Home Blog Page 60

โปรแกรมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก – คืนวันที่ 11 ธันวาคม 2567

0

นี่คือโปรแกรมการแข่งขันในรอบลีกเฟสนัดที่6 คืนนี้ (เวลาตามเวลาประเเทศไทย):

  • 00:45 น.
    • แอตเลติโก มาดริด พบ สโลวาน บราติสลาวา
    • ลีลล์ พบ สตวร์ม กราซ
  • 03:00 น.
    • เอซี มิลาน พบ เซอร์เวนา ซเวซดา
    • อาร์เซนอล พบ โมนาโก
    • โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พบ บาร์เซโลนา
    • เฟเยนูร์ด พบ สปาร์ตา ปราก
    • ยูเวนตุส พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
    • เบนฟิกา พบ โบโลญญา
    • สตุ๊ตการ์ท พบ ยัง บอยส์​

เกมคืนนี้มีความสำคัญอย่างมาก โดยทีมที่อยู่ในอันดับ 8 อันดับแรกจะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์โดยอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 9-24 จะเข้าสู่รอบเพลย์ออฟในเดือนกุมภาพันธ์.

“เรอัล มาดริด” เก็บชัยใน UCL แลก”เอ็มบัปเป”เจ็บ

0

วันที่ 11 ธันวาคม 2567 “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยอดทีมจากลา ลีกา สเปน เจอข่าวร้ายในค่ำคืนที่คว้าชัยชนะเหนือ อตาลันตา 3-2 ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบลีกเฟส นัดที่ 6 แม้ผลการแข่งขันจะช่วยให้พวกเขาเก็บสามแต้มสำคัญ แต่ต้องสังเวย คีลิยัน เอ็มบัปเป ที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างเกม

ในนัดนี้ เอ็มบัปเป ยิงประตูขึ้นนำให้ เรอัล มาดริด ตั้งแต่นาทีที่ 10 ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 36 หลังมีอาการบาดเจ็บบริเวณแฮมสตริง รายงานจาก ดิ แอธเลติก ระบุว่าดาวยิงชาวฝรั่งเศสจะเข้ารับการสแกนในวันนี้ เพื่อประเมินความรุนแรงของอาการ

คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือของทีม ออกมาเผยถึงอาการของ เอ็มบัปเป ว่า “เขารู้สึกตึงแฮมสตริง แม้ดูเหมือนจะไม่ใช่อาการร้ายแรง แต่เราจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เขาไม่สามารถวิ่งต่อได้ในสนาม นี่คือเหตุผลที่เราตัดสินใจถอดเขาออกเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจรุนแรงขึ้น”

ปัจจุบัน เรอัล มาดริด กำลังเผชิญปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย รวมถึง ดานี การ์บาฆัล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา, เอดูอาร์โด กามาวิงกา และ แฟร์กล็องด์ เมนดี ซึ่ง เอ็มบัปเป กลายเป็นรายล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาในลิสต์นี้

สำหรับสถานการณ์ในตารางคะแนน รอบลีกเฟส ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เรอัล มาดริด มี 9 คะแนน จาก 6 นัด รั้งอันดับ 18 จาก 24 ทีมที่จะได้เข้าสู่รอบเพลย์ออฟ ขณะที่ อตาลันตา มี 11 คะแนน อยู่ในอันดับ 9

เกมนี้อาจสร้างความกดดันให้ เรอัล มาดริด ไม่เพียงเพราะปัญหานักเตะบาดเจ็บ แต่ยังต้องเตรียมตัวรับมือกับการแข่งขันในรอบต่อไปที่จะยากขึ้นเรื่อยๆ หากทีมไม่สามารถฟื้นฟูความพร้อมของผู้เล่นหลักได้ทันเวลา

สมาคมผู้ตัดสินอังกฤษ (PGMOL) สั่งปลด เดวิด คูต มีผลทันที

0

สมาคมผู้ตัดสินอาชีพอังกฤษ (PGMOL) ได้ตัดสินใจยุติสัญญาจ้างงานของ เดวิด คูต ผู้ตัดสินที่เคยเป็นประเด็นฉาวโฉ่ โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลทันที

สาเหตุของการปลดออก

เดวิด คูต ตกเป็นข่าวอื้อฉาวในช่วงที่ผ่านมา โดยมีคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นว่าเขาใช้คำหยาบคายวิพากษ์วิจารณ์ทีม ลิเวอร์พูล และกุนซือ เยอร์เก้น คล็อปป์ นอกจากนี้ยังมีภาพหลุดที่ถูกกล่าวหาว่าเขากำลังใช้สารบางอย่างที่ดูเหมือนโคเคนในระหว่างเดินทางไปทำหน้าที่ตัดสินการแข่งขัน ยูโร 2024 ที่เยอรมนี

แถลงการณ์จาก PGMOL

PGMOL ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 โดยระบุว่า:

“หลังจากดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของ เดวิด คูต อย่างละเอียด เราได้ข้อสรุปว่าการกระทำของเขาเป็นการละเมิดเงื่อนไขในสัญญาจ้างงานอย่างร้ายแรง ส่งผลให้การจ้างงานของเขาสิ้นสุดลงในวันนี้ โดยมีผลทันที”

สมาคมยังระบุเพิ่มเติมว่าการกระทำของ คูต สร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรและวงการฟุตบอล โดยถือว่าตำแหน่งของเขาไม่อาจรักษาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม PGMOL ย้ำว่าพวกเขายังคงให้ความสำคัญกับการดูแลสวัสดิภาพของ คูต ในฐานะอดีตพนักงาน และเขามีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว

ผลกระทบต่อวงการฟุตบอล

เหตุการณ์นี้นับเป็นเรื่องใหญ่ในวงการผู้ตัดสินของอังกฤษ เนื่องจาก เดวิด คูต เป็นผู้ตัดสินที่มีประสบการณ์ยาวนานในพรีเมียร์ลีก การปลดเขาออกจากตำแหน่งแสดงถึงความเข้มงวดของ PGMOL ในการรักษามาตรฐานและศีลธรรมของผู้ตัดสินมืออาชีพ

ในขณะเดียวกัน แฟนบอลและนักวิจารณ์หลายคนกำลังจับตาดูว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ PGMOL และกระบวนการคัดกรองผู้ตัดสินในอนาคตหรือไม่

แมนฯ ซิตี้ เผชิญข้อกล่าวหาเพิ่มจาก 115 เป็น 130 ข้อ

0

สื่ออังกฤษรายงานว่าการสอบสวนข้อกล่าวหาของพรีเมียร์ลีกที่ยื่นฟ้อง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกี่ยวกับการละเมิดกฎการเงิน 115 ข้อได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าจำนวนข้อกล่าวหาได้เพิ่มขึ้นเป็น 130 ข้อ โดยคำตัดสินคาดว่าจะออกมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

การสอบสวนเสร็จสิ้น คณะผู้เชี่ยวชาญกำลังพิจารณาคดี

ไมค์ คีแกน ผู้สื่อข่าวจาก เดลี่ เมล์ ระบุว่าการพิจารณาคดีนี้ ซึ่งดำเนินการแบบปิดในศูนย์ระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศในลอนดอน ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว ขณะนี้คณะผู้เชี่ยวชาญ 3 คนกำลังตรวจสอบหลักฐานก่อนเผยแพร่คำตัดสินในอีกไม่กี่เดือน

พรีเมียร์ลีกกล่าวหา แมนฯ ซิตี้ หลายประเด็น ทั้งการละเมิดกฎการเงิน, ไม่ให้ความร่วมมือกับการสอบสวน และการปกปิดข้อมูลสำคัญเป็นเวลาหลายปี โดยหากพบว่ามีความผิดจริง อาจส่งผลร้ายแรง เช่น การปรับเงินก้อนโต, การตัดคะแนน หรือแม้แต่การปรับตกชั้น

