Home Blog Page 56

เดือด! แฟนบาร์ซ่าถล่ม ซัวเรซ

0

หลุยส์ ซัวเรซ อดีตกองหน้าคนสำคัญของ บาร์เซโลน่า ต้องเจอกับกระแสดราม่าร้อนแรง หลังแฟนบอลบางส่วนของ “อาซูลกราน่า” เข้าไปคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์และด่าทอเขาบนโซเชียลมีเดีย เนื่องจากไม่พอใจที่ ซัวเรซ ร่วมฉลองกับชัยชนะของ แอตเลติโก มาดริด เหนือ บาร์เซโลน่า ในเกมล่าสุด

การแข่งขัน ลา ลีกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แอตฯ มาดริด บุกไปเอาชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 ที่สนามโอลิมปิก ยูอิส กุมปัญส์ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีที่ “ตราหมี” บุกมาคว้าชัยถึงแคว้นกาตาลุนย่า พร้อมแซงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของลีก

หลังจบเกม ซัวเรซ แสดงน้ำใจด้วยการส่งอาหารจาก “Chalito” ร้านอาหารของเขาในบาร์เซโลน่า ไปให้เหล่าผู้เล่นและสตาฟฟ์โค้ชของ แอตฯ มาดริด เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับอดีตต้นสังกัด แม้เขาเคยเล่นให้ บาร์เซโลน่ามากถึง 283 นัด มากกว่าที่เขาลงเล่นให้กับแอตฯ มาดริดซึ่งมีเพียง 83 เกม

อย่างไรก็ตาม การกระทำครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลบาร์ซ่าบางส่วนอย่างมาก หลายคนเข้าไปโจมตีเขาบนอินสตาแกรมด้วยข้อความรุนแรง เช่น “แกไม่ใช่ตำนานของเราอีกต่อไปแล้ว”, “ทำไมแกถึงฉลองที่ แอตฯ มาดริด ชนะบาร์ซ่าได้?” และมีการโพสต์อิโมจิงูที่สื่อถึงความทรยศ

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า ซัวเรซ เคยมีปัญหากับบาร์เซโลน่าในปี 2020 เมื่อสโมสรปล่อยเขาออกจากทีมอย่างไม่ให้เกียรติ ทั้งที่เขาทุ่มเทให้ทีมมาโดยตลอด กุนซือในตอนนั้น โรนัลด์ คูมัน และอดีตประธานสโมสร โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว มีส่วนในการผลักดันการย้ายทีมของเขา

แม้จะเริ่มต้นเจรจาย้ายไป ยูเวนตุส แต่ปัญหาทางเอกสารและข้อกล่าวหาเรื่องการโกงข้อสอบภาษาอิตาเลียน ทำให้ ซัวเรซ เลือกย้ายไป แอตเลติโก มาดริด แทน และนำทีมคว้าแชมป์ ลา ลีกา ฤดูกาล 2020-21 ได้ทันที

ความสัมพันธ์ระหว่าง ซัวเรซ และแฟนบอลบาร์ซ่าจึงยังคงเป็นที่พูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เขาถูกมองว่าให้ความสำคัญกับ แอตฯ มาดริด มากกว่าอดีตต้นสังกัดที่เคยสร้างชื่อให้เขา

บอร์ดแมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อยอิสระ อโมริม ไม่บังคับส่ง แรชฟอร์ด

0

อีเอสพีเอ็น สื่อกีฬาชื่อดัง รายงานว่า บอร์ดบริหารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันไม่กดดัน รูเบน อโมริม เฮดโค้ชคนใหม่ในการตัดสินใจใช้งาน มาร์คัส แรชฟอร์ด แม้สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของนักเตะก็ตาม

แรชฟอร์ด ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีม กำลังตกอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญของอาชีพค้าแข้ง หลังหลุดจากทีมชุดใหญ่ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เขายังเคยแสดงความสนใจที่จะออกไปเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ ท่ามกลางกระแสข่าวเรื่องการย้ายทีม

