Home Blog Page 61

แดร์ คลาสสิเคอร์ ดอร์ทมุนด์ ดวล บาเยิร์น มิวนิค คืนนี้!

0

ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี นัดที่ 12 บิ๊กแมตช์แห่งฤดูกาล โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดรัง ซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค รับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค ในคืนวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 00.30 น.

สถิติที่น่าจับตา

ดอร์ทมุนด์ และ บาเยิร์น มิวนิค เคยปะทะกันในทุกรายการรวม 137 ครั้ง โดยเป็นฝ่าย “เสือใต้” ที่เหนือกว่าด้วยการชนะ 68 ครั้ง ขณะที่ “เสือเหลือง” ชนะ 34 ครั้ง และเสมอกัน 35 ครั้ง การพบกันในบุนเดสลีกา 110 นัด บาเยิร์นชนะ 54 นัด ส่วนดอร์ทมุนด์ชนะ 26 นัด ฤดูกาลที่แล้ว ดอร์ทมุนด์สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการบุกไปชนะที่ อลิอันซ์ อารีน่า 2-0

ความพร้อมของ ดอร์ทมุนด์

นูริ ชาฮิน กุนซือคนเก่งของดอร์ทมุนด์ กำลังนำทีมทำผลงานยอดเยี่ยม หลังจากบุกชนะ ดินาโม ซาเกร็บ 3-0 ในแชมเปี้ยนส์ลีก และถล่ม ไฟร์บวร์ก 4-0 ในลีก เกมนี้อาจไม่มี เอ็มเร่ ชาน กัปตันทีมที่ยังติดโทษแบน รวมถึง คาริม อเดเยมี่ ที่บาดเจ็บ ส่วน ยูเลี่ยน บรันด์ท ต้องรอเช็กความฟิต แต่ข่าวดีคือการกลับมาของ แซร์อู กีราสซี่ ดาวยิงตัวเก่งที่พร้อมล่าตาข่าย ขณะที่ จูเลียน ไรเออร์สัน จะกลับมายืนแบ็กขวา ทำให้ ปาสกาล กรอสส์ ขยับไปเล่นมิดฟิลด์

ความพร้อมของ บาเยิร์น มิวนิค

แว็งซองต์ กอมปานี กุนซือบาเยิร์น เพิ่งพาทีมเฉือนชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมงต์ 1-0 ในแชมเปี้ยนส์ลีก จากประตูของ คิม มิน-แจ ส่วนในลีกล่าสุดชนะ เอาก์สบวร์ก 3-0 โดย แฮร์รี่ เคน ทำแฮตทริก เกมนี้ต้องจับตาว่า อัลฟอนโซ่ เดวิส จะได้ลงสนามหรือไม่ หลังมีข่าวฉาวเรื่องพฤติกรรมส่วนตัว หากไม่ได้ลงเล่น ราฟาแอล เกร์เรยโร่ จะเสียบแทน ส่วน ไมเคิ่ล โอลิเซ่ พร้อมกลับมายืนตัวจริงในแนวรุก

คาดการณ์ผู้เล่น 11 ตัวจริง

ดอร์ทมุนด์ (4-1-4-1):
เกรกอร์ โคเบล – ยูเลี่ยน รีเยอร์สัน, วัลเดมาร์ อันทอน, นิโก้ ชล็อตเทอร์เบ็ค, รามี่ เบนเซไบนี่ – เฟลิกซ์ เอ็นเมช่า – มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ปาสกาล กรอสส์, มักซิมิเลี่ยน ไบเออร์, เจมี่ บายโน-กิตเท่นส์ – แซร์อู กีราสซี่

บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1):
มานูเอล นอยเออร์ – คอนราด ไลเมอร์, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, คิม มิน-แจ, อัลฟอนโซ่ เดวิส – โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ตซ์ก้า – ไมเคิ่ล โอลิเซ่, จามาล มูเซียล่า, คิงส์ลี่ย์ โกมัน – แฮร์รี่ เคน

วิเคราะห์เกม

ดอร์ทมุนด์ อยู่ในฟอร์มที่ดีจากชัยชนะ 4 ใน 5 นัดหลังสุด แต่ต้องเจองานหนักกับ บาเยิร์น ที่ชนะรวด 7 นัดหลังสุด ยิงไปถึง 18 ประตูโดยไม่เสียคลีนชีต เกมนี้มีโอกาสที่ครึ่งแรกจะเล่นกันอย่างรัดกุม แต่ บาเยิร์น อาจอาศัยความเฉียบคมของ แฮร์รี่ เคน ปิดเกมในครึ่งหลัง

