Home Blog Page 65

ฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายครบแล้ว

0

ฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้ประกาศออกมาแล้ว โดยศึกที่น่าจับตามองที่สุดในรอบนี้คือการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าของรายการ จะต้องออกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน

การจับสลากในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อคัด 4 ทีมสุดท้าย โดย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะต้องบุกถิ่น “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน ส่วน “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด เจองานยากในการไปเยือน “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ที่ลอนดอน ด้าน “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล จะเปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ดิ อีเกิ้ลส์” คริสตัล พาเลซ ในศึกลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ส่วน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะเปิดรังเซนต์ เจมส์ ปาร์ค รับมือ เบรนท์ฟอร์ด

สรุปผลการจับสลากคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย:

  • ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  • อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ
  • นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พบ เบรนท์ฟอร์ด
  • เซาธ์แฮมป์ตัน พบ ลิเวอร์พูล


สรุปผลคาราบาว คัพ อังกฤษ (30 ตุลาคม 2567)

0

ในการแข่งขันฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบที่สี่ เมื่อคืนวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา มีหลายเกมที่น่าตื่นเต้นและมีการพลิกล็อกที่สำคัญ โดยสโมสรยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกต่างลงสนามเพื่อชิงตำแหน่งในรอบต่อไป

  • สเปอร์ส สร้างเซอร์ไพรส์ เอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ตีตั๋วเข้ารอบด้วยประตูจาก เจมส์ แมดดิสัน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้
  • ลิเวอร์พูล เอาชนะไบรท์ตัน 3-1 คว้าตั๋วเข้าสู่รอบลึกในศึกคาราบาว คัพ
  • คริสตัล พาเลซ เฉือนชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 จากการทำประตูของ เอเซ่ และ คามาดะ
  • อาร์เซน่อล เอาชนะ เปรสตัน นอร์ท เอนด์ 2-0 ด้วยฟอร์มเหนียวแน่น

ทีมใหญ่หลายทีมยังคงแข่งขันเข้มข้น เพื่อแย่งชิงตำแหน่งแชมป์ถ้วยใบนี้​

“ทำไม วินิซิอุส จูเนียร์ ถึงพลาดรางวัลบัลลงดอร์ 2024?

0

ทำไม วินิซิอุส จูเนียร์ ถึงพลาดรางวัลบัลลงดอร์ปี 2024? เจาะลึกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดาวรุ่งชาวบราซิลไม่ได้รับรางวัลใหญ่

ในปี 2024 วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinícius Júnior) ปีกดาวรุ่งของเรอัล มาดริด ได้สร้างผลงานโดดเด่นให้แฟนบอลทั่วโลกประทับใจ ความเร็วและทักษะการทำประตูที่เหนือชั้นทำให้เขากลายเป็นหัวใจหลักของทีมในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ถึงแม้จะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม วินิซิอุสก็ต้องพลาดรางวัลบัลลงดอร์ ซึ่งเป็นรางวัลที่แฟนๆ และนักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่าเขาจะคว้ามาครองได้ แต่เหตุใดเขาจึงพลาดโอกาสนี้? ลองมาวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุสำคัญในการตัดสินใจของผู้ลงคะแนนในปีนี้

1. ผลงานที่ไม่ได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่องในระดับนานาชาติ

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้วินิซิอุส จูเนียร์ เสียคะแนนโหวตคือการขาดผลงานที่โดดเด่นในระดับทีมชาติ แม้ว่าเขาจะเป็นกำลังหลักของทีมชาติบราซิลในการแข่งขันรายการใหญ่ เช่น โคปาอเมริกาและฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แต่เขายังไม่สามารถพาบราซิลไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ และในบางแมตช์สำคัญเขาอาจยังขาดความต่อเนื่องในผลงานที่คาดหวัง

2. ความสม่ำเสมอในการทำประตู

วินิซิอุสโดดเด่นในด้านการสร้างโอกาส แต่ถ้าพูดถึงการทำประตู ผลงานของเขายังถือว่าต่ำกว่าเพื่อนร่วมทีมในลีกอื่นๆ ที่เข้าชิงบัลลงดอร์ เช่น เออร์ลิง ฮาลันด์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่มีสถิติการทำประตูที่สูงกว่า การขาดการทำประตูที่สม่ำเสมออาจทำให้ผู้ลงคะแนนรู้สึกว่าวินิซิอุสยังไม่ถึงขั้นผู้เล่นที่สมควรได้รับรางวัลบัลลงดอร์

