Home Blog Page 51

แกรี่ เนวิลล์ มองว่า “แรชฟอร์ด-การ์นาโช่” อาจถูกปล่อย

0

แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลังระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ อาจถูกปล่อยออกจากทีมในเดือนมกราคมนี้ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างทีมใหม่โดย รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุเกสที่เพิ่งเข้ามาคุมทีม

อโมริมสร้างความฮือฮาเมื่อเขาตัดสินใจตัดชื่อของทั้งสองดาวเตะออกจากทีมชุดที่ลงเล่นในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เมื่อเดือนที่แล้ว โดยตั้งแต่นั้นมา แรชฟอร์ด ยังไม่ได้รับโอกาสกลับมาลงสนามอีกเลย ขณะที่ การ์นาโช่ ถูกส่งลงเล่นเพียง 80 นาทีในศึกเอฟเอ คัพ

ในพอดแคสต์ The Overlap US เนวิลล์วิเคราะห์สถานการณ์นี้ว่า อโมริมกำลังใช้แนวทางคล้ายกับที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยทำในยุคทองของยูไนเต็ด นั่นคือการรักษาความเป็นผู้นำและความเข้มงวดในทีม แม้ว่าจะต้องตัดสินใจที่ไม่ถูกใจใครก็ตาม

“มีข่าวลือว่า การ์นาโช่ มีข้อเสนอเข้ามา และแรชฟอร์ดอาจถูกปล่อยยืมหรือขายออกไป ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าอโมริมตัดสินใจทำแบบนั้น” เนวิลล์กล่าว “ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เราเห็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มากมายในยูไนเต็ด แต่พวกเขาไม่สามารถพาทีมกลับสู่จุดสูงสุดได้ นี่อาจเป็นสิ่งที่อโมริมกำลังพยายามแก้ไข”

เขายังเปรียบเทียบสถานการณ์นี้กับสิ่งที่เฟอร์กูสันเคยทำในอดีต “เซอร์ อเล็กซ์ เคยตัดสินใจครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สโมสร ไม่ว่าจะเป็นการปล่อย ยาป สตัม, เดวิด เบ็คแฮม, รอย คีน หรือ รุด ฟาน นิสเตลรอย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เขาต้องการยืนยันการควบคุมทีมในฐานะผู้จัดการทีม ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับคำวิจารณ์แค่ไหนก็ตาม”


ตลาดซื้อขายที่อาจพลิกโฉมทีม

เนวิลล์ยังชี้ว่า ตลาดเดือนมกราคมนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขากล่าวว่า “ผมคิดว่านี่คือโอกาสสำคัญสำหรับอโมริมในการกำหนดอนาคตของทีม การปล่อยตัวแรชฟอร์ดและการ์นาโช่อาจเป็นการย้ายทีมครั้งใหญ่ แต่ผมไม่แปลกใจเลยถ้าเขาต้องปรับเปลี่ยนทีมครั้งสำคัญ และเสริมทัพด้วยผู้เล่นใหม่”

เนวิลล์ยังเน้นว่าอโมริมอาจต้องการส่งสารที่ชัดเจนถึงนักเตะและแฟนบอล “เขาอาจต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นว่า เขาคือคนที่มีอำนาจสูงสุดในทีม ใครก็ตามที่ไม่สามารถทำตามมาตรฐานของเขาได้ ต่อให้เป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงหรือได้รับการยอมรับจากแฟนบอลมากแค่ไหน ก็อาจไม่ได้อยู่ในแผนการของเขา”


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมสำคัญในการเปิดบ้านพบกับ เซาแธมป์ตัน วันที่ 16 มกราคมนี้ ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่เราจะได้เห็นแนวทางใหม่ของรูเบน อโมริมอย่างชัดเจน

“อาร์เตต้า” หนุนหลัง ไค ฮาแวร์ตซ์ แม้ผลงานไม่เข้าเป้า

0

มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ออกมาประกาศจุดยืนสนับสนุน ไค ฮาแวร์ตซ์ อย่างชัดเจน แม้ผลงานของแนวรุกชาวเยอรมันจะยังไม่เข้าฟอร์ม และเรียกร้องให้แฟนบอลแสดงความสนับสนุนแทนการวิจารณ์ในเชิงลบ