สกอร์ที่คาด: บาเยิร์น มิวนิค ชนะ 2-0

“ศึกใหญ่ลอนดอนดาร์บี้ เวสต์แฮม ปะทะ อาร์เซน่อล “

0

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เตรียมเปิดลอนดอน สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของอาร์เซน่อลในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 โดยเจ้าบ้านเพิ่งชนะนิวคาสเซิ่ล 2-0 ในเกมล่าสุด ฟอร์มดีขึ้นหลังสภาพจิตใจได้รับการฟื้นฟู แม้จะขาดตัวหลักอย่าง มิคาอิล อันโตนิโอ แต่ยังมีจาร์ร็อด โบเว่น ที่พร้อมสร้างความแตกต่าง (แผน 4-2-3-1)

ด้านอาร์เซน่อลที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก ชนะรวดในลีกสามเกมหลัง และเพิ่งถล่มสปอร์ติ้ง ลิสบอน 5-1 ความมั่นใจเต็มเปี่ยม แนวรุกยังแกร่งด้วยกาเบรียล เชซุส และบูกาโย ซาก้า (แผน 4-3-3) เกมนี้ทีมเยือนคาดว่าจะเปิดเกมบุกเต็มที่เพื่อเก็บสามแต้มสำคัญในเส้นทางลุ้นแชมป์

คาดการณ์สกอร์: เวสต์แฮม 1-3 อาร์เซน่อล
ถ่ายทอดสด: True Premier Football 1 และ 2

ฮอยลุนด์ เผยระบบ 3-4-3 เหมาะกับสไตล์ตน

0

ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า ระบบการเล่น 3-4-3 เหมาะสมกับเขาอย่างมาก พร้อมยกย่อง รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่ให้คำแนะนำสำคัญจนกลายเป็นที่มาของประตูชัยในเกมที่ทีมเฉือนชนะ โบโด้ กลิมท์ 3-2 ในศึกยูโรป้าลีก

การแข่งขันรอบลีกเฟส นัดที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด จบลงด้วยชัยชนะของ “ปีศาจแดง” โดย ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงไป 2 ประตูในนาทีที่ 45 และ 50 พร้อมกับแอสซิสต์ให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ยิงประตูเปิดหัวตั้งแต่นาทีแรก ถือเป็นชัยชนะนัดแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ อโมริม

หลังจบเกม ฮอยลุนด์ กล่าวถึงจังหวะสำคัญของประตูชัยในนาทีที่ 50 ว่าเป็นผลมาจากคำแนะนำที่ได้รับในช่วงพักครึ่ง “ผู้จัดการทีมบอกผมในห้องแต่งตัวให้ยึดตำแหน่งที่เสาแรก และเมื่อจังหวะเตะมุมเร็วเกิดขึ้น เราก็เห็นผลทันที เราซ้อมเรื่องนี้มาหลายครั้ง และมันก็ได้ผลอย่างที่เห็น”

ฮอยลุนด์ยังเสริมว่าเขารู้สึกคุ้นเคยและปรับตัวได้ดีกับระบบ 3-4-3 ซึ่งเขาเคยใช้งานมาแล้วสมัยเล่นให้กับ อตาลันต้า “สำหรับผม ระบบนี้เหมาะมาก มันคล้ายกับตอนที่ผมเล่นให้อตาลันต้าในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า โดยมีผู้เล่นสองคนคอยสนับสนุน ผมพยายามอยู่ในพื้นที่เขตโทษเสมอ และตอนนี้เราก็เริ่มเห็นความชัดเจนในแนวทางการเล่นของทีม ระบบกำลังเข้าที่เข้าทาง และมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ”

ดาวยิงวัย 21 ปี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “หน้าที่ของเราตอนนี้คือการพัฒนาระบบนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และสร้างผลงานที่ดีต่อไป”

ชัยชนะนัดนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับทีม แต่ยังทำให้แฟนบอลเชื่อมั่นในแนวทางใหม่ของอโมริมที่เริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม.