ข้อกล่าวหาเพิ่มจากเดิม 115 เป็น 130

ข้อกล่าวหาต่อ แมนฯ ซิตี้ ถูกเพิ่มขึ้นจากเดิม 115 ข้อ มาเป็น 130 ข้อ ซึ่งครอบคลุมช่วงเวลายาวนานถึง 14 ปี ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปี 2023 รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกล่าวหามีดังนี้:

  • 54 กรณีแรก: การไม่เปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้องในช่วงปี 2009-2018
  • 14 ข้อ: การปกปิดรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายเงินให้ผู้เล่นและผู้จัดการทีมในช่วงปี 2009-2018
  • 5 ข้อ: การไม่ปฏิบัติตามกฎไฟแนนเชียลแฟร์เพลย์ (FFP) ของยูฟ่าระหว่างปี 2013-2018
  • 7 ข้อ: การละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืน (PSR) ของพรีเมียร์ลีกในช่วงปี 2015-2018
  • 35 ข้อ: การไม่ให้ความร่วมมือกับการสอบสวนของพรีเมียร์ลีกตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 ถึงกุมภาพันธ์ 2023

คำตัดสินอาจลากยาวถึงฤดูกาลหน้า

แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีการโต้แย้งในช่วงสุดท้ายของการพิจารณา แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าผลการตัดสินจะถูกอุทธรณ์ไม่ว่าฝ่ายใดจะแพ้ ส่งผลให้กระบวนการทั้งหมดอาจลากยาวไปถึงช่วงสิ้นสุดฤดูกาลหน้า

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

หาก แมนฯ ซิตี้ ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง นอกจากบทลงโทษที่อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสถานะของสโมสรในพรีเมียร์ลีกแล้ว ยังอาจสะเทือนถึงชื่อเสียงและการดำเนินงานในอนาคต โดยคดีนี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าฟุตบอลอังกฤษอย่างมาก

แฟนบอลทั่วโลกต่างจับตาดูการตัดสินครั้งนี้ ซึ่งจะมีผลกระทบทั้งต่อ แมนฯ ซิตี้ และความน่าเชื่อถือของระบบการจัดการฟุตบอลในอังกฤษ

ลิเวอร์พูลเดินหน้าเจรจาต่อสัญญา “ซาล่าห์” ยื่นข้อเสนอแรกแล้ว

0

ลิเวอร์พูลเริ่มต้นกระบวนการต่อสัญญาฉบับใหม่กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดยมีรายงานจาก เดวิด ออร์นสตีน นักข่าวชื่อดังจาก The Athletic ว่าทีม “หงส์แดง” ได้ยื่นข้อเสนอเบื้องต้นให้แนวรุกตัวเก่งชาวอียิปต์พิจารณาแล้ว แม้ว่าข้อตกลงในรายละเอียดยังไม่ชัดเจนและยังไม่ได้ข้อสรุป

สัญญาฉบับปัจจุบันใกล้สิ้นสุด

ซาลาห์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 32 ปี มีสัญญากับลิเวอร์พูลจนถึงเดือนมิถุนายน 2025 ซึ่งจะครบกำหนดในช่วงสิ้นสุดฤดูกาล 2024/25 เช่นเดียวกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีมคนสำคัญ ทั้งสองคนได้รับข้อเสนอจากสโมสรให้ต่อสัญญาใหม่แล้วเช่นกัน

ออร์นสตีน รายงานเพิ่มเติมว่า แม้การเจรจาจะเริ่มต้นขึ้น แต่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาสัญญาใหม่หรือเงื่อนไขทางการเงินที่แน่นอน อีกทั้งยังไม่มีการยืนยันว่าใกล้จะบรรลุข้อตกลงหรือไม่ โดยกระบวนการอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

ผลงานโดดเด่นช่วยหนุนลิเวอร์พูล

ซาลาห์ ยังคงเป็นกำลังสำคัญของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ โดยทำไปแล้ว 15 ประตูและ 12 แอสซิสต์ในทุกรายการ ช่วยให้ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ยึดตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกได้อย่างเหนียวแน่น พร้อมกับทำผลงานในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเก็บชัยชนะในรอบแบ่งกลุ่มได้ 5 นัดรวด มี 15 คะแนนเต็ม

