Home Blog Page 6

100 ล้านก็ไม่ขาย! นิวคาสเซิลปิดประตูปล่อยอิซัคซบหงส์

0

ความพยายามของ ลิเวอร์พูล ในการคว้าตัว อเล็กซานเดอร์ อิซัค ศูนย์หน้าตัวเก่งของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิด หลังจากที่ ยาเซียร์ อัล-รูมายยาน ประธานสโมสรออกโรงขวางดีลนี้ด้วยตนเอง แม้ตัวนักเตะจะสนใจเจรจาย้ายสู่ถิ่นแอนฟิลด์ก็ตาม

รายงานจากสื่ออังกฤษหลายแห่งระบุว่า “หงส์แดง” ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สลอต ได้ยื่นข้อเสนอเบื้องต้นเพื่อคว้าตัวกองหน้าทีมชาติสวีเดนที่ซัดไปถึง 27 ประตู ในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ถูก “เดอะ แม็กพายส์” ปฏิเสธอย่างแข็งขัน พร้อมประกาศชัดเจนว่า อิซัค จะไม่ถูกขายออกไปในช่วงซัมเมอร์นี้ ไม่ว่าค่าตัวจะสูงเพียงใด


สัญญาใหม่ยังนิ่ง – ตัวนักเตะเริ่มลังเล

แม้อิซัคจะยังมีสัญญากับสโมสรจนถึงปี 2028 แต่ปัญหาที่สั่งสมมาจากความไม่คืบหน้าในการเจรจาสัญญาใหม่ และความล่าช้าในการปรับปรุงค่าเหนื่อยจากเดิมที่รับอยู่ 130,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ทำให้ทีมงานของนักเตะเริ่มไม่พอใจ

ก่อนหน้านี้ อแมนด้า สเตฟลี่ย์ และ เมห์ดัด โกดูสซี่ อดีตเจ้าของร่วม เคยให้คำมั่นว่าจะมีการปรับสัญญาใหม่ให้กับดาวยิงวัย 24 ปี แต่เมื่อเข้าสู่ยุคของผู้บริหารใหม่ เรื่องดังกล่าวกลับเงียบหาย โดย พอล มิตเชลล์ อดีตผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร เป็นผู้ระงับการเจรจานั้นไว้ เนื่องจากมองว่าค่าเหนื่อยปัจจุบันถือว่า “สมเหตุสมผล” แล้ว

แม้มิตเชลล์จะอำลาตำแหน่งไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววการเปิดโต๊ะเจรจารอบใหม่ และยังไม่แน่ชัดว่าอิซัคพร้อมจะฝากอนาคตระยะยาวไว้กับทีมในถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค หรือไม่


ลิเวอร์พูลมองเอกิติเก้เป็นแผนสำรอง

ท่ามกลางความไม่ชัดเจนในดีลอิซัค ลิเวอร์พูลได้เปิดการเจรจาควบคู่กับ อูโก้ เอกิติเก้ หัวหอกจากแฟร้งค์เฟิร์ต โดยสื่อเยอรมันรายงานว่า “หงส์แดง” กำลังเร่งเดินหน้าเสนอค่าตัวที่ใกล้เคียง 80 ล้านปอนด์ หลังข้อเสนอของนิวคาสเซิลมูลค่า 70 ล้านปอนด์ถูกปฏิเสธไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

รายงานระบุว่า เอกิติเก้ตอบตกลงสัญญาเบื้องต้นระยะเวลา 6 ปีแล้ว และหากดีลนี้สำเร็จ ก็อาจเป็นการปิดฉากความพยายามในการล่าตัวอิซัคของลิเวอร์พูลไปโดยปริยาย


นิวคาสเซิลเตรียมยื่นสัญญาใหม่ – ค่าเหนื่อยสูงสุดในประวัติศาสตร์ทีม

เพื่อแสดงจุดยืนในการรั้งตัวอิซัคให้อยู่ต่อ นิวคาสเซิลมีแผนยื่นข้อเสนอฉบับใหม่ ด้วยค่าเหนื่อยรวมแพ็คเกจมากกว่า 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่รับค่าเหนื่อยสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