แมนฯ ซิตี้ และ นิวคาสเซิล อาจต้องเปลี่ยนมือเจ้าของ

0

สโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อาจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หากร่างกฎหมายที่ห้ามไม่ให้สโมสรฟุตบอลในอังกฤษอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา

ข้อเสนอดังกล่าวถูกนำเข้าสู่การแก้ไขในร่างกฎหมายกำกับดูแลฟุตบอลฉบับใหม่ โดย ลอร์ด บาสซัม สมาชิกสภาขุนนางจากพรรคแรงงาน ซึ่งมุ่งเน้นจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลอิสระเพื่อดูแลกิจการฟุตบอลในอังกฤษ ร่างแก้ไขนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการครอบครองสโมสรฟุตบอลโดยรัฐชาติ ซึ่งอาจถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงจากต่างประเทศ

ความเชื่อมโยงของเจ้าของสโมสร

ปัจจุบัน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มีเจ้าของคือ กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย (PIF) ซึ่งมี มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ดำรงตำแหน่งประธาน ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ภายใต้การบริหารของ ชีค มานซูร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ สโมสรที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐโดยตรงจะต้องเปลี่ยนเจ้าของเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลใหม่

ผลกระทบและความเคลื่อนไหวในวงการ

แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาในสภาขุนนาง แต่แหล่งข่าวจาก เดอะ ไทมส์ รายงานว่า มีโอกาสน้อยมากที่ข้อเสนอการแก้ไขนี้จะผ่านความเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ได้จุดกระแสถกเถียงในหมู่สโมสรในพรีเมียร์ลีก ซึ่งบางส่วนเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาประเด็นนี้อย่างจริงจัง

หากกฎหมายได้รับการอนุมัติจริง จะมีการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลใหม่ที่ไม่ขึ้นกับฝ่ายใด พร้อมทั้งกำหนดกระบวนการคัดกรองเจ้าของสโมสรและผู้บริหารให้เข้มงวดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนปรับปรุงระบบการจัดการรายได้ในวงการฟุตบอล เพื่อสร้างความโปร่งใสและยุติธรรม

ขั้นตอนต่อไป

ร่างกฎหมายฉบับนี้และการแก้ไขของลอร์ด บาสซัม ยังคงอยู่ระหว่างการอภิปรายในสภาขุนนาง และคาดว่าจะมีความคืบหน้าเพิ่มเติมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่แฟนบอลและผู้เกี่ยวข้องในวงการจับตาดูผลลัพธ์ที่จะมีผลกระทบสำคัญต่ออนาคตของหลายสโมสรชั้นนำในอังกฤษ.

“เชลซีแรงต่อเนื่อง! คว้าชัย 4 นัดรวด ครองจ่าฝูงคอนเฟอเรนซ์”

0

“สิงห์บลูส์” เชลซี ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงในศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก หลังบุกไปเอาชนะ ไฮเดนไฮม์ 2-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะ 4 เกมติดต่อกัน เก็บ 12 คะแนนเต็ม ครองตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่มอย่างเหนียวแน่น พร้อมยัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้กับเจ้าถิ่น

เกมนี้ เชลซี แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการเล่นที่เหนือชั้น แม้ ไฮเดนไฮม์ จะพยายามตั้งรับอย่างเหนียวแน่นในช่วงครึ่งแรก แต่ลูกทีมของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ยังคงเดินหน้ากดดันอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะได้ประตูเบิกร่องจากจังหวะยิงไกลสุดสวยในครึ่งหลัง และปิดท้ายด้วยประตูที่สองจากเกมโต้กลับเร็ว

ชัยชนะในนัดนี้ย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของ เชลซี ที่กำลังคืนฟอร์มเก่งได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่เกมรุกที่จัดจ้าน แต่เกมรับยังเหนียวแน่นจนทำให้คู่แข่งเจาะไม่เข้า ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับแฟนบอล “สิงห์บลูส์” ที่กำลังมองเห็นโอกาสคว้าแชมป์รายการนี้

หลังผ่านไป 4 นัด เชลซี ยืนหนึ่งบนตารางคะแนนกลุ่ม ด้วยผลงานไร้ที่ติ ทั้งเกมรุกที่ทำได้ถึง 10 ประตู และเกมรับที่เสียเพียง 1 ลูกเท่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาภายใต้การคุมทีมของกุนซืออาร์เจนไตน์รายนี้.

