Home Blog Page 51

รุด ฟาน นิสเตลรอย ตื่นเต้นคุมเลสเตอร์ ซิตี้

0

รุด ฟาน นิสเตลรอย อดีตดาวยิงระดับตำนาน และกุนซือคนใหม่ของ เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดใจในสัมภาษณ์ครั้งแรกหลังเซ็นสัญญาคุมทีม “จิ้งจอกสยาม” จนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2027 โดยเจ้าตัวยอมรับว่าตื่นเต้นและแทบรอไม่ไหวที่จะเริ่มต้นบทบาทผู้จัดการทีมในถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

กุนซือวัย 48 ปี ซึ่งเคยรับหน้าที่คุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชั่วคราว และพาทีมไร้พ่ายตลอด 4 นัด กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการนำพาเลสเตอร์ ซิตี้ กลับสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ “ผมรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้ การเป็นผู้จัดการทีมคือความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ ผมมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการได้รู้จักทุกคน ทั้งในทีมและในชุมชนรอบข้าง รวมถึงแฟนบอลที่คอยสนับสนุน ผมอยากเข้าใจว่าการสนับสนุนสโมสรแห่งนี้มีความหมายต่อพวกเขาอย่างไร และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาต่อไป”

ยกโครงสร้างเลสเตอร์เป็นแบบอย่าง พร้อมใช้ศักยภาพทีมสร้างผลงาน
ฟาน นิสเตลรอย ยังชื่นชมโครงสร้างการบริหารและแนวคิดของเลสเตอร์ ซิตี้ ว่าเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่โดดเด่น “สโมสรแห่งนี้มีความมั่นคง และโครงสร้างทุกอย่างถูกวางไว้อย่างดี มีความเป็นระเบียบและเปี่ยมไปด้วยแนวทางที่ชัดเจน ทีมยังเต็มไปด้วยนักเตะที่มีพรสวรรค์ ทั้งดาวรุ่งและผู้เล่นมากประสบการณ์ เป็นส่วนผสมที่ลงตัว ผมแทบรอไม่ไหวที่จะได้ร่วมงานกับพวกเขา”

“ผมมองว่าทีมมีความแข็งแกร่งในทุกตำแหน่ง เรามีนักเตะที่มีคุณภาพสองคนในทุกบทบาท และมีตัวเลือกที่สมดุลระหว่างผู้เล่นดาวรุ่งและผู้เล่นที่ผ่านประสบการณ์โชกโชน หนึ่งในนั้นคือ เจมี่ วาร์ดี้ ซึ่งเป็นกัปตันทีมที่ไม่เพียงมีประสบการณ์มากที่สุด แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของสโมสรอีกด้วย ในฐานะอดีตกองหน้า ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับเขา”

ตั้งเป้าปรับปรุงทีม เพื่อพัฒนาฟอร์มการเล่นและเก็บชัยชนะ
ฟาน นิสเตลรอย เผยว่าก่อนหน้านี้เขาได้ศึกษาเลสเตอร์ ซิตี้ ผ่านการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันและเริ่มมองหาจุดที่ทีมสามารถพัฒนาได้ “ผมเคยวิเคราะห์ทีมในระหว่างเตรียมตัวเจอกับเลสเตอร์ ทำให้ผมเห็นคุณภาพของผู้เล่นและภาพรวมของทีมชัดเจน เมื่อได้โอกาสนี้ ผมเริ่มคิดลึกถึงรายละเอียดและมองหาสิ่งที่สามารถปรับปรุงได้ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาเสถียรภาพ การเสริมจุดแข็ง หรือการปรับจูนในบางจุดเพื่อเก็บแต้มให้มากขึ้น”

เขายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับแท็กติกให้เหมาะสมกับสถานการณ์ “บางเกมเราอาจต้องเล่นเกมรับและใช้จังหวะโต้กลับ แต่ในบางเกมเราจะพยายามครองบอลและควบคุมเกมให้ได้ เราจะเล่นทุกเกมด้วยเป้าหมายเดียว นั่นคือการเอาชนะ”

เลสเตอร์ ซิตี้ จะประเดิมการคุมทีมของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญ พบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด วันที่ 3 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่แฟนบอลและทีมงานต่างตั้งความหวังไว้อย่างสูง.