แผนงานต่อเนื่องจากลิเวอร์พูล

นอกจากซาลาห์แล้ว การเจรจาเพื่อขยายสัญญากับผู้เล่นคนสำคัญอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็อยู่ในลำดับความสำคัญของสโมสรเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงแผนการรักษาแกนหลักของทีมเพื่อสานต่อความสำเร็จในอนาคต

แฟนบอลลิเวอร์พูลต้องรอติดตามความคืบหน้าของการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งอาจกำหนดอนาคตของหนึ่งในผู้เล่นที่ทรงคุณค่าที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร

เชลซี รัวแซง สเปอร์ส 4-3 พาลเมอร์กดสองโทษในเกมสุดเดือด

0

ศึกพรีเมียร์ลีกคู่ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และ เชลซี ที่สนามกูดิสัน พาร์ค กลายเป็นเกมที่เต็มไปด้วยความดุเดือดและพลิกสถานการณ์ได้หลายครั้ง แม้สเปอร์สจะออกนำก่อนถึงสองประตู แต่สุดท้ายเชลซีกลับมาคว้าชัย 4-3 โดย โคล พาลเมอร์ ซัดสองจุดโทษสำคัญ

ครึ่งแรก: สเปอร์สออกตัวแรง แต่เชลซีไล่ตีไข่แตก

แอนจ์ พอสเตโคกลู ส่งตัวหลักอย่าง มิกกี้ ฟาน เดอ เฟ่น และ คริสเตียน โรเมโร่ ลงสนามทันทีหลังหายเจ็บ ขณะที่แนวรุกได้ ซน ฮึง-มิน และ เปโดร ปอร์โร่ คืนตัวจริง ด้าน เชลซี ของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เปลี่ยนผู้เล่นถึง 7 ตำแหน่ง โดยให้ โรเบิร์ต ซานเชซ, เบอนัวต์ บาเดียชิล, และ เจดอน ซานโช่ กลับมาเป็นตัวจริง

นาทีที่ 5 สเปอร์สขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ มาร์ก กูกูเรย่า ทำพลาด ปล่อยให้ เบรนแนน จอห์นสัน ฉกบอลก่อนเปิดให้ โดมินิก โซลันกี้ ซัดเข้าไป ขยับเป็น 1-0

อีกเพียง 6 นาทีต่อมา กูกูเรย่า ลื่นอีกครั้ง เปิดโอกาสให้ เบรนแนน จอห์นสัน จ่ายต่อให้ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ยิงผ่าน โรเมโอ ลาเวีย เสียบเสาแรก สเปอร์สนำห่าง 2-0

เชลซีเริ่มตั้งเกมได้ในนาทีที่ 18 เมื่อ เจดอน ซานโช่ ตัดบอลจากริมเส้นซ้ายก่อนซัดด้วยขวาเสียบเสาในอย่างสวยงาม ไล่มาเป็น 2-1

ก่อนจบครึ่งแรก สเปอร์สมีลุ้นประตูที่สาม แต่ ปาป ซาร์ โหม่งลูกเตะมุมไปชนคานอย่างน่าเสียดาย ขณะที่เชลซีพยายามเร่งจังหวะแต่ยังตีเสมอไม่สำเร็จ

ครึ่งหลัง: เชลซีพลิกเกม พาลเมอร์ซัดโทษพาทีมคว้าชัย

เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 59 เชลซีมาได้จุดโทษครั้งแรกจากการทำฟาวล์ของ อีฟส์ บิสซูม่า และเป็น โคล พาลเมอร์ ที่สังหารเข้าไปไม่พลาด เชลซีตามตีเสมอ 2-2

เกมยังคงสูสีจนถึงนาทีที่ 73 เชลซีพลิกขึ้นนำ 3-2 จากลูกยิงซ้ายของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่เก็บตกบอลจากจังหวะบล็อกและส่งบอลเข้าสู่ตาข่าย