ข้อเสนอดังกล่าวอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้หัวหอกชาวสวีดิชตัดสินใจอยู่ลุยโปรเจกต์ระยะยาวกับทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ต่อไป ท่ามกลางความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ทั่วยุโรป

ม้าลายขยับ! ยูเวนตุสจับตาแรชฟอร์ด หลังหลุดแผนแมนยู

0

ยูเวนตุส ทีมแกร่งจากศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ตกเป็นข่าวให้ความสนใจในการคว้าตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาเสริมแนวรุกในตลาดซัมเมอร์นี้

รายงานจาก Sky Sport Italia เปิดเผยว่า บอร์ดบริหารของทีม “ม้าลาย” กำลังประเมินความเป็นไปได้ในการเจรจาข้อตกลงสำหรับดีลดาวยิงวัย 27 ปี โดยมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการเพิ่มทางเลือกในแดนหน้าภายใต้แผนงานของกุนซือคนใหม่


บาร์ซ่าร่วมวง – หวังยืมตัวเสริมเกมรุก

นอกจากยูเวนตุสแล้ว ยังมีรายงานว่า บาร์เซโลน่า ก็ให้ความสนใจในตัวแรชฟอร์ดเช่นกัน โดยเล็งใช้วิธียืมตัวในฤดูกาล 2024/25 และมีการเปิดโต๊ะเจรจากับตัวแทนของนักเตะแล้ว ซึ่งก็คือ ดเวน เมย์นาร์ด พี่ชายของเขาเองที่ดูแลเรื่องสัญญา


แรชฟอร์ดหลุดแผนแมนยู – อนาคตไม่แน่นอน

สถานการณ์ของแรชฟอร์ดในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดเริ่มไม่แน่นอน หลังถูกแยกซ้อมจากทีมชุดใหญ่ในช่วงปรีซีซั่น โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เล่นที่ “ปีศาจแดง” พร้อมปล่อยออกจากทีม

ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าตัวยังถูกถอดจากหมายเลข 10 ซึ่งถูกมอบให้กับ มาเตอุส คุนญ่า กองหน้ารายใหม่ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงถึง 62.5 ล้านปอนด์

ขณะเดียวกัน ยูเวนตุสเองก็กำลังมองหาทางเลือกใหม่ในเกมรุก โดยมีชื่อของ เจดอน ซานโช่ ปีกตกอับอีกคนจากแมนยู ติดโผเป็นตัวเลือกในการยืมตัวเช่นเดียวกัน


✅ บทสรุป

แม้ยังไม่มีข้อเสนออย่างเป็นทางการจากทั้งยูเวนตุสหรือบาร์เซโลน่า แต่สถานการณ์ของแรชฟอร์ดกำลังเป็นจุดสนใจในตลาดซื้อขายครั้งนี้ และการเปลี่ยนแปลงในทีมแมนยูอาจผลักดันให้ดีลนี้เกิดขึ้นได้จริงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

โรนัลโด้เร้าอัล นาสเซอร์ ทุ่ม 100 ล้านยูโรล่าตัวหลุยส์ ดิอาซ

0

มีรายงานจาก SPORT สื่อดังของสเปน เผยว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ของ อัล นาสเซอร์ ได้แจ้งความต้องการต่อบอร์ดบริหารสโมสรให้เร่งคว้าตัว หลุยส์ ดิอาซ ปีกความเร็วสูงจากลิเวอร์พูลมาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้

ดิอาซ กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายเบอร์ต้นของสโมสรจาก ซาอุดี โปรลีก โดยมีรายงานว่า ลิเวอร์พูล ได้ตั้งค่าตัวของแข้งทีมชาติโคลอมเบียวัย 28 ปี ไว้ที่ประมาณ 100 ล้านยูโร หรือราว 85 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงจนทำให้หลายทีมในยุโรปต้องถอยกลับไปพิจารณาใหม่ ทั้ง บาเยิร์น มิวนิค และ บาร์เซโลน่า ที่ตกเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม อัล นาสเซอร์ คือสโมสรเดียวที่พร้อมเดินหน้าเต็มที่ และพร้อมจ่ายค่าตัวตามที่ลิเวอร์พูลต้องการ หากสามารถโน้มน้าวนักเตะได้สำเร็จ