ถึงแม้ว่าการไม่ได้ลงสนามอาจลดมูลค่าการซื้อขายของแรชฟอร์ดในตลาด แต่แหล่งข่าวจาก อีเอสพีเอ็น ยืนยันว่าบอร์ดบริหารของปีศาจแดงจะไม่แทรกแซงการตัดสินใจจัดทีมของ อโมริม โดยมอบอำนาจการบริหารทีมอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ สื่อเจ้าเดิมยังระบุเพิ่มเติมว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แจ้งกับ แรชฟอร์ด ว่าจะไม่มีการรับประกันว่าการย้ายทีมในช่วงตลาดเดือนมกราคมนี้จะเกิดขึ้น แม้สโมสรพร้อมพิจารณาข้อเสนอที่เหมาะสม แต่หากเงื่อนไขไม่เป็นไปตามที่ต้องการ พวกเขาก็อาจเลือกเก็บเขาไว้ต่อไป

สถานการณ์ดังกล่าวยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงตลาดนักเตะรอบถัดไป ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของแรชฟอร์ดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง

เดวิด คู้ต ตัดสินใจไม่อุทธรณ์คำสั่งปลด

0

เดวิด คู้ต ผู้ตัดสินฟุตบอลที่เคยเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของวงการ เตรียมยอมรับผลการตัดสินของคณะกรรมการผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ (พีจีเอ็มโอแอล) โดยไม่มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งปลดออกจากตำแหน่ง ตามรายงานของสื่ออังกฤษชื่อดัง เดลี่ เมล

คู้ตตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้คำหยาบคายพาดพิง เจอร์เก้น คล็อปป์ และสโมสรลิเวอร์พูล รวมถึงข้อกล่าวหาเชิงลบอื่น ๆ เช่น การพัวพันกับสารเสพติด ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กรผู้ตัดสิน

พีจีเอ็มโอแอลได้ดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด และในที่สุดได้ตัดสินใจปลดเขาออกจากตำแหน่ง แม้ว่าตามกระบวนการ คู้ต จะมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ แต่ล่าสุดรายงานระบุว่าเขาเลือกที่จะไม่สู้คดียื่นขอพิจารณาใหม่

การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นการปิดฉากอาชีพของคู้ตในฐานะผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์และข้อสงสัยที่ยังคงค้างคาใจในหมู่แฟนบอลและบุคลากรในวงการฟุตบอล

สุขอนามัย โอลด์ แทรฟฟอร์ด ขั้นแย่!

0

แมนฯ ยูไนเต็ดเผชิญปัญหาสุขอนามัย โอลด์ แทรฟฟอร์ดพบหนูชุกชุม กระทบคะแนนด้านอาหาร

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเจอกับอีกหนึ่งปัญหาที่สนามเหย้าอันเป็นตำนานของพวกเขา หลังมีรายงานว่าการตรวจสอบล่าสุดพบปัญหาหนูชุกชุมที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งส่งผลกระทบต่อคะแนนสุขอนามัยด้านอาหารของสโมสรอย่างมาก

สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งเปิดใช้งานครั้งแรกในปี 1910 และผ่านการปรับปรุงใหญ่ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2006 กำลังเผชิญกับข้อกังขาเกี่ยวกับความพร้อมใช้งานในปัจจุบัน ทั้งในด้านโครงสร้างและมาตรฐานความสะอาด ภาวะดังกล่าวยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร

ด้วยความที่ฝนตกบ่อยในเมืองแมนเชสเตอร์ สนามแห่งนี้ยังมักถูกวิจารณ์เรื่องปัญหารอยรั่วซึมที่ปรากฏเป็นประจำเมื่อเกิดฝนตกหนัก สถานการณ์นี้จึงทำให้แนวคิดการสร้างสนามใหม่กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างจริงจังอีกครั้ง

คณะทำงานที่ได้รับมอบหมายจาก เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ กำลังวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการก่อสร้างสนามใหม่ เพื่อให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถรักษามาตรฐานระดับโลกในทุกแง่มุม แต่สำหรับตอนนี้ การแก้ปัญหาสุขอนามัยและความปลอดภัยที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดคือสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน

อัล อาห์ลี เล็งคว้า แรชฟอร์ด เสริมทัพ ลุยซาอุดีโปรลีก

0

สื่อดัง ทอล์คสปอร์ต รายงานว่า อัล อาห์ลี สโมสรชื่อดังในซาอุดีโปรลีก กำลังให้ความสนใจที่จะคว้าตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตัวนักเตะถูกดร็อปจาก 11 ตัวจริงในทีม “ปีศาจแดง” ตลอด 3 เกมที่ผ่านมา

พร้อมทุ่มไม่อั้นกับค่าเหนื่อยมหาศาล
แม้ว่าค่าเหนื่อยของแรชฟอร์ดจะสูงถึง 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขมหาศาล แต่แหล่งข่าวระบุว่าเรื่องค่าใช้จ่ายไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับ อัล อาห์ลี สโมสรที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐของซาอุดีอาระเบีย

ปัญหาคือโควตานักเตะต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม หาก อัล อาห์ลี ต้องการดึงตัวแรชฟอร์ดเข้ามาจริง พวกเขาอาจต้องเคลียร์โควตานักเตะต่างชาติที่มีอยู่ก่อน เนื่องจากปัจจุบันทีมมีผู้เล่นต่างชาติระดับท็อปอย่าง ริยาด มาห์เรซ, เอดูอาร์ เมนดี้, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ไอแวน โทนี่ย์ และ ฟร้องค์ เกสซีเย่ อยู่ในทีมแล้ว

ตามกฎของซาอุดีโปรลีกในฤดูกาล 2024-25 แต่ละสโมสรสามารถลงทะเบียนนักเตะต่างชาติได้ 10 คน โดยสามารถส่งลงสนามได้พร้อมกันสูงสุด 8 คนต่อเกม และอีก 2 คนจะได้รับอนุญาตให้ลงสนามเพิ่มเติมในกรณีที่เป็นนักเตะอายุต่ำกว่า 21 ปี (เกิดหลังปี 2003) ดังนั้น การคว้าตัวแรชฟอร์ดอาจต้องรอการปรับแผนเรื่องผู้เล่นในทีมเสียก่อน

โอกาสและอนาคตของแรชฟอร์ด
แรชฟอร์ด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นกำลังสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเผชิญกับฤดูกาลที่ยากลำบาก ทั้งเรื่องฟอร์มการเล่นที่ตกลง รวมถึงการถูกดร็อปจากทีมตัวจริง การย้ายไปซาอุดีโปรลีกอาจเป็นทางเลือกที่ช่วยพลิกสถานการณ์ในอาชีพของเขา และยังเป็นโอกาสที่เขาจะได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นระดับโลกที่สร้างชื่อในลีกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

การตัดสินใจของแรชฟอร์ดเกี่ยวกับอนาคตของเขาในช่วงตลาดซื้อขายหน้าหนาวนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ไม่เพียงแต่สำหรับตัวนักเตะ แต่ยังรวมถึงโครงสร้างทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และความเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายของซาอุดีโปรลีกอีกด้วย

“อโมริม” รับปิศาจแดงยังไม่ลงตัว

0

รูเบน อาโมริม กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับหลังเกมว่า “ปีศาจแดง” กำลังเผชิญความท้าทายอย่างหนัก หลังเปิดบ้านพ่ายบอร์นมัธ 0-3 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเฉพาะปัญหาเกมรับจากลูกตั้งเตะที่ยังแก้ไม่ตก

บทสัมภาษณ์หลังเกม

เกมที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือเป็นความพ่ายแพ้ติดต่อกันสองนัดของแมนฯ ยูไนเต็ดในทุกรายการ ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นของทีมอย่างหนัก โดยอาโมริมกล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมแพ้ในเกมนี้ว่า:

“เราเจอกับปัญหาเดิมๆ โดยเฉพาะการป้องกันลูกตั้งเตะ มันยังคงเป็นจุดที่เราต้องแก้ไขโดยด่วน นอกจากนี้ ผมเห็นความกังวลและความไม่มั่นใจในทีมตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งส่งผลกระทบต่อจังหวะการเล่นของเรา”

เขาเสริมอีกว่า:

