสร้างโอกาสยิงประตูหลายครั้ง แต่ต้องเจอกับ มัตต์ เซล ผู้รักษาประตูฟอเรสต์ ที่โชว์ฟอร์มเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนตัวของคล็อปป์ยังแสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมในบางจังหวะ เมื่อ คอสตาส ซิมิกาส เปิดเตะมุมให้ ดิโอโก โชต้า โหม่งตีเสมอเพียง 22 วินาทีหลังลงสนาม

เกมต่อไป ลิเวอร์พูลมีคิวเจอกับ เบรนต์ฟอร์ด ที่เพิ่งสร้างเซอร์ไพรส์ไล่ตามตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ซึ่งถือเป็นบททดสอบสำคัญอีกครั้ง การปรับเกมรับให้เหนียวแน่นคือสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับคล็อปป์ หากไม่สามารถแก้ไขจุดอ่อนนี้ได้ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ลิเวอร์พูลอาจต้องเผชิญความยากลำบากในเส้นทางการลุ้นความสำเร็จในฤดูกาลนี้

นี่คือช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูลไม่สามารถปล่อยให้ความผิดพลาดเล็กน้อยกลายเป็นหายนะใหญ่ หาก “หงส์แดง” ต้องการกลับมามีลุ้นในลีกและทัวร์นาเมนต์อื่นๆ พวกเขาต้องเร่งแก้ไขข้อบกพร่องทันที ก่อนที่สถานการณ์จะหลุดมือไปมากกว่านี้!

“หงส์แดง” ได้ข่าวดีเรื่องอนาคต “เทรนต์”

0

แฟนลิเวอร์พูลมีลุ้น! “หงส์แดง” ได้ข่าวดีเรื่องอนาคต “เทรนต์” แม้ผลงานในลีกสะดุด 2 เกมติด

วันที่ 15 มกราคม 2568 – สื่อดังจากสเปน เรเลโบ รายงานว่า ลิเวอร์พูล ได้รับข่าวดีเกี่ยวกับสถานการณ์ของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ แม้ทีมจะทำได้เพียงเสมอกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ล่าสุด

อนาคตของอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังคงเป็นประเด็นร้อน เนื่องจากเจ้าตัวเหลือสัญญากับลิเวอร์พูลจนถึงสิ้นสุดฤดูกาลนี้ โดยมีข่าวว่า เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่จากสเปนกำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมยื่นข้อเสนอเพื่อคว้าตัวในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า เรอัล มาดริด ที่กำลังเผชิญปัญหาในตำแหน่งแบ็กขวา หลัง ดานี การ์บาฆัล ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องพักทั้งฤดูกาล ได้ล้มแผนคว้าตัวเทรนต์ในช่วงตลาดหน้าหนาว หลังข้อเสนอเบื้องต้นมูลค่า 20 ล้านปอนด์ถูกลิเวอร์พูลปฏิเสธ

ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเร่งเจรจาเพื่อโน้มน้าวให้เทรนต์ต่อสัญญาใหม่กับทีม โดยยืนยันจะไม่ปล่อยแบ็กขวาคนสำคัญรายนี้ออกจากทีมระหว่างฤดูกาลเด็ดขาด

แม้ เรอัล มาดริด จะยอมถอยในตลาดหน้าหนาว แต่มีการเปิดเผยว่าพวกเขายังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถคว้าตัวอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ได้ในช่วงซัมเมอร์นี้แบบไม่มีค่าตัว หากเจ้าตัวตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับลิเวอร์พูล โดยหวังดึงตัวมาร่วมทีมเพื่อทันลงเล่นในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ รูปแบบใหม่ในเดือนมิถุนายน

สำหรับเรอัล มาดริด การดึงตัวเทรนต์อาจจะเป็นแผนระยะยาวที่คล้ายคลึงกับการคว้าตัวนักเตะชื่อดังอย่าง ดาวิด อลาบา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และการเตรียมเซ็น คีลิยัน เอ็มบัปเป แบบไร้ค่าตัวในอดีตที่ผ่านมา

สถานการณ์ยังต้องจับตา แต่สำหรับแฟนลิเวอร์พูล ข่าวนี้นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อโอกาสรั้งตัวแบ็กขวาจอมบุกให้อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไป!