🔵 โรนัลโด้กดดันสโมสร หวังเพิ่มอาวุธเกมรุก

แหล่งข่าวระบุว่า โรนัลโด้ ซึ่งเพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมจนถึงปี 2026 ต้องการให้สโมสรเพิ่มศักยภาพในแนวรุก โดยเฉพาะฝั่งปีก และมองว่าดิอาซจะเป็นการเสริมทัพที่ลงตัว ทั้งในแง่ของฝีเท้า ความเร็ว และประสบการณ์ในระดับสูง

ดิอาซ นับตั้งแต่ย้ายจาก ปอร์โต้ มาร่วมทีมลิเวอร์พูลในช่วงเดือนมกราคม 2022 ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของ “หงส์แดง” โดยลงสนามไปแล้ว 148 นัด ทำได้ 41 ประตู กับอีก 23 แอสซิสต์ และพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ


🔎 ดีลนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่?

แม้ลิเวอร์พูลจะไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการปล่อยดิอาซ แต่พวกเขายังคงยืนกรานตัวเลขค่าตัวที่สูง เพื่อสะท้อนถึงความสำคัญของนักเตะต่อแผนการทำทีมฤดูกาลใหม่ ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สลอต

ฝั่งอัล นาสเซอร์เอง ยังต้องลุ้นว่าจะสามารถโน้มน้าวตัวนักเตะให้ยอมย้ายไปค้าแข้งในตะวันออกกลางได้หรือไม่ ท่ามกลางความสนใจจากหลายสโมสรในยุโรป และความตั้งใจของดิอาซ ที่ยังไม่เคยแสดงท่าทีชัดเจนเกี่ยวกับอนาคต

ทางการ! เอซี มิลาน เปิดตัว “ลูก้า โมดริช” ร่วมทีม 1 ปี

0

เอซี มิลาน สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา ประกาศคว้าตัว ลูก้า โมดริช กองกลางระดับตำนานของเรอัล มาดริดมาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัวอย่างเป็นทางการ ด้วยสัญญาเบื้องต้น 1 ปี พร้อมออปชั่นขยายถึงปี 2027

แข้งทีมชาติโครเอเชียวัย 38 ปี ผ่านการตรวจร่างกายและเซ็นสัญญาเรียบร้อย โดยจะสวมเสื้อหมายเลข 14 ให้กับทัพ “ปีศาจแดง-ดำ” ในฤดูกาลหน้า ซึ่งหากเขาอยู่ครบตามออปชั่น จะทำให้โมดริชค้าแข้งในระดับสูงไปจนถึงอายุ 41 ปี


📝 ประวัติสุดยิ่งใหญ่ของโมดริช

โมดริชลงเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ไปมากถึง 597 นัด ทำได้ 43 ประตู ตลอดช่วงเวลากว่า 13 ปี และกลายเป็นหนึ่งในแข้งประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยมีเกียรติยศเต็มตู้ ทั้ง:

  • แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 6 สมัย
  • ลาลีกา 4 สมัย
  • ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 5 สมัย
  • ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 5 สมัย
  • โกปา เดล เรย์ 2 สมัย
  • ซูเปอร์โคปา เด เอสปันญา 5 สมัย
  • และรางวัล บัลลงดอร์ ในปี 2018 ซึ่งเป็นคนแรกในรอบ 10 ปีที่แทรกคว้ารางวัลจากยุคของเมสซี่-โรนัลโด้ได้

ในระดับทีมชาติ โมดริชคือตัวหลักของทีมชาติโครเอเชียมายาวนาน ลงสนามไปแล้ว 188 นัด ยิงได้ 22 ประตู และเป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นที่ติดทีมชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ


⚽ เส้นทางค้าแข้ง

การย้ายมาอยู่กับ เอซี มิลาน ถือเป็นสโมสรที่ 4 ในชีวิตของลูก้า โมดริช ต่อจาก ดินาโม ซาเกร็บ, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และ เรอัล มาดริด โดยคาดว่าจะเข้ามาเติมประสบการณ์และความเป็นผู้นำให้กับแดนกลางของมิลานที่กำลังสร้างทีมใหม่ภายใต้ยุคถ่ายเลือด

แฟนบอลเซเรีย อา เตรียมต้อนรับอีกหนึ่งตำนานลูกหนังระดับโลกที่ยังคงเดินหน้าต่อบนเวทีระดับสูง แม้อายุจะเข้าใกล้เลขสี่ก็ตาม

ฟีฟ่ารับมือวิกฤตร้อน! ฟุตบอลโลก 2026 ใช้เฉพาะสนามมีหลังคาปิด

0

จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า ฟุตบอลโลก 2026 ที่จะจัดขึ้นใน สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก จะเลือกใช้เฉพาะสนามแข่งขันที่มี หลังคาปิด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนของทวีปอเมริกาเหนือ

คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดกระแสความกังวลเกี่ยวกับอุณหภูมิที่สูงเกินมาตรฐานในการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่สหรัฐฯ โดยเฉพาะในรอบรองชนะเลิศที่ เชลซี พบ ฟลูมิเนนเซ่ ซึ่งเตะกันท่ามกลางอุณหภูมิสูงถึง 35.5°C ส่งผลให้ผู้เล่นหลายราย รวมถึง เอนโซ่ เฟร์นานเดซ เผยว่าเกิดอาการเวียนหัวขณะลงสนาม

ขณะเดียวกัน ในเมืองเจ้าภาพอย่าง ฟิลาเดลเฟีย ยังมีการประกาศ เตือนภัยสุขภาพระดับรหัสแดง ขณะที่พายุฝนฟ้าคะนองทำให้บางเกมต้องถูกเลื่อนออกไป รวมถึงแมตช์รอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่าง เชลซี กับ เบนฟิก้า ที่ล่าช้ากว่า 2 ชั่วโมง

อินฟานติโน่แถลงที่นิวยอร์กว่า ฟีฟ่าให้ความสำคัญกับเสียงสะท้อนจากนักเตะและสตาฟฟ์โค้ช และจะดำเนินการปรับปรุงมาตรการให้เหมาะสมกับความปลอดภัยของทุกฝ่าย

“เราได้รับข้อเสนอแนะมากมายเกี่ยวกับสภาพอากาศ และได้นำไปวิเคราะห์อย่างจริงจัง” อินฟานติโน่กล่าว
“การแข่งขันกลางวันในช่วงซัมเมอร์เป็นความท้าทาย ซึ่งไม่ต่างจากมหกรรมกีฬาอื่น ๆ อย่างโอลิมปิกเช่นกัน ดังนั้นการพักคูลลิ่งเบรก รวมถึงการใช้สนามที่มีหลังคา จะเป็นแนวทางหลักของเราในปีหน้า”


✅ สนามปิดหลังคา พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ

หลายสนามที่เตรียมใช้ในฟุตบอลโลก 2026 เช่น เมอร์เซเดส เบนซ์ สเตเดียม (แอตแลนตา), AT&T สเตเดียม (ดัลลาส), เอ็นอาร์จี สเตเดียม (ฮูสตัน) และ บีซี เพลซ สเตเดียม (แวนคูเวอร์) ต่างก็มีหลังคาปิดพร้อมระบบปรับอากาศครบครัน เพื่อรับมือกับสภาพอากาศสุดโต่งโดยเฉพาะในช่วงกลางวัน

