Home Blog Page 40

ทำความรู้จัก จอร์นเทอร์รี่ มากยิ่งขึ้น

0

จอห์น เทอร์รี่ (John Terry) เกิดเมื่อ วันเกิด: 7 ธันวาคม 1980 ณ เมืองหลวงของอังกฤษ ลอนดอน ตำแหน่ง: กองหลังตัวกลาง (Centre-Back)

เส้นทางอาชีพ

จอห์น เทอร์รี่เป็นหนึ่งในกองหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลอังกฤษ โดยมีความโดดเด่นทั้งในด้านความแข็งแกร่งในการป้องกัน ความสามารถในการอ่านเกม และความเป็นผู้นำในสนาม

สโมสร

เชลซี (Chelsea FC)
เทอร์รี่เป็นสัญลักษณ์ของสโมสรเชลซี โดยเขาใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตการค้าแข้งกับเชลซี ตั้งแต่เข้าร่วมทีมเยาวชนในปี 1995 และเปิดตัวในทีมชุดใหญ่ปี 1998 จนกระทั่งย้ายออกในปี 2017

เทอร์รี่ลงเล่นให้เชลซีมากกว่า 700 นัด และเป็นกัปตันทีมมายาวนานหลายปีเขานำทีมเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย (2004-05, 2005-06, 2009-10, 2014-15, 2016-17) นอกจากนี้ยังคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในปี 2012 แม้ว่าเขาจะพลาดการลงสนามในรอบชิงชนะเลิศเนื่องจากโทษแบนเขายังคว้าถ้วยเอฟเอ คัพ 5 สมัย และลีกคัพ 3 สมัย

แอสตัน วิลล่า (Aston Villa)
หลังจากอำลาเชลซี เทอร์รี่ย้ายไปร่วมทีมแอสตัน วิลล่าในฤดูกาล 2017-18 เพื่อช่วยทีมต่อสู้ในการเลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนชิพ แม้เขาจะไม่ได้ลงเล่นในระดับสูงสุดอีกต่อไป แต่ก็ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีม

    ทีมชาติอังกฤษ

    เทอร์รี่ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษตั้งแต่ปี 2003-2012 โดยได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมชาติในบางช่วง เขาลงเล่นทั้งหมด 78 นัด และยิงได้ 6 ประตูเทอร์รี่เคยมีบทบาทสำคัญในทีมชาติระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกและยูโร แม้ว่าทีมชาติอังกฤษจะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนักในช่วงเวลาของเขา แต่การมีเขาเป็นแกนกลางในเกมรับทำให้ทีมแข็งแกร่งมากขึ้น

    สไตล์การเล่นและคุณสมบัติเด่น

    จอห์น เทอร์รี่มีชื่อเสียงในด้านการเป็นกองหลังที่สามารถควบคุมพื้นที่ในแนวรับได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งความสามารถในการเข้าสกัด (tackle) และการเล่นลูกกลางอากาศ เทอร์รี่เป็นนักเตะที่มีจิตวิญญาณในการเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นในการแข่งขันอย่างสูง ซึ่งทำให้เขาเป็นกัปตันทีมที่ดี

    การเล่นลูกกลางอากาศเป็นหนึ่งในจุดเด่นสำคัญของเขาไม่ว่าจะเป็นการป้องกันหรือการทำประตูในลูกตั้งเตะความสามารถในการวางตำแหน่งทำให้เขาไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วสูงมาก แต่ก็สามารถอ่านเกมและเข้าไปปิดพื้นที่ได้ก่อนที่คู่แข่งจะเข้ามาทำเกม

    หลังจากเลิกเล่น

    หลังจากเลิกเล่นในปี 2018 จอห์น เทอร์รี่ก็เข้ามาทำหน้าที่เป็นโค้ช โดยเริ่มต้นจากการเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของแอสตัน วิลล่า ก่อนจะยุติบทบาทนั้นในปี 2021 และยังคงสนใจงานด้านการบริหารจัดการฟุตบอล