อัปเดตความพร้อมลิเวอร์พูลก่อนดวลแมนฯ ซิตี้

0

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 – อาร์เนอ สล็อต กุนซือลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมล่าสุดของทีมก่อนเปิดศึกบิ๊กแมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูง ในคืนวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคมนี้ เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

สล็อตเผยข่าวดีว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวารองกัปตันทีมกลับมาฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามเต็มเกม หลังจากมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดล่าสุด ซึ่งลิเวอร์พูลเปิดบ้านเอาชนะ เรอัล มาดริด 2-0 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลยังมีความกังวลเกี่ยวกับความฟิตของ 2 แนวรับอย่าง อิบราฮิมา โกนาเต (เจ็บเข่า) และ คอเนอร์ แบรดลีย์ (บาดเจ็บต้นขา) ซึ่งทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บในเกมพบ เรอัล มาดริด โดย สล็อต ระบุว่า “พวกเขายังต้องรอการประเมินอาการเพิ่มเติม เราคงยังบอกไม่ได้แน่ชัดว่าอาการของทั้งสองอยู่ในระดับไหน”

เขายังเสริมว่า “มันไม่เคยเป็นสัญญาณที่ดีเลยหากนักเตะต้องออกจากสนามในลักษณะนั้น ผมจำเป็นต้องเปลี่ยนตัว คอเนอร์ ออก ขณะที่ อิบู เองก็ไม่ได้เดินออกจากสนามแบบที่ควรจะเป็น แม้เขาจะเล่นได้ยอดเยี่ยมตลอดเกม”

ปัญหาอาการบาดเจ็บของ ลิเวอร์พูล ยังถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล โดยปัจจุบันทีมมีผู้เล่นบาดเจ็บรวม 6 รายก่อนดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แก่ อิบราฮิมา โกนาเต, คอเนอร์ แบรดลีย์, ดิโอโก โชตา, อลิสสัน เบ็คเกอร์, คอสตาส ซิมิกาส และ เฟเดริโก เคียซา

การปะทะระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นเกมสำคัญที่อาจตัดสินทิศทางการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งแฟนบอลทั่วโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด

แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดใจ: กับโคเวนทรี

0

แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตกองกลางระดับตำนานของเชลซี วัย 46 ปี ตัดสินใจกลับมาคุมทีมอีกครั้ง โดยตกลงเซ็นสัญญา 3 ปีกับโคเวนทรี ซิตี้ ทีมอันดับ 17 ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ที่กำลังดิ้นรนเพื่อหนีตกชั้น มีคะแนนนำโซนสีแดงเพียงสองแต้มหลังผ่านการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมไปแล้วถึงสองรายในฤดูกาลนี้

แม้จะเป็นการกลับมาสู่เวทีรองของฟุตบอลอังกฤษ แลมพาร์ดยืนยันว่าเขาไม่รู้สึกผิดหวังหรือมองว่าการไม่ได้งานในพรีเมียร์ลีกเป็นความล้มเหลวแต่อย่างใด

“ผมไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ไม่ได้รับโอกาสในพรีเมียร์ลีก งานนี้เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับผม และผมเชื่อว่าโคเวนทรีมีศักยภาพมากพอที่จะเติบโตไปข้างหน้า” แลมพาร์ดกล่าว พร้อมย้ำว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลังแยกทางกับเชลซี เขาปฏิเสธข้อเสนอหลายครั้ง รวมถึงงานในต่างประเทศ เพราะยังไม่เจอโอกาสที่เหมาะสม

แลมพาร์ดกล่าวเสริมว่า การรับงานในแชมเปี้ยนชิพไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเสียศักดิ์ศรีแต่อย่างใด แต่กลับมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ร่วมสร้างสิ่งใหม่กับสโมสร

“สิ่งสำคัญสำหรับผมไม่ใช่เรื่องระดับของลีก แต่คือความพร้อมของสโมสรและความสัมพันธ์กับทีมงาน โคเวนทรีเป็นสโมสรที่มีศักยภาพและผมยินดีที่จะได้ร่วมงานเพื่อพัฒนาสโมสรให้ดียิ่งขึ้น ผมหวังว่าแฟนบอลจะภูมิใจกับสิ่งที่ผมพยายามทำที่นี่”

งานแรกของแลมพาร์ดในฐานะนายใหญ่โคเวนทรีคือเกมเปิดบ้านพบกับคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งถือเป็นบททดสอบสำคัญในการเริ่มต้นบทบาทใหม่ของเขา

แดร์ คลาสสิเคอร์ ดอร์ทมุนด์ ดวล บาเยิร์น มิวนิค คืนนี้!

