Home Blog Page 68

“เปิดเผย! ลิเวอร์พูลเคยเล็ง ‘อันโตนี่’ แทนซาลาห์ “

0

พอล จอยซ์ ผู้สื่อข่าวสายลึกของลิเวอร์พูลจาก The Times เคยรายงานว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ อดีตกุนซือหงส์แดง เคยให้ความสนใจดึงตัว อันโตนี่ ปีกจอมพลิ้วของอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาร่วมทีมในปี 2022 โดยวางตัวไว้เป็นแผนสำรองในกรณีที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่ขยายสัญญากับทีม

ล่าสุด จูเนียร์ เปโดรโซ่ ตัวแทนของอันโตนี่ ได้ออกมายืนยันข่าวลือดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริง ลิเวอร์พูลเคยเข้าใกล้การเซ็นสัญญากับอันโตนี่ แต่สุดท้ายการพูดคุยต้องหยุดลง เมื่อซาลาห์ต่อสัญญาใหม่กับลิเวอร์พูลออกไปจนถึงปี 2025

ในที่สุด ดีลอันโตนี่กับลิเวอร์พูลจึงไม่เกิดขึ้น และเขาเลือกย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแทนด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 82 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ 2022 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการซื้อขายที่สร้างความฮือฮาในตลาด

แม้ว่าจะไม่ได้ย้ายมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ แต่การที่อันโตนี่เคยเป็นเป้าหมายของลิเวอร์พูลสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถที่โดดเด่นของเขา ซึ่งเป็นที่จับตามองของทีมระดับท็อปในยุโรปตั้งแต่ช่วงต้นของอาชีพ

“โรดรี้ เตรียมโชว์บัลลงดอร์ในเกมดวล สเปอร์ส คืนวันเสาร์นี้!”

0

สุดสัปดาห์นี้ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม จะกลายเป็นศูนย์กลางของความภาคภูมิใจและความสำเร็จ เมื่อ โรดรี้ เอร์นานเดซ กองกลางตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมนำถ้วยรางวัล บัลลงดอร์ มาอวดโฉมให้แฟนๆ ได้เห็นกันก่อนเกมพรีเมียร์ลีกที่พวกเขาจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในวันเสาร์นี้

โรดรี้ ซึ่งทำผลงานโดดเด่นตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ทำให้เขาถูกจดจำในฐานะฮีโร่ของเหล่าแฟนบอล “เรือใบสีฟ้า”

การแสดงถ้วยรางวัลครั้งนี้นับเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับทั้งโรดรี้และสโมสร โดยเฉพาะเมื่อแฟนๆ จะได้มีส่วนร่วมในช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้ สำหรับเกมในวันเสาร์ แมนฯ ซิตี้ กำลังมุ่งมั่นคว้าสามคะแนนสำคัญเพื่อกดดันจ่าฝูงในตารางพรีเมียร์ลีก

โรดรี้ให้สัมภาษณ์ก่อนงานใหญ่:
“การได้รับรางวัลบัลลงดอร์เป็นความฝันที่เป็นจริง และผมอยากแบ่งปันช่วงเวลานี้กับแฟนบอลที่ยอดเยี่ยมของเรา การได้แสดงถ้วยรางวัลต่อหน้าพวกเขาที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

แฟนบอล “เรือใบสีฟ้า” จะไม่เพียงแต่ได้ลุ้นชัยชนะในสนาม แต่ยังมีโอกาสได้เห็นหนึ่งในถ้วยรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดของโลกฟุตบอล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จระดับสูงสุดในอาชีพนักฟุตบอล

เตรียมพบกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความภาคภูมิใจได้ในวันเสาร์นี้!