แฟนบอลเดือด! ส่งข้อความขู่ภรรยา “ไค ฮาแวร์ตซ์”

0

“โซเฟีย เอเมเลีย” ภรรยาของ ไค ฮาแวร์ตซ์ มิดฟิลด์ของอาร์เซนอล เปิดเผยข้อความข่มขู่เอาชีวิตจากบุคคลนิรนามที่คาดว่าเป็นแฟนบอล หลังทีมปืนใหญ่พ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3

ดราม่าควันหลงเกมเดือด
การแข่งขันเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา จบลงด้วยความระทึกใจ เมื่ออาร์เซนอลพ่ายให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม โดยผลการแข่งขันเสมอ 1-1 ในเวลา 120 นาที ก่อนที่ปีศาจแดงจะเฉือนชนะด้วยการดวลจุดโทษ 5-3 ส่งผลให้เจ้าบ้านตกรอบ 3 เป็นปีที่สองติดต่อกัน

แม้เกมจะจบลง แต่ความดราม่ากลับลุกลามนอกสนาม เมื่อ โซเฟีย เอเมเลีย ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ของไค ฮาแวร์ตซ์ ถูกส่งข้อความข่มขู่ร้ายแรงผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งคาดว่าเกิดจากความไม่พอใจของแฟนบอลต่อฟอร์มการเล่นของฮาแวร์ตซ์ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักในเกมดังกล่าว

ข้อความขู่ฆ่าที่รุนแรง
โซเฟียได้เผยแพร่ข้อความการคุกคามเหล่านี้ผ่าน Instagram Story ซึ่งประกอบไปด้วยคำพูดที่รุนแรง เช่น

“ขอให้แกแท้งลูก”
“ฉันจะไปที่บ้านแก และฆ่าลูกแกซะ อย่าคิดว่าฉันพูดเล่น”

ข้อความดังกล่าวสร้างความตกใจอย่างมากให้กับโซเฟีย เธอได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์นี้ว่า

“สิ่งนี้ทำให้ฉันช็อกมากจริง ๆ ใครก็ตามที่คิดว่าการทำแบบนี้มันโอเค คุณควรละอายใจกับสิ่งที่ทำ”
“ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเลย แต่ขอร้องล่ะ ช่วยเคารพซึ่งกันและกันให้มากกว่านี้เถอะ พวกเราควรเป็นคนที่ดีกว่านี้ได้”

สโมสรเตรียมลงดาบผู้กระทำผิด
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว สโมสรอาร์เซนอลได้ดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการสืบหาตัวผู้กระทำผิดทางออนไลน์ หากสามารถระบุตัวได้ ทางสโมสรจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดทันที เพื่อปกป้องความปลอดภัยของนักเตะและครอบครัว

เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาความรุนแรงและการคุกคามในโลกออนไลน์ที่ยังคงมีอยู่ในวงการฟุตบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

อโมริมเตือน “ค็อบบี้ เมนู” อย่าหลงคำชื่นชมจากสื่อ

0

รูเบน อโมริม กุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงเตือน ค็อบบี้ เมนู มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 19 ปี ให้เพิกเฉยต่อคำชื่นชมจากสื่อ และมุ่งมั่นพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางข่าวการเจรจาสัญญาใหม่ที่ยังไม่ลงตัว

การเจรจาสัญญาใหม่ยังไม่เสร็จสิ้น
ตามรายงานของ The Guardian ค็อบบี้ เมนู ซึ่งมีสัญญาปัจจุบันถึงปี 2027 พร้อมเงื่อนไขขยายเพิ่มอีกหนึ่งปี กำลังเจรจาเรื่องปรับปรุงค่าเหนื่อยจากเดิมที่ได้รับราว 20,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ขณะที่ Daily Mail ระบุว่า ตัวแทนของนักเตะต้องการค่าเหนื่อยสูงถึง 180,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ รวมถึงโบนัสต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายยังไม่มีความคืบหน้า

เมนูประสานงานกับอูการ์เต้ได้ดีในทีมชุดใหญ่
เมนูได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในทีมชุดใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับ มานูเอล อูการ์เต้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าประทับใจ และมีโอกาสที่ทั้งคู่จะได้ลงสนามร่วมกันอีกครั้งในเกมคืนนี้ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีคิวบุกเยือน อาร์เซน่อล ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3

