แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นการพูดคุยกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน เพื่อหวังคว้าตัว วิกตอร์ โยเคเรส ศูนย์หน้าฟอร์มแรงของทีมในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์หน้า

โยเคเรส วัย 26 ปี กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม ยิงไปแล้ว 24 ประตูจากการลงสนามเพียง 21 นัดในฤดูกาลนี้ กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของหลายทีมในยุโรป ด้วยความสามารถที่โดดเด่นและผลงานที่สม่ำเสมอ

ตามรายงานของ ฟลอเรียน เพล็ทเท่นเบิร์ก ผู้สื่อข่าวจาก สกาย เยอรมนี ระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เริ่มต้นเจรจาเบื้องต้นกับสปอร์ติ้ง โดยมีเป้าหมายในการคว้าลายเซ็นของหัวหอกชาวสวีเดน ซึ่งพัฒนาฝีเท้าอย่างก้าวกระโดดภายใต้การคุมทีมของรูเบน อโมริม

อย่างไรก็ตาม การคว้าตัวโยเคเรสจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับปีศาจแดง เนื่องจากพวกเขาอาจต้องขายผู้เล่นบางรายเพื่อระดมทุน และยังต้องเผชิญกับการแข่งขันจากคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้

โยเคเรสไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับวงการฟุตบอลอังกฤษ โดยเขาเคยค้าแข้งกับโคเวนทรี ซิตี้ ลงเล่น 116 นัด ทำไป 43 ประตู นอกจากนี้ ยังเคยลงเล่นให้ไบรท์ตัน 8 นัด และทำได้ 1 ประตู

การมองหากองหน้าคนใหม่ของแมนฯ ยูไนเต็ดสะท้อนถึงความจำเป็นในแนวรุก แม้ปัจจุบัน มาร์คัส แรชฟอร์ด จะถูกดันขึ้นไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า แต่ตำแหน่งธรรมชาติของเขาคือปีกซ้าย

ในเกมที่เพิ่งถล่มเอฟเวอร์ตัน 4-0 โจชัว เซิร์กซี ยิงไป 2 ประตู แต่เขาถูกจับเล่นในตำแหน่งที่ลึกกว่าปกติ ขณะที่ ราสมุส ฮอจลุนด์ ศูนย์หน้าค่าตัว 72 ล้านปอนด์ ที่ย้ายเข้ามาเมื่อฤดูกาลก่อน กลับไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลยในสองเกมล่าสุดภายใต้การคุมทีมของอโมริม

การเดินหน้าคว้าตัวโยเคเรสสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของแมนฯ ยูไนเต็ดในการยกระดับเกมรุกและสร้างความต่อเนื่องในแนวหน้าของทีมในอนาคต.

รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงปลุกเร้านักเตะให้พร้อมเผชิญหน้าความท้าทายใหญ่ ในเกมพรีเมียร์ลีกที่จะบุกเยือน อาร์เซน่อล ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม คืนวันที่ 4 ธันวาคม 2567

ภายใต้การคุมทีมของอโมริม แมนฯ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ตได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยผลงานไม่แพ้ใครใน 3 เกมแรก อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวโปรตุเกสยอมรับว่าการเจอกับ “ปืนใหญ่” ครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบที่หนักหนา แม้ทีมจากลอนดอนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปจากช่วงต้นฤดูกาล

อโมริมกล่าวถึงคู่แข่งว่า “อาร์เซน่อลเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดที่เราเคยเจอมา แต่ทุกเกมล้วนเป็นบททดสอบที่แตกต่างกันไป”

“หากคุณดูเกมที่ผ่านมา มันอาจดูง่ายจากสกอร์ แต่สำหรับผม มันไม่ใช่เลย ทุกเกมในตอนนี้เต็มไปด้วยความซับซ้อน เราต้องบริหารจัดการนักเตะให้ดี หลายคนลงสนามต่อเนื่องและเราไม่มีเวลามากพอสำหรับการซ้อมอย่างเต็มที่”