    หนึ่งในสุดยอดตำนานของเชลว๊

    “วอลซอลล์รับศึกหนัก! เลสเตอร์เตรียมโรเตชั่นลุยคาราบาว คัพ”

    0

    วอลซอลล์ พบ เลสเตอร์ ซิตี้ – คาราบาว คัพ (25 กันยายน 2567)

    การแข่งขันคาราบาว คัพ รอบที่สาม ระหว่าง วอลซอลล์ และ เลสเตอร์ ซิตี้ จะจัดขึ้นที่สนาม Poundland Bescot Stadiumโดยเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมจากพรีเมียร์ลีกจะเป็นทีมเยือน พบกับวอลซอลล์จากลีกทู ซึ่งฟอร์มกำลังดีหลังชนะสามเกมติดในลีก อย่างไรก็ตาม วอลซอลล์จะขาดผู้เล่นหลักหลายคนจากอาการบาดเจ็บ เช่น โดเนอร์วอน แดเนียลส์ และ จอร์จ ฮอลล์

    สำหรับ เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของสตีฟ คูเปอร์ คาดว่าจะหมุนเวียนนักเตะหลายคน โดย เจมี่ วาร์ดี้ น่าจะเป็นตัวหลักในเกมรุก ร่วมกับผู้เล่นอย่าง สเตฟี มาวิดิดี และ แฮร์รี่ วิงส์ ขณะที่กองหลังคาดว่า วูท ฟาเอส และ เจมส์ จัสติน จะได้ลงคุมแนวรับ

    คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

    เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1):

    • ผู้รักษาประตู: มาดส์ แฮร์แมนเซ่น
    • กองหลัง: เจมส์ จัสติน, วูท ฟาเอส, วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น, คาเล็บ โอโคลิ
    • กองกลางตัวรับ: วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, แฮร์รี่ วิงส์
    • กองกลางตัวรุก: สเตฟี มาวิดิดี, บิลาเอล เอล คานนูส, จอร์แดน อายิว
    • กองหน้า: โอเดซอน เอดูอาร์

    วอลซอลล์ (3-4-3):

    • ผู้รักษาประตู: ทอมมี ซิมคิน
    • กองหลัง: เดวิด โอกักบู, แฮร์รี วิลเลียมส์, เทย์เลอร์ อัลเลน
    • กองกลาง: คอนเนอร์ บาร์เร็ตต์, ชาร์ลี เลกิน, ไรอัน สเตอร์ก, เลียม กอร์ดอน
    • กองหน้า: นาธาน โลว์, จามิลล์ แม็ตต์, เจมี่ จาลลิส

    คาดการณ์ผลการแข่งขัน:

    เลสเตอร์มีศักยภาพที่ดีกว่าอย่างชัดเจน และคาดว่าจะชนะเกมนี้ด้วยสกอร์ 3-0

    “แมนซิตี้ เตรียมโรเตชั่นทีม พบวัตฟอร์ดในศึกคาราบาว คัพ คาดการณ์ชัยชนะขาดลอย”

    0

    สำหรับเกมคาราบาว คัพ ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ วัตฟอร์ด ในวันที่ 25 กันยายน 2567 นั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่าคาดว่าจะโรเตชั่นนักเตะหลายคนหลังโปรแกรมหนักในพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก นักเตะตัวหลักอย่าง โรดรี้ และ เควิน เดอ บรอยน์ ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บจะไม่ได้ลงสนาม ขณะที่ ออสการ์ บ็อบบ์ ยังไม่สามารถกลับมาลงเล่นได้จากอาการบาดเจ็บระยะยาว

    ในเกมนี้ คาดว่า ฟิล โฟเดน และ เจมส์ แม็คอาที จะได้รับโอกาสลงสนาม ขณะเดียวกันผู้เล่นอย่าง ซาวิญโญ่ และ จอช วิลสัน-เอสแบรนด์ ก็มีโอกาสได้ลงเล่นเพื่อแสดงฝีเท้า