3. การแข่งขันจากคู่แข่งที่มีฟอร์มการเล่นสุดแกร่ง

ปี 2024 มีผู้เล่นระดับท็อปหลายคนที่ฟอร์มโดดเด่นในหลายลีก ทั้งฮาลันด์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำสถิติการทำประตูในพรีเมียร์ลีกและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอย่างไม่หยุดหย่อน รวมถึงเอ็มบัปเป้ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในลีกเอิงและทีมชาติฝรั่งเศส การแข่งขันที่ดุเดือดทำให้คะแนนเสียงกระจายไปยังผู้เล่นคนอื่นมากขึ้น วินิซิอุสอาจขาดโชคในแง่ของกระแสและความโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งในรายการใหญ่

4. การบาดเจ็บและความสม่ำเสมอในฤดูกาลสโมสร

วินิซิอุสต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บระหว่างฤดูกาล ทำให้เขาพลาดเกมสำคัญและมีช่วงเวลาที่ฟอร์มตกอยู่บ้าง ขณะที่เรอัล มาดริดพยายามทำผลงานในลาลีกาและแชมเปียนส์ลีก การหายไปของวินิซิอุสทำให้ทีมสูญเสียความต่อเนื่องในเกมรุก แม้ว่าเขาจะกลับมาได้และช่วยทีมได้ในหลายแมตช์ แต่การบาดเจ็บนั้นทำให้เขาเสียโอกาสในการสร้างสถิติที่ต่อเนื่องและยาวนาน

5. การตัดสินใจในแนวทางการเล่นที่ส่งผลต่อการสร้างสถิติ

ฟอร์มการเล่นของเรอัล มาดริดที่มีโค้ชใหม่และปรับระบบทีมบ่อยครั้งทำให้สไตล์การเล่นของทีมเปลี่ยนไป และส่งผลกระทบต่อการเล่นของวินิซิอุส เขาถูกปรับบทบาทให้เป็นผู้เล่นที่ต้องเน้นการเชื่อมเกมในแนวกว้างมากขึ้น ซึ่งอาจลดจำนวนการยิงประตูและสถิติส่วนตัวลงเมื่อเทียบกับผู้เล่นที่ได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการทำประตูในทีมอื่นๆ

บทสรุป

แม้ว่าวินิซิอุส จูเนียร์จะโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในหลายด้าน แต่หลายปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เขาพลาดรางวัลบัลลงดอร์ในปี 2024 การแข่งขันที่เข้มข้นในปีนี้และความไม่สม่ำเสมอในบางช่วงเวลาทำให้เขาไม่ได้รับรางวัลที่หลายคนคาดหวัง อย่างไรก็ตาม วินิซิอุสยังคงเป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพสูง และมีโอกาสคว้ารางวัลบัลลงดอร์ในอนาคต หากเขาสามารถพัฒนาฟอร์มการเล่นให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เรอัล มาดริด แจงเหตุงานบัลลงดอร์

0

เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งลา ลีกา สเปน ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่มีผู้แทนของสโมสรเข้าร่วมงานประกาศรางวัลบัลลงดอร์ ประจำปี 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในคืนวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคมนี้

นักข่าวคนดัง ฟาบริซิโอ โรมาโน รายงานว่าการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ วินิซิอุส จูเนียร์ ทราบล่วงหน้าแล้วว่าเขาจะไม่ได้รับรางวัล โดยผู้ชนะในปีนี้ตกเป็นของ โรดรี้ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นเหตุผลให้วินิซิอุส รวมถึงคาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีม ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร และ จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางชาวอังกฤษ ไม่เข้าร่วมงานนี้ด้วย