สำหรับการแข่งขัน รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลสโมสรโลก 2025 ที่จะมีขึ้นระหว่าง เชลซี พบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ เม็ตไลฟ์ สเตเดียม นิวเจอร์ซีย์ ในเวลา 15:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าอุณหภูมิจะอยู่ที่ราว 28.8°C แต่ฟีฟ่าเชื่อว่าระบบภายในสนามจะสามารถจัดการได้อย่างปลอดภัย

ยูฟ่ายึดกฎเจ้าของร่วม พาเลซถูกลดชั้น – ฟอเรสต์จ่อเสียบแทน

0

กลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการฟุตบอลยุโรป เมื่อ คริสตัล พาเลซ แชมป์เอฟเอ คัพ 2024–25 ถูกตัดสิทธิ์จากการลงแข่งขันใน ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ซีซั่นหน้า และถูกลดระดับไปเล่นในรายการ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก แทน แม้จะมีผลงานควรค่าแก่การไปเล่นรายการใหญ่อีกขั้นก็ตาม

สาเหตุหลักมาจากการที่ จอห์น เท็กซ์เตอร์ นักลงทุนชาวอเมริกัน ถือหุ้นใหญ่ในทั้ง พาเลซ และ โอลิมปิก ลียง ซึ่งก็ได้สิทธิ์ไปยูโรปา ลีก เช่นกันหลังจบอันดับ 6 ในลีก เอิง และชนะอุทธรณ์โทษตกชั้นของตัวเอง


🔍 ทำไม “เจ้าของร่วม” บางกรณีจึงได้เล่นพร้อมกัน?

หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมกรณี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ คิโรน่า ซึ่งอยู่ภายใต้เครือข่ายของ City Football Group (CFG) จึงสามารถร่วมแข่งขันใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ในฤดูกาล 2024–25 ขณะที่พาเลซกับลียงกลับทำไม่ได้?

คำตอบจากทาง ยูฟ่า คือโครงสร้างความเป็นเจ้าของและการดำเนินงานของกลุ่มอย่าง CFG หรือกรณี เรด บูลล์ ที่เคยเกิดขึ้นกับ ซัลซ์บวร์ก และ แอร์เบ ไลป์ซิก ในปี 2017 นั้นมีความชัดเจนในการ “แยกธุรกิจและอำนาจบริหาร” ระหว่างสโมสรอย่างเป็นทางการ ทั้งในด้านการเงิน ผู้บริหาร และนโยบายการตัดสินใจ

ในขณะที่ฝั่งของพาเลซและลียง ยังพบสายสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของ (เท็กซ์เตอร์) กับโครงสร้างทุนเดิม แม้ว่าจะมีการขายหุ้นบางส่วนให้กับ วูดดี้ จอห์นสัน เจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล นิวยอร์ก เจ็ตส์ แล้วก็ตาม แต่กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้น “หลังเส้นตาย” ที่ยูฟ่ากำหนดไว้ในวันที่ 1 มีนาคม


⚖️ พาเลซเตรียมอุทธรณ์ ชี้ยูฟ่าใช้มาตรฐานสองแบบ

จากสถานการณ์นี้ สื่ออังกฤษหลายสำนักรายงานตรงกันว่า คริสตัล พาเลซ เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา (CAS) โดยเชื่อว่า ยูฟ่าใช้สองมาตรฐาน ในการพิจารณากรณีความเป็นเจ้าของร่วม

หากพาเลซไม่สามารถอุทธรณ์ได้สำเร็จ ทีมที่ได้ประโยชน์ทันทีคือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งจบอันดับตามหลังในพรีเมียร์ลีก และมีโอกาสถูกดันขึ้นไปแทนใน ยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้า


📌 บทสรุป

ยูฟ่ายังคงยึดหลักการห้ามสโมสรที่มีเจ้าของคนเดียวกันหรือมีโครงสร้างบริหารร่วม เข้าร่วมแข่งขันรายการเดียวกันในฟุตบอลยุโรปเพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน แต่อำนาจการตัดสินใจขึ้นอยู่กับความชัดเจนของ “โครงสร้างแยกตัว” และช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงภายในองค์กร