“เมื่อเรามาเสียจุดโทษและโดนยิงเพิ่มเป็น 3-0 มันทำให้สถานการณ์ยากขึ้น เราพยายามทำประตูเพื่อกลับเข้าสู่เกม แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่หวัง ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทั้งทีมและแฟนๆ แต่เราต้องเดินหน้าต่อไป”

อนาคตของทีมและแรชฟอร์ด

เมื่อถูกถามถึงอนาคตของผู้เล่นสำคัญอย่างมาร์คัส แรชฟอร์ด และโอกาสในการลงสนามนัดต่อไป อาโมริมตอบอย่างระมัดระวังว่า:

“มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในทีมและความพร้อมของเขา เราจะตัดสินใจอีกครั้งหลังจากประเมินกันในสัปดาห์นี้”

มุมมองเพิ่มเติม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของอาโมริมยังคงอยู่ในช่วงของการปรับจูนทีม หลังการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทีมยังไม่สามารถดึงฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอออกมาได้ และความพ่ายแพ้ครั้งนี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้ทั้งตัวกุนซือและผู้เล่นหลักที่ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้

บทสรุป:
แมนฯ ยูไนเต็ดจะต้องกลับมาทบทวนแผนการเล่น โดยเฉพาะปัญหาในเกมรับจากลูกตั้งเตะ และจิตวิทยาในทีมที่ดูเหมือนยังไม่มั่นคง เพื่อฟื้นฟูฟอร์มการเล่นและสร้างความมั่นใจให้แฟนบอลในเกมต่อไป

ลิเวอร์พูลบุกถล่มสเปอร์ส 6-3 ยึดจ่าฝูงทิ้งห่าง 4 แต้ม

0

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มร้อนแรงสมฐานะผู้นำตารางพรีเมียร์ลีก ด้วยการบุกถล่มท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส 6-3 โดย โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และ หลุยส์ ดิอาซ กดคนละสองประตู พาทีมฉีกหนีอันดับ 2 เชลซีเป็น 4 คะแนน ลงแข่งน้อยกว่า 1 นัด

ในเกมนี้ แอนจ์ ปอสเตโคกลู กุนซือสเปอร์สยังยึด 11 ตัวจริงชุดเดิมจากเกมคาราบาว คัพ ที่ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3 ขณะที่อาร์เน่อ สล็อต นายใหญ่ลิเวอร์พูล กลับมาใช้ผู้เล่นตัวหลักเต็มสูบ นำโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และ หลุยส์ ดิอาซ

บทสรุปเกม

ครึ่งแรก:

  • นาทีที่ 23 ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 จากลูกโหม่งสุดสวยของหลุยส์ ดิอาซ ซึ่งถือเป็นประตูแรกในลีกของเขาในรอบ 3 เดือน
  • นาทีที่ 36 สกอร์ขยับเป็น 2-0 เมื่ออเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์โหม่งจบสกอร์จากลูกเปิดของโดมินิค โซบอสซ์ไล
  • แม้สเปอร์สจะตีไข่แตกในนาทีที่ 41 จากลูกยิงของเจมส์ แมดดิสัน แต่ลิเวอร์พูลมาตอกย้ำในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก โซบอสซ์ไลทำประตูปิดครึ่งแรกให้ลิเวอร์พูลนำ 3-1

ครึ่งหลัง:

  • นาทีที่ 54 โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ซัดจ่อๆ ให้ลิเวอร์พูลหนีเป็น 4-1 พร้อมสถิติทำประตู 8 นัดติดต่อกัน
  • นาทีที่ 61 ซาล่าห์บวกอีกลูกให้ตัวเองและทีม นำห่างเป็น 5-1
  • แม้สเปอร์สจะพยายามไล่มา 3-5 จากการทำประตูของเดยัน คูลูเซฟสกี้ และโดมินิก โซลันกี้ แต่สุดท้ายลิเวอร์พูลปิดท้ายด้วยลูกยิงทะแยงมุมของหลุยส์ ดิอาซ นาทีที่ 85