“จากดีแลปถึงนียากาเต้: วิวัฒนาการของลูกทุ่มไกลในโลกฟุตบอล”

0

ลูกทุ่มไกลอาจดูเหมือนเพียงจังหวะเล็กๆ ในเกมฟุตบอล แต่ในความเป็นจริง มันเป็นอาวุธลับที่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ เหล่าผู้เล่นอย่าง รอรี่ ดีแลป อดีตมิดฟิลด์ของ สโต๊ก ซิตี้ และ มูสซา นียากาเต้ จาก น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ คือสองตัวอย่างที่ชี้ชัดถึงความสำคัญของเทคนิคนี้ แม้จะใช้วิธีที่แตกต่างกัน แต่กลับสร้างผลลัพธ์ที่อันตรายไม่แพ้กัน

รอรี่ ดีแลป: ตำนานแห่งลูกทุ่มทรงพลัง

ในยุคของดีแลป การทุ่มไกลกลายเป็นจุดเปลี่ยนเกมสำคัญ เขามักใช้โมเมนตัมจากการวิ่งยาวก่อนจะปักเท้าและปล่อยลูกทุ่มในองศาที่เฉียบขาด คำพูดของ มาร์ติน โอนีล ซึ่งเคยเปรียบเทียบการทุ่มของเขากับ “ลูกเตะมุมหรือฟรีคิก” ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด การวิ่งเข้าเสริมแรงพร้อมกับกล้ามเนื้อหัวไหล่และหลังส่วนล่างของเขา ทำให้ลูกทุ่มทรงพลังและแม่นยำอย่างที่แทบไม่มีใครเทียบได้

มูสซา นียากาเต้: การทุ่มไกลแห่งยุคใหม่

ในทางตรงกันข้าม นียากาเต้ไม่ได้อาศัยพื้นที่ข้างสนามมากนัก แต่เน้นการใช้พลังจากกล้ามเนื้อสะโพก หน้าท้อง และหัวไหล่เพื่อสร้างแรงทุ่มที่ทรงพลัง ดร. นีล สมิธ จากมหาวิทยาลัยชิเชสเตอร์ อธิบายว่า เทคนิคของนียากาเต้เน้นการวางมือลึกกว่าปกติและใช้วงจรการยืดหดของกล้ามเนื้อเพื่อสร้างแรงส่งที่รวดเร็วและแม่นยำ

ในเกมที่ ฟอเรสต์ เจอกับ ลิเวอร์พูล นียากาเต้โชว์ศักยภาพจนทำให้กองหลังหงส์แดงต้องปั่นป่วน และถึงกับทำให้ เยอร์เกน คล็อปป์ ออกมายอมรับว่า “ลูกทุ่มเหล่านี้สร้างปัญหาให้กับเราอย่างมาก”

ความแตกต่างที่ลงตัว: ลูกตรงของดีแลปกับลูกโค้งของนียากาเต้

ดีแลป เน้นการทุ่มแบบแบ็กสปินที่ลดการสูญเสียพลังระหว่างการเคลื่อนที่ของบอล ซึ่งทำให้บอลพุ่งอย่างรวดเร็วและควบคุมง่าย ขณะที่ นียากาเต้ ใช้เทคนิคที่ปล่อยบอลให้ลอยตัวสูงและมีแรงหมุน เพื่อทำให้กองหลังคู่แข่งคาดเดาทิศทางได้ยากขึ้น

อนาคตของเทคนิคการทุ่มไกล

ไม่เพียงแต่สองคนนี้ที่โดดเด่นในด้านการทุ่มไกล สโมสรอย่างลิเวอร์พูลเองก็เคยสร้างความฮือฮาในปี 2019-20 ด้วยการจ้าง โธมัส กรอนเนมาร์ก โค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านการทุ่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรีสตาร์ทเกม ส่งผลให้พวกเขาทำประตูได้ถึง 14 ลูกจากจังหวะดังกล่าวในปีที่คว้าแชมป์ลีก

สำหรับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ คำถามสำคัญคือ นียากาเต้จะสามารถใช้ทักษะอันโดดเด่นนี้สร้างความได้เปรียบให้ทีมได้สม่ำเสมอแค่ไหน หากทำได้ อาวุธลับนี้อาจกลายเป็นไม้ตายที่ช่วยพาทีมไต่อันดับในลีกได้ในระยะยาว.