นาทีที่ 84 สเปอร์สเสียจุดโทษอีกครั้ง เมื่อ ปาป ซาร์ ทำฟาวล์ใส่ โคล พาลเมอร์ ซึ่งเจ้าตัวรับหน้าที่สังหารอีกครั้งไม่พลาด ทำให้เชลซีหนีห่างเป็น 4-2

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สเปอร์สไล่ขึ้นมาเป็น 3-4 จากลูกยิงของ ซน ฮึง-มิน แต่เวลาก็ไม่เพียงพอ จบเกม เชลซีบุกมาคว้าสามแต้มสำคัญที่กูดิสัน พาร์ค

สถานการณ์หลังเกม

ชัยชนะนัดนี้ทำให้เชลซีขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีก มี 31 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงลิเวอร์พูล 4 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ขณะที่สเปอร์สไร้ชัย 4 นัดติดในลีก มี 20 คะแนน หล่นไปอยู่อันดับ 11

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (4-3-3): เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ – เปโดร ปอร์โร่, มิกกี้ ฟาน เดอ เฟ่น, คริสเตียน โรเมโร่, เดสตินี่ อูโดกี้ – ปาป ซาร์, อีฟส์ บิสซูม่า, เดยัน คูลูเซฟสกี้ – เบรนแนน จอห์นสัน, โดมินิก โซลันกี้, ซน ฮึง-มิน

เชลซี (4-2-3-1): โรเบิร์ต ซานเชซ – มอยเสส ไกเซโด้, เบอนัวต์ บาเดียชิล, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า – โรเมโอ ลาเวีย, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – เปโดร เนโต้, โคล พาลเมอร์, เจดอน ซานโช่ – นิโกลัส แจ็คสัน

สื่ออังกฤษเผย “ซาล่าห์” จ่อเซ็นต่อสัญญาใหม่ 2 ปี

0

สื่อดัง มิร์เรอร์ รายงานว่า โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ กำลังเตรียมเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับลิเวอร์พูล โดยข้อตกลงใหม่นี้จะขยายระยะเวลาออกไปอีก 2 ปี

กระบวนการเจรจาระหว่าง ซาล่าห์, รามมี่ อับบาส เอเยนต์ส่วนตัวของเขา และกลุ่มผู้บริหารของ Fenway Sports Group เจ้าของทีมลิเวอร์พูล ดำเนินมานานหลายเดือน ฝ่ายเอเยนต์ของดาวยิงวัย 32 ปี เดิมเรียกร้องสัญญา 3 ปี ขณะที่สโมสรต้องการขยายเวลาเพียง 1 ปีในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายสามารถหาข้อสรุปที่ลงตัวได้ในที่สุด

แหล่งข่าวระบุว่า ซาล่าห์ ซึ่งย้ายมาจากโรม่าในปี 2017 และกลายเป็นหัวใจสำคัญของทีม ได้ตัดสินใจที่จะอยู่รับใช้สโมสรต่อไป แม้ปัจจุบันเขาจะได้รับค่าจ้างสูงถึง 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่ปัจจัยด้านการเงินไม่ได้มีน้ำหนักต่อการตัดสินใจครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอการประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการจากลิเวอร์พูลเกี่ยวกับรายละเอียดของสัญญาฉบับใหม่

หากการขยายสัญญาครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ จะเป็นการการันตีว่าดาวยิงชาวอียิปต์จะยังคงเป็นกำลังสำคัญในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไปในระยะเวลาอันใกล้

แมนยูสะดุดคาบ้าน พ่ายฟอเรสต์สุดมันส์ 2-3

0

ศึกพรีเมียร์ลีกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อพวกเขาพลาดท่าพ่ายต่อผู้มาเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-3 ในเกมที่เต็มไปด้วยความดราม่า