    ส่วนฝั่งวัตฟอร์ด จะพึ่งพานักเตะอย่าง ทอม อินซ์ ซึ่งทำแฮตทริกในรอบที่ผ่านมาของรายการนี้ โดยทีมวัตฟอร์ดจะต้องเล่นอย่างรัดกุมเพราะการเจอกับซิตี้ถือเป็นความท้าทายใหญ่

    แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ระบบ 4-2-3-1):

    • ผู้รักษาประตู: สเตฟาน ออร์เตก้า
    • กองหลัง: ริโก้ ลูอิส, จอห์น สโตนส์, มานูเอล อาคานจี, จอช วิลสัน-เอสแบรนด์
    • กองกลางตัวรับ: มาเตอุส นูเนส, คาลวิน ฟิลลิปส์
    • กองกลางตัวรุก: ฟิล โฟเดน, แบร์นาร์โด ซิลวา, เจมส์ แม็คอาที
    • กองหน้า: เออร์ลิง ฮาแลนด์ (อาจได้พักบางส่วน)

    วัตฟอร์ด (ระบบ 3-4-3):

    • ผู้รักษาประตู: ดาเนียล บัคมันน์
    • กองหลัง: ไรอัน พอร์เทียส, ฟรานซิสโก้ เซียร์รัลต้า, แมตต์ พอลล็อค
    • กองกลาง: เฟสตี้ เอบอสเล, เดเล่-บาชิรู, มูสซ่า ซิสโซโก้, ยาสเซอร์ ลาโรซี
    • กองหน้า: ทอม อินซ์, วาคูน บายโอ, เคน เซมา

    คาดการณ์ผลการแข่งขัน:

    คาดการณ์ผลลัพธ์เป็นชัยชนะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วยสกอร์ 4-1 หรือ 5-0

    เรอัล มาดริด เปิดบ้านรับมือ อลาเบส ลาลีกา 24 ก.ย. 2567

    0

    เรอัล มาดริด

    จะเปิดสนามซานติอาโก เบร์นาเบวต้อนรับการมาเยือนของเดปอร์ติโบ อลาเบส ในการแข่งขันลาลีกา คืนวันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นนัดสำคัญที่ราชันชุดขาวต้องการชัยชนะเพื่อรักษาฟอร์มแกร่งและกดดันจ่าฝูงอย่างบาร์เซโลน่า

    มาดริดกำลังฟอร์มดี ชนะถึง 5 จาก 6 นัดหลังสุดในทุกรายการ โดยล่าสุดพวกเขาถล่มเอสปันญ่อล 4-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าผลงานในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลจะยังไม่เข้าที่นัก โดยเฉพาะการเล่นเกมรุกที่มักจะมาทำประตูในครึ่งหลังมากกว่า

    การเสริมทีมด้วยการได้ตัวคีเลียน เอ็มบัปเป้ ทำให้เกมรุกมีความเฉียบคม แต่การขาดหายไปของผู้เล่นสำคัญอย่างจู๊ด เบลลิงแฮม และ ดานี่ การ์บาฆาล ที่ได้รับบาดเจ็บ อาจส่งผลให้ต้องมีการหมุนเวียนผู้เล่นในทีม เช่น ลูคา โมดริช และโอกาสของอาร์ดา กูลเลอร์

    อลาเบส

    ฟอร์มการเล่นดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่เอาชนะเซบีย่า 2-1 ในเกมล่าสุด โดยทีมเยือนมีแนวรับที่แข็งแกร่ง และมีผู้เล่นอย่างคาร์ลอส มาร์ติน ที่ทำผลงานโดดเด่นในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับคุณภาพของมาดริด พวกเขาอาจจะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจะเก็บแต้มในเกมนี้

    คาดการณ์ 11 ตัวจริง เรอัล มาดริด vs อลาเบส (24 ก.ย. 2567):

    เรอัล มาดริด (ระบบ 4-3-3):