“15 ล้านปอนด์เพื่อยกโทษ! ไคล์ วอล์คเกอร์”

0

มีรายงานว่าความสัมพันธ์ระหว่าง Annie Kilner และ Kyle Walker กองหลังคนสำคัญของ Manchester City

กำลังอยู่ในจุดเปราะบางสุดขีด หลังจากมีข่าวลือว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาสั่นคลอนเนื่องจากการนอกใจของไคล์สองครั้งกับผู้หญิงคนเดิม ซึ่งถึงกับมีลูกนอกสมรสเพิ่มมาอีกสองคน

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า Annie ได้ขอให้ไคล์ออกจากบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เธอยังเปิดโอกาสให้การแต่งงานครั้งนี้ได้ไปต่อ แต่มีเงื่อนไขชัดเจน – ไคล์จะต้องจ่ายเงินจำนวน 15 ล้านปอนด์เพื่อชดเชยความเจ็บปวดและเพื่อแสดงความจริงใจ

ทั้งคู่มีลูกด้วยกันถึงสี่คน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Annie ไม่ปิดประตูโอกาสของความสัมพันธ์ครั้งนี้ แต่เธอก็ได้แสดงจุดยืนอย่างเด็ดเดี่ยวว่าสิ่งที่ไคล์ทำไปนั้นอาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตคู่

สำหรับไคล์ วอล์คเกอร์ นี่อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เขาต้องตัดสินใจ – จะยอมจ่ายเพื่อรักษาครอบครัว หรือปล่อยให้เรื่องราวนี้กลายเป็นจุดจบของการแต่งงาน

Annie ดูเหมือนพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไม่ว่าในทางใดก็ตาม และการเรียกร้องครั้งนี้อาจเป็นสิ่งที่เธอคิดว่าเหมาะสมที่สุดในสถานการณ์นี้

PGMOL ยังไม่ขยับ แม้ “เดวิด คูต” มีคดีฉาว

0

คณะกรรมการผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PGMOL) ยังคงไม่มีแผนดำเนินการตรวจหาสารเสพติดในกลุ่มผู้ตัดสิน แม้จะเกิดกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับ เดวิด คูต ผู้ตัดสินวัย 42 ปี ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน หลังมีวิดีโอที่ถูกกล่าวหาว่าเขามีพฤติกรรมคล้ายการเสพยาแพร่ออกมาในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024

ปัจจุบัน คูต ถูกพักงานชั่วคราวและอยู่ภายใต้การตรวจสอบโดย Professional Game Match Officials Limited ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่าเขาอาจไม่ได้กลับมาทำหน้าที่ในสนามอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม PGMOL ยังไม่มีการบังคับใช้มาตรการตรวจสารเสพติด เนื่องจากแนวทางของทั้งยูฟ่าและฟีฟ่ายังคงไม่ได้ระบุให้มีการทดสอบในลักษณะนี้

คีธ แฮ็คเกตต์ อดีตหัวหน้าผู้ตัดสิน เปิดเผยกับ เดอะ เทเลกราฟ ว่าคณะกรรมการ PGMOL ยังคงยืนยันไม่ดำเนินการตรวจสารเสพติดในผู้ตัดสิน โดยให้เหตุผลว่า ผู้ตัดสินไม่ได้อยู่ในสถานะของการ “แข่งขัน” เหมือนนักฟุตบอล จึงไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการนี้

แฮ็คเกตต์ให้ความเห็นว่า “หากผู้เล่นต้องถูกตรวจสารเสพติด แล้วทำไมผู้ตัดสินถึงจะไม่ต้องทำ? ผมคิดว่าคณะกรรมการยังไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะพวกเขามองว่ามันไม่ใช่ปัญหาของผู้ตัดสิน”