เรอัล มาดริด แถลงเพิ่มเติมถึงสาเหตุสำคัญที่ปฏิเสธการเข้าร่วมงานว่าเกิดจากความไม่พอใจในเกณฑ์การตัดสินที่มองว่าไม่ยุติธรรม โดยระบุว่า “หากเกณฑ์การให้รางวัลไม่เห็นคุณค่าของ วินิซิอุส ผู้มีความสามารถ ควรจะยกให้ (ดานี่) การ์บาฆาล ด้วยเช่นกัน” พร้อมกล่าวเน้นย้ำว่า “การจัดรางวัลบัลลงดอร์ครั้งนี้ไม่เคารพสโมสร เรอัล มาดริด และเราจะไม่เข้าร่วมในงานที่ไม่แสดงความเคารพต่อเรา”

“Here we go!” รูเบน อโมริม คุมแมนยู

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินหน้าดึงตัว รูเบน อโมริม อย่างรวดเร็ว หลังจากที่สโมสรได้ตัดสินใจปลด เอริค เทน ฮาก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีแนวโน้มสูงที่กุนซือวัย 39 ปีจะตอบรับงานนี้ เนื่องจากเขามีความสนใจในการคุมทีมในพรีเมียร์ลีกมาอย่างยาวนาน หลังจากก่อนหน้านี้เคยมีข่าวเชื่อมโยงกับ เวสต์แฮม และ ลิเวอร์พูล

ฟาบริซิโอ โรมาโน นักข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดนักเตะ ระบุว่า “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมจ่ายค่าฉีกสัญญา 10 ล้านยูโร เพื่อให้ อโมริม เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่” พร้อมกับยืนยันคำพูดสุดฮิตว่า “Here we go!”

ทั้งนี้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาได้รับการติดต่อจาก แมนฯ ยูไนเต็ด สำหรับการพูดคุยในการแต่งตั้ง อโมริม ขณะที่ตัว อโมริม เองก็ตอบรับข้อเสนอและแผนงานที่ทางสโมสรได้เสนอให้

“เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ท้าทายความแกร่งของเบรนท์ฟอร์ด บิ๊กแมตช์แห่งคาราบาวคัพรอบ 4!”

0

วิเคราะห์ก่อนเกม: เบรนท์ฟอร์ด พบ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ (EFL คัพ รอบสี่)

เบรนท์ฟอร์ดจะเปิดสนาม Gtech Community Stadium ต้อนรับการมาเยือนของเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ในวันที่ 30 ตุลาคม 2567 โดยทั้งสองทีมต่างหวังที่จะผ่านเข้ารอบ EFL คัพ เบรนท์ฟอร์ดกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี โดยเฉพาะการทำประตูในเกมลีกล่าสุด รวมถึงผลงานในบ้านที่มีความแข็งแกร่ง ขณะที่เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ก็มุ่งหวังใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างความสำเร็จและขยับฟอร์มในลีกที่ยังไม่แน่นอนในฤดูกาลนี้

ฟอร์มและสถิติผู้เล่น

เบรนท์ฟอร์ดมีผู้เล่นตัวรุกหลายคนที่โดดเด่น เช่น คีน ลูอิส-พอตเตอร์ และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ที่สร้างสรรค์เกมได้ดี พวกเขาจะต้องใช้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและการส่งบอลที่แม่นยำเพื่อเจาะแนวรับของเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ขณะที่เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์มี จอช วินดาสส์ และ แอนโธนี มูซาบา ซึ่งทำผลงานได้ดีในเกมรับและเกมสวนกลับ พวกเขาน่าจะมองหาโอกาสจากลูกเซ็ตพีซและความผิดพลาดจากแนวรับเจ้าบ้าน

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง

เบรนท์ฟอร์ด (4-3-3):

  • GK: มาร์ค เฟล็คเคน
  • RB: แมดส์ โรเออร์สเลฟ
  • CB: นาธาน คอลลินส์
  • CB: อีธาน พินน็อค
  • LB: ริโก้ เฮนรี่
  • CM: คริสเตียน นอร์การ์ด
  • CM: วิตาลี่ จาเนลต์
  • CAM: ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่
  • RW: ไบรอัน เอ็มบูโม่
  • ST: คีน ลูอิส-พอตเตอร์
  • LW: โยอัน วิสซ่า

เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ (4-2-3-1):