0

ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี นัดที่ 12 บิ๊กแมตช์แห่งฤดูกาล โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดรัง ซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค รับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค ในคืนวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 00.30 น.

สถิติที่น่าจับตา

ดอร์ทมุนด์ และ บาเยิร์น มิวนิค เคยปะทะกันในทุกรายการรวม 137 ครั้ง โดยเป็นฝ่าย “เสือใต้” ที่เหนือกว่าด้วยการชนะ 68 ครั้ง ขณะที่ “เสือเหลือง” ชนะ 34 ครั้ง และเสมอกัน 35 ครั้ง การพบกันในบุนเดสลีกา 110 นัด บาเยิร์นชนะ 54 นัด ส่วนดอร์ทมุนด์ชนะ 26 นัด ฤดูกาลที่แล้ว ดอร์ทมุนด์สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการบุกไปชนะที่ อลิอันซ์ อารีน่า 2-0

ความพร้อมของ ดอร์ทมุนด์

นูริ ชาฮิน กุนซือคนเก่งของดอร์ทมุนด์ กำลังนำทีมทำผลงานยอดเยี่ยม หลังจากบุกชนะ ดินาโม ซาเกร็บ 3-0 ในแชมเปี้ยนส์ลีก และถล่ม ไฟร์บวร์ก 4-0 ในลีก เกมนี้อาจไม่มี เอ็มเร่ ชาน กัปตันทีมที่ยังติดโทษแบน รวมถึง คาริม อเดเยมี่ ที่บาดเจ็บ ส่วน ยูเลี่ยน บรันด์ท ต้องรอเช็กความฟิต แต่ข่าวดีคือการกลับมาของ แซร์อู กีราสซี่ ดาวยิงตัวเก่งที่พร้อมล่าตาข่าย ขณะที่ จูเลียน ไรเออร์สัน จะกลับมายืนแบ็กขวา ทำให้ ปาสกาล กรอสส์ ขยับไปเล่นมิดฟิลด์

ความพร้อมของ บาเยิร์น มิวนิค

แว็งซองต์ กอมปานี กุนซือบาเยิร์น เพิ่งพาทีมเฉือนชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมงต์ 1-0 ในแชมเปี้ยนส์ลีก จากประตูของ คิม มิน-แจ ส่วนในลีกล่าสุดชนะ เอาก์สบวร์ก 3-0 โดย แฮร์รี่ เคน ทำแฮตทริก เกมนี้ต้องจับตาว่า อัลฟอนโซ่ เดวิส จะได้ลงสนามหรือไม่ หลังมีข่าวฉาวเรื่องพฤติกรรมส่วนตัว หากไม่ได้ลงเล่น ราฟาแอล เกร์เรยโร่ จะเสียบแทน ส่วน ไมเคิ่ล โอลิเซ่ พร้อมกลับมายืนตัวจริงในแนวรุก

คาดการณ์ผู้เล่น 11 ตัวจริง

ดอร์ทมุนด์ (4-1-4-1):
เกรกอร์ โคเบล – ยูเลี่ยน รีเยอร์สัน, วัลเดมาร์ อันทอน, นิโก้ ชล็อตเทอร์เบ็ค, รามี่ เบนเซไบนี่ – เฟลิกซ์ เอ็นเมช่า – มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ปาสกาล กรอสส์, มักซิมิเลี่ยน ไบเออร์, เจมี่ บายโน-กิตเท่นส์ – แซร์อู กีราสซี่

บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1):
มานูเอล นอยเออร์ – คอนราด ไลเมอร์, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, คิม มิน-แจ, อัลฟอนโซ่ เดวิส – โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ตซ์ก้า – ไมเคิ่ล โอลิเซ่, จามาล มูเซียล่า, คิงส์ลี่ย์ โกมัน – แฮร์รี่ เคน