“ปีศาจแดงเปิดบ้านเฉือนโบโด กริมท์ 3-2 ประเดิมกุนซือใหม่”

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มสุดเร้าใจในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก หลังเปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอาชนะ โบโด กริมท์ 3-2 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นับเป็นชัยชนะสองเกมติดต่อกันในรอบแบ่งกลุ่ม พร้อมต้อนรับการคุมทีมนัดแรกอย่างเป็นทางการของ รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่วัย 39 ปี จากโปรตุเกส

แมตช์นี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องออกแรงพลิกสถานการณ์อย่างหนัก หลังทีมเยือนสร้างความหวาดเสียวด้วยการออกนำก่อนในครึ่งแรก 2-1 แต่ “ปีศาจแดง” แสดงให้เห็นถึงพลังและความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นภายใต้การนำของโค้ชหนุ่มรายนี้ โดยในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเดินเกมรุกแบบไม่หยุดยั้ง และสามารถพลิกกลับมาคว้าสามแต้มสำคัญได้ในที่สุด

สำหรับฟอร์มของผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ละคนในเกมนี้ มีทั้งคนที่โชว์ฟอร์มเด่นจนได้รับเสียงชื่นชม และบางคนที่ยังต้องปรับจูนเพื่อเข้ากับระบบใหม่ของ อโมริม ที่เน้นการครองบอลและเกมรุกที่ดุดัน บรรยากาศในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากนี่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้

นี่อาจเป็นเพียงก้าวแรก แต่ผลการแข่งขันและฟอร์มในสนามของทีมในค่ำคืนนี้แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งอนาคตที่สดใสสำหรับ “ปีศาจแดง” ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม.

“อันเชลอตติ” ชี้ความพ่ายแพ้ต่อ “ลิเวอร์พูล”

0

คาร์โล อันเชลอตติ ผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด ออกมาพูดถึงความพ่ายแพ้ของทีมต่อ ลิเวอร์พูล 0-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5 เมื่อคืนวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า ลิเวอร์พูล เล่นได้ดีกว่าและสมควรเป็นฝ่ายชนะ อย่างไรก็ตาม อันเชลอตติยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะที่ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของทีม

อันเชลอตติกล่าวหลังเกมว่า:
“ผลการแข่งขันเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว ลิเวอร์พูลสมควรได้รับชัยชนะ เราเจอความยากลำบากในการเล่นตามแนวทางที่เราวางแผนไว้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บของผู้เล่นสำคัญหลายคน ซึ่งทำให้เราต้องปรับตัวตลอดทั้งเกม”

แม้จะพ่ายแพ้ในนัดนี้ แต่กุนซือชาวอิตาเลียนมองว่าเกมดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเป้าหมายระยะยาวของทีม:
“นี่ไม่ใช่เกมที่ตัดสินชะตาของเราโดยตรง ผลการแข่งขันในวันนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แม้ว่าเราจะชนะเกมนี้ ก็ยังยากอยู่ดีที่จะการันตีการจบใน 8 อันดับแรกเพื่อเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ”

“เป้าหมายหลักของเราคือการจบใน 24 อันดับแรกเพื่อผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ และเรามั่นใจว่าเราจะทำได้เหมือนที่เราทำสำเร็จทุกปีที่ผ่านมา”

ปัญหาใหญ่จากอาการบาดเจ็บ

ในเกมนี้ เรอัล มาดริดต้องลงสนามโดยขาดนักเตะตัวหลักหลายคน ทั้ง วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก, ออเรเลียง ชูอาเมนี และ เอแดร์ มิลิเตา ซึ่งล้วนเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกและแนวรับของทีม การขาดหายไปของพวกเขาทำให้ทีมต้องเผชิญกับความยากลำบากในการรับมือกับเกมรุกที่ดุดันของลิเวอร์พูล

ทั้งนี้ เรอัล มาดริดจะต้องเร่งหาทางแก้ไขสถานการณ์ก่อนเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เพื่อรักษาโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป และกลับมาคืนฟอร์มให้ได้ในเร็ววัน.

แฟนลิเวอร์พูลมีสะเทือน! “สตาร์ดังหงส์แดง”

0

ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ 3 นักเตะตัวหลักของลิเวอร์พูลกำลังกลายเป็นหัวข้อร้อน หลังจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ออกมายอมรับกับสื่อว่าการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ยังไม่มีความคืบหน้า ส่งผลให้ร้านรับพนันถูกกฎหมายในอังกฤษปรับอัตราเปอร์เซ็นต์โอกาสการต่อสัญญาของ ซาลาห์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดยทั้งสามคนกำลังจะหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้

เปอร์เซ็นต์โอกาสการอยู่ต่อของทั้ง 3 คน

  • เฟอร์จิล ฟาน ไดค์: 71%
  • โมฮาเหม็ด ซาลาห์: 50%
  • เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์: 44%

จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีมมีโอกาสต่อสัญญาสูงที่สุด ส่วน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน โดยมีโอกาสต่อและย้ายออกพอๆ กัน ขณะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งเป็นทั้งเด็กปั้นและหนึ่งในขวัญใจแฟนบอล กลับมีเปอร์เซ็นต์การย้ายออกสูงที่สุด ท่ามกลางข่าวเชื่อมโยงกับ เรอัล มาดริด

อนาคตของซาลาห์ยังไร้ความชัดเจน

ก่อนหน้านี้ ซาลาห์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นสัญญาฉบับใหม่ โดยยอมรับว่าไม่มีความคืบหน้าอย่างที่ควรจะเป็น สร้างความกังวลให้กับแฟนบอล เนื่องจากดาวเตะอียิปต์รายนี้ยังคงเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของทีม อีกทั้งมีข่าวว่าหลายทีมใหญ่ในยุโรป รวมถึงทีมจากซาอุดีอาระเบีย ต่างเฝ้าจับตาสถานการณ์ของเขาอย่างใกล้ชิด

เทรนต์ อาจไป “ราชันชุดขาว”?

สำหรับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เปอร์เซ็นต์การต่อสัญญาถูกวิเคราะห์ว่าต่ำที่สุด มีข่าวลือหนาหูกับ เรอัล มาดริด โดยสื่อหลายสำนักเชื่อว่าทีมดังจากลาลีกาเล็งคว้าตัวแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษรายนี้เพื่อเข้ามาแทนที่ในตำแหน่งระยะยาว

ในขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหญ่ในการรั้งตัวนักเตะคนสำคัญ เนื่องจากฤดูกาลนี้ทีมมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการกลับมาคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้ง แต่หากสัญญาของนักเตะทั้ง 3 ยังคงไร้ความคืบหน้า แฟนๆ อาจต้องเตรียมรับข่าวการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้.

“เป๊ป” เผยที่มาบาดแผล หลังแมนฯ ซิตี้ เสมอ เฟเยนูร์ด

0

เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดใจหลังทีมพลาดคว้าชัยชนะในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่เสมอกับ เฟเยนูร์ด 3-3 ทั้งที่ออกนำไปก่อนถึง 3-0 โดยระหว่างการแถลงข่าวหลังเกม มีผู้สังเกตเห็นบาดแผลที่จมูกและรอยแดงบนใบหน้าของเขา ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเกิดจากการทำร้ายตัวเองด้วยความหงุดหงิดระหว่างการแข่งขัน

ในเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ออกนำไปก่อนจากการทำประตูของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ในนาทีที่ 44 และ 53 รวมถึง อิลคาย กุนโดกัน ในนาทีที่ 50 แต่กลับเสีย 3 ประตูรวดในช่วงท้ายเกมให้กับ ฮัดจิ มุสซ่า ในนาทีที่ 75, ซานติอาโก้ ฆิมิเนซ ในนาทีที่ 82 และลูกโหม่งของ เดวิด ฮันซ์โก้ ในนาทีที่ 89 ส่งผลให้ทีมเก็บเพิ่มได้เพียงแต้มเดียว มี 8 คะแนนจาก 6 นัด ขณะที่ เฟเยนูร์ด ขยับขึ้นมามี 7 คะแนน

หลังเกม เป๊ปกล่าวถึงผลงานของทีมว่า “เราเริ่มเกมได้ดีมาก การนำ 3-0 แสดงให้เห็นว่าเราคุมเกมได้ แต่ปัญหาคือเราไม่มั่นคงพอหลังเสียประตูแรก ทุกอย่างเริ่มเปราะบาง นั่นทำให้เกมยากขึ้นทันที”

กุนซือชาวสเปนยังยอมรับถึงความผิดหวังที่ไม่สามารถปิดเกมได้ “ในช่วงหลังนี้ เราดูเปราะบางในหลายๆ ด้าน เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อชนะ แต่การเสียประตูแบบง่ายๆ ทำให้ทุกอย่างซับซ้อน เราเล่นได้ดีในหลายจุด แต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถรักษาผลการแข่งขันที่ต้องการได้”

เมื่อถูกถามถึงปัญหาความเปราะบางทางจิตใจ เป๊ปตอบว่า “ผมไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวกับจิตใจหรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอนคือความผิดพลาดเชิงเทคนิคมีส่วนสำคัญ ประตูแรกและประตูที่สองไม่ควรเกิดขึ้น และนั่นเปลี่ยนทิศทางของเกม”

“ผมมองว่าเราทำผลงานได้ดีในหลายแง่มุม แต่ผลลัพธ์แบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นในระดับนี้ เราต้องปรับปรุงและเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น”