  • GK: คาเมรอน ดอว์สัน
  • RB: โปล วาเลนติน
  • CB: ไมเคิล อิเฮคเว
  • CB: อาเดน ฟลินท์
  • LB: ไรซีน แม็คคาร์ธี่
  • CM: แบร์รี่ แบนแน่น
  • CM: วิล วอลค์ส
  • RW: จอช วินดาสส์
  • CAM: เลียม พัลเมอร์
  • LW: แอนโธนี มูซาบา
  • ST: อิเค อุกโบ

การคาดการณ์ผลการแข่งขัน

จากฟอร์มและความได้เปรียบของเบรนท์ฟอร์ดในฐานะเจ้าบ้าน คาดว่าพวกเขาน่าจะควบคุมเกมและมีโอกาสทำประตูมากกว่า เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ที่ยังมีปัญหาในเกมรุกและต้องพึ่งการเล่นลูกตั้งเตะเป็นหลัก ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอในการต้านทานเกมรุกที่ดุดันของเบรนท์ฟอร์ด

คาดการณ์สกอร์: เบรนท์ฟอร์ด 2-0 เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์

ศึกหนักถ้วย EFL! เซาแธมป์ตันลุ้นโอกาสเปิดบ้านรับมือสโต๊ค ซิตี้

0

วิเคราะห์ก่อนเกม: เซาแธมป์ตัน พบ สโต๊ค ซิตี้ (EFL Cup รอบ 4)

การแข่งขันรอบที่ 4 ของศึก EFL Cup วันที่ 30 ตุลาคม 2567 นี้ เป็นการพบกันระหว่าง เซาแธมป์ตัน ที่จะเปิดสนาม เซนต์ แมรีส์ รับการมาเยือนของ สโต๊ค ซิตี้ สองทีมนี้มีฟอร์มการเล่นที่ค่อนข้างแตกต่างกัน เซาแธมป์ตันหวังใช้เกมนี้เป็นโอกาสที่จะเสริมความมั่นใจ หลังผลงานในลีกไม่ดีนัก ขณะที่สโต๊ค ซิตี้ก็พยายามเรียกฟอร์มหลังจากการแข่งขันที่ยังไม่สม่ำเสมอในแชมเปี้ยนชิพ

เซาแธมป์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ รัสเซลล์ มาร์ติน ยังคงพยายามหาฟอร์มที่คงเส้นคงวา หลังเพิ่งเสมอกับ อิปสวิช 1-1 และพ่ายให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การเล่นในบ้านอาจเป็นข้อได้เปรียบเล็กน้อยของพวกเขา ขณะที่สโต๊ค ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซ์ นีล มองหาชัยชนะหลังจากหลุดฟอร์ม โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่แพ้เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0-2

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

เซาแธมป์ตัน (4-2-3-1)

  • GK: อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี
  • RB: ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส
  • CB: อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป
  • CB: ยาน เบดนาเร็ก
  • LB: ไรอัน แมนนิ่ง
  • CM: เจมส์ วอร์ด-พราวส์
  • CM: วิล สมอลโบน
  • CAM: สจ๊วต อาร์มสตรอง
  • RW: จอช คิงส์ตัน
  • LW: คามาลดีน ซูเลมานา
  • ST: เช อดัมส์

สโต๊ค ซิตี้ (3-5-2)

  • GK: มาร์ค ทราเวอร์ส
  • CB: ไมเคิล โรส
  • CB: จอช ไทมอน
  • CB: ลูอิส เบเกอร์
  • RM: โทมัส อินซ์
  • CM: จอช ลอเรนต์
  • CM: เบน เพียร์สัน
  • CM: ไรอัน มอยร์
  • LM: จอร์แดน ธอมป์สัน
  • ST: จาค็อบ บราวน์
  • ST: ไทรีส แคมป์เบลล์

การคาดการณ์ผลการแข่งขัน:

แม้เซาแธมป์ตันจะได้เปรียบในการเล่นในบ้านและมีความตั้งใจที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปในศึก EFL Cup แต่ฟอร์มการเล่นที่ยังไม่แน่นอนอาจทำให้สโต๊ค ซิตี้มีโอกาสคว้าผลเสมอหรืออาจบุกมาเก็บชัยได้ ทั้งนี้ คาดว่าเกมจะจบลงด้วยสกอร์ 2-1 ให้กับเซาแธมป์ตัน หรืออาจไปถึงการยิงจุดโทษเพื่อหาผู้ชนะ