กรณีของ ซิตี้-คิโรน่า ผ่านเกณฑ์เพราะแสดงหลักฐานการแยกบริหารได้ครบถ้วนภายในเส้นตาย ขณะที่ พาเลซ-ลียง ยังไม่สามารถสลัดภาพความเกี่ยวข้องเดิมได้ทันเวลา

เชลซีขอหนัก! มิลานเล็งแจ็คสันแต่ติดค่าตัว 110 ล้านยูโร

0

เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก แสดงจุดยืนชัดเจนไม่ต้องการปล่อย นิโกล่าส์ แจ็คสัน ออกจากทีมง่าย ๆ โดยตั้งค่าตัวหัวหอกทีมชาติเซเนกัลไว้สูงถึง 110 ล้านยูโร ท่ามกลางความสนใจจาก เอซี มิลาน สโมสรชั้นนำจากกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

รายงานจาก Daily Mail ระบุว่า “สิงห์บลูส์” พร้อมรั้งตัวดาวยิงวัย 24 ปีไว้ใช้งาน แม้เพิ่งเสริมแนวรุกใหม่เข้ามา 2 รายในช่วงซัมเมอร์นี้อย่าง เลียม ดีแล็ป และ เจา เปโดร ซึ่งอาจทำให้แจ็คสันตกไปเป็นเพียงตัวเลือกหมุนเวียนในระบบของกุนซือเอ็นโซ่ มาเรสก้า

ขณะเดียวกัน Football Italia เผยว่า มิลานกำลังมองหากองหน้าตัวใหม่เข้ามาเสริมทัพ หลัง แทมมี่ อับราฮัม หมดสัญญายืมตัวและกลับไปร่วมทีมโรมา ส่วน ลูก้า โยวิช ก็เพิ่งแยกทางจากสโมสร ทำให้ แจ็คสัน ถูกวางไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญคือเรื่องค่าตัวที่สูงเกินงบประมาณของ “รอสโซเนรี่” โดยพวกเขาพร้อมยื่นข้อเสนอราว 50 ล้านยูโร พร้อมเงื่อนไขแบ่งจ่ายเป็นงวด หรืออาจพิจารณาเงื่อนไขยืมตัวก่อนซื้อขาด

สำหรับ แจ็คสัน ย้ายจาก บียาร์เรอัล มาร่วมถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ด้วยค่าตัว 37 ล้านยูโร โดยลงสนามให้เชลซีไปแล้ว 81 นัด ยิงได้ 30 ประตู และทำ 12 แอสซิสต์ แม้จะได้รับคำชมเรื่องความขยันและมีส่วนร่วมกับเกมสูง แต่ยังถูกวิจารณ์เรื่องความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย โดยเฉพาะในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก

วิเคราะห์ก่อนเกม! เปแอสเช ดวลเชลซี ชิงแชมป์สโมสรโลก 2025

0

การแข่งขันฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศสายยุโรป เมื่อ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เตรียมลงสนามพบกับ เชลซี ในคืนวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) เพื่อคว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัลรวมสูงถึง 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


🔵 ความพร้อมของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

ลูกทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ผ่านบททดสอบสุดหินมาได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเฉือนเอาชนะ เรอัล มาดริด 3-2 ในรอบตัดเชือกแบบสุดมันส์ แม้จะขาดแนวรับอย่าง วิลเลียน ปาโช่ และ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ จากโทษแบนเกมสุดท้าย แต่โครงสร้างทีมยังคงแข็งแกร่งด้วยการยึดผู้เล่นตัวหลักจากนัดก่อน

แนวรุกยังคงฝากความหวังไว้ที่สามประสาน อุสมาน เดมเบเล่, เดซีเร่ ดูเอ้ และ ควีช่า ควารัตส์เคเลีย ส่วนแดนกลางนำโดย ชูเอา เนเวส, วิตินญ่า และ ฟาเบียน รุยซ์ พร้อมด้วยสองวิงแบ็กฝั่งซ้าย-ขวา นูโน่ เมนเดส และ อาชราฟ ฮาคีมี่