ความพยายามที่จะบังคับใช้มาตรการนี้เคยถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในปี 2012 โดย จิริ ดโวรัก หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของฟีฟ่า แต่สุดท้ายเรื่องก็ไม่ได้คืบหน้า

กรณีของ เดวิด คูต ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับมาตรฐานและความโปร่งใสในวงการผู้ตัดสิน ว่ามาตรการตรวจสารเสพติดควรเป็นส่วนหนึ่งของการรับรองคุณภาพและความน่าเชื่อถือในหน้าที่ของพวกเขาหรือไม่.

พูลิซิชแจงชัด! เต้นท่าแค่ขำขัน ไม่เกี่ยวการเมือง

0

คริสเตียน พูลิซิช แนวรุกทีมชาติสหรัฐอเมริกาและเอซี มิลาน ออกมาชี้แจงหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการฉลองประตูในเกมที่ทีมชาติสหรัฐฯ เอาชนะจาเมกา 4-2 ในศึกคอนคาเคฟ เนชันส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยเจ้าตัวเลือกเต้นท่าที่มักเห็นในระหว่างการหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าทำไปเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงทางการเมือง

เกมดังกล่าว พูลิซิชทำประตูขึ้นนำให้สหรัฐฯ ในนาทีที่ 13 ก่อนจะฉลองด้วยท่าเต้นที่ถูกเชื่อมโยงกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งอีกครั้งในต้นปีหน้า หลังเกมจบ พูลิซิชถูกถามถึงความหมายของท่าเต้นดังกล่าว และเขายืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนทรัมป์แต่อย่างใด

“มันเป็นแค่ท่าเต้นที่ผมเห็นคนทำกันทั่วไป แน่นอนว่ามันคือท่าที่ทรัมป์ทำขึ้นมา แต่ผมแค่คิดว่ามันดูตลกดีเท่านั้น” พูลิซิชกล่าว

เขายังเสริมว่า “เมื่อวานผมเห็นหลายคนในเอ็นเอฟแอลเต้นท่านี้ รวมถึง จอน โจนส์ นักสู้ UFC แชมป์เฮฟวี่เวตด้วย ผมก็แค่อยากเล่นสนุกนิดหน่อย ไม่ได้มีนัยอะไร”

เมื่อถูกถามเพิ่มเติมว่าควรมองว่าเป็นการสนับสนุนทรัมป์หรือไม่ พูลิซิชตอบชัดเจนว่า “ไม่เลย ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการเมืองเลย มันเป็นเรื่องของความสนุก ผมแค่เห็นว่าหลายคนทำแล้วมันดูตลกดี ผมเลยเต้นแบบนั้นเพื่อเพิ่มสีสันให้การฉลองก็เท่านั้น”

คำชี้แจงของพูลิซิชช่วยเคลียร์ข้อสงสัยและยืนยันว่าการกระทำของเขาในครั้งนี้เป็นเพียงแค่การหยอกล้ออย่างไร้เจตนาแฝงทางการเมือง.

โดนเต็ม! เอฟเอสั่งแบน “เบนตันกูร์”

0

โรดริโก้ เบนตันกูร์ มิดฟิลด์ของท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) สั่งลงโทษแบน 7 นัด พร้อมปรับเงิน 100,000 ปอนด์ จากกรณีใช้คำพูดเชิงเหยียด ซน ฮึง-มิน เพื่อนร่วมทีมของเขา

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เบนตันกูร์ให้สัมภาษณ์ในรายการท้องถิ่นที่อุรุกวัย โดยในช่วงหนึ่งพิธีกรขอให้เขานำเสื้อของ ซน ฮึง-มิน กลับมาเป็นของฝาก ซึ่งเบนตันกูร์ตอบกลับในลักษณะติดตลกว่า “เสื้อของซนนี่เหรอ? อาจจะเป็นของญาติเขาก็ได้ เพราะพวกเขาหน้าตาเหมือนกันหมด”

คำพูดดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังรายการออกอากาศ จนเบนตันกูร์ต้องออกมาโพสต์ข้อความขอโทษ ซน ฮึง-มิน ผ่านอินสตาแกรม และมีการพูดคุยเคลียร์ใจกันระหว่างทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม เอฟเอ ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ โดยเริ่มการสอบสวนและตั้งข้อหาต่อเบนตันกูร์ในเวลาต่อมา

แม้ว่าเบนตันกูร์จะถูกแบนจากการแข่งขันในประเทศทั้งหมด แต่เขายังสามารถลงเล่นในศึกฟุตบอลยุโรปได้ตามปกติสำหรับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

บทลงโทษครั้งนี้เป็นสัญญาณชัดเจนจากเอฟเอว่าการกระทำเชิงเหยียดเชื้อชาติหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสมในวงการฟุตบอลจะไม่ได้รับการยอมรับ แม้จะมาในรูปแบบของการล้อเล่นก็ตาม.

“ซน ฮึง มิน” ล็อกอนาคตชัดเจน เลือกอยู่ต่อกับสเปอร์ส

0

ซน ฮึง มิน แนวรุกตัวเก่งของท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตการค้าแข้งของเขาแล้ว โดยยืนยันความต้องการที่จะอยู่กับ “ไก่เดือยทอง” ต่อไป แม้สัญญาฉบับปัจจุบันกำลังจะหมดลงในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้

รายงานจาก Sky Sports Germany เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ระบุว่า ซน ฮึง มิน วัย 32 ปี มีความชัดเจนว่าจะยังคงสวมเสื้อสเปอร์สต่อไป แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวลือว่าหลายสโมสร โดยเฉพาะทีมจากซาอุดีอาระเบีย สนใจคว้าตัวเขาไปร่วมทัพ

สเปอร์สเองก็พร้อมที่จะใช้ออปชั่นขยายสัญญาของซนออกไปอีก 1 ปี และในตอนนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังเร่งสรุปข้อตกลงกัน คาดว่าการเจรจาจะได้บทสรุปในเร็วๆ นี้

สำหรับผลงานในฤดูกาลนี้ ซน ฮึง มิน ยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีม โดยยิงไปแล้ว 3 ประตู และทำ 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 11 นัดในทุกรายการ การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เพียงช่วยเสริมความมั่นคงให้กับสเปอร์ส แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีของเขาต่อสโมสรที่เขาเป็นส่วนสำคัญมาตลอดหลายปี.

“ป็อกบา” ไม่ได้กลับแมนยูฯ! โรมาโนยันชัด

0

เกิดกระแสข่าวลือใหญ่โตเกี่ยวกับ พอล ป็อกบา อดีตมิดฟิลด์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถูกระบุว่าเขาจะกลับมาที่สนามแคร์ริงตัน เพื่อขอฝึกซ้อมกับทีมเก่า อย่างไรก็ตาม ฟาบริซิโอ โรมาโน นักข่าวสายตลาดซื้อขายคนดัง ได้ออกมายืนยันว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริง

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 โรมาโนได้โพสต์ผ่านช่องทางของเขาเพื่อปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว โดยระบุว่า ป็อกบาไม่ได้มีการติดต่อกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และไม่มีแผนที่จะกลับไปซ้อมกับสโมสรใดในขณะนี้ เนื่องจากเจ้าตัวกำลังเตรียมร่างกายอย่างเต็มที่ที่ไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา

ป็อกบา เพิ่งยกเลิกสัญญากับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส และกำลังพิจารณาข้อเสนอจากหลายสโมสรทั้งในยุโรปและเอเชีย โดยหนึ่งในปลายทางที่อาจเป็นไปได้คือการย้ายไปเล่