เขาเน้นถึงความสำคัญของความกล้าหาญในเกมนี้ โดยระบุว่า “กับอาร์เซน่อล มันจะเป็นงานยากแน่นอน แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องเล่นด้วยความกล้าหาญ”

“เมื่อผมพูดถึงความกล้าหาญ มันไม่ได้หมายถึงการเพรสซิ่งอย่างบ้าคลั่งตลอดเวลา แต่มันเกี่ยวกับการเข้าใจจังหวะของเกม เราต้องพยายามครองบอลในบางช่วง และควบคุมเกมให้ได้ แม้ว่าในเกมระดับนี้จะเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมทุกอย่างตลอด 90 นาที แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องสร้างช่วงเวลาที่เราคุมเกมได้”

อโมริมยังย้ำว่านี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทีมต้องแสดงความมั่นใจและความมุ่งมั่น เพื่อผลักดันให้ผ่านด่านยากนี้ไปได้อย่างมีศักดิ์ศรี.

อาร์เน่อ สล็อต กุนซือ ลิเวอร์พูล ยืนยันว่า ควีวิน เคลเลเฮอร์ จะยังคงได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาในเกมพรีเมียร์ลีกที่ทีมจะบุกเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในคืนวันพุธที่ 4 ธันวาคมนี้ เนื่องจาก อลิสซง เบ็คเกอร์ ยังไม่พร้อมลงสนาม

แม้ว่า อลิสซง จะกลับมาซ้อมร่วมกับทีมได้แล้ว แต่เขายังอยู่ในกระบวนการเรียกความฟิตเต็มร้อย ขณะที่ เคลเลเฮอร์ กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยล่าสุดเจ้าตัวเก็บคลีนชีตในเกมที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 และมีผลงานเด่นกับการเซฟจุดโทษของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกทั้งยังเก็บคลีนชีตได้ 4 จาก 5 เกมหลังสุด

กุนซือวัย 46 ปี กล่าวถึงการตัดสินใจเลือกผู้รักษาประตูว่า “ในฐานะเฮดโค้ชของลิเวอร์พูล ผมต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจสำคัญในทุกๆ เกม และตำแหน่งผู้รักษาประตูคือหนึ่งในนั้น เรามีผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้ เคลเลเฮอร์ กำลังอยู่ในช่วงที่ทำผลงานได้ดีมากจนยากจะมองข้าม”

“อลิสซง ใกล้จะฟิตสมบูรณ์แล้ว แต่ตอนนี้เราต้องการให้เขากลับมาในสภาพที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ 50% เราคาดหวังว่าเขาจะกลับมาพร้อมลงสนามได้ภายในสิ้นเดือนธันวาคม”

สำหรับเกมนี้ ลิเวอร์พูล ซึ่งรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก จะลงเล่นภายใต้ความมั่นใจจากฟอร์มที่กำลังร้อนแรง โดย เคลเลเฮอร์ ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทั้งโค้ชและเพื่อนร่วมทีมให้สานต่อฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในช่วงเวลาที่ทีมกำลังเร่งทำคะแนนเพื่อหนีห่างคู่แข่ง.

เรอัล มาดริด เล็งคว้าตัว ดิโอโก้ ดาโลต์ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจพิจารณาข้อเสนอ 50 ล้านปอนด์ – Peter Hall รายงาน

เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่จากลาลีกา กำลังแสดงความสนใจอย่างจริงจังในตัว ดิโอโก้ ดาโลต์ ฟูลแบ็กทีมชาติโปรตุเกสของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยตามรายงานจาก Peter Hall ระบุว่า “ราชันชุดขาว” อาจเตรียมยื่นข้อเสนอสูงถึง 50 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวนักเตะรายนี้ในตลาดซื้อขายรอบถัดไป

ถ้าหากดีล เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ล่ม

โอมาร์ มาร์มูช เนื้อหอม! แมนฯ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส, บาร์เซโลนา และ เปแอสเช รุมจับตาดาวยิงแฟรงค์เฟิร์ต – The Mirror เผย