🔵 ความพร้อมของ เชลซี

ฝั่งของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า พาทีมผ่าน ฟลูมิเนนเซ่ มาได้ด้วยสกอร์ 2-0 จากผลงานของ เจา เปโดร ที่ทำสองประตูตั้งแต่เกมแรกของเขากับต้นสังกัดใหม่ และน่าจะได้รับโอกาสออกสตาร์ตอีกครั้ง

ข่าวดีคือ เลียม ดีแล็ป และ ลีวาย โคลวิลล์ พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวเลือกในแนวรับ ขณะที่ มอยเซส ไกเซโด้ ที่บาดเจ็บจากรอบก่อนเริ่มกลับมาซ้อม และมีลุ้นคืนสนาม ส่วน เบอนัวต์ บาเดียชิล ยังต้องเช็กความฟิต และ โนนี มาดูเอเก้ ไม่น่าจะมีชื่อ เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการย้ายทีม

สองแข้งหน้าใหม่อย่าง เจมี่ กิทเทนส์ และ เอสเตเวา วิลเลียน ยังไม่น่าถูกส่งลงเล่นในเกมสำคัญนี้


🔵 รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เปแอสเช (4-3-3):
จานลุยจิ ดอนนารุมม่า – อาชราฟ ฮาคีมี่, มาร์กินโญส, ลูกัส เบรัลโด้, นูโน่ เมนเดส – ชูเอา เนเวส, วิตินญ่า, ฟาเบียน รุยซ์ – เดซีเร่ ดูเอ้, อุสมาน เดมเบเล่, ควารัตส์เคเลีย

เชลซี (4-2-3-1):
โรเบิร์ต ซานเชซ – มาโล กุสโต้, เทรโวห์ ชาโลบาห์, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า – มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนคู, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ – เจา เปโดร


🔵 วิเคราะห์เกม & สกอร์ที่คาด

เปแอสเชกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแรง โดยเฉพาะการเอาตัวรอดจากเกมหนักกับ บาเยิร์น มิวนิค และ เรอัล มาดริด ทั้งที่มีผู้เล่นน้อยกว่า ขณะที่เชลซีแม้มีเกมรุกที่จัดจ้านขึ้น แต่แนวรับยังมีจุดให้ต้องระวัง โดยเฉพาะเกมที่ต้องรับมือกับเกมริมเส้นของเปแอสเช

ด้วยความครบเครื่องทั้งในเชิงแท็กติกและขวัญกำลังใจ เกมนี้แชมป์ยุโรปจากฝรั่งเศสดูมีภาษีเหนือกว่า หากได้ประตูแรกเร็วอาจไหลได้

สกอร์ที่คาด: ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 4-1 เชลซี

เบรนท์ฟอร์ดปิดดีล เฮนเดอร์สัน เตรียมเปิดตัวทางการสัปดาห์นี้

0

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อดีตกัปตันลิเวอร์พูล ใกล้จะกลับมาวาดลวดลายในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าเจ้าตัวกำลังจะเปิดตัวกับ เบรนท์ฟอร์ด สโมสรจากกรุงลอนดอนภายในไม่กี่วันข้างหน้า

ตามรายงานจาก เดวิด ออนสตีน แห่ง The Athletic สื่อชั้นนำในอังกฤษ ระบุว่า เบรนท์ฟอร์ดบรรลุข้อตกลงกับเฮนเดอร์สันเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นสัญญาระยะเวลา 2 ปี ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ Sky Sports ก็รายงานในทิศทางเดียวกันว่า เหลือเพียงรายละเอียดเล็กน้อยก่อนการประกาศย้ายทีมจะเสร็จสิ้น โดยอาจเกิดขึ้นภายใน 72 ชั่วโมง