อโมริมกระตุ้นเมนูยังไม่ถึงจุดสูงสุด
อโมริมกล่าวถึงดาวรุ่งรายนี้ว่า

“ผมคิดว่า ค็อบบี้ เมนู แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมในเกมล่าสุด แต่เขายังไม่ใช่นักเตะที่สมบูรณ์แบบอย่างที่สื่อยกย่อง”
“เขามีศักยภาพที่จะเก่งขึ้นไปอีกมาก เขาเก่งจริง ๆ แต่ผมยังเชื่อว่าเขายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนา และผมมั่นใจว่าเขากำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดี”

อโมริมยังเน้นย้ำว่า นักเตะทุกคนในทีมมีความสำคัญต่อเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และเขาเชื่อว่าเมนูยังมีโอกาสเติบโตเป็นกำลังหลักที่สำคัญสำหรับทีมในอนาคต หากยังคงมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง

“เป๊ป” เผย “ไคล์ วอล์คเกอร์” ร้องขอย้ายทีมหน้าหนาวนี้

0

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันว่า ไคล์ วอล์คเกอร์ กัปตันทีมและแบ็คขวาตัวเก่ง ได้ยื่นเรื่องขอย้ายออกจากสโมสรในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมที่จะถึงนี้

วอล์คเกอร์ แข้งทีมชาติอังกฤษวัย 34 ปี ซึ่งยังเหลือสัญญากับทีมอีก 18 เดือน ไม่มีรายชื่อในเกมที่ “เรือใบสีฟ้า” เปิดบ้านถล่ม ซัลฟอร์ด ซิตี้ 8-0 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยกวาร์ดิโอล่าเปิดเผยว่านักเตะได้พูดคุยกับ ซิกิ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลของสโมสร เพื่อแจ้งความต้องการย้ายไปเล่นในต่างแดน

กวาร์ดิโอล่ากล่าวว่า

“สองวันก่อน ไคล์แจ้งกับเราว่าเขาต้องการพิจารณาทางเลือกในการไปเล่นต่างประเทศ”
“ผมพูดตรง ๆ เลยว่า ทีมเราแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีไคล์ เขามอบสิ่งสำคัญบางอย่างให้กับเรา ซึ่งมันเป็นจุดแข็งของเขา แต่ในหัวของเขาตอนนี้ ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เขาอยากลองประสบการณ์ใหม่ในต่างแดนช่วงปลายอาชีพการเล่นของเขา”

วอล์คเกอร์เคยขอย้ายหลังคว้าทริปเปิ้ลแชมป์
กวาร์ดิโอล่ายังเปิดเผยอีกว่า หลังจบฤดูกาล 2022/23 ซึ่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ประวัติศาสตร์ วอล์คเกอร์เคยแสดงความต้องการย้ายทีมมาก่อนแล้ว โดยมีข่าวเชื่อมโยงกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่การเจรจาไม่สามารถลุล่วงได้ เนื่องจากทีมดังจากเยอรมนีไม่พร้อมจ่ายค่าตัวตามที่แมนฯ ซิตี้กำหนด

เอซี มิลาน เต็งคว้าตัวแบ็คจอมเก๋า
ตามรายงานจาก The Telegraph ทีมที่มาแรงที่สุดในตอนนี้คือ เอซี มิลาน ซึ่งต้องการเสริมแนวรับในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม โดยมิลานแสดงความสนใจอย่างจริงจังและมั่นใจว่าจะสามารถปิดดีลเพื่อดึงตัววอล์คเกอร์มาสู่ถิ่นซาน ซิโร่ได้ แม้ว่าในขณะนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังไม่ได้รับข้อเสนออย่างเป็นทางการ

การย้ายทีมของวอล์คเกอร์อาจเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับ “เรือใบสีฟ้า” เนื่องจากเขาเป็นกำลังหลักในตำแหน่งแบ็คขวาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่การตัดสินใจครั้งนี้ของนักเตะสะท้อนถึงความต้องการปิดฉากอาชีพในสภาพแวดล้อมใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม

แม็คอาตี้กดแฮตทริก! แมนฯ ซิตี้ ระเบิดฟอร์มโหด

0

แม็คอาตี้กดแฮตทริก! แมนฯ ซิตี้ ระเบิดฟอร์มโหด ถล่มซัลฟอร์ด 8-0 ทะลุรอบ 4 เอฟเอ คัพ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มสุดโหดในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 หลังเปิดเอติฮัด สเตเดี้ยม ถล่มซัลฟอร์ด ซิตี้ ทีมจากลีก ทู ไปแบบขาดลอย 8-0 โดยมี เจมส์ แม็คอาตี้ เป็นฮีโร่ซัดแฮตทริก ขณะที่ เฌเรมี่ โดกู โชว์ฟอร์มเด่น ยิง 2 จ่าย 2 พาทีมการันตีตั๋วรอบ 4 อย่างสมศักดิ์ศรี