    1. ติโบต์ กูร์กตัวส์ (GK)
    2. ดานี่ การ์บาฆาล (RB) – หากผ่านความฟิต
    3. เอแดร์ มิลิเตา (CB)
    4. อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (CB)
    5. แฟร์ล็องด์ เมนดี้ (LB)
    6. เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ (CM)
    7. ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (CDM)
    8. ลูก้า โมดริช (CM)
    9. อาร์ด้า กูลเลอร์ (RW)
    10. คีเลียน เอ็มบัปเป้ (CF)
    11. วินิซิอุส จูเนียร์ (LW)​

    อลาเบส (ระบบ 4-2-3-1):

    1. อันโตนิโอ ซิเวร่า (GK)
    2. นาอูเอล เทนากลีย่า (RB)
    3. อับเดล อับการ์ (CB)
    4. ซเดลาร์ (CB)
    5. มานู ซานเชซ (LB)
    6. โจน จอร์แดน (CM)
    7. อันเดร์ กูเอวาร่า (CM)
    8. คาร์ลอส มาร์ติน (RW)
    9. สโตช์คอฟ (AM)
    10. คาร์ลอส วิเซนเต้ (LW)
    11. โตนี่ มาร์ติเนซ (CF)​

    ทีมของเรอัล มาดริดจะยังไม่มี เอ็ดดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, ดานี่ เซบายอส และ บราฮิม ดิอาซ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วนอลาเบสจะใช้ทีมชุดเดิมที่เพิ่งชนะเซบีย่าได้ในเกมล่าสุด

    การคาดการณ์คือ เรอัล มาดริดน่าจะเป็นฝ่ายชนะ แต่คาดว่าจำนวนประตูอาจไม่สูงนัก โดยผลที่คาดหวังคือ 2-0 หรือ 3-0

    เซบีย่าเปิดบ้านดวลบายาโดลิด – วิเคราะห์ก่อนเกม ลาลีกา 24 กันยายน 2567″

    0

    ในศึกลา ลีกา สเปน ที่กำลังจะมาถึงระหว่าง เซบีย่า และ เรอัล บายาโดลิด ในวันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 การแข่งขันนี้มีความสำคัญสำหรับทั้งสองทีมที่กำลังต้องการแต้มเพื่อหลีกหนีโซนตกชั้น

    เซบีย่า ฤดูกาลนี้ออกสตาร์ทอย่างยากลำบาก

    โดยเพิ่งคว้าชัยได้เพียงหนึ่งครั้งจากหกเกมที่ผ่านมา ล่าสุดพ่ายให้กับ อลาเบส 1-2 ทำให้ยังคงอยู่ในโซนล่างของตาราง แม้ว่าพวกเขาจะมีความสามารถในการเล่นเกมรุก แต่ปัญหาคือการขาดความสม่ำเสมอในการป้องกัน เกมนี้พวกเขาจะยังขาดกองหลังตัวหลักอย่าง มาร์เกา และ อัลเบิร์ต แซมบี โลกองก้า ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้การจัดแนวรับยังคงมีปัญหา

    ทางฝั่ง เรอัล บายาโดลิด

    ที่เพิ่งกลับขึ้นมาจากเซกุนด้า ดิวิชั่น ก็ยังไม่สามารถหาฟอร์มที่สม่ำเสมอได้เช่นกัน หลังจากเก็บชัยชนะได้ในเกมเปิดฤดูกาล พวกเขาก็ไม่ชนะใครอีกเลยในห้าเกมล่าสุด ซึ่งการเสมอกับ เรอัล โซเซียดาด 0-0 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการป้องกัน แต่เกมรุกยังขาดความเด็ดขาด

    คาดการณ์ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีมในเกม เซบีย่า vs เรอัล บายาโดลิด (24 กันยายน 2567):

    เซบีย่า (4-3-3)

    • ผู้รักษาประตู: โอเยร์ นีลันด์
    • กองหลัง: โฆเซ่ อังเคล คาร์โมน่า, ต็องกี เนียงซู, กิเก้ ซาลาส, อาเดรีย เปโดรซ่า
    • กองกลาง: ซาอูล ญีเกซ, ลูคัส โอกูเม่, ลามีน ยามาล
    • กองหน้า: โดดี ลูเกบากิโย, เคเลชี่ อิเฮียนาโช, เปเก้