สถานการณ์ในตาราง:
ลิเวอร์พูลยังคงนำจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น มี 39 คะแนนจาก 16 นัด ทิ้งห่างเชลซีอันดับ 2 อยู่ 4 แต้ม ขณะที่สเปอร์สตกไปอยู่อันดับ 11 หลังแพ้ในบ้าน 3 จาก 4 นัดหลังสุด

ฟอร์มระดับแชมเปียนส์:
ชัยชนะครั้งนี้ย้ำถึงศักยภาพเกมรุกที่อันตรายของลิเวอร์พูล โดยเฉพาะคู่หู ซาล่าห์ และ ดิอาซ ที่ช่วยกันยิงไปถึง 4 ประตูในเกมเดียว ขณะเดียวกัน การคว้าชัยนอกบ้านด้วยสกอร์สูงส่งยังส่งสัญญาณชัดเจนถึงคู่แข่งในพรีเมียร์ลีกว่าหงส์แดงคือทีมที่พร้อมลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้

ฮาลันด์ยอมรับฟอร์มตนเองต่ำกว่ามาตรฐาน

0

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดใจยอมรับถึงฟอร์มการเล่นที่ต่ำกว่ามาตรฐานในเกมที่ทีมบุกไปแพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งส่งผลให้ “เรือใบสีฟ้า” ไม่ชนะติดต่อกันเป็นเกมที่ 4 รวมทุกรายการ และพ่ายถึง 3 นัดในช่วงดังกล่าว

แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มหลุดต่อเนื่อง หล่นไปอยู่อันดับ 6
แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดต่อกันยังคงเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อเกมล่าสุดพวกเขาต้องเสียท่าให้กับ แอสตัน วิลล่า ทำให้เก็บได้เพียง 27 คะแนนจาก 17 นัด และตอนนี้รั้งอันดับ 6 ของตารางคะแนน

หลังจบเกม ฮาลันด์ให้สัมภาษณ์ด้วยความผิดหวัง พร้อมยอมรับว่าผลงานของตนเองไม่ดีพอที่จะช่วยทีม “มันยังเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจบเกม แต่แน่นอนว่าผมผิดหวัง เราทำได้ไม่ดีพอ โดยเฉพาะตัวผมเอง ผมยังไม่ได้มาตรฐานที่ควรจะเป็น”

ฮาลันด์ชี้ต้องแก้ไขผลงานและกลับมาให้ได้
ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ยอมรับว่าเขาแทบไม่มีโอกาสสร้างอันตรายในเกม และย้ำว่าต้องพัฒนาตัวเองเพื่อช่วยทีมให้ดีกว่านี้ “ผมต้องเริ่มจากตัวเองก่อน ผมไม่มีโอกาสยิงประตูเลยในเกมนี้ และนั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องทำให้ดีกว่าเดิม ผมรู้ตัวว่าผลงานของผมยังไม่ถึงระดับที่ควรจะเป็น”

ความมั่นใจคือกุญแจสำคัญ
ฮาลันด์ยังกล่าวถึงความสำคัญของการฟื้นฟูความมั่นใจในทีม หลังผลงานสะดุดต่อเนื่องส่งผลต่อฟอร์มการเล่นโดยรวม “ความมั่นใจคือทุกอย่างในฟุตบอล มันส่งผลต่อทุกคนในทีม และแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่เราต้องแก้ไข เราต้องพยายามมองโลกในแง่บวก แม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะดูยากลำบากแค่ไหนก็ตาม”

ฮาลันด์กระตุ้นทีมให้เชื่อมั่นและทำงานหนักต่อไป
แม้จะผิดหวังกับฟอร์มการเล่นส่วนตัวและผลงานของทีม แต่ฮาลันด์ยังคงเชื่อว่าการทำงานหนักและการกลับมาเชื่อมั่นในตัวเองจะเป็นกุญแจสำคัญในการพา แมนฯ ซิตี้ กลับมาสู่เส้นทางลุ้นแชมป์อีกครั้ง “เราคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เราควรทำได้ดีกว่านี้ ผมเชื่อว่าถ้าเราทำงานหนัก เดินหน้าต่อไป และรักษาความเชื่อมั่นในทีม เราจะกลับมาได้”