วิเคราะห์เกม

ดอร์ทมุนด์ อยู่ในฟอร์มที่ดีจากชัยชนะ 4 ใน 5 นัดหลังสุด แต่ต้องเจองานหนักกับ บาเยิร์น ที่ชนะรวด 7 นัดหลังสุด ยิงไปถึง 18 ประตูโดยไม่เสียคลีนชีต เกมนี้มีโอกาสที่ครึ่งแรกจะเล่นกันอย่างรัดกุม แต่ บาเยิร์น อาจอาศัยความเฉียบคมของ แฮร์รี่ เคน ปิดเกมในครึ่งหลัง

สกอร์ที่คาด: บาเยิร์น มิวนิค ชนะ 2-0

“ศึกใหญ่ลอนดอนดาร์บี้ เวสต์แฮม ปะทะ อาร์เซน่อล “

0

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เตรียมเปิดลอนดอน สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของอาร์เซน่อลในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 โดยเจ้าบ้านเพิ่งชนะนิวคาสเซิ่ล 2-0 ในเกมล่าสุด ฟอร์มดีขึ้นหลังสภาพจิตใจได้รับการฟื้นฟู แม้จะขาดตัวหลักอย่าง มิคาอิล อันโตนิโอ แต่ยังมีจาร์ร็อด โบเว่น ที่พร้อมสร้างความแตกต่าง (แผน 4-2-3-1)

ด้านอาร์เซน่อลที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก ชนะรวดในลีกสามเกมหลัง และเพิ่งถล่มสปอร์ติ้ง ลิสบอน 5-1 ความมั่นใจเต็มเปี่ยม แนวรุกยังแกร่งด้วยกาเบรียล เชซุส และบูกาโย ซาก้า (แผน 4-3-3) เกมนี้ทีมเยือนคาดว่าจะเปิดเกมบุกเต็มที่เพื่อเก็บสามแต้มสำคัญในเส้นทางลุ้นแชมป์

คาดการณ์สกอร์: เวสต์แฮม 1-3 อาร์เซน่อล
ถ่ายทอดสด: True Premier Football 1 และ 2

ฮอยลุนด์ เผยระบบ 3-4-3 เหมาะกับสไตล์ตน

0

ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า ระบบการเล่น 3-4-3 เหมาะสมกับเขาอย่างมาก พร้อมยกย่อง รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่ให้คำแนะนำสำคัญจนกลายเป็นที่มาของประตูชัยในเกมที่ทีมเฉือนชนะ โบโด้ กลิมท์ 3-2 ในศึกยูโรป้าลีก

การแข่งขันรอบลีกเฟส นัดที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด จบลงด้วยชัยชนะของ “ปีศาจแดง” โดย ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงไป 2 ประตูในนาทีที่ 45 และ 50 พร้อมกับแอสซิสต์ให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ยิงประตูเปิดหัวตั้งแต่นาทีแรก ถือเป็นชัยชนะนัดแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ อโมริม

หลังจบเกม ฮอยลุนด์ กล่าวถึงจังหวะสำคัญของประตูชัยในนาทีที่ 50 ว่าเป็นผลมาจากคำแนะนำที่ได้รับในช่วงพักครึ่ง “ผู้จัดการทีมบอกผมในห้องแต่งตัวให้ยึดตำแหน่งที่เสาแรก และเมื่อจังหวะเตะมุมเร็วเกิดขึ้น เราก็เห็นผลทันที เราซ้อมเรื่องนี้มาหลายครั้ง และมันก็ได้ผลอย่างที่เห็น”

ฮอยลุนด์ยังเสริมว่าเขารู้สึกคุ้นเคยและปรับตัวได้ดีกับระบบ 3-4-3 ซึ่งเขาเคยใช้งานมาแล้วสมัยเล่นให้กับ อตาลันต้า “สำหรับผม ระบบนี้เหมาะมาก มันคล้ายกับตอนที่ผมเล่นให้อตาลันต้าในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า โดยมีผู้เล่นสองคนคอยสนับสนุน ผมพยายามอยู่ในพื้นที่เขตโทษเสมอ และตอนนี้เราก็เริ่มเห็นความชัดเจนในแนวทางการเล่นของทีม ระบบกำลังเข้าที่เข้าทาง และมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ”

ดาวยิงวัย 21 ปี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “หน้าที่ของเราตอนนี้คือการพัฒนาระบบนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และสร้างผลงานที่ดีต่อไป”

ชัยชนะนัดนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับทีม แต่ยังทำให้แฟนบอลเชื่อมั่นในแนวทางใหม่ของอโมริมที่เริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม.