ครึ่งแรก: ประตูเร็วและการตอบโต้
เกมเริ่มเพียงนาทีที่ 2 ฟอเรสต์ขึ้นนำทันทีจากลูกเตะมุมของเอลเลียต แอนเดอร์สัน ที่เปิดให้ นิโกล่า มิเลนโควิช โหม่งเต็มหัวเข้าประตู แต่แมนยูไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ในนาที 18 ราสมุส ฮอยลุนด์ ฉวยโอกาสจากจังหวะที่บอลกระดอนจากการเซฟของ มัทซ์ เซลส์ ยิงซ้ำเข้าไป ทำให้เกมกลับมาเสมอ 1-1

ครึ่งหลัง: ความผิดพลาดและเกมรุกดุดันของฟอเรสต์
ต้นครึ่งหลัง นาที 47 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่งบอลพลาดจนกลายเป็นโอกาสให้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย จ่ายให้ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ยิงให้ฟอเรสต์นำ 2-1 จากนั้นนาที 54 คริส วู้ด ขึ้นโหม่งลูกครอสจากกิ๊บบ์ส-ไวท์ บอลตกพื้นก่อนพุ่งเข้าไป ทำให้ฟอเรสต์หนีไป 3-1

แมนยูพยายามฮึดสู้อีกครั้งในนาที 61 อาหมัด ดิยัลโล่ กระชากบอลขึ้นมาก่อนจ่ายให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซัดเต็มข้ออย่างสวยงาม ไล่ตามมาเป็น 2-3 ช่วงท้ายเกมแมนยูเร่งเกมบุกหนัก โดยมีจังหวะหวาดเสียวจากลูกยิงของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ในนาที 90+5 แต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

สถานการณ์หลังเกม
เมื่อจบเกม แมนยูยังคงมีเพียง 19 แต้มจาก 15 นัด รั้งอันดับ 13 ของตาราง สถานการณ์เริ่มน่าเป็นห่วงสำหรับทีมของรูเบน อโมริม ในขณะที่ฟอเรสต์เก็บเพิ่มเป็น 25 แต้ม ขยับขึ้นสู่อันดับ 5

รายชื่อ 11 ตัวจริงในเกมนี้

  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-2-1): อ็องเดร โอนาน่า – เลนี่ โยโร, มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ – อาหมัด ดิยัลโล่, มานูเอล อูการ์เต้, ค็อบบี้ เมนู, ดิโอโก้ ดาโลต์ – บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อเลฮานโดร การ์นาโช – ราสมุส ฮอยลุนด์
  • น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (4-2-3-1): มัทซ์ เซลส์ – โอลา ไอน่า, นิโกล่า มิเลนโควิช, มูริลโล่, เนโก วิลเลียมส์ – ไรอัน เยตส์, เอลเลียต แอนเดอร์สัน – คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, โจต้า ซิลวา – คริส วู้ด

เกมนี้แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ที่ดุเดือดและจุดที่แมนฯ ยูไนเต็ดต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วนหากหวังจะกลับมาแย่งชิงพื้นที่หัวตาราง.

เวสต์แฮมเผย อันโตนิโอปลอดภัย หลังประสบอุบัติเหตุ

0

มิคาอิล อันโตนิโอ ศูนย์หน้าตัวเก่งของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยังคงมีสติและสามารถสื่อสารได้ หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยทางสโมสรได้ออกมายืนยันสถานการณ์ล่าสุดอย่างเป็นทางการ

ในแถลงการณ์จากเว็บไซต์ของเวสต์แฮม ระบุว่า อันโตนิโอซึ่งประสบเหตุบริเวณพื้นที่เอสเซกซ์เมื่อช่วงบ่าย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในกรุงลอนดอน และอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด

“มิคาอิล อันโตนิโอ อยู่ในอาการคงที่และปลอดภัยภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ เราขอให้ทุกคนเคารพความเป็นส่วนตัวของเขาและครอบครัวในช่วงเวลานี้” สโมสรกล่าว พร้อมระบุว่าจะมีการอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลัง

อันโตนิโอ วัย 34 ปี ซึ่งเป็นนักเตะทีมชาติจาเมกา ย้ายจากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มาร่วมทัพเวสต์แฮมในปี 2015 เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 268 นัด และทำประตูได้ 68 ลูก ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของทีม

ในเวลานี้ สโมสรได้ขอร้องให้แฟนบอลและสื่อมวลชนหลีกเลี่ยงการคาดเดาเพิ่มเติม เพื่อเคารพต่อสถานการณ์และครอบครัวของนักเตะ

อโมริม รับ แมนยู พลาดท่าพ่าย ฟอเรสต์ คาบ้าน

0

รูเบน อโมริม กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแสดงความผิดหวัง หลังทีมพ่ายคารังต่อ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมยอมรับว่าการเริ่มต้นเกมที่ย่ำแย่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “ปีศาจแดง” ต้องพบกับความพ่ายแพ้

ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ถือเป็นการแพ้ในบ้านครั้งแรกของ อโมริม นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีม และเป็นการพ่ายแพ้ในลีกสองนัดติดต่อกัน หลังจากเกมก่อนหน้านี้แพ้ อาร์เซน่อล 2-0

“เราเริ่มต้นเกมได้ไม่ดีเลย” อโมริม กล่าว
“เราเสียประตูตั้งแต่จังหวะแรก ซึ่งทำให้เราต้องตกเป็นฝ่ายไล่ตามตั้งแต่ต้น แม้ว่าเราจะคอนโทรลเกมได้และสร้างโอกาสมากมาย แต่เราไร้คุณภาพในจังหวะสุดท้าย”

กุนซือโปรตุเกสยังชี้ว่า ความผิดพลาดในการเปิดครึ่งหลังซ้ำรอยเดิมทำให้ทีมเสียประตูอีกครั้ง

“หลังจากตีเสมอในครึ่งแรก เราตั้งใจเดินหน้าคว้าชัยในครึ่งหลัง แต่การเริ่มต้นที่ไม่ดีอีกครั้งทำให้เราต้องเจอกับความยากลำบาก เราพยายามหลายอย่างแล้ว แต่ยังขาดความเฉียบขาดในพื้นที่สุดท้าย”

เมื่อถูกถามถึงการเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยเฉพาะการถอด บรูโน่ แฟร์นันด์ส ออก อโมริมเผยว่าเป็นการตัดสินใจเนื่องจากความล้าของนักเตะ

“บรูโน่ล้ามาก ผมจึงเลือกส่ง เมสัน เมาท์ ลงไปแทน เพื่อสร้างมิติใหม่ในแดนกลาง โจชัว เซิร์กซี่ และ ราสมุส ฮอยลุนด์ ก็ถูกปรับบทบาทเพื่อพยายามเพิ่มมิติการเล่นในพื้นที่สุดท้าย”

อโมริมยังให้เหตุผลถึงการส่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ลงสนามว่าเป็นการแก้เกมเพื่อคุมลูกตั้งเตะ

“แฮร์รี่ทำได้ดีในการชนะบอลจังหวะแรก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการในช่วงท้ายเกม แต่เรายังไม่สามารถเปลี่ยนจังหวะเหล่านั้นให้เป็นประตูได้”

กุนซือ “ปีศาจแดง” สรุปถึงสถานการณ์ปัจจุบันของทีมว่า การเริ่มต้นงานในช่วงที่ทีมต้องเผชิญโปรแกรมแน่นเป็นสิ่งที่ท้าทาย

“ผมเข้าใจความผิดหวังของแฟนบอล แต่เรากำลังพยายามแก้ไข และจะเดินหน้าทำงานหนักเพื่อปรับปรุงทีมให้ดีขึ้น เราต้องใช้เวลาสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่”

แม้ว่าผลงานจะยังไม่เข้าที่ แต่ อโมริมยืนยันว่าเขาพร้อมสู้ต่อเพื่อพลิกสถานการณ์ของทีมให้กลับมาสู่เส้นทางที่ดีอีกครั้ง

ห้ามพลาด!