Home Blog Page 41

“บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก! แมนฯ ซิตี้ เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 ดราม่าสุดมันส์แม้ไร้ผู้ชนะ”

0

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567 ณ สนามเอติฮัด สเตเดียม จบลงด้วยผลเสมอสุดเร้าใจ 2-2 ระหว่างทีมแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และผู้ท้าชิงแชมป์อย่าง อาร์เซน่อล ทั้งสองทีมแสดงให้เห็นถึงคุณภาพและจังหวะเกมรุกที่เฉียบคม แต่สุดท้ายก็ต้องแบ่งแต้มกันไปในบรรยากาศที่เข้มข้นจนหยุดหายใจ

เริ่มเกม แมนฯ ซิตี้ ออกนำอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 9 จากการหลุดเดี่ยวของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ยิงบอลเข้ามุมอย่างเหนือชั้น อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อลไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และกลับมาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 22 จากจังหวะลูกยิงสุดสวยของ ริกการ์โด คาลาฟีโอรี่ ยิงผ่านมือผู้รักษาประตูเอแดร์สัน นาทีที่ 45+1 อาเซน่อลได้ลูกเตะมุม บูกาโย ซากา เปิดเตะมุมบอลแอสซิสให้ กาบรีแยล มากัลไยส์ โหม่งขึ้นนำได้สำเร็จ และก่อนจะหมดเวลานาทีที่ 45+8 เลอันโดร ทรอสซาร์ด ได้โดนใบเหลืองที่ 2 จากการไปเตะบอลทิ้งกลายเป็นใบแดง

ครึ่งหลัง เกมยังคงร้อนแรง ของแมนซิตี้เปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างไม่ยั้ง จนนาทีที่90+8 แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูตีเสมอจาก จอห์น สโตนส์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง

ช่วงท้ายเกม แม้ว่าทั้งสองทีมจะพยายามบุกเพื่อหาประตูชัย แต่ก็ไม่สามารถทำได้ หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล เสมอกันไป 2-2 เป็นเกมที่เต็มไปด้วยจังหวะที่ตื่นเต้นและการต่อสู้ที่ดุเดือด สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของทั้งสองทีมในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

ผลเสมอในวันนี้ทำให้ทั้งสองทีมต้องพอใจในการแบ่งแต้ม แม้จะไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ แต่มันก็เป็นการแข่งขันที่สร้างความประทับใจให้แฟนบอลทั่วโลก

“ออสการ์” เตรียมหอบเงิน 7 พันล้านกลับบราซิล

0

Folha de Sao Paulo สื่อชื่อดังของบราซิลเผยว่า ออสการ์ กำลังพิจารณาลาจากการค้าแข้งในลีกจีนหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ แต่มีความกังวลเมื่อต้องกลับบ้านเกิด

มิดฟิลด์วัย 33 ปี เคยติดทีมชาติบราซิล 48 นัด และทำไป 12 ประตูระหว่างปี 2011-2015 เขาได้ย้ายไปเล่นในลีกจีนตั้งแต่ปี 2017 จนถึงตอนนี้ก็เป็นฤดูกาลที่ 8 ที่เขาลงเล่นให้กับสโมสร เซี่ยงไฮ้ พอร์ต (Shanghai Port)

ช่วงที่เขาย้ายจาก เชลซี มาสู่จีนในตอนนั้นเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก เนื่องจาก ออสการ์ ยอมรับว่าตัดสินใจย้ายเพราะค่าเหนื่อยที่สูงมาก ซึ่งเป็นโอกาสที่นักเตะอาชีพมีเพียงไม่กี่ปี และเขาต้องการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวในอนาคต

ตามรายงานระบุว่า ตลอดช่วงเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ออสการ์ได้รับค่าเหนื่อยมากกว่า 1,500 ล้านหยวน หรือราว 7,000 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้เขากำลังเตรียมย้ายกลับบราซิลหลังได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจ อีกทั้งเขาเองก็ต้องการกลับไปดูแลคุณแม่และน้องสาวของเขา

“8 ปีในจีนเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับผม แต่สิ่งเดียวที่ผมกังวลเกี่ยวกับการกลับบราซิลคือเรื่องความปลอดภัย” ออสการ์เผย

“ชีวิตที่จีนทำให้ครอบครัวผมมีความเป็นอยู่ที่ดี ลูกๆของผมเดินทางไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย และที่นี่ไม่มีปัญหายาเสพติด ซึ่งต่างจากบราซิลอย่างมาก” เขากล่าวเสริม