แมนฯ ซิตี้ และ นิวคาสเซิล อาจต้องเปลี่ยนมือเจ้าของ

0

สโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อาจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หากร่างกฎหมายที่ห้ามไม่ให้สโมสรฟุตบอลในอังกฤษอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา

ข้อเสนอดังกล่าวถูกนำเข้าสู่การแก้ไขในร่างกฎหมายกำกับดูแลฟุตบอลฉบับใหม่ โดย ลอร์ด บาสซัม สมาชิกสภาขุนนางจากพรรคแรงงาน ซึ่งมุ่งเน้นจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลอิสระเพื่อดูแลกิจการฟุตบอลในอังกฤษ ร่างแก้ไขนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการครอบครองสโมสรฟุตบอลโดยรัฐชาติ ซึ่งอาจถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงจากต่างประเทศ

ความเชื่อมโยงของเจ้าของสโมสร

ปัจจุบัน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มีเจ้าของคือ กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย (PIF) ซึ่งมี มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ดำรงตำแหน่งประธาน ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ภายใต้การบริหารของ ชีค มานซูร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ สโมสรที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐโดยตรงจะต้องเปลี่ยนเจ้าของเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลใหม่

ผลกระทบและความเคลื่อนไหวในวงการ

แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาในสภาขุนนาง แต่แหล่งข่าวจาก เดอะ ไทมส์ รายงานว่า มีโอกาสน้อยมากที่ข้อเสนอการแก้ไขนี้จะผ่านความเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ได้จุดกระแสถกเถียงในหมู่สโมสรในพรีเมียร์ลีก ซึ่งบางส่วนเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาประเด็นนี้อย่างจริงจัง

หากกฎหมายได้รับการอนุมัติจริง จะมีการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลใหม่ที่ไม่ขึ้นกับฝ่ายใด พร้อมทั้งกำหนดกระบวนการคัดกรองเจ้าของสโมสรและผู้บริหารให้เข้มงวดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนปรับปรุงระบบการจัดการรายได้ในวงการฟุตบอล เพื่อสร้างความโปร่งใสและยุติธรรม

ขั้นตอนต่อไป

ร่างกฎหมายฉบับนี้และการแก้ไขของลอร์ด บาสซัม ยังคงอยู่ระหว่างการอภิปรายในสภาขุนนาง และคาดว่าจะมีความคืบหน้าเพิ่มเติมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่แฟนบอลและผู้เกี่ยวข้องในวงการจับตาดูผลลัพธ์ที่จะมีผลกระทบสำคัญต่ออนาคตของหลายสโมสรชั้นนำในอังกฤษ.

“เชลซีแรงต่อเนื่อง! คว้าชัย 4 นัดรวด ครองจ่าฝูงคอนเฟอเรนซ์”

0

“สิงห์บลูส์” เชลซี ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงในศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก หลังบุกไปเอาชนะ ไฮเดนไฮม์ 2-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะ 4 เกมติดต่อกัน เก็บ 12 คะแนนเต็ม ครองตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่มอย่างเหนียวแน่น พร้อมยัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้กับเจ้าถิ่น

เกมนี้ เชลซี แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการเล่นที่เหนือชั้น แม้ ไฮเดนไฮม์ จะพยายามตั้งรับอย่างเหนียวแน่นในช่วงครึ่งแรก แต่ลูกทีมของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ยังคงเดินหน้ากดดันอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะได้ประตูเบิกร่องจากจังหวะยิงไกลสุดสวยในครึ่งหลัง และปิดท้ายด้วยประตูที่สองจากเกมโต้กลับเร็ว

ชัยชนะในนัดนี้ย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของ เชลซี ที่กำลังคืนฟอร์มเก่งได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่เกมรุกที่จัดจ้าน แต่เกมรับยังเหนียวแน่นจนทำให้คู่แข่งเจาะไม่เข้า ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับแฟนบอล “สิงห์บลูส์” ที่กำลังมองเห็นโอกาสคว้าแชมป์รายการนี้

หลังผ่านไป 4 นัด เชลซี ยืนหนึ่งบนตารางคะแนนกลุ่ม ด้วยผลงานไร้ที่ติ ทั้งเกมรุกที่ทำได้ถึง 10 ประตู และเกมรับที่เสียเพียง 1 ลูกเท่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาภายใต้การคุมทีมของกุนซืออาร์เจนไตน์รายนี้.