หลังจากเกมเอฟเอ คัพ รอบสามที่ อาร์เซน่อล แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการดวลจุดโทษ ฮาแวร์ตซ์ ตกเป็นเป้าของคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งในสนามและบนโลกโซเชียล รวมถึง โซเฟีย ภรรยาของเขา ซึ่งถูกส่งข้อความคุกคามรุนแรงจากผู้ไม่พอใจในฟอร์มของเขา

อาร์เตต้า ได้ออกมาเรียกร้องให้แฟนบอลแสดงการสนับสนุนมากกว่าการโจมตี พร้อมย้ำว่าสโมสรจะดำเนินการทางกฎหมายกับข้อความข่มขู่ที่ส่งถึงนักเตะและครอบครัว รวมถึงจะแบนผู้ถือตั๋วหรือสมาชิกที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมไม่เหมาะสม

กุนซือชาวสเปนกล่าวว่า:
“สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ยอมรับไม่ได้จริงๆ เราต้องจัดการและยุติพฤติกรรมแบบนี้ในวงการฟุตบอล มันไม่ใช่เรื่องที่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น และเราไม่ควรยอมรับมันในฐานะส่วนหนึ่งของเกม”

อาร์เตต้าเสริมว่า ฮาแวร์ตซ์ เคยได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนบอลในเกมก่อนหน้านี้ เช่นในชัยชนะ 1-0 เหนือ อิปสวิช ซึ่งเจ้าตัวทำประตูได้และแฟนบอลทั้งสนามร้องเพลงให้กำลังใจ แต่เพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ความเห็นกลับพลิกจากชื่นชมเป็นการวิจารณ์อย่างรุนแรง ซึ่งเขามองว่าเป็นปัญหาด้านมุมมองที่ควรแก้ไข

“เราให้ความสำคัญกับเรื่องเทคโนโลยีในเกมฟุตบอล แต่สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือการปกป้องนักเตะและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา สิ่งเหล่านี้ควรหยุดลง เพราะมันไม่มีที่ยืนในวงการนี้”

สำหรับเกมถัดไป อาร์เซน่อล จะเผชิญหน้ากับคู่ปรับร่วมเมือง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ในวันที่ 15 มกราคม 2568 ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ซึ่งจะเป็นบททดสอบสำคัญของทั้งทีมและตัวฮาแวร์ตซ์ในการเรียกฟอร์มกลับมา

“มาเรสก้าผิดหวัง! เชลซีพลาดชัย สมาธิหลุดหลังโดนบอร์นมัธนำ”

0

วันที่ 15 มกราคม 2568เอ็นโซ มาเรสก้า เฮดโค้ชของเชลซี ยอมรับว่าผิดหวังกับผลการแข่งขัน หลังทีมทำได้เพียงเสมอกับ บอร์นมัธ 2-2 ทั้งที่สร้างโอกาสได้มากมายในเกมนี้ โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่ทีมควรจะปิดเกมได้ตั้งแต่ช่วงต้น

เกมนี้ เชลซีต้องไล่ตามตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากลูกฟรีคิกของ รีซ เจมส์ หลังจากโดนบอร์นมัธแซงนำในครึ่งหลัง ซึ่งมาเรสก้าชี้ว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมพลาดชัยชนะคือการขาดสมาธิและเปลี่ยนสไตล์การเล่นหลังเสียประตู

มาเรสก้ากล่าวหลังเกม:
“ผมมองว่าเราสมควรได้รับชัยชนะในเกมนี้ โดยเฉพาะในครึ่งแรก เรามีโอกาสที่จะขึ้นนำถึง 2-0 หรือ 3-0 จากโอกาสยิงประตูมากมายที่เราสร้างได้ แต่น่าเสียดายที่เราทำไม่ได้ และนั่นคือฟุตบอล”

เขาเสริมถึงจุดที่ทีมต้องปรับปรุงว่า:
“สิ่งที่น่าผิดหวังคือหลังจากเราเสียประตูแรก ทุกอย่างเปลี่ยนไป เราเริ่มเล่นแบบตั้งรับมากเกินไป และนั่นทำให้คู่แข่งมีพื้นที่ในการเล่นมากขึ้น เราต้องแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว เพราะมันส่งผลต่อผลการแข่งขันโดยตรง”