สถานการณ์ตลาดซื้อขาย
แหล่งข่าวเผยว่า แม้สัญญาของมาร์มูชกับแฟรงค์เฟิร์ตยังเหลืออีกหลายปี แต่ด้วยฟอร์มที่น่าประทับใจและความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ อาจทำให้ทีมจากบุนเดสลีกาพิจารณาเปิดโต๊ะเจรจาหากได้รับข้อเสนอที่เหมาะสม โดยราคาประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ราว 55-60 ล้านยูโร

อนาคตของมาร์มูช
สำหรับโอมาร์ มาร์มูช การย้ายไปเล่นในลีกที่ใหญ่กว่า เช่น พรีเมียร์ลีก หรือลาลีกา อาจช่วยยกระดับอาชีพของเขาได้เป็นอย่างมาก แต่เขาต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลนี้ เพื่อดึงดูดข้อเสนอจากสโมสรชั้นนำเหล่านี้

ลิเวอร์พูล เตรียมดึง เจเรมี ฟริมปง หากเสีย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เลเวอร์คูเซนตั้งค่าตัว 60 ล้านยูโร – Sacha Tavolieri รายงาน

ลิเวอร์พูล อาจเตรียมแผนสำรองไว้ล่วงหน้าในกรณีที่ต้องเสีย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หนึ่งในดาวเด่นของทีม โดยตามรายงานจาก Sacha Tavolieri นักข่าวที่มีชื่อเสียงด้านตลาดซื้อขายนักเตะระบุว่า “หงส์แดง” ได้เล็ง เจเรมี ฟริมปง แบ็กขวาตัวเก่งของไบเออร์ เลเวอร์คูเซน เป็นเป้าหมายหลักในการเสริมทัพ

เจเรมี ฟริมปง แบ็กวัย 22 ปีชาวดัตช์ ทำผลงานยอดเยี่ยมในบุนเดสลีกา ฤดูกาลที่ผ่านมา เขามีจุดเด่นในเกมรุกที่ดุดัน สามารถสร้างโอกาสและยิงประตูได้ดี โดยทำไป 8 ประตู และ 7 แอสซิสต์ในลีกฤดูกาลล่าสุด ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงนี้ เลเวอร์คูเซนจึงตั้งค่าตัวของเขาไว้ที่ 60 ล้านยูโร ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงความสำคัญของนักเตะรายนี้ในแผนการเล่นของทีม

แหล่งข่าวเผยว่า การตัดสินใจของลิเวอร์พูลขึ้นอยู่กับอนาคตของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่กำลังได้รับความสนใจจากหลายทีมในยุโรป โดยเฉพาะบาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด หากลิเวอร์พูลไม่สามารถรั้งตัวเขาไว้ได้ สโมสรอาจหันไปหาฟริมปงเพื่อเข้ามาเติมเต็มตำแหน่งแบ็กขวา ด้วยสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะความสามารถในการช่วยเกมรุกและการครอสบอลที่แม่นยำ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมขยายสัญญา อาหมัด ดิอัลโล หวังสร้างอนาคตระยะยาวกับดาวรุ่งตัวเก่ง – Fabrizio Romano รายงาน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเดินหน้าแผนสำคัญเพื่ออนาคต โดยมีรายงานจาก Fabrizio Romano นักข่าวชื่อดังด้านตลาดซื้อขายนักเตะ เปิดเผยว่าทีม “ปีศาจแดง” ต้องการขยายสัญญากับ อาหมัด ดิอัลโล ปีกดาวรุ่งชาวไอวอรีโคสต์ ซึ่งมีอนาคตสดใสและกำลังได้รับความสนใจจากหลายทีมในยุโรป

ดิอัลโล ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2021 ด้วยค่าตัวประมาณ 37 ล้านยูโร รวมโบนัส จากสโมสรอตาลันตา แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้รับโอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่มากนัก แต่ผลงานในการถูกปล่อยยืมตัวกับซันเดอร์แลนด์ในฤดูกาลที่ผ่านมา ถือว่าโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยเขายิงได้ 14 ประตู และทำ 4 แอสซิสต์ในแชมเปี้ยนชิพ พร้อมพาซันเดอร์แลนด์ทะลุถึงรอบเพลย์ออฟ

รายงานระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อมั่นในศักยภาพของดาวรุ่งวัย 21 ปีรายนี้ และหวังจะผูกมัดเขาไว้กับสโมสรในระยะยาว สัญญาฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างการพูดคุยคาดว่าจะเป็นการเพิ่มระยะเวลาพร้อมปรับค่าเหนื่อยให้เหมาะสมกับบทบาทในอนาคต

รูเบน อโมริม กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมเปิดการเจรจาเกี่ยวกับสัญญาฉบับใหม่กับ อาหมัด ดิยัลโล่ ปีกดาวรุ่งชาวไอวอรี่ โคสต์ หลังนักเตะสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของทีมได้อย่างรวดเร็ว

ดิยัลโล่ วัย 22 ปี โดดเด่นในเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดที่ “ปีศาจแดง” เปิดบ้านถล่ม เอฟเวอร์ตัน 4-0 โดยเขาทำ 2 แอสซิสต์ และเล่นได้อย่างเข้าขากับระบบ 3-4-3 ของอโมริม ซึ่งมีการปรับตำแหน่งให้เขาเล่นในบทบาทวิงแบ็คขวา ด้วยผลงานดังกล่าว ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมเดินหน้าเจรจาขยายสัญญาใหม่ให้กับดิยัลโล่ หลังจากปัจจุบันเจ้าตัวเหลือสัญญาเพียงแค่ปีเดียว

ในฤดูกาลนี้ ดิยัลโล่ ลงสนามไปแล้ว 19 นัดในทุกรายการ ทำได้ 3 ประตูและ 5 แอสซิสต์ โดยถือเป็นการกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง หลังจากช่วงแรกของการย้ายมาจากอตาลันต้าด้วยค่าตัว 37.2 ล้านปอนด์ในปี 2021 เขาไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ จนต้องถูกปล่อยยืมตัวไปยัง เรนเจอร์ส และ ซันเดอร์แลนด์

อย่างไรก็ตาม หลังกลับมาสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดในฤดูกาลนี้ ดิยัลโล่ ได้รับโอกาสจากอโมริมอย่างต่อเนื่อง และพิสูจน์ตัวเองได้สำเร็จ ด้วยฟอร์มที่น่าประทับใจจนมีข่าวว่าสโมสรพร้อมที่จะต่อยอดการพัฒนาของเขาด้วยการมอบสัญญาฉบับใหม่

หากการต่อสัญญาเกิดขึ้น จะถือเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของดาวเตะรายนี้ในการเป็นส่วนสำคัญของแผนการสร้างทีมของอโมริมในระยะยาว.

อาร์เน่อ สล็อต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ออกโรงเตือนลูกทีมและแฟนบอลว่าการพูดถึงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกยังคงเป็นเรื่องที่เร็วเกินไป พร้อมชี้ว่าทีมในกลุ่มท็อป 6 ยังเป็นอุปสรรคที่ต้องระวังอย่างยิ่ง

ลิเวอร์พูลทำแต้มทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าไปถึง 11 คะแนน และนำ อาร์เซน่อล รองจ่าฝูงอยู่ 9 แต้ม หลังชัยชนะล่าสุดในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะแมนฯ ซิตี้ 2-0 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม อาร์เน่อ สล็อต ยืนยันว่าทีมยังต้องรักษาความมุ่งมั่นและความสม่ำเสมอเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า

“เรามีความสุขกับชัยชนะเหล่านี้ โดยเฉพาะกับการเจอทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ หรือ เรอัล มาดริด ซึ่งเต็มไปด้วยคุณภาพและกุนซือที่เคยคว้าแชมป์มากมาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอ เราไม่อาจชนะเพียงหนึ่งหรือสองเกมแล้วคิดว่ามันเพียงพอสำหรับการคว้าแชมป์ได้” กุนซือชาวดัตช์กล่าว

เขาอธิบายเพิ่มเติมถึงความท้าทายในลีกว่า “ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ เรอัล มาดริด ประสบความสำเร็จมาได้เพราะพวกเขาสามารถชนะได้อย่างต่อเนื่องในทุกๆ สามวัน ความสำเร็จในระยะยาวไม่ได้มาจากชัยชนะไม่กี่เกม แต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอและการรักษามาตรฐานตลอดฤดูกาล”