“ปีศาจแดงเปิดบ้านเฉือนโบโด กริมท์ 3-2 ประเดิมกุนซือใหม่”

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มสุดเร้าใจในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก หลังเปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอาชนะ โบโด กริมท์ 3-2 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นับเป็นชัยชนะสองเกมติดต่อกันในรอบแบ่งกลุ่ม พร้อมต้อนรับการคุมทีมนัดแรกอย่างเป็นทางการของ รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่วัย 39 ปี จากโปรตุเกส

แมตช์นี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องออกแรงพลิกสถานการณ์อย่างหนัก หลังทีมเยือนสร้างความหวาดเสียวด้วยการออกนำก่อนในครึ่งแรก 2-1 แต่ “ปีศาจแดง” แสดงให้เห็นถึงพลังและความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นภายใต้การนำของโค้ชหนุ่มรายนี้ โดยในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเดินเกมรุกแบบไม่หยุดยั้ง และสามารถพลิกกลับมาคว้าสามแต้มสำคัญได้ในที่สุด

สำหรับฟอร์มของผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ละคนในเกมนี้ มีทั้งคนที่โชว์ฟอร์มเด่นจนได้รับเสียงชื่นชม และบางคนที่ยังต้องปรับจูนเพื่อเข้ากับระบบใหม่ของ อโมริม ที่เน้นการครองบอลและเกมรุกที่ดุดัน บรรยากาศในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากนี่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้

นี่อาจเป็นเพียงก้าวแรก แต่ผลการแข่งขันและฟอร์มในสนามของทีมในค่ำคืนนี้แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งอนาคตที่สดใสสำหรับ “ปีศาจแดง” ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม.

“อันเชลอตติ” ชี้ความพ่ายแพ้ต่อ “ลิเวอร์พูล”

0

คาร์โล อันเชลอตติ ผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด ออกมาพูดถึงความพ่ายแพ้ของทีมต่อ ลิเวอร์พูล 0-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5 เมื่อคืนวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า ลิเวอร์พูล เล่นได้ดีกว่าและสมควรเป็นฝ่ายชนะ อย่างไรก็ตาม อันเชลอตติยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะที่ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของทีม

อันเชลอตติกล่าวหลังเกมว่า:
“ผลการแข่งขันเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว ลิเวอร์พูลสมควรได้รับชัยชนะ เราเจอความยากลำบากในการเล่นตามแนวทางที่เราวางแผนไว้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของผู้เล่นสำคัญหลายคน ซึ่งทำให้เราต้องปรับตัวตลอดทั้งเกม”

แม้จะพ่ายแพ้ในนัดนี้ แต่กุนซือชาวอิตาเลียนมองว่าเกมดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเป้าหมายระยะยาวของทีม:
“นี่ไม่ใช่เกมที่ตัดสินชะตาของเราโดยตรง ผลการแข่งขันในวันนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แม้ว่าเราจะชนะเกมนี้ ก็ยังยากอยู่ดีที่จะการันตีการจบใน 8 อันดับแรกเพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ”

“เป้าหมายหลักของเราคือการจบใน 24 อันดับแรกเพื่อผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ และเรามั่นใจว่าเราจะทำได้เหมือนที่เราทำสำเร็จทุกปีที่ผ่านมา”

ปัญหาใหญ่จากอาการบาดเจ็บ

ในเกมนี้ เรอัล มาดริดต้องลงสนามโดยขาดนักเตะตัวหลักหลายคน ทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก, ออเรเลียง ชูอาเมนี และ เอแดร์ มิลิเตา ซึ่งล้วนเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกและแนวรับของทีม การขาดหายไปของพวกเขาทำให้ทีมต้องเผชิญกับความยากลำบากในการรับมือกับเกมรุกที่ดุดันของลิเวอร์พูล

ทั้งนี้ เรอัล มาดริดจะต้องเร่งหาทางแก้ไขสถานการณ์ก่อนเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เพื่อรักษาโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป และกลับมาคืนฟอร์มให้ได้ในเร็ววัน.

ห้ามพลาด!