ทั้งนี้ ออสการ์มีน้องสาว 2 คน เขาสูญเสียพ่อจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่อายุเพียง 3 ขวบ และได้รับการเลี้ยงดูจากคุณแม่ที่ต้องต่อสู้กับความลำบาก

จาลุยจิ บุฟฟ่อน หนึ่งในนายทวารที่ดีที่สุดตลอดกาล

0

จาลุยจิ บุฟฟ่อน เกิด 28 มกราคม ค.ศ. 1978  เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอิตาลี บุฟฟอนเกิดในครอบครัวนักกีฬา โดยมีพ่อเป็นนักกรีฑา และแม่เป็นนักขว้างจักร รวมถึงพี่สาวก็เป็นนักกีฬา ในปี ค.ศ. 1995 บุฟฟอนในวัย 17 ปี ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับปาร์ม่า และการลงเล่นนัดแรกในเซเลอาของบุฟฟอนก็คือพบกับสโมสรระดับใหญ่อย่างเอซีมิลาน ในปีถัดมาก็ได้ลงเล่นให้ทีมชาติในมหกรรมโอลิมปิก ที่นครแตแลนต้า สหรัฐอเมริกาด้วย

จากนั้นในปี 2001 ยูเวนตุส ได้ซื้อเขาด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติสำหรับผู้รักษาประตูในขณะนั้น ซึ่งสูงถึง 52 ล้านยูโร ทำให้ Buffon กลายเป็นสัญลักษณ์ของสโมสร และพาทีมคว้าแชมป์ Serie A หลายสมัย รวมถึงถ้วยรางวัลอื่นๆ อีกมาก สำหรับ จานลุยจิ บุฟฟอน ถือเป็นอีก 1 นักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอล โดยกวาดไปทั้งหมด 27 แชมป์กับ 3 สโมสรทั้ง ปาร์มา, ยูเวนตุส และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง นอกจากนี้ ยังได้ 2 แชมป์กับทีมชาติอิตาลี ซึ่ง 1 ในนั้นคือฟุตบอลโลกปี 2006 ที่ทั้งทัวร์นาเมนต์เสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น และเป็นคนสุดท้ายที่ได้รางวัล เลฟ ยาชิน อวอร์ด (ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำฟุตบอลโลก 2006) อีกด้วย

นอกจากความสำเร็จในระดับสโมสร จาลุยจิ บุฟฟ่อน ยังเป็นที่จดจำในฐานะผู้นำของทีมชาติอิตาลี ในทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก ปี 2006 เขาทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการเก็บคลีนชีตในรอบชิงชนะเลิศกับฝรั่งเศส และถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่ทำให้อิตาลีคว้าถ้วยรางวัลในครั้ง

จาลุยจิ บุฟฟ่อน ยังมีความสามารถในการยืนหยัดท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น และแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในทุกนัดที่ลงเล่น ด้วยทัศนคติที่ไม่เคยยอมแพ้และความเป็นผู้นำในสนาม ทำให้เขายังคงเป็นนักเตะที่ถูกยกย่องจากแฟนบอลทั่วโลก แม้ว่าจะอายุย่างเข้า 40 ปี จาลุยจิ บุฟฟ่อน ก็ยังคงเล่นฟุตบอลในระดับสูง โดยเขาได้กลับไปยัง Parma ในปี 2021 เพื่อปิดฉากอาชีพค้าแข้งที่เริ่มต้นจากที่นั่น

ตลอดเส้นทางอาชีพ จาลุยจิ บุฟฟ่อน ได้รับการยกย่องในฐานะ “นายทวารที่ดีที่สุดตลอดกาล” และเป็นต้นแบบของผู้รักษาประตูยุคใหม่ ทั้งในแง่เทคนิค ทักษะการหยุดลูกยิง และการเป็นผู้นำที่สงบและมั่นคง ทั้งหมดนี้ทำให้ Buffon กลายเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ และเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งในโลก โดยตลอดการค้าแข่งเจ้าตัวลงเล่นไปถึง 730 นัด

ศึกดาร์บี้แห่งมิลาน อินเตอร์ vs มิลาน ของกัลโช่ เซเรีย อา ดาร์บี้แมทช์สุดมันส์ที่คนได้เฝ้ารอ! วันที่ 23 กันยายน 2567 01.45 น.