    เรอัล บายาโดลิด (4-2-3-1)

    • ผู้รักษาประตู: คาร์ล ไฮน์
    • กองหลัง: ลูคัส เปเรซ, จูมา บาห์, คาน ออซคาชาร์, กอนซาโล่ โรซา
    • กองกลางตัวรับ: วิกเตอร์ เมเซเกอร์, ซานี่ ยูริช
    • กองกลางตัวรุก: ดาร์วิน มาคิส, เซลิม อมัลลาห์, ราอูล โมโร่
    • กองหน้า: ฮวนมิ ลาตาซ่า​
    คาดการณ์สกอร์:

    เกมนี้ เซบีย่า มีความได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน แม้ว่าฟอร์มของพวกเขาจะยังไม่เข้าที่ แต่ เรอัล บายาโดลิด ก็อยู่ในช่วงฟอร์มตก ไม่ชนะมา 5 เกมติด เซบีย่าจึงน่าจะมีโอกาสที่ดีกว่าในการเก็บ 3 แต้ม

    คาดการณ์ว่า เซบีย่าจะชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 หรือ 2-0 เนื่องจาก บายาโดลิด ยังคงมีปัญหาในการทำประตูและฟอร์มการเล่นนอกบ้านไม่ดีนัก ขณะที่ เซบีย่า น่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากเกมในบ้านและจบสกอร์ได้ดีกว่า​

    บาเลนเซีย พบ โอซาซูน่า: ศึกสำคัญของ “ลอสเช” ที่เมสตาย่า หวังสร้างโมเมนตัม

    0

    ในวันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 บาเลนเซียจะเปิดสนามเมสตาย่าต้อนรับโอซาซูน่าในศึกลา ลีกา ที่เต็มไปด้วยความสำคัญ

    สำหรับบาเลนเซียซึ่งกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ อันดับที่ 19 ของตาราง เกมนี้เป็นโอกาสที่พวกเขาจะต่อยอดจากชัยชนะครั้งแรกของฤดูกาลที่ชนะกิโรน่าไป 2-0 โดยลูกทีมของรูเบน บาราฆาหวังจะกลับมาสร้างเสถียรภาพหลังจากแพ้ถึง 4 ใน 6 นัดแรก นักเตะที่น่าจับตาอย่าง ดิเอโก้ โลเปซ และ ดานี่ โกเมซ จะต้องโชว์ฟอร์มให้ดีเพื่อพาทีมพ้นจากโซนตกชั้น​

    ในทางกลับกัน โอซาซูน่าอยู่ในอันดับ 7 มี 10 แต้มจากการชนะ 3 ใน 6 นัด

    เกมนี้พวกเขาหวังจะทำผลงานให้ดีขึ้นแม้สถิติการเล่นนอกบ้านไม่ค่อยดีนัก การที่เอาชนะลาส ปัลมาสมา 2-1 ทำให้พวกเขามีความมั่นใจขึ้น แต่การมาเยือนเมสตาย่าเป็นงานที่ยาก โดยที่โอซาซูน่าไม่เคยชนะในสนามแห่งนี้เลยใน 4 เกมหลังสุด​

    การคาดการณ์:

    ด้วยความได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน บาเลนเซียอาจมีโอกาสชนะเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของโอซาซูน่าที่ดีกว่าในฤดูกาลนี้ทำให้ผลการแข่งขันอาจเสมอหรือลงเอยด้วยชัยชนะของบาเลนเซียอย่างหวุดหวิด​

    คาดการณ์ 11 ตัวจริงสำหรับบาเลนเซียและโอซาซูน่า ในเกมลาลีกาวันอังคารที่ 24 กันยายน 2567:

    บาเลนเซีย (ระบบ 4-2-3-1):

    • ผู้รักษาประตู: จอร์จี้
    • กองหลัง: ติเอรี่ คอร์เรอา, เซซาร์, คริสเตียน มอสเกร่า, เฆซุส วาซเกซ
    • กองกลางตัวรับ: เปเปลู, ฮูโก้ กียามอน
    • แนวรุก: ดิเอโก้ โลเปซ, ฆาเบียร์ เกร์ร่า, หลุยส์ ริโฆ
    • กองหน้า: ดานี่ โกเมซ​