เฮนเดอร์สัน ตัดสินใจไม่ใช้เงื่อนไขขยายสัญญากับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ต้นสังกัดปัจจุบันในเอเรดิวิซี และกลายเป็นผู้เล่นไร้สังกัดอย่างเป็นทางการ ก่อนตอบรับข้อเสนอจาก “เดอะ บีส์” เพื่อกลับมาค้าแข้งในลีกสูงสุดของอังกฤษอีกครั้ง

ดาวเตะวัย 35 ปี ผ่านประสบการณ์โชกโชน ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติอังกฤษที่เขาลงสนามไปแล้ว 85 นัด โดยเบรนท์ฟอร์ดวางแผนให้เขาเข้ามาแทนที่ คริสเตียน นอร์การ์ด ที่ย้ายไปอยู่กับอาร์เซน่อลในช่วงซัมเมอร์นี้

สำหรับเส้นทางค้าแข้งของเฮนเดอร์สัน ก่อนหน้านี้เขาย้ายออกจากลิเวอร์พูลในปี 2023 เพื่อไปร่วมทีม อัล อิตติฟาก ในลีกซาอุดีอาระเบีย แต่ประสบปัญหาในการปรับตัวและขอยกเลิกสัญญาก่อนย้ายมาร่วมทัพอาแจ็กซ์ในช่วงต้นปี 2024 ซึ่งเขาเลือกไม่ต่อสัญญาเพื่อหาทางกลับสู่พรีเมียร์ลีก

การมาของเฮนเดอร์สันจะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในแดนกลางให้กับเบรนท์ฟอร์ด รวมถึงยกระดับความเป็นผู้นำภายในทีมในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของโปรเจกต์ใหม่

ราชันลุ้นทำลายสถิติ! เตรียมพบเปแอสเช ตัดเชือกสโมสรโลก 2025

0

เรอัล มาดริด กำลังเดินหน้าสู่หน้าประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสรอีกครั้ง เมื่อพวกเขาเตรียมลงสนามพบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในรอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ที่สหรัฐอเมริกา

แมตช์สำคัญนี้ไม่เพียงแค่ตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเท่านั้นที่อยู่บนเส้นทางของทัพ “โลส บลังโกส” แต่ยังหมายถึงโอกาสในการทำลายสถิติยอดชนะมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลของสโมสรที่ยืนยาวมาตั้งแต่ยุคโชเซ่ มูรินโญ่

ปัจจุบัน มาดริด ภายใต้การคุมทัพของ ชาบี อลอนโซ่ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ด้วยการเก็บชัยชนะไปแล้ว 45 นัดจาก 67 เกมทุกรายการ และหากพวกเขาคว้าชัยเหนือเปแอสเชได้สำเร็จ จะทำให้ยอดชนะขยับขึ้นเป็น 46 นัด ซึ่งเท่ากับสถิติสูงสุดของทีมที่เคยทำไว้ในฤดูกาล 2011–12 และ 2013–14

สมัยนั้นราชันชุดขาวเคยกวาดชัย 46 นัด จากการลงสนาม 58 เกม (อัตราชนะ 79.3%) ในซีซั่น 2011–12 และ 60 นัด (อัตราชนะ 76.7%) ในฤดูกาล 2013–14 ซึ่งเป็นช่วงที่ทีมอยู่ในฟอร์มระดับโลก

แม้ในซีซั่นปัจจุบัน เปอร์เซ็นต์ชนะของมาดริดจะไม่สูงเท่ากับอดีต อยู่ที่ประมาณ 67.1% แต่ด้วยจำนวนเกมที่มากขึ้นจากการลุยหลายรายการ ทำให้สถิตินี้น่าทึ่งไม่แพ้กัน

หากพวกเขาผ่านเปแอสเชได้และทะลุเข้าชิงกับ เชลซี ในวันที่ 13 กรกฎาคม มันจะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของยุคใหม่ภายใต้ชาบี อลอนโซ่ ที่กำลังปลุกมาดริดให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และอาจเป็นสัญญาณของยุคทองบทถัดไปที่กำลังเริ่มต้น

ห้ามพลาด!