บิ๊กแมทช์เซเรียอาคืนนี้! เอซี มิลาน เปิดบ้านต้อนรับ นาโปลี เซเรียอา วีค10

0

สองทีมที่กำลังแข่งขันเพื่อสคูเด็ตโต้ตั้งเป้าที่จะปรับปรุงโอกาสในการคว้าแชมป์เซเรียอาในวันที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 02.45 น. เมื่อเอซี มิลานต้อนรับนาโปลีที่ซานซิโร่ แม้ว่าเกมสุดสัปดาห์ของมิลานจะต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายในโบโลญญา แต่จ่าฝูงของลีกก็ยังสามารถคว้าชัยชนะเป็นเกมที่สามติดต่อกันและทิ้งห่างคู่แข่งอย่างรอสโซเนรีอยู่ 8 คะแนน

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

เอซี มิลาน เกมล่าสุดของรอสโซเนรีกับโบโลญญ่าถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาเอาชนะคลับบรูจจ์ในแชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ ทำให้กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งหลังจากเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างยากลำบาก มิลานไม่แพ้นาโปลีมา 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการ รวมถึงนัดที่ชนะแบบหวุดหวิดเมื่อต้นปีนี้ และนัดที่เสมอกัน 2-2 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

นาโปลี ภายใต้การบริหารของอันโตนิโอ คอนเต้นาโปลีได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด โดยมีแนวรับที่แข็งแกร่งซึ่งรักษาคลีนชีตได้ใน 6 จาก 7 เกมหลังสุด พวกเขาเพิ่งเอาชนะเลชเช่ด้วยประตูจากกัปตันทีมจิโอวานนี่ ดิ ลอเรนโซทำให้พวกเขายืนหยัดอยู่บนหัวตารางได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น

ข่าวทีมล่าสุด

เอซี มิลานจะพักเตโอ แอร์นานเดซและเทียน ไรน์เดอร์ส แม้ติดโทษแบนในเกมพบโบโลญญ่า โดยเตรียมส่งคาลาเบรียหรือเทอร์ราชชาโน่ลงแทนแบ็กซ้าย
ขณะที่ตำแหน่งของไรน์เดอร์สยังไม่ชัดเจน ด้านคริสเตียน พูลิซิชยังคงเป็นหัวใจหลักในการทำเกมรุกต่อเนื่อง โดยทำประตูหรือแอสซิสต์ใน 7 เกมลีกหลังสุด

ฝั่งนาโปลีจะส่ง ควารัตสเคเลีย และ โปลิตาโน่ ลงตัวจริงในซาน ซีโร่ ร่วมกับ โรเมลู ลูกากู ที่ใกล้ทำสถิติ 100 ประตูในเซเรียอา ส่วนนักเตะคนสำคัญอย่าง
สตานิสลาฟ โลบอตก้า อาจฟื้นตัวทันกลับมาช่วยทีมในเกมนี้

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

เอซี มิลาน
ไมญ็อง; เอเมอร์สัน, โทโมรี, ปาฟโลวิช, แตร์ราชชาโน่; โฟฟานา, ลอฟตัส-ชีค; ชุคเวเซ่, พูลิซิช, โอคาฟอร์; โมราต้า

นาโปลี
เมเร็ต; ดิ ลอเรนโซ, ราห์มานี่, บูออนจิออร์โน่, สปินาซโซลา; อังกุสซา, โลบอตกา; โปลิตาโน่, แม็คโทมิเนย์, ควารัตสเคเลีย; ลูกากู

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

แม้ว่านาโปลีจะดูเป็นทีมที่มีวินัยมากกว่ามิลานที่ฟอร์มดีแต่ก็ยากที่จะเอาชนะได้ในบ้าน แม้ว่าโค้ชทั้งสองทีมจะมีเกมรุกที่แข็งแกร่ง แต่การแข่งขันครั้งนี้ก็อาจจะตึงเครียด โดยผลลัพธ์ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือการแบ่งแต้มทั้งสองทีม