    โอซาซูน่า (ระบบ 4-1-4-1):

    • ผู้รักษาประตู: เซร์คิโอ เอร์เรร่า
    • กองหลัง: เฆซุส อาเรโซ่, ฟลอริย็อง เลอฌูน, เดวิด การ์เซีย, ฆวน ครูซ
    • กองกลางตัวรับ: ลูคัส ตอร์โร่
    • แนวรุก: รูเบน การ์เซีย, ออยเอร์ ซานฆูร์โฆ, ไอมาร์ โอรอซ, ไบรอัน กิล
    • กองหน้า: อันเต้ บูดิเมียร์​

    สกอร์ที่คาดการณ์คือ 1-1 หรือชัยชนะเล็กน้อยของบาเลนเซีย 1-0

    แบร์นาร์โด้ ซิลวา เปรียบเทียบคู่แข่งลุ้นแชมป์: ‘ลิเวอร์พูล เล่นเพื่อชนะ แต่อาร์เซน่อลเล่นเพื่อตั้งรับ

    0

    แบร์นาร์โด้ ซิลวา กองกลางจอมเทคนิคของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังเกมที่ “เรือใบสีฟ้า” เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 ซึ่งเป็นเกมที่ทัพ “ปืนใหญ่” ต้องเล่นด้วยผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ท้ายครึ่งแรก เนื่องจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ต้องเน้นการตั้งรับในช่วงครึ่งหลังเพื่อรักษาผลการแข่งขันไว้

    แบร์นาร์โด้ กล่าวถึงความไม่พอใจในแผนการเล่นของ อาร์เซน่อล โดยชี้ว่าทีมของเขาเข้ามาเล่นเพื่อคว้าชัยชนะ แต่กลับเจอการตั้งรับแบบเต็มตัวจากคู่แข่ง เขาแสดงความเห็นว่า “มีเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่เข้ามาเล่นฟุตบอล อีกทีมเข้ามาเล่นตามขีดจำกัดที่ทำได้ แต่น่าเสียดายที่เราจบลงด้วยผลเสมอ แม้ว่าเราต้องการสามแต้ม ผมพอใจกับวิธีที่เราพยายามคว้าชัยในทุกนัดเสมอ”

    นอกจากนี้ เมื่อถูกถามให้เปรียบเทียบการแข่งขันระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับสองทีมคู่แข่งสำคัญในการลุ้นแชมป์อย่าง อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ซิลวา ได้ตอบว่า “ความแตกต่างคือ ลิเวอร์พูล เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีกมาแล้ว พวกเขามาเพื่อต่อสู้เพื่อเอาชนะ แต่ อาร์เซน่อล ยังไม่เคยได้แชมป์เหล่านั้น เกมกับพวกเขาจึงไม่เหมือนกับการเจอกับ ลิเวอร์พูล”

    คำพูดของ แบร์นาร์โด้ สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่แตกต่างกันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการเจอกับทั้งสองทีม โดยเฉพาะการมองว่า ลิเวอร์พูล เป็นคู่แข่งที่เข้ามาเล่นเพื่อชนะ ขณะที่ อาร์เซน่อล ยังคงมีความจำเป็นต้องปรับปรุงในด้านประสบการณ์การแข่งขันระดับสูง

    แต่ก็น่าเห็นใจทีมอย่างอาเซน่อลเช่นกันเพราะโดนใบแดงอย่างค้านสายตา

    ยูเวนตุสหวังดึงตัว ฟาเบียน รุยซ์มิดฟิลด์ PSG ท่ามกลางความสนใจจาก บาร์เซโลน่าและเรอัล มาดริด