เกมต่อไปของ แมนฯ ซิตี้ จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าพวกเขาจะสามารถฟื้นตัวจากฟอร์มที่ย่ำแย่ในช่วงหลังได้หรือไม่ ในขณะที่แฟนบอลต่างจับตามองการตอบสนองของแชมป์เก่าภายใต้ความกดดันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

รูเบน อโมริม ยอมรับผิดหวังหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้คาบ้าน

0

รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุกีสของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแสดงความผิดหวัง หลังทีมพ่ายคาบ้านต่อบอร์นมัธด้วยสกอร์ 0-3 ในเกมพรีเมียร์ลีกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ครั้งที่ 3 จาก 4 นัดในลีก นับตั้งแต่เขาเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม

ผลงานต่ำกว่ามาตรฐานและความกดดันที่ทีมรับมือไม่ได้
อโมริมชี้ให้เห็นถึงปัญหาหลักในเกมนี้ โดยเฉพาะการรับมือกับลูกตั้งเตะและการจัดการความกดดันในสถานการณ์สำคัญ “เกมนี้ยากสำหรับเรา เรามีปัญหาในการป้องกันลูกเซตพีซ หลายจังหวะนักเตะดูประหม่าและขาดความมั่นใจ ผมสัมผัสได้ถึงความกังวลเหล่านี้ในสนาม”

ความผิดพลาดครั้งสำคัญเกิดขึ้นในจังหวะเสียจุดโทษและประตูต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เกมยิ่งยากลำบากขึ้น “เราพยายามอย่างมากที่จะกลับมาสู่เกม แต่เมื่อเสียสองประตูในลักษณะนี้ มันทำให้สถานการณ์ซับซ้อนมากขึ้น”

ความประหม่าและจังหวะเกมที่ต้องปรับปรุง
อโมริมยังกล่าวถึงปัญหาความประหม่าในทีม โดยเฉพาะในจังหวะที่ทีมควรจะทำประตูได้ก่อนคู่แข่ง “ก่อนที่เราจะเสียประตูแรก เรามีโอกาสในเกมเหมือนกัน หากเรายิงนำได้ เกมอาจจะเปลี่ยนไปอีกแบบ แต่เรายังต้องปรับปรุงการเล่นในจังหวะสำคัญเหล่านี้”

นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการควบคุมอารมณ์และสถานการณ์ในเกมให้ดีกว่านี้ “หลังจากเสียจุดโทษ ทีมต้องจัดการเกมให้มีสมาธิมากขึ้น เรารู้ว่าสถานการณ์มันยาก แต่เราจำเป็นต้องนิ่งกว่านี้ และควบคุมเกมในช่วงเวลาสำคัญให้ดีขึ้น”

กระตุ้นทีมให้มองไปข้างหน้า
แม้จะแสดงความผิดหวังอย่างชัดเจน แต่รูเบน อโมริมยังคงย้ำให้ทีมเดินหน้าต่อไป “เราต้องลืมเกมนี้และโฟกัสกับเกมถัดไป การเรียนรู้จากความผิดพลาดจะช่วยให้เรากลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม”

สำหรับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การพ่ายแพ้ครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญว่า อโมริมและลูกทีมจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างไรในช่วงเวลาที่ยากลำบากของฤดูกาล

แกเร็ธ เบล: ชีวิตและเส้นทางตำนานก่อนอำลาวงการฟุตบอล

0

จากดาวรุ่งแห่งเวลส์สู่ตำนานลูกหนังโลก
แกเร็ธ เบล (Gareth Bale) คือนักเตะที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกจดจำในฐานะผู้เล่นฝีเท้าเยี่ยมที่สร้างผลงานอันโดดเด่นตลอดเส้นทางการค้าแข้งของเขา เบลมีบทบาทสำคัญในการพาเรอัล มาดริดกวาดแชมป์มากมาย ก่อนที่จะตัดสินใจอำลาสนามในวัย 33 ปี