เอซี มิลาน 1-1 นาโปลี

วูล์ฟสบวร์ก พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในศึก เดเอฟเบ โพคาล รอบ 2

0

วูล์ฟสบวร์กจะเข้าร่วม การแข่งขัน ฟุตบอลระดับสูงของ เดเอฟเบ โพคาล เมื่อพวกเขาจะเป็นเจ้าบ้านพบกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในวันที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 02.45 น. ที่โฟล์คสวาเกน อารีน่า วูล์ฟส์เอาชนะโคเบลนซ์ 1-0ในรอบแรกของการแข่งขันเมื่อเดือนสิงหาคม และอยู่อันดับที่ 14 ในบุนเดสลีกา มี 8 คะแนน ขณะที่ดอร์ทมุนด์ของนูริ ซาฮิ น เอาชนะ ฟีนิกซ์ ลือเบค 4-1ในเดือนสิงหาคมและผ่านเข้ารอบที่สองได้

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

วูล์ฟสบวร์ก พวกเขาผ่านโคเบลนซ์มาได้ด้วยชัยชนะ 1-0 ในรอบแรก แต่ปัจจุบันรั้งอันดับที่ 14 ในบุนเดสลีกา โดยชนะเพียง 3 นัดจาก 9 นัดอย่างเป็นทางการในฤดูกาลนี้ ฟอร์มล่าสุดของพวกเขารวมถึงการเสมอกับซังต์ เพาลี 0-0 ซึ่งพวกเขาสร้างโอกาสได้หลายครั้งแต่ทำประตูไม่ได้ พวกเขาประสบปัญหาในบ้านโดยแพ้ 4 นัดจาก 5 นัดหลังสุด

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต้องการชัยชนะในเกมนี้ หลังจากพ่ายแพ้ต่อเอาก์สบวร์ก (2-1) และเรอัล มาดริด (5-2) ปัจจุบันพวกเขารั้งอันดับที่ 7 ในบุนเดสลีกา และไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้เลยใน 7 เกมหลังสุด โดยเสียประตูไปถึง 18 ลูกในช่วงเวลานี้

ข่าวทีมล่าสุด

วูล์ฟสบวร์ก ทีมกำลังเผชิญกับวิกฤตการบาดเจ็บของผู้เล่นหลักอย่าง อัสเตอร์ วรังค์ซ์, เควิน ปาเรเดส และมักซิมิเลียน อาร์โนลด์ ซึ่งไม่สามารถลงเล่นได้ พวกเขาอาจส่ง
กราบาร่าลงเฝ้าเสา และเอล อามีน อามูราลงเล่นเป็นกองหน้า

ดอร์ทมุนด์ พวกเขาจะขาดกองหน้าอย่าง จิโอวานนี่ เรย์น่า และ คาริม อเดเยมี่ รวมถึงคนอื่นๆ อีกด้วย รายชื่อตัวจริงของพวกเขาอาจได้ เมเยอร์ ลงเฝ้าเสา เอ็มเร่ ชาน ลงเล่นในแนวรับ และวัตเจน กับ เอ็นเมชา ลงเล่นในแดนกลาง

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

วูล์ฟสบวร์ก
กราบารา, ฟิชเชอร์, วาฟโร, คูเลียราคิส, แมห์เล, ออซคาน, เกอร์ฮาร์ด, บากู, วินด์, โทมัส, เอล อามีน อามูรา

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
เมเยอร์, ​​ชาน, ลูร์ส, ชล็อตเตอร์เบ็ค, คาบาร์, วัตเจน, นเมชา, แคมป์เบลล์, บรันด์ต, ไบโน-กิตเทนส์, กีราสซี

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต้องการชัยชนะอย่างยิ่งแต่ก็ยากที่จะเห็นพวกเขาชนะแบบสบายๆ คงไม่น่าแปลกใจหากวูล์ฟสบวร์กทำประตูแรกได้ แต่ด้วยฟอร์มการเล่นในบ้านที่ย่ำแย่ของพวกเขา พวกเขาอาจต้องดิ้นรนเพื่อรักษาคะแนนนำเอาไว้