    0

    มีรายงานว่า ฟาเบียน รุยซ์ กองกลางของปารีส แซงต์ แชร์กแมง ตกเป็นเป้าหมายของ สโมสรบาร์เซโลนาและเรอัลมาดริดอย่างไรก็ตาม ยักษ์ใหญ่ของสเปนทั้งสองทีมไม่ใช่เพียงสโมสรเดียวที่สนใจผู้ชนะการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 ของยูฟ่า

    ในช่วงเบรกทีมชาติเมื่อไม่นานนี้ ฟาเบียน รุยซ์ สร้างความฮือฮาให้กับสเปนในนัดที่พบกับสวิตเซอร์แลนด์ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก โดยนักเตะคนสำคัญของเปแอ็สเฌยิงได้ 2 ประตูในนาทีที่ 13 และ 77 ช่วยให้สเปนคว้าชัยชนะอีกครั้ง

    แม้ว่าแข้งวัย 28 ปีรายนี้จะสร้างชื่อให้กับทีมชาติสเปนแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่ได้ลงเล่นตัวจริงให้กับ PSG อย่างแน่นอน ข่าวลือล่าสุดระบุว่าเขากำลังได้รับความสนใจจากสเปน แต่เขาก็อาจจะได้กลับไปเล่นในอิตาลีก็เป็นได้

    เหตุผลที่ยูเวนตุสสนใจในตัวนักเตะ

    ฟาเบียน รุยซ์ ได้รับความสนใจจาก ยูเวนตุส โดย ตีอาโก มอตตา โค้ชของ ยูเวนตุส ชื่นชอบเป็นอย่างมาก ซึ่ง ฟาเบียน รุยซ์ มีสัญญากับ PSG จนถึงกลางปี ​​2027

    กองกลางรายนี้จะเพิ่มคุณภาพให้กับแดนกลางของยูเว่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย ในที่สุดยูเว่ ก็ตั้งเป้าที่จะเอาชนะบาร์เซโลน่าและเรอัล มาดริดเพื่อเซ็นสัญญากับเขา คงจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าจะมีสโมสรใดในสามสโมสรนี้ชนะการแข่งขันและคว้าตัวผู้เล่นรายนี้ไปได้หรือไม่

    “ชีวิตใหม่กับเชลซี! เจดอน ซานโช่ ปัดโอกาสคืนถิ่นแมนฯ ยูไนเต็ด”

    0

    สื่อดังแฉ! เจดอน ซานโช่ แฮปปี้กับชีวิตที่เชลซี ไม่คิดกลับแมนยู

    เจดอน ซานโช่ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ วัย 24 ปี เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เชลซีด้วยความสุข หลังจากย้ายมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในซัมเมอร์ปี 2024 ด้วยสัญญายืมตัว แม้จะมีเงื่อนไขที่เปิดโอกาสให้เขากลับไปเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ซานโช่แสดงความชัดเจนว่าไม่มีแผนที่จะกลับไป โดยแหล่งข่าวระบุว่า เขาแฮปปี้กับสโมสรใหม่และไม่ต้องการกลับไปเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ตึงเครียดกับเอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมปีศาจแดง

    ซานโช่ ย้ายมาร่วมทีมเชลซีด้วยสัญญายืมตัว พร้อมกับเงื่อนไขที่เชลซีมีภาระผูกพันต้องซื้อขาดหากพวกเขาจบฤดูกาลในตำแหน่งสูงกว่าที่ 14 ของพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตาม การที่ซานโช่เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งที่เชลซี ทำให้เขามีความสุขกับทีมใหม่ และไม่มีความต้องการที่จะกลับไปเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะหลังจากที่มีปัญหากับผู้จัดการทีม เอริก เทน ฮาก

    แหล่งข่าวระบุว่า การย้ายมาเชลซีช่วยให้ซานโช่กลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง โดยเขามีส่วนร่วมในการทำเกมรุกและช่วยทีมคว้าชัยในหลายเกม ขณะที่อนาคตของเขาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ดูจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

    “เลวานดอฟสกี้เดือด! บาร์เซโลน่าถล่มบียาร์เรอัล 5-1 ท่ามกลางความกังวลอาการบาดเจ็บของแทร์ สเตเก้น”