เกมรุกสุดดุ! ครึ่งแรกนำห่าง 3-0
เปิดเกมมาได้เพียง 8 นาที แมนฯ ซิตี้ เริ่มต้นอย่างดุดันจากจังหวะสวนกลับเร็วที่ นูเนส ตัดบอลกลางสนามและส่งให้ แจ็ค กรีลิช เปิดต่อไปทางซ้ายให้ เฌเรมี่ โดกู ซัดบอลเสียบมุมเสาไกลขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 20 สกอร์ขยับเป็น 2-0 เมื่อ ซาวินโญ่ เปิดบอลทะลุให้ มาเตอุส นูเนส ตัดแนวรับและปาดให้ ดิวิน มูบาม่า ยิงจ่อๆ เข้าไปอย่างง่ายดาย ก่อนที่ นิโก้ โอเรลลี่ จะบวกอีกหนึ่งประตูก่อนจบครึ่งแรกจากการแอสซิสต์ของโดกู ส่งผลให้แมนฯ ซิตี้นำห่าง 3-0

ครึ่งหลังเปิดเครื่อง! แม็คอาตี้แฮตทริกสุดเฉียบ
เกมดำเนินมาถึงนาที 49 แจ็ค กรีลิช ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ ก่อนที่เขาจะลุกมาสังหารจุดโทษเองให้เรือใบหนีไปไกล 4-0 หลังจากนั้น เฌเรมี่ โดกู ก็ยังคงเป็นตัวอันตราย สร้างโอกาสให้ เจมส์ แม็คอาตี้ ยิงประตูแรกของตัวเองในนาทีที่ 62

แม็คอาตี้ยังไม่หยุดเท่านั้น! นาทีที่ 72 และ 81 เขาซัดเพิ่มอีกสองประตู โดยลูกปิดท้ายมาจากการแอสซิสต์ของกรีลิช ส่งผลให้ดาวรุ่งรายนี้ทำแฮตทริกได้สำเร็จ พร้อมปิดฉากชัยชนะสุดยิ่งใหญ่ 8-0

เป๊ป พอใจ พร้อมลุยต่อในรอบ 4
ชัยชนะนัดนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีม แต่ยังตอกย้ำถึงความลึกของขุมกำลังที่มีดาวรุ่งผสมผสานกับตัวหลักได้อย่างลงตัว โดยการจับสลากรอบ 4 จะมีขึ้นหลังจบเกมระหว่าง อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์นี้

รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริง
แมนฯ ซิตี้: เอแดร์ซอน, นิโก้ โอเรลลี่, จาห์ไม ซิมพ์สัน-พูซี่ย์, นาธาน อาเก้, มาเตอุส นูเนส, เจมส์ แม็คอาตี้, อิลคาย กุนโดอัน, แจ็ค กรีลิช, ซาวินโญ่, เฌเรมี่ โดกู, ดิวิน มูบาม่า
ซัลฟอร์ด: แม็ตตี้ ยัง, เลียม เช็พพาร์ด, เคอร์ติส ทิลต์, ลุค การ์บัตต์, ฮาจี เอ็นโนก้า, แมทธิว ลุนด์, ออสซาม่า แอชลี่ย์, ไทรีส ฟอร์นาห์, เควิน เบอร์โค, ฮาคีบ อเดลากุน, คีเลียน คูอัสซี่

จบเกม แมนฯ ซิตี้ การันตีการผ่านเข้ารอบด้วยฟอร์มที่คู่แข่งต้องจับตามอง!