0

หนึ่งในแมตช์ที่ถูกจับตามองมากที่สุดของกัลโช่ เซเรีย อา นัดที่ 5 คือการพบกันระหว่าง อินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “มิลาน ดาร์บี้” ซึ่งนอกจากจะเต็มไปด้วยความเข้มข้นและศักดิ์ศรีของทั้งสองทีมแล้ว เกมนี้ยังสะท้อนถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะทีม “รอสโซเนรี” ที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตภายใน

ฟอร์มการเล่นและภาพรวมของทั้งสองทีม

สำหรับ อินเตอร์ มิลาน พวกเขายังอยู่ในฟอร์มที่น่าประทับใจ หลังจากเกมเสมอแบบไร้สกอร์กับทีมแกร่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทีม “เนรัซซูรี่” แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการเล่นที่เป็นระบบ การไม่เสียประตูต่อทีมที่มีเกมรุกดุดันอย่างซิตี้ทำให้แฟนบอลมีเหตุผลที่จะเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมในฤดูกาลนี้

ในทางกลับกัน เอซี มิลาน กลับมีเรื่องให้ต้องกังวลมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากความพ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล ในแชมเปี้ยนส์ลีก ที่เผยให้เห็นถึงข้อจำกัดต่าง ๆ ของทีม ทั้งในเรื่องคุณภาพของขุมกำลังและความสามัคคีภายในทีม หลังจากผ่านไปเพียงแค่หนึ่งเดือนจากการเปิดฤดูกาล ทีม “รอสโซเนรี” ดูเหมือนยังไม่สามารถรวมพลังกันได้เต็มที่ ซึ่งสร้างความวิตกให้กับทั้งแฟนบอลและผู้จัดการทีม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

อินเตอร์ (3-5-2):ซอมเมอร์; ปาวาร์ด, อาเซอร์บี, บาสโตนี่; ดัมฟรีส์, บาเรลลา, คัลฮาโนกลู, มคิตาร์ยาน, ดิมาร์โก้; เลาตาโร, ทูราม. โค้ช: อินซากี้.

มิลาน  (4-2-3-1) :ไมญ็อง; คาลาเบรีย, โทโมรี, ปาฟโลวิช, ธีโอ เอร์นันเดซ; โฟฟานา, ไรน์เดอร์ส; พูลิซิช, ลอฟตัส-ชีค, เลเอา; โมราต้า โค้ช: ฟอนเซก้า.

วิเคราะห์ก่อนแมทช์ดาร์บี้คืนนี้

ฟอร์มปัจจุบัน

  • อินเตอร์ มิลาน:
    • ฟอร์มโดยรวมในช่วงต้นฤดูกาลแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะการเสมอแบบไร้สกอร์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการป้องกัน
    • สถิติเกมรุกดีเช่นกัน โดยทำไป 9 ประตูใน 5 นัดแรกของเซเรีย อา และระบบเกมที่จัดโดยซิโมเน่ อินซากี้ ก็พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในทั้งสองฝั่งสนาม
  • เอซี มิลาน:
    • ขณะที่มิลานยังไม่แพ้ในเกมลีก แต่ความพ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล ในแชมเปี้ยนส์ลีกล่าสุดได้เผยจุดอ่อนหลายจุด โดยเฉพาะปัญหาความไม่ลงตัวของทีมและความสามัคคีในกลุ่มนักเตะ
    • อย่างไรก็ตาม แนวรุกของมิลานยังคงอันตราย โดยเฉพาะ ราฟาเอล เลเอา ที่ทำผลงานได้ดีในการเจอกับอินเตอร์เสมอ

จุดเด่นและสถิติที่น่าสนใจ

  • เอซี มิลาน มีสถิติที่ดีในดาร์บี้ที่แข่งขันในแมตช์เดย์ที่ 5 โดยไม่แพ้ใครจาก 7 นัดล่าสุด ซึ่งบ่งบอกถึงความมั่นใจในการแข่งขันในช่วงเวลานี้
  • อย่างไรก็ตาม อินเตอร์เองก็มีฟอร์มในฤดูกาลนี้ที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะการเล่นที่เป็นระบบและการจัดเกมที่แน่นอน

ผู้เล่นตัวหลัก

  • อินเตอร์ มิลาน:
    • การมีนักเตะอย่าง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ที่เป็นหัวใจสำคัญในเกมรุก และแนวรับที่แข็งแกร่งทำให้พวกเขามีโอกาสสูงในการควบคุมเกม
    • การเล่นภายใต้ระบบ 3-5-2 ของอินซากี้ช่วยสร้างความสมดุลให้กับทีมทั้งในแง่ของการบุกและรับ
  • เอซี มิลาน:
    • ราฟาเอล เลเอา คือผู้เล่นที่มิลานจะพึ่งพาเป็นอย่างมาก โดยเขามีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการเจอกับอินเตอร์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มิลานต้องใช้ในการทำลายเกมรับของอินเตอร์
    • เกมนี้อาจขึ้นอยู่กับการทำประตูจากตัวสำรองด้วย ซึ่งเป็นจุดแข็งของมิลานในฤดูกาลนี้

แท็คติก

  • อินเตอร์ มักจะเล่นอย่างมีวินัยในระบบเกมรับ ขณะที่การโจมตีจากริมเส้นและการเล่นลูกกลางอากาศจากผู้เล่นแนวหน้าเป็นจุดแข็ง
  • เอซี มิลาน ชอบเล่นเกมเร็วจากด้านข้างและใช้การโจมตีด้วยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นอย่างเลเอา แต่ปัญหาคือการไม่สามารถสร้างโอกาสได้ต่อเนื่องในการเจอกับทีมรับแน่น

คาดการณ์ผลสกอร์

อินเตอร์ 1-1 มิลาน


“โรดรี้เตือนถึงความเสี่ยงเกมการแข่งขันที่มากเกินไป นักเตะใกล้หมดความอดทน!”

0

โรดรี้ กองกลางตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเตือนเกี่ยวกับจำนวนเกมที่นักเตะต้องลงแข่งขันในแต่ละฤดูกาลที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนใกล้ถึงจุดที่นักเตะไม่สามารถทนรับภาระได้อีกต่อไป โดยเขาเชื่อว่าการแข่งขันในระดับ 40-50 นัดต่อฤดูกาลนั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับการรักษาฟอร์มและสมรรถนะของผู้เล่นให้อยู่ในระดับสูง

ในช่วงก่อนการเปิดบ้านต้อนรับอินเตอร์ มิลาน ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในวันพุธที่ผ่านมา โรดรี้ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการขยายจำนวนการแข่งขันที่ส่งผลให้นักเตะต้องเผชิญกับความกดดันมากขึ้น

โรดรี้ให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนเกมว่า

“ผมคิดว่าเราใกล้จะถึงจุดที่นักเตะต้องตัดสินใจอย่างจริงจังเกี่ยวกับการหยุดงาน เพื่อเรียกร้องการปรับลดจำนวนเกมลง”

“การแข่งขันในปริมาณ 60-70 นัดต่อฤดูกาลเป็นเรื่องที่ไม่สมควร และจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งของนักเตะในระยะยาว”

“การลงเล่นมากเกินไปย่อมทำให้ประสิทธิภาพของเราแย่ลง การรักษาฟอร์มในระดับสูงสุดจะเป็นไปไม่ได้”

นักเตะชั้นนำวัย 28 ปีรายนี้ได้ส่งสัญญาณถึงความจำเป็นในการทบทวนรูปแบบการแข่งขันในอนาคต ซึ่งถ้ายังคงมีการเพิ่มจำนวนเกมอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลเสียต่อฟอร์มนักเตะได้

อาร์เน่อ สล็อต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล กล่าวยกย่อง ดาร์วิน นูนเญซ

0

อาร์เน่อ สล็อต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล กล่าวยกย่อง ดาร์วิน นูนเญซ ที่สามารถทำประตูได้ในเกมที่ลงเป็นตัวจริงครั้งแรกของฤดูกาล

ในเกมนี้ “หงส์แดง” เอาชนะ บอร์นมัธ 3-0 โดย หลุยส์ ดิอาซ ทำผลงานโดดเด่นด้วยการยิงไป 2 ประตู ส่วน นูนเญซ ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงครั้งแรกในซีซั่นนี้และทำประตูที่ 3 ให้กับทีม ถือเป็นการยิงครั้งแรกในรอบกว่า 5 เดือนของเขา ซึ่งมีส่วนช่วยให้ทีมเก็บ 3 แต้ม พร้อมขึ้นเป็นจ่าฝูงชั่วคราว

กุนซือชาวดัตช์ กล่าวหลังจบเกมว่า “เราต้องการประตูจากเขา เพราะนั่นคือสิ่งที่กองหน้าควรทำ แต่การเล่นของเขาโดยรวมก็ดีเยี่ยมเช่นกัน” “เรามีนักเตะฝีมือดีหลายคน การแข่งขันภายในทีมจึงสูง แต่หากทุกคนยังรักษาฟอร์มดีแบบนี้ไว้ได้ มันก็จะเป็นผลดีต่อผมและทีม”

“ตอนที่เห็นเขาอยู่ในกรอบเขตโทษและยิง ผมก็สงสัยว่าทำไมเขายิงแบบนั้น แต่พอเห็นประตูที่เกิดขึ้นแล้ว ผมก็คิดว่า บางทีเขาอาจจะเป็นนักเตะที่เก่งกว่าที่ผมเคยเป็น มันเป็นประตูที่ยอดเยี่ยมมาก”

อาร์เน่อ กล่าวปิดท้ายว่า “ดาร์วิน เล่นได้ดีในวันนี้ หวังว่าเขาจะทำได้อีกในวันพุธนี้ เราจะรอดูกัน”

“การเปลี่ยนแปลงสู่ความดุดัน: วิเคราะห์แผนการเล่นของ แว็งซ็อง กงปานี ในการคุมทีมไบเอิร์น มิวนิค”

0

แว็งซ็อง กงปานี (Vincent Kompany) ได้ก้าวเข้ามารับหน้าที่คุมทีมไบเอิร์น มิวนิกด้วยความคาดหวังจากทั้งแฟนบอลและบอร์ดบริหาร กงปานีเป็นหนึ่งในโค้ชที่มีการวางแผนการเล่นที่ชัดเจนและสร้างสรรค์ นับตั้งแต่สร้างชื่อเสียงกับอันเดอร์เลชท์และเบิร์นลีย์ จึงไม่แปลกใจที่เขาถูกเลือกมารับหน้าที่ในสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกานี้ หนึ่งในจุดเด่นของเขาคือการปรับแผนเกมรุกให้ทันสมัยและคล่องตัว ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในการนำไบเอิร์นกลับสู่การครองความยิ่งใหญ่ในยุโรป

การวางตำแหน่งกองกลางเพื่อสร้างสรรค์เกม
กงปานีมีแนวโน้มที่จะใช้แผนเกมรุกที่เน้นการควบคุมบอลจากแดนกลาง ซึ่งจะเห็นได้ว่าเขาชอบใช้นักเตะที่มีความสามารถในการเล่นบอลได้หลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมิดฟิลด์ตัวกลางที่ต้องทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการสร้างสรรค์เกม เช่น โยชัว คิมมิช และ จามาล มูเซียล่า เขาอาจจะปรับให้พวกเขาเล่นเป็น Double Pivot ที่เน้นการจ่ายบอลทะลุแนวรับของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะการใช้ช่องว่างระหว่างเส้นเพื่อสร้างโอกาสให้แนวรุก

การพัฒนาเกมรุกด้านข้างที่ยืดหยุ่น
ภายใต้การคุมทีมของกงปานี ไบเอิร์นอาจจะเน้นการเล่นเกมรุกจากด้านข้างมากขึ้น โดยการให้แบ็กขวาและแบ็กซ้ายเติมเกมรุกเพื่อเปิดโอกาสในการครอสหรือทะลุผ่านช่องว่าง ซึ่งทั้งสองคนมีความเร็วและความสามารถในการเข้าทำอย่างดี กงปานีมีแนวโน้มที่จะเน้นให้วิงแบ็กเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการขยายการเล่นให้กว้าง เปิดพื้นที่ให้กับปีกและกองหน้าทะลุช่องว่างที่เกิดขึ้นในแดนคู่แข่ง

การใช้ False 9 และแนวรุกแบบไดนามิก
อีกหนึ่งลักษณะเด่นที่น่าสนใจในแผนเกมรุกของกงปานี คือการนำระบบ False 9 หรือกองหน้าหลอกมาใช้ โดยเน้นการสลับตำแหน่งในแนวรุก กองหน้าหลักอาจจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งกองหน้าเสมอไป แต่จะถอยลงมาเชื่อมกับแดนกลาง เปิดทางให้ปีกหรือนักเตะตำแหน่งอื่นเข้าทำประตูแทน นักเตะอย่าง เลรอย ซาเน่ หรือ คิงส์ลีย์ โกมาน มีความเร็วและความสามารถในการเปลี่ยนตำแหน่ง ทำให้ไบเอิร์นมีความหลากหลายในการเข้าทำและหลอกล่อแนวรับคู่แข่งได้ง่าย

การเคลื่อนที่โดยไม่มีบอลและการเพรสซิ่งสูง
แผนของกงปานียังเน้นการเคลื่อนที่โดยไม่มีบอล (Off-the-ball movement) ที่ยอดเยี่ยม และการเพรสซิ่งสูงเมื่อเสียบอลให้คู่แข่ง สิ่งนี้ทำให้ไบเอิร์นสามารถรักษาการครองบอลได้ต่อเนื่องและกดดันคู่ต่อสู้ตลอดเวลา หากแนวรุกและกองกลางของไบเอิร์นสามารถทำงานประสานกันได้อย่างสมบูรณ์ ไบเอิร์นจะมีเกมรุกที่ทรงพลังและเป็นภัยคุกคามในทุกๆ เกม

ด้วยการประยุกต์แผนการเล่นที่เน้นการเคลื่อนที่และสร้างสรรค์เกมรุกที่หลากหลาย แว็งซ็อง กงปานีกำลังสร้างยุคใหม่ให้กับไบเอิร์น มิวนิก ซึ่งหากแผนนี้ได้รับการพัฒนาต่อไป ทีมอาจกลับมาทวงความเป็นเจ้าบัลลังก์ยุโรปได้ในไม่ช้า

ศึกลาลีกา สเปน บียาร์เรอัล ปะทะ บาร์เซโลน่า ในคืนที่ 22 กันยายน 2567 เวลา 23.30 น.

0

โปรแกรมการแข่งขันนัดที่ 6 ของศึกลาลีกา ฤดูกาล 2024-25 จะจัดขึ้นที่เอสตาดิโอ เด ลา เซรามิก ในคืนวันอาทิตย์ โดย บียาร์เรอัล ต้อนรับการมาเยือนของ บาร์เซโลน่า ขณะนี้ทีมเยือนรั้งตำแหน่งจ่าฝูงโดยมีชัยชนะไปแล้ว 5 นัดจาก 5 นัดแรก ในขณะที่บียาร์เรอัลก็ออกสตาร์ตฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่งเช่นกัน โดยรั้งอยู่อันดับที่ 4 ของดิวิชั่น มี 11 คะแนน

ฟอร์มการเล่นและภาพรวมของทั้งสองทีม

สถานการณ์ ในลาลีกาของ บาร์เซโลน่า ยอดเยี่ยมมาก โดยลงเล่นไป 5 นัดและชนะมา 5 นัด รวมถึงเกมดาร์บี้แมตช์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ถล่ม จิโรน่าไป 4-1 อย่างไรก็ตาม ขวัญกำลังใจของทีมกลับลดลงเมื่อพ่ายให้กับโมนาโก 2-1ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดเปิดตัวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แม้ว่าเกมนั้นจะถูกกดดันอย่างหนักจากการที่เอริก การ์เซีย โดน ใบแดงตั้งแต่ลงสนามไปเพียง 10 นาที ก็ตาม

บาร์เซโลน่า จะเดินทางไปพบกับบียาร์เรอัลสุดสัปดาห์นี้ โดยหวังจะเริ่มต้นฤดูกาลลาลีกาได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากชนะรวดมา 5 นัด ทีมจากแคว้นคาตาโลเนียรั้งตำแหน่งจ่าฝูงอย่างสบายๆ โดยมี 15 คะแนน นำหน้าเรอัล มาดริด แอตเลติโก มาดริด และคู่แข่งถัดไปอย่าง บียาร์เรอัล อยู่ 4 คะแนน

บียาร์เรอัล ภายใต้การนำของ มาร์เซลิโน ก็มีความมั่นใจสูงเช่นกัน พวกเขารั้งอันดับที่ 3 ของตารางและยังไม่แพ้เลยในการแข่งขันครั้งนี้ ชัยชนะสุดดราม่า 2-1 เหนือเรอัล มายอร์ก้า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ อายอเซ เปเรซ แสดงให้เห็นถึงความอดทนและทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ ของพวกเขา

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม บียาร์เรอัล พบ บาร์เซโลน่า

บียาเรอัล (4-3-3) : ดิเอโก้ คอนเด้; เฟเมเนีย, อัลบิโอล, ไบยี่, แซร์กี การ์โดนา; มาซาญา, ปาเรโฮ, ปาปา เกย์; เยเรมี ปิโน, บาเอน่า, อโยเซ่ เปเรซ

บาร์เซโลน่า (4-2-3-1) : แทร์ สเตเก้น; คูนเด, คูบาร์ซี, เอริค การ์เซีย, เคราร์ด มาร์ติน; มาร์ค คาซาโด, เปดรี้; ลามิน ยามาล, เฟราน ตอร์เรส, ราฟีญา; เลวานดอฟสกี้.

ยามาลยังคงเปล่งประกาย

หลังจากทำผลงานโดดเด่นในศึกยูโรที่ประเทศเยอรมนีที่ผ่านมา ดาวรุ่งวัย 17 ปีของบาร์เซโลน่าอย่าง ลามีน ยามาล ก็ยังคงสร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้

กองหน้าดาวรุ่งรายนี้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในลีกไปแล้ว หลังจากยิงไป 2 ประตูในนัดที่เอาชนะ จีโรน่า 4-1 เมื่อเร็วๆ นี้ และยังยิงไป 3 ประตูและทำแอสซิสต์อีก 4 ครั้งจากการลงสนามแค่ 5 นัด

ฟอร์มการเล่นของเขาในดาร์บี้แมตช์แห่งแคว้นคาตาลันถือว่าโดดเด่นมาก เนื่องจากเขาไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นในเกมต่างๆ ด้วยการนำการเพรสซิ่งสูงของบาร์เซโลน่าซึ่งส่งผลให้ได้ประตูแรก

วิเคราะห์ก่อนเกม

บาร์เซโลน่าจะขาดผู้เล่นสำคัญหลายคนสำหรับเกมนี้ และพวกเขาจะได้เจอกับทีมบียาร์เรอัลที่แข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ คงไม่น่าแปลกใจหากเราจะได้เห็นชัยชนะในเกมเยือนแบบหวุดหวิด นัดนี้จะเป็นการทดสอบที่เข้มงวดสำหรับทั้งสองฝ่าย แต่ฟอร์มและโมเมนตัมของทีมของ ฮันซี่ ฟลิก รวมถึงความยอดเยี่ยมของนักเตะวัยรุ่นดาวรุ่งสร้างความฮือฮาอย่าง ลามีน ยามาล ก็ช่วยสร้างบรรยากาศสำหรับการพบกันที่สัญญาว่าจะน่าตื่นเต้นอย่างแน่นอน

คาดการณ์ผลสกอร์:

บียาร์เรอัล 1-2 บาร์เซโลน่า

จอมซูเปอร์ซับของ แอสตัน วิลล่า จอน ดูรัน ทำประตูได้อีกครั้ง

0

จอน ดูรัน ลงมาเป็นตัวสำรองและทำประตูให้กับแอสตัน วิลล่า เป็นครั้งที่สี่ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้แล้ว เรามาดูกันว่าประตูนี้เปรียบเทียบกับประตูอื่นๆ ในประวัติศาสตร์การแข่งขันได้อย่างไร

จอน ดูรัน กำลังสร้างชื่อให้กับตัวเองในฐานะตัวสำรอง กองหน้าของ แอสตัน วิลล่าลงเล่นเป็นตัวสำรองและยิงประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยให้ทีมเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส 3-1 ที่บ้านในวันเสาร์ที่ผ่านมา นั่นถือเป็นเกมที่สี่แล้วที่เขาลงจากม้านั่งสำรองมาทำประตูให้กับวิลล่าในรายการนี้ในฤดูกาลนี้

โดยรวมแล้ว นั่นหมายความว่า ดูรัน ยิงประตูไปแล้ว 8 จาก 9 ประตูในพรีเมียร์ลีกในฐานะตัวสำรองของแอสตัน วิลล่า นับตั้งแต่เขาประเดิมสนามในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งยังคงห่างไกลจากการเป็นผู้เล่นสำรองที่ยิงประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกโดยที่ เจอร์เมน เดโฟ ยังคงนำเป็นอันดับหนึ่งด้วยการลงเล่นเป็นตัวสำรองไปแล้ว 24 ประตู

ประตูจากตัวสำรองมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

  • เจอร์เมน เดโฟ: 24
  • โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์: 21
  • ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ: 19
  • คานู: 17
  • โอเล่ กุนนาร์ โซลชา: 17
  • แดเนียล สเตอร์ ริดจ์ :17
  • ปีเตอร์ เคร้าช์: 16 
  • แดนนี่ เวลเบ็ค: 14
  • โทเร อังเดรฟลอ: 13 ร็อบบี้ คีน: 13 ไมเคิล โอเว่น: 13 แอนดรูว์ โคล: 13 ดาร์เรน เบนท์: 13 วิกเตอร์ อานิเชเบ: 13 เอดิน เซโก้: 13 มาร์คัส แรชฟอร์ด: 13
  • เจมส์มิลเนอร์: 12 เซร์คิโอ อเกวโร: 12 โรเมลู ลูกากู: 12

ดูรันทำประตูในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 9 ประตูจาก 719 นาทีที่ลงเล่นในรายการนี้ โดยเฉลี่ยประตูละ 1 ประตูทุก 80 นาที ในบรรดานักเตะที่ยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูในรายการนี้ มีเพียงเออร์ลิง ฮาลันด์เท่านั้นที่มีอัตราเฉลี่ยที่ดีกว่า (1 ประตูทุก 79 นาที)

แน่นอนว่ามีโอกาสอย่างมากที่ผลงานของดาวเตะวัย 20 ปีรายนี้กับวิลล่าในฤดูกาล 2024-25 จะทำให้เขาจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในทีมของวิลล่าในไม่ช้านี้ แต่ในตอนนี้ อูไน เอเมรี ดูเหมือนจะมีความสุขมากที่จะให้เขานั่งอยู่บนม้านั่งสำรองเพื่อเป็นตัวเปลี่ยนเกมในช่วงท้ายเกม

“วิเคราะห์วงใน – แมนยู ทำงานหนักหาโอกาสซิว ลีออน โกเร็ตซ์ก้า จากบาร์เยิน ร่วมทัพตลาดหน้าหนาว“

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังมีความสนใจอย่างจริงจังในการดึงตัว ลีออน โกเร็ตซ์ก้า กองกลางจากบาเยิร์น มิวนิค หลังจากที่เขาได้รับโอกาสลงสนามน้อยมากภายใต้การคุมทีมของ วินเซนต์ กอมปานี ฤดูกาลนี้ โกเร็ตซ์ก้าลงเล่นในบุนเดสลีกาเพียงครั้งเดียว และบทบาทของเขาถูกลดลงเนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในแผงกองกลางของบาเยิร์น โดยเฉพาะกับการมาของ เจา ปาลินญา และการกลับมาเป็นตัวหลักของ โยชัว คิมมิช

โกเร็ตซ์ก้า ซึ่งมีสัญญากับบาเยิร์นถึงปี 2026 รู้สึกไม่พอใจกับสถานการณ์ของตัวเองในทีม และนั่นทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจับตามองอย่างใกล้ชิด หากการเจรจาเกิดขึ้น ค่าตัวของโกเร็ตซ์ก้าถูกประเมินไว้อยู่ที่ประมาณ 20-25 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าอยู่ในงบประมาณที่เป็นไปได้สำหรับยูไนเต็ด และอาจเป็นโอกาสในการปรับปรุงแผงกองกลางของทีม โดยเฉพาะเมื่ออนาคตของ กาเซมิโร่ ยังไม่แน่นอน เนื่องจากมีความสนใจจากลีกซาอุดิอาระเบีย

ปัจจัยที่น่าสนใจ:

  • ความต้องการของแมนยู: แมนยูฯ ยังคงต้องการเสริมทัพในตำแหน่งกองกลาง และโกเร็ตซ์ก้า ถือเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจด้วยประสบการณ์และความสามารถรอบด้าน
  • สถานการณ์ของโกเร็ตซ์ก้าที่บาเยิร์น: แม้จะเป็นกำลังหลัก แต่โกเร็ตซ์ก้าก็อาจไม่ได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอเท่าที่ควร ซึ่งอาจทำให้เขาพิจารณาออปชั่นอื่นๆ
  • ท่าทีของบาเยิร์น: บาเยิร์นอาจพิจารณาปล่อยตัวโกเร็ตซ์ก้าออกไป หากได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจ แต่ก็ต้องพิจารณาถึงความสมดุลของทีมด้วย
  • คู่แข่งรายอื่น: นอกจากแมนยูฯ แล้ว ยังมีหลายสโมสรชั้นนำที่ให้ความสนใจในตัวโกเร็ตซ์ก้า ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันเพื่อคว้าตัวเขายากขึ้น

โอกาสในการเซ็นสัญญาของแมนฯ ยูไนเต็ดถือว่าสูง หากทั้งสองสโมสรสามารถตกลงเรื่องค่าตัวได้ โกเร็ตซ์ก้าจะเป็นการเสริมทัพที่สำคัญสำหรับยูไนเต็ดในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล

ห้ามพลาด!