นอกจากนี้ อาร์เน่อ ยังเตือนถึงศักยภาพของคู่แข่งสำคัญในพรีเมียร์ลีกว่า “อย่ามองข้ามทีมอื่นในกลุ่มท็อป 6 ทั้ง อาร์เซน่อล, เชลซี หรือแม้กระทั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ทุกทีมล้วนมีศักยภาพที่จะกลับมาชนะรวดได้ พวกเขายังอันตรายและจะเป็นภัยสำหรับเราในระยะยาว”

ท้ายที่สุด เขาสรุปว่า “ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ฟอร์มการเล่นในปัจจุบัน แต่มันคือการรักษาฟอร์มให้ได้จนถึงวันสุดท้ายของฤดูกาล การมีผู้เล่นที่ฟิตสมบูรณ์และเล่นด้วยความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องคือกุญแจสำคัญ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และเรายังมีเส้นทางอีกยาวไกลที่ต้องเดินต่อ”

ด้วยคำเตือนนี้ อาร์เน่อแสดงให้เห็นถึงความชัดเจนและความระมัดระวังในเป้าหมายของลิเวอร์พูล แม้ผลงานปัจจุบันจะน่าประทับใจ แต่เขาย้ำว่าเส้นทางสู่แชมป์ยังคงเต็มไปด้วยความท้าทายที่รออยู่.

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังถล่ม เอฟเวอร์ตัน 4-0 ด้วยผลงานสุดยอดจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด และ โจชัว เซิร์กซี ที่ทำคนละสองประตู พร้อมฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งในทุกตำแหน่ง

รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด จัดทีมในระบบ 3-4-2-1 พร้อมปรับหมากสำคัญ โดยส่ง โจชัว เซิร์กซี ยืนหน้าเป้าแทน ราสมุส ฮอยลุนด์ และให้ ค็อบบี้ เมนู กลับมาเป็นตัวจริงในแดนกลางหลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ แรชฟอร์ด, ดาโลต์ และ อาหมัด ดิยัลโล่ คอยเติมเกมรุกจากด้านข้าง

ทางด้าน ฌอน ไดช์ เฮดโค้ชเอฟเวอร์ตัน ปรับเพียงจุดเดียว ดร็อป โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน ไว้ที่ม้านั่งสำรอง แล้วเลือกใช้ เบโต้ ในตำแหน่งหน้าเป้า แต่แผนการเล่นไม่อาจหยุดยั้งฟอร์มร้อนแรงของเจ้าบ้านได้

รายชื่อผู้เล่นตัวจริง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-2-1):
อ็องเดร โอนาน่า – นุสแซร์ มาซราอุย, มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ – อาหมัด ดิยัลโล่, กาเซมีโร่, ค็อบบี้ เมนู, ดิโอโก้ ดาโลต์ – บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – โจชัว เซิร์กซี

เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1):
จอร์แดน พิคฟอร์ด – แอชลี่ย์ ยัง, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, จาร์ราด แบรนธ์เวต, วิตาลี่ มิโคเลนโก้ – อับดูลาย ดูกูเร่, อิดริสซ่า กาน่า เกย์ – เยสเปอร์ ลินด์สตรอม, ดไวท์ แม็คนีล, อิลิมาน เอ็นดิอาย – เบโต้

เกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในเกมรุกและความสมดุลในแดนกลาง โดยเฉพาะ เซิร์กซี ที่สร้างโอกาสทำประตูได้จากความแข็งแกร่งและการเคลื่อนไหวในเขตโทษ ควบคู่กับ แรชฟอร์ด ที่โดดเด่นทั้งการทำประตูและช่วยสร้างเกม

การชนะครั้งนี้ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขยับอันดับในตาราง พร้อมสร้างความมั่นใจก่อนเกมใหญ่ในสัปดาห์หน้า ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ต้องรีบปรับปรุงแผนหากต้องการเก็บแต้มในนัดถัดไป