เชลซียังคงเจอปัญหาการปิดเกม
แม้ว่าทีมจะครองบอลและสร้างสรรค์เกมได้ดีในครึ่งแรก แต่การจบสกอร์ที่ขาดความเฉียบคมและความผิดพลาดในเกมรับ ทำให้พวกเขาต้องเสียแต้มสำคัญอีกครั้งในพรีเมียร์ลีก

มองไปข้างหน้า
มาเรสก้าย้ำว่าทีมยังคงมีจุดที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะการรักษาความนิ่งและสมาธิในเกมเมื่อเจอสถานการณ์กดดัน “เราโชคร้ายที่ไม่ชนะในวันนี้ แต่เราต้องเรียนรู้และก้าวไปข้างหน้าเพื่อทำให้ดีกว่าเดิมในเกมถัดไป”

เชลซีจะต้องเร่งฟื้นตัวและปรับปรุงเกมของพวกเขา หากต้องการกลับมาลุ้นพื้นที่ยุโรปในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลนี้!

“บาเยิร์นพร้อมทุ่ม? เชลซีตั้งค่าตัว ‘เอ็นคุนคู’65 ล้านปอนด์”

0

วันที่ 15 มกราคม 2568 – สถานการณ์การย้ายทีมของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู มิดฟิลด์ตัวรุกของเชลซีกำลังเป็นที่จับตามองอย่างมาก หลังจากมีรายงานว่า บาเยิร์น มิวนิก สนใจดึงตัวนักเตะรายนี้ไปร่วมทีม โดยเชลซีตั้งค่าตัวไว้ไม่ต่ำกว่า 65 ล้านปอนด์ ตามรายงานจาก Sky Sports

บาเยิร์น แสดงความจริงจัง
มีรายงานว่าบาเยิร์น มิวนิกได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับเอ็นคุนคูเรียบร้อยแล้ว แต่การเจรจายังติดอยู่ที่ตัวเลขค่าตัว ซึ่งเชลซีต้องการตัวเลขในระดับใกล้เคียงกับดีลยักษ์ใหญ่อย่าง ควิชา ควารัตสเคเลีย ที่ย้ายจากนาโปลีไปปารีส แซงต์-แชร์กแมง โดยค่าตัวของเอ็นคุนคูอาจแตะถึง 70 ล้านปอนด์ ตามคำกล่าวของนักข่าวชื่อดัง ฟาบริซิโอ โรมาโน

ดีลแลกตัวสะดุด
ขณะเดียวกัน มีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการแลกตัวกับ มาธีส แตล กองหน้าดาวรุ่งของบาเยิร์น แต่ดีลดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้น เนื่องจากแตลไม่มีความสนใจที่จะย้ายไปค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกในเวลานี้

บาเยิร์นยังเดินหน้าเต็มที่
แม้ว่าการแลกตัวจะเป็นไปได้ยาก แต่บาเยิร์นยังคงมุ่งมั่นที่จะเซ็นสัญญากับเอ็นคุนคู โดยมองว่าเขาจะเป็นตัวเลือกสำคัญในแนวรุกสำหรับการไล่ล่าความสำเร็จในฤดูกาลถัดไป

อนาคตที่ต้องจับตา
เชลซีเองก็ยังไม่เร่งรีบปล่อยตัวเอ็นคุนคูออกจากทีม หากไม่ได้ข้อเสนอที่พอใจ เนื่องจากนักเตะยังอยู่ในแผนระยะยาวของสโมสร แต่ด้วยความสนใจที่ชัดเจนจากบาเยิร์น มิวนิก สถานการณ์นี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ

แฟนบอลทั้งสองทีมคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ดีลนี้จะจบลงอย่างไร และเอ็นคุนคูจะได้ย้ายไปสร้างชื่อในเวทีบุนเดสลีกาหรือไม่!

แมนฯ ซิตี้หลุดฟอร์ม! นำก่อน 2 ลูก แต่จบแค่เสมอเบรนท์ฟอร์ด

0

วันที่ 15 มกราคม 2568 – ความผิดหวังเกิดขึ้นกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และลูกทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อพวกเขาบุกไปเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 2-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก แม้จะขึ้นนำก่อนถึงสองประตูจาก ฟิล โฟเดน แต่กลับโดนตีเสมอในช่วงท้ายเกม

เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำ 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก จากการโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมของโฟเดน ทว่าในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เบรนท์ฟอร์ดที่ไม่ยอมแพ้ ใช้ความได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน ไล่บี้จนได้สองประตูจาก โยอัน วิสซา นาทีที่ 82 และ คริสเตียน นอร์การ์ด นาทีที่ 90+2 จบเกมแบ่งกันไปทีมละแต้ม

หลังจบเกม เป๊ป กวาร์ดิโอลา กล่าวอย่างผิดหวังว่า “เราเริ่มต้นได้ดีและควบคุมเกมได้ แต่ในช่วงท้ายเราขาดความเด็ดขาด และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเสียสองแต้ม ความล้าในช่วงท้ายอาจเป็นปัจจัย แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะปิดเกมให้ได้ดีกว่านี้”

สถานการณ์ในตารางคะแนน
ผลเสมอครั้งนี้ทำให้แมนฯ ซิตี้ยังคงอยู่อันดับ 6 ของตาราง มี 38 คะแนน ตามหลังกลุ่มท็อปโฟร์อยู่ 2 แต้ม และห่างจากจ่าฝูงลิเวอร์พูลถึง 12 แต้ม ถือเป็นช่องว่างที่สร้างความกดดันในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล

โปรแกรมนัดถัดไป
แมนฯ ซิตี้จะมีโอกาสกลับมาแก้ตัวในเกมนัดถัดไป โดยพวกเขาจะต้องบุกไปเยือน อิปสวิช ทาวน์ ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ซึ่งเป๊ปย้ำว่าทีมต้องเร่งฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมเรียกร้องให้ลูกทีมกลับมาโชว์ฟอร์มที่แข็งแกร่งอีกครั้ง

เกมนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับแมนฯ ซิตี้ ว่าการควบคุมจังหวะเกมและความนิ่งในช่วงท้ายมีผลอย่างมาก หากพวกเขายังต้องการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ การแก้ไขจุดอ่อนเหล่านี้คือสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ลิเวอร์พูลต้องเร่งปรับเกมรับ! สะดุดต่อเนื่อง

0

“ลิเวอร์พูลต้องเร่งปรับเกมรับ! หงส์แดงสะดุดต่อเนื่อง เสียแต้มสำคัญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ”

ลิเวอร์พูลกำลังเผชิญกับปัญหาที่ต้องแก้ไขด่วนในแผงเกมรับ หลังจากพลาดเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีก 2 นัดล่าสุด โดยเสมอกับทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ทำให้ได้เพียง 2 แต้มจาก 6 แต้มเต็มในเดือนมกราคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อโอกาสในการลุ้นแชมป์ทันที

เกมรับที่เปราะบาง กลายเป็นจุดอ่อนสำคัญที่คู่แข่งมองออกได้ชัด โดยเฉพาะการเสียประตูในช่วงต้นเกม อย่างในเกมล่าสุดที่ถูก ฟอเรสต์ ยิงนำตั้งแต่นาทีที่ 8 จากจังหวะผิดพลาดในแนวรับที่ขาดการประสานงาน โจเอล มาติป, อิบราฮิมา โกนาเต และไรอัน กราเฟนแบร์ก ต่างยืนตำแหน่งไม่ลงตัว เปิดโอกาสให้ คริส วูด หลุดเข้าไปจบสกอร์อย่างง่ายดาย

แม้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะถูกตำหนิในจังหวะนี้ แต่ความจริงคือปัญหามาจากการประสานงานในแผงหลังที่ยังไม่ลงตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ เยอร์เกน คล็อปป์ และ จอห์นนี ไฮติงก้า ผู้ช่วยโค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านเกมรับ ต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน

7 นัดหลังสุด ลิเวอร์พูลเสียประตูแรกถึง 5 เกม ทำให้ต้องเร่งไล่ตีเสมอและเอาชนะคู่แข่งในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การปล่อยให้คู่แข่งขึ้นนำบ่อยครั้งไม่เพียงส่งผลต่อเกม แต่ยังลดความมั่นใจในทีมและเพิ่มภาระให้กับแผงแนวรุกอย่างชัดเจน

ในด้านบวก ลิเวอร์พูลยังคงมีศักยภาพในเกมรุก โดยเฉพาะช่วง 30 นาทีสุดท้ายของเกมกับฟอเรสต์ ทีมสร้างโอกาสยิงประตูหลายครั้ง แต่ต้องเจอกับ มัตต์ เซล ผู้รักษาประตูฟอเรสต์ ที่โชว์ฟอร์มเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนตัวของคล็อปป์ยังแสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมในบางจังหวะ เมื่อ คอสตาส ซิมิกาส เปิดเตะมุมให้ ดิโอโก โชต้า โหม่งตีเสมอเพียง 22 วินาทีหลังลงสนาม

เกมต่อไป ลิเวอร์พูลมีคิวเจอกับ เบรนต์ฟอร์ด ที่เพิ่งสร้างเซอร์ไพรส์ไล่ตามตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ซึ่งถือเป็นบททดสอบสำคัญอีกครั้ง การปรับเกมรับให้เหนียวแน่นคือสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับคล็อปป์ หากไม่สามารถแก้ไขจุดอ่อนนี้ได้ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ลิเวอร์พูลอาจต้องเผชิญความยากลำบากในเส้นทางการลุ้นความสำเร็จในฤดูกาลนี้

นี่คือช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูลไม่สามารถปล่อยให้ความผิดพลาดเล็กน้อยกลายเป็นหายนะใหญ่ หาก “หงส์แดง” ต้องการกลับมามีลุ้นในลีกและทัวร์นาเมนต์อื่นๆ พวกเขาต้องเร่งแก้ไขข้อบกพร่องทันที ก่อนที่สถานการณ์จะหลุดมือไปมากกว่านี้!

“หงส์แดง” ได้ข่าวดีเรื่องอนาคต “เทรนต์”

0

แฟนลิเวอร์พูลมีลุ้น! “หงส์แดง” ได้ข่าวดีเรื่องอนาคต “เทรนต์” แม้ผลงานในลีกสะดุด 2 เกมติด

วันที่ 15 มกราคม 2568 – สื่อดังจากสเปน เรเลโบ รายงานว่า ลิเวอร์พูล ได้รับข่าวดีเกี่ยวกับสถานการณ์ของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ แม้ทีมจะทำได้เพียงเสมอกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ล่าสุด

อนาคตของอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังคงเป็นประเด็นร้อน เนื่องจากเจ้าตัวเหลือสัญญากับลิเวอร์พูลจนถึงสิ้นสุดฤดูกาลนี้ โดยมีข่าวว่า เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่จากสเปนกำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมยื่นข้อเสนอเพื่อคว้าตัวในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า เรอัล มาดริด ที่กำลังเผชิญปัญหาในตำแหน่งแบ็กขวา หลัง ดานี การ์บาฆัล ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องพักทั้งฤดูกาล ได้ล้มแผนคว้าตัวเทรนต์ในช่วงตลาดหน้าหนาว หลังข้อเสนอเบื้องต้นมูลค่า 20 ล้านปอนด์ถูกลิเวอร์พูลปฏิเสธ

ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเร่งเจรจาเพื่อโน้มน้าวให้เทรนต์ต่อสัญญาใหม่กับทีม โดยยืนยันจะไม่ปล่อยแบ็กขวาคนสำคัญรายนี้ออกจากทีมระหว่างฤดูกาลเด็ดขาด

แม้ เรอัล มาดริด จะยอมถอยในตลาดหน้าหนาว แต่มีการเปิดเผยว่าพวกเขายังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถคว้าตัวอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ได้ในช่วงซัมเมอร์นี้แบบไม่มีค่าตัว หากเจ้าตัวตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับลิเวอร์พูล โดยหวังดึงตัวมาร่วมทีมเพื่อทันลงเล่นในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ รูปแบบใหม่ในเดือนมิถุนายน

สำหรับเรอัล มาดริด การดึงตัวเทรนต์อาจจะเป็นแผนระยะยาวที่คล้ายคลึงกับการคว้าตัวนักเตะชื่อดังอย่าง ดาวิด อลาบา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และการเตรียมเซ็น คีลิยัน เอ็มบัปเป แบบไร้ค่าตัวในอดีตที่ผ่านมา

สถานการณ์ยังต้องจับตา แต่สำหรับแฟนลิเวอร์พูล ข่าวนี้นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อโอกาสรั้งตัวแบ็กขวาจอมบุกให้อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไป!

แฟนบอลเดือด! ส่งข้อความขู่ภรรยา “ไค ฮาแวร์ตซ์”

0

“โซเฟีย เอเมเลีย” ภรรยาของ ไค ฮาแวร์ตซ์ มิดฟิลด์ของอาร์เซนอล เปิดเผยข้อความข่มขู่เอาชีวิตจากบุคคลนิรนามที่คาดว่าเป็นแฟนบอล หลังทีมปืนใหญ่พ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3

ดราม่าควันหลงเกมเดือด
การแข่งขันเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา จบลงด้วยความระทึกใจ เมื่ออาร์เซนอลพ่ายให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม โดยผลการแข่งขันเสมอ 1-1 ในเวลา 120 นาที ก่อนที่ปีศาจแดงจะเฉือนชนะด้วยการดวลจุดโทษ 5-3 ส่งผลให้เจ้าบ้านตกรอบ 3 เป็นปีที่สองติดต่อกัน

แม้เกมจะจบลง แต่ความดราม่ากลับลุกลามนอกสนาม เมื่อ โซเฟีย เอเมเลีย ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ของไค ฮาแวร์ตซ์ ถูกส่งข้อความข่มขู่ร้ายแรงผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งคาดว่าเกิดจากความไม่พอใจของแฟนบอลต่อฟอร์มการเล่นของฮาแวร์ตซ์ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักในเกมดังกล่าว

ข้อความขู่ฆ่าที่รุนแรง
โซเฟียได้เผยแพร่ข้อความการคุกคามเหล่านี้ผ่าน Instagram Story ซึ่งประกอบไปด้วยคำพูดที่รุนแรง เช่น

“ขอให้แกแท้งลูก”
“ฉันจะไปที่บ้านแก และฆ่าลูกแกซะ อย่าคิดว่าฉันพูดเล่น”

ข้อความดังกล่าวสร้างความตกใจอย่างมากให้กับโซเฟีย เธอได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์นี้ว่า

“สิ่งนี้ทำให้ฉันช็อกมากจริง ๆ ใครก็ตามที่คิดว่าการทำแบบนี้มันโอเค คุณควรละอายใจกับสิ่งที่ทำ”
“ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเลย แต่ขอร้องล่ะ ช่วยเคารพซึ่งกันและกันให้มากกว่านี้เถอะ พวกเราควรเป็นคนที่ดีกว่านี้ได้”

สโมสรเตรียมลงดาบผู้กระทำผิด
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว สโมสรอาร์เซนอลได้ดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการสืบหาตัวผู้กระทำผิดทางออนไลน์ หากสามารถระบุตัวได้ ทางสโมสรจะดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดทันที เพื่อปกป้องความปลอดภัยของนักเตะและครอบครัว

เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาความรุนแรงและการคุกคามในโลกออนไลน์ที่ยังคงมีอยู่ในวงการฟุตบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

อโมริมเตือน “ค็อบบี้ เมนู” อย่าหลงคำชื่นชมจากสื่อ

0

รูเบน อโมริม กุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงเตือน ค็อบบี้ เมนู มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 19 ปี ให้เพิกเฉยต่อคำชื่นชมจากสื่อ และมุ่งมั่นพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางข่าวการเจรจาสัญญาใหม่ที่ยังไม่ลงตัว

การเจรจาสัญญาใหม่ยังไม่เสร็จสิ้น
ตามรายงานของ The Guardian ค็อบบี้ เมนู ซึ่งมีสัญญาปัจจุบันถึงปี 2027 พร้อมเงื่อนไขขยายเพิ่มอีกหนึ่งปี กำลังเจรจาเรื่องปรับปรุงค่าเหนื่อยจากเดิมที่ได้รับราว 20,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ขณะที่ Daily Mail ระบุว่า ตัวแทนของนักเตะต้องการค่าเหนื่อยสูงถึง 180,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ รวมถึงโบนัสต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายยังไม่มีความคืบหน้า

เมนูประสานงานกับอูการ์เต้ได้ดีในทีมชุดใหญ่
เมนูได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในทีมชุดใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับ มานูเอล อูการ์เต้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าประทับใจ และมีโอกาสที่ทั้งคู่จะได้ลงสนามร่วมกันอีกครั้งในเกมคืนนี้ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีคิวบุกเยือน อาร์เซน่อล ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3

อโมริมกระตุ้นเมนูยังไม่ถึงจุดสูงสุด
อโมริมกล่าวถึงดาวรุ่งรายนี้ว่า

“ผมคิดว่า ค็อบบี้ เมนู แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมในเกมล่าสุด แต่เขายังไม่ใช่นักเตะที่สมบูรณ์แบบอย่างที่สื่อยกย่อง”
“เขามีศักยภาพที่จะเก่งขึ้นไปอีกมาก เขาเก่งจริง ๆ แต่ผมยังเชื่อว่าเขายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนา และผมมั่นใจว่าเขากำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดี”

อโมริมยังเน้นย้ำว่า นักเตะทุกคนในทีมมีความสำคัญต่อเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และเขาเชื่อว่าเมนูยังมีโอกาสเติบโตเป็นกำลังหลักที่สำคัญสำหรับทีมในอนาคต หากยังคงมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง

“เป๊ป” เผย “ไคล์ วอล์คเกอร์” ร้องขอย้ายทีมหน้าหนาวนี้

0

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันว่า ไคล์ วอล์คเกอร์ กัปตันทีมและแบ็คขวาตัวเก่ง ได้ยื่นเรื่องขอย้ายออกจากสโมสรในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมที่จะถึงนี้

วอล์คเกอร์ แข้งทีมชาติอังกฤษวัย 34 ปี ซึ่งยังเหลือสัญญากับทีมอีก 18 เดือน ไม่มีรายชื่อในเกมที่ “เรือใบสีฟ้า” เปิดบ้านถล่ม ซัลฟอร์ด ซิตี้ 8-0 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยกวาร์ดิโอล่าเปิดเผยว่านักเตะได้พูดคุยกับ ซิกิ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลของสโมสร เพื่อแจ้งความต้องการย้ายไปเล่นในต่างแดน

กวาร์ดิโอล่ากล่าวว่า

“สองวันก่อน ไคล์แจ้งกับเราว่าเขาต้องการพิจารณาทางเลือกในการไปเล่นต่างประเทศ”
“ผมพูดตรง ๆ เลยว่า ทีมเราแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีไคล์ เขามอบสิ่งสำคัญบางอย่างให้กับเรา ซึ่งมันเป็นจุดแข็งของเขา แต่ในหัวของเขาตอนนี้ ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เขาอยากลองประสบการณ์ใหม่ในต่างแดนช่วงปลายอาชีพการเล่นของเขา”

วอล์คเกอร์เคยขอย้ายหลังคว้าทริปเปิ้ลแชมป์
กวาร์ดิโอล่ายังเปิดเผยอีกว่า หลังจบฤดูกาล 2022/23 ซึ่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ประวัติศาสตร์ วอล์คเกอร์เคยแสดงความต้องการย้ายทีมมาก่อนแล้ว โดยมีข่าวเชื่อมโยงกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่การเจรจาไม่สามารถลุล่วงได้ เนื่องจากทีมดังจากเยอรมนีไม่พร้อมจ่ายค่าตัวตามที่แมนฯ ซิตี้กำหนด

เอซี มิลาน เต็งคว้าตัวแบ็คจอมเก๋า
ตามรายงานจาก The Telegraph ทีมที่มาแรงที่สุดในตอนนี้คือ เอซี มิลาน ซึ่งต้องการเสริมแนวรับในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม โดยมิลานแสดงความสนใจอย่างจริงจังและมั่นใจว่าจะสามารถปิดดีลเพื่อดึงตัววอล์คเกอร์มาสู่ถิ่นซาน ซิโร่ได้ แม้ว่าในขณะนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังไม่ได้รับข้อเสนออย่างเป็นทางการ

การย้ายทีมของวอล์คเกอร์อาจเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับ “เรือใบสีฟ้า” เนื่องจากเขาเป็นกำลังหลักในตำแหน่งแบ็คขวาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่การตัดสินใจครั้งนี้ของนักเตะสะท้อนถึงความต้องการปิดฉากอาชีพในสภาพแวดล้อมใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม

ห้ามพลาด!