เกี่ยวกับบาดแผลบนใบหน้าที่หลายคนตั้งข้อสังเกต เป๊ปอธิบายว่า “ใช่ ผมบาดตัวเองด้วยเล็บระหว่างเกม มันเป็นเพราะความหงุดหงิดที่ผมรู้สึกตอนนั้น ผมอยากทำร้ายตัวเองเพื่อระบายความผิดหวัง”

ความเสมอนัดนี้ยังคงยืดสถิติไร้ชัยชนะของแมนฯ ซิตี้ ออกไปเป็น 6 นัดติดต่อกัน โดยครั้งสุดท้ายที่ทีมเก็บคลีนชีตและคว้าชัยชนะได้ ต้องย้อนกลับไปในวันที่ 26 ตุลาคม จากเกมที่เฉือนชนะเซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 อย่างหวุดหวิด ตั้งแต่นั้นมา “เรือใบสีฟ้า” เสียไปถึง 17 ประตูใน 6 นัด ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจสำหรับทีมที่เคยสร้างความสำเร็จจากความแข็งแกร่งในแนวรับ

เป๊ปต้องรีบปรับจูนฟอร์มทีมอย่างเร่งด่วน หากต้องการกลับมาคว้าชัยและรักษาความหวังในแชมเปียนส์ลีก รวมถึงการแข่งขันรายการอื่นๆ ในฤดูกาลนี้.

“อันเชล็อตติ” เลี่ยงพูดถึงข่าวลือเรื่อง”เทรนต์”

0

คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่เรอัล มาดริด ออกมาปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับข่าวลือที่ “ราชันชุดขาว” กำลังเล็งคว้าตัว เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาตัวเก่งของลิเวอร์พูล โดยยืนยันว่าเขาไม่ต้องการพูดถึงนักเตะที่ยังคงเป็นสมบัติของสโมสรอื่น

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งกำลังจะหมดสัญญากับลิเวอร์พูลหลังจบฤดูกาลนี้ มีข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายไปค้าแข้งในลาลีกา โดยเฉพาะกับเรอัล มาดริด ที่ถูกมองว่าให้ความสนใจในตัวรองกัปตันทีมชาติอังกฤษรายนี้อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม อันเชล็อตติ วัย 65 ปี ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า เขาไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ผมขอโทษ แต่ผมไม่สามารถพูดถึง อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้ เขาไม่ใช่นักเตะของเรา” อันเชล็อตติกล่าวระหว่างการแถลงข่าว พร้อมเสริมถึงความเคารพที่มีต่อลิเวอร์พูล “ผมเคารพลิเวอร์พูลอย่างเต็มที่ พวกเขาคือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ พร้อมแฟนบอลที่น่าทึ่ง และยังเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งเสมอ”

เขายังแสดงความรักต่ออดีตต้นสังกัดอย่าง เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นคู่ปรับร่วมเมืองลิเวอร์พูล “ผมยังคงมีความทรงจำที่ดีสมัยคุมเอฟเวอร์ตัน และในใจผมยังคงเป็นแฟนของเอฟเวอร์ตันอยู่เสมอ”

เกี่ยวกับการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้น อันเชล็อตติพูดถึงคุณภาพของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ “ลิเวอร์พูลทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในลีกฤดูกาลนี้ ดีกว่าเราในบางแง่มุมของการแข่งขันภายในประเทศ แต่ตอนนี้เรากลับมาฟอร์มดีขึ้น และหวังว่าจะเล่นได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อเจอกับพวกเขาในเกมสำคัญนี้”

“เราทั้งสองสโมสรต่างก็มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และลักษณะเฉพาะของตัวเอง การเผชิญหน้าครั้งนี้จะเข้มข้นแน่นอน เพราะลิเวอร์พูลเป็นทีมที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และพวกเขาแสดงให้เห็นถึงพลังในสนามเสมอ”

แม้เรอัล มาดริด จะต้องเจอกับงานยากในเกมเยือนแอนฟิลด์ แต่อันเชล็อตติยืนยันว่า ทีมของเขาพร้อมเต็มที่ แม้จะมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย โดยราชันชุดขาวจะขาด วินิซิอุส จูเนียร์, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, เอแดร์ มิลิเตา, ดาบิด อลาบา, ดานี่ การ์บาฆาล และ โรดริโก้ แต่ก็ยังมีขุมกำลังที่เขาเชื่อมั่นว่าจะสามารถท้าทายทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และสร้างผลงานที่ดีได้.

ห้ามพลาด!