ลิเวอร์พูลสร้างสถิติใหม่! ส่ง “เอ็นกูโมฮา” ลงตัวจริง

0

ลิเวอร์พูลสร้างสถิติใหม่! ส่ง “เอ็นกูโมฮา” ลงตัวจริงอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์สโมสร

ลิเวอร์พูลสร้างปรากฏการณ์ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 หลังส่ง ริโอ เอ็นกูโมฮา ปีกดาวรุ่งวัยเพียง 16 ปี 4 เดือน 14 วัน ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมพบกับแอคคริงตัน ทีมจากลีก ทู เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มกราคม ทำลายสถิติเดิมที่เคยถูกจารึกไว้และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ได้ออกสตาร์ตในรายการนี้

เอ็นกูโมฮา ซึ่งย้ายมาจากอะคาเดมี่ของเชลซีเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ได้รับการจับตามองว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นเยาวชนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษ โดยก่อนหน้านี้ สถิติอายุน้อยที่สุดของลิเวอร์พูลในการลงเล่นเอฟเอ คัพ เป็นของ เทรย์ เอ็นโยนี่ ที่ทำไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ด้วยวัย 16 ปี 8 เดือน 8 วัน

อาร์เน่อ สล็อต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล กล่าวชื่นชมดาวรุ่งรายนี้ก่อนเกมว่า
“ริโอแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ยอดเยี่ยมทุกครั้งที่ฝึกซ้อมกับทีม เขาไม่มีความกลัวในการแสดงสิ่งที่เขาทำได้ดี และนั่นคือเหตุผลที่เราตัดสินใจให้เขามีโอกาสนี้ มันเป็นช่วงเวลาพิเศษจริงๆ”

การส่งเอ็นกูโมฮาลงสนามในเกมนี้ไม่เพียงแต่สร้างความฮือฮาในหมู่แฟนบอล แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความเชื่อมั่นของลิเวอร์พูลในระบบพัฒนาเยาวชนของทีม ซึ่งยังคงเดินหน้าผลักดันนักเตะรุ่นใหม่ให้ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับท็อปของวงการฟุตบอลต่อไป

เอฟเวอร์ตัน ดึง “เดวิด มอยส์” กลับมาคุมทีมรอบสอง

0

สโมสรเอฟเวอร์ตัน ประกาศแต่งตั้ง เดวิด มอยส์ เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการ โดยถือเป็นการหวนคืนสู่ถิ่น กูดิสัน พาร์ค เป็นครั้งที่สอง พร้อมเซ็นสัญญาระยะเวลา 2 ปีครึ่ง

กุนซือชาวสกอตแลนด์วัย 61 ปี กลับมารับตำแหน่งแทนที่ ฌอน ไดช์ ที่เพิ่งถูกปลดออกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังทีมทำผลงานได้ย่ำแย่ในช่วงต้นฤดูกาล โดยมอยส์กล่าวถึงการกลับมาครั้งนี้ว่า

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้กลับมาร่วมงานกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่างเอฟเวอร์ตันอีกครั้ง 11 ปีที่ผมเคยอยู่ที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ยอดเยี่ยม และเมื่อโอกาสนี้มาถึง ผมไม่ลังเลเลยที่จะตอบรับ”

“เป้าหมายสำคัญตอนนี้คือการรวมพลังของแฟนบอลและทีมในช่วงเวลาสำคัญของฤดูกาล เพื่อให้เราสามารถเดินหน้าต่อไปในฐานะสโมสรพรีเมียร์ลีก เมื่อถึงเวลาย้ายเข้าสู่สนามใหม่ที่งดงามของเรา”

ผลงานของมอยส์ก่อนหน้านี้
มอยส์เคยคุมเอฟเวอร์ตันในช่วงปี 2002 ถึง 2013 และพาทีมประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ก่อนย้ายไปคุมทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงผ่านการคุมทีมต่างแดนกับ เรอัล โซเซียดาด และกลับมาคุมทีมในอังกฤษกับ ซันเดอร์แลนด์ และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งล่าสุดเขาพาเวสต์แฮมคว้าแชมป์ ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก เมื่อปี 2023

สถานการณ์ปัจจุบันของเอฟเวอร์ตัน
ปัจจุบัน เอฟเวอร์ตันอยู่ในอันดับที่ 16 ของตารางพรีเมียร์ลีก โดยมีเพียง 3 ชัยชนะจาก 19 นัด และมีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียง 1 คะแนน การเข้ามาของมอยส์ในช่วงเวลานี้ถูกคาดหวังว่าจะช่วยยกระดับฟอร์มของทีม และรักษาสถานะในลีกสูงสุดของอังกฤษต่อไป

แฟนบอลเอฟเวอร์ตันต่างหวังว่ากุนซือผู้มากประสบการณ์รายนี้จะนำพาสโมสรกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องในฤดูกาลที่ท้าทายนี้

ห้ามพลาด!