ชีวิตยุคทองและเบื้องหลังก่อนแขวนสตั๊ด
แม้แกเร็ธ เบลจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกจับตามองตั้งแต่ก้าวเข้าสู่เวทีฟุตบอลระดับโลก แต่เส้นทางของเขาก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป อาการบาดเจ็บที่รบกวนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงค้าแข้งกับเรอัล มาดริด ทำให้เขาต้องต่อสู้กับเสียงวิจารณ์และแรงกดดันตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ความทุ่มเทและพรสวรรค์ของเบล ทำให้เขากลายเป็นแรงบันดาลใจสำหรับนักฟุตบอลรุ่นใหม่ แม้ในวันที่เขาประกาศเลิกเล่นฟุตบอล เบลยังคงได้รับการยกย่องให้เป็นตำนานของวงการ

จากเซาธ์แฮมป์ตันสู่ทีมยักษ์ใหญ่
เส้นทางอาชีพของแกเร็ธ เบลเริ่มต้นกับทีมเยาวชนของเซาธ์แฮมป์ตันในปี 2006 ก่อนจะก้าวเข้าสู่ทีมท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ในปี 2007 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขากลายเป็นดาวเด่นในพรีเมียร์ลีก ด้วยทักษะอันยอดเยี่ยมและความเร็วอันน่าทึ่ง ชื่อของเบลจึงถูกพูดถึงในวงการฟุตบอลอย่างกว้างขวาง

ในปี 2013 เรอัล มาดริดคว้าตัวเบลไปร่วมทีมด้วยค่าตัวกว่า 100 ล้านยูโร ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก เขาได้ร่วมเล่นกับซูเปอร์สตาร์อย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และเป็นกำลังสำคัญช่วยพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกถึง 4 สมัย

บทบาทกับทีมชาติเวลส์
ไม่เพียงแต่ความสำเร็จในระดับสโมสร เบลยังสร้างผลงานอันโดดเด่นให้กับทีมชาติเวลส์ ในฐานะกัปตันทีม เขาพาเวลส์สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในศึกยูโร 2016 ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดของทีมชาติ

งานอดิเรกที่ถูกจับตามอง
นอกเหนือจากฟุตบอล แกเร็ธ เบลยังหลงใหลในกีฬากอล์ฟอย่างมาก ถึงขั้นสร้างสนามกอล์ฟส่วนตัวไว้ที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ความหลงใหลนี้เคยเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในช่วงที่เขามีปัญหาอาการบาดเจ็บระหว่างเล่นให้เรอัล มาดริด แม้ว่าจะมีเสียงตำหนิว่าเขาทุ่มเทให้กอล์ฟมากกว่าฟุตบอล แต่สำหรับเบล งานอดิเรกนี้คือสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายและฟื้นฟูจิตใจจากความกดดัน

จุดเด่นในสนามของแกเร็ธ เบล

  • ทักษะการยิงอันเฉียบขาด: ลูกยิงไกลและฟรีคิกของเบลเป็นที่เลื่องลือในวงการ
  • ความเร็วอันน่าทึ่ง: การวิ่งสปีดของเบลช่วยสร้างความได้เปรียบในเกมรุกเสมอ
  • การเล่นที่หลากหลาย: เบลสามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ทั้งกองหน้าตัวเป้า ปีก หรือกองกลางตัวรุก

รางวัลและเกียรติประวัติ
เบลคว้ารางวัลและแชมป์มากมายตลอดอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น

  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA (2010/11, 2012/13)
  • ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 4 สมัย
  • ลา ลีกา สเปน 2 สมัย
  • รางวัลจากทีมชาติเวลส์ กับผลงานในยูโร 2016

การอำลาวงการฟุตบอล
ในปี 2023 แกเร็ธ เบลตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการ ปิดฉากเส้นทางที่เต็มไปด้วยความสำเร็จทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ เขายังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่วงการลูกหนังจดจำ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ตลอดไป

สำหรับแฟนบอลที่ชื่นชอบแกเร็ธ เบล หรือวงการฟุตบอลโดยรวม อย่าลืมติดตามข่าวสารจากลีกดังทั่วโลก รวมถึงอัปเดตการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นผ่านช่องกีฬาโปรดของคุณ!

ห้ามพลาด!