วูล์ฟสบวร์ก 2-3 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ไลป์ซิก พบ ซังต์ เพาลี ในศึก เดเอฟเบ โพคาล รอบ 2

0

แอร์เบ ไลป์ซิก จะพบกับ ซังต์ เพาลี ในรอบที่สองของ เดเอฟเบ โพคาล ที่ เรดบูล อารีน่า ในวันที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 00.00 น. ไลป์ซิก ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอันดับสองของบุนเดสลีกาโดยมี 20 คะแนน ก่อนหน้านี้เอาชนะ ร็อต-ไวส์ เอสเซ่น ไปได้ 4-1 ในรอบแรกของการแข่งขันนี้ ในทางตรงกันข้าม ซังต์ เพาลี รั้งอยู่ในอันดับที่ 16 โดยมีเพียง 5 คะแนนและกำลังเผชิญปัญหาการตกชั้น

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

ไลป์ซิกเพิ่งเอาชนะไฟรบวร์กไป 3-1 เมื่อไม่นานนี้ โดยยังคงรักษาสถิติไม่แพ้ใครในลีกเอาไว้ได้ พวกเขามีประวัติการแข่งขัน เดเอฟเบ โพคาล ที่แข็งแกร่ง โดยคว้าแชมป์รายการนี้มาได้ในช่วงสองฤดูกาลหลังสุด แม้จะมีแนวรับที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญความท้าทายในการแข่งขันล่าสุด รวมถึงการแพ้ให้กับยูเวนตุสและลิเวอร์พูลในแชมเปี้ยนส์ลีก

ซังต์ เพาลี ทำได้แค่เสมอกับโวล์ฟสบวร์กแบบไร้สกอร์ และก่อนหน้านี้ก็เอาชนะฮัลเลสเชอร์ เอฟซี ในบอลถ้วยด้วยประตูชัยในช่วงท้ายเกม อย่างไรก็ตาม พวกเขายังทำผลงานได้ไม่ดีนัก โดยแพ้ไป 5 นัดจาก 8 นัดหลังสุด

ข่าวทีมล่าสุด

ไลป์ซิกจะขาดผู้เล่นหลักหลายคน ชาแวร์ ชลาเกอร์ จะต้องพักจนถึงเดือนมกราคม 2025 และดาวิด ราวม์ จะไม่กลับมาจนกว่าจะถึงเดือนธันวาคม ผู้รักษาประตู ปีเตอร์ กูลาซซี และกองกลางอย่างนิโกลัส เซวาลด์ และชาบี ซิมงส์ ยังไม่พร้อมลงสนามเช่นกัน

อาการบาดเจ็บของซังต์ เพาลี ได้แก่ อเล็กซานเดอร์ โวลล์ (กรามหัก) และเอเลียส ซาอัด (ต้องพักจนถึงเดือนมกราคม) คาดว่าผู้เล่นคนอื่นๆ จะกลับมาได้ในเดือนพฤศจิกายน

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

แอร์เบ ไลป์ซิก
วานเดวอร์ด; เกียร์ทรุยดา, โคลสเตอร์มันน์, ออร์บัน, เฮนริชส์; เบาม์การ์ทเนอร์, ไฮดารา, แฟร์เมียร์เรน, เอลมาส; เซสโก้, โพลเซ่น

ซังต์ เพาลี
วาซิลจ์; วาห์ล, สมิธ, เม็ตส์; ซาลิอาคัส, เออร์ไวน์, บูคาลฟา, เทรอู; อโฟลายัน, เอ็กเกสไตน์, อัลเบอร์ส

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

แม้ว่าไลป์ซิกจะไม่ได้ทำหน้าที่เฝ้าเสาได้ดีนัก แต่สถิติการป้องกันของพวกเขาถือว่ายอดเยี่ยม และพวกเขาอาจจะเก็บคลีนชีตได้ในวันอังคารนี้

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากประวัติอันยอดเยี่ยมของเจ้าบ้านใน เดเอฟเบ โพคาล ในช่วงไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา คงเป็นเรื่องน่าแปลกใจหากพวกเขาตกรอบตั้งแต่เนิ่นๆ ของการแข่งขัน

แอร์เบ ไลป์ซิก 1-0 ซังต์ เพาลี

ห้ามพลาด!