    0

    บาร์เซโลน่าโชว์ฟอร์มดุเอาชนะบียาร์เรอัล 5-1 ในศึกลา ลีกา เมื่อคืนวันอาทิตย์ โดยมีไฮไลท์สำคัญจากโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ที่ยิง 2 ประตูและยังคงเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับคิลิยัน เอ็มบัปเป้ ขณะที่ปีกดาวรุ่ง ลามีน ยามาล และราฟินญ่า ต่างทำผลงานได้ยอดเยี่ยมนับเป็นการกลับมาที่สมบูรณ์แบบสำหรับทีมของฟลิค หลังจากที่พวกเขาเริ่มต้นแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยความพ่ายแพ้ 2-1 ต่อโมนาโกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเป็นเกมที่บาร์ซ่าต้องเล่นด้วยผู้เล่น 10 คนเป็นเวลา 80 นาที หลังจากการ์เซียได้รับใบแดงในช่วงต้น

    ภาพรวมภายในเกม

    บาร์ซ่าขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 20 เมื่อเลวานดอฟสกี้โหม่งจากการจ่ายของปาโบล ตอร์เร ต่อมาเลวานดอฟสกี้ซัดประตูที่สองในเกม จากการสร้างสรรค์ของยามาลที่กดดันแนวรับบียาร์เรอัลอย่างต่อเนื่อง

    อย่างไรก็ตาม ความน่ากังวลเกิดขึ้นเมื่อ มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของบาร์เซโลน่า ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าอย่างรุนแรงและถูกหามออกจากสนาม สร้างความกังวลว่าอาจต้องพักยาว อินากี เปญ่า ถูกส่งลงมาแทน และเซฟลูกยิงสำคัญของนิโกลัส เปเป้ ก่อนที่บียาร์เรอัลจะถูกจำกัดเกมบุกหลังเปเป้โดนไล่ออกจากสนาม

    แม้เลวานดอฟสกี้พลาดโอกาสทำแฮตทริกจากจุดโทษ แต่ราฟินญ่ามายิงประตูตอกฝาโลงในช่วงท้ายเกม ทำให้บาร์เซโลน่าปิดเกมด้วยชัยชนะ 5-1 โดยนับเป็นการชนะ 6 นัดรวดในลีกฤดูกาลนี้

    เลวานดอฟสกี้กล่าวหลังจบเกมว่า

    “มันสำคัญมากที่เราจะกลับมาได้ในเกมเยือน และเรายิงได้ 5 ประตูและได้ 3 แต้ม”

    “ทุกคนรู้ว่าพวกเขาต้องทำอะไร ผู้เล่นที่อายุมากกว่า ผู้เล่นที่อายุน้อยกว่า พวกเรารู้ว่าเราต้องโจมตีและรับอย่างไร”

    “เราตั้งเป้าที่จะส่งบอลเข้าสู่กรอบเขตโทษให้เร็วขึ้นในฤดูกาลนี้ และนั่นคือโซนของฉัน นั่นคือจุดที่ฉันอยากให้มีการสัมผัสกับบอลมากขึ้น”

    ฮันซี่ ฟลิค กุนซือของบาร์เซโลน่าหลังจบการแข่งขัน ถึงอาการบาดเจ็บ

    “ดูเหมือนว่ามาร์กจะมีอาการไม่ดี เราต้องรอผลการวินิจฉัยอาการบาดเจ็บทั้งหมด แต่จริงอยู่ที่อาการบาดเจ็บของเขาดูจะร้ายแรงมาก”

    อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าของ มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น

    อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าจะทำให้ มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น ผู้รักษาประตูของบาร์เซโล น่าต้องพักรักษา ตัวเป็นเวลาหลายเดือนหรืออาจจะส่อแววปิดฤดูกาลเลยก็เป็นได้

    ฮันซี่ ฟลิค กุนซือบาร์ซ่า ยืนยันว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้ร้ายแรงและใหญ่มากแต่เขาก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะต้องเข้ารับการตรวจเพิ่มเติมหรือไม่

    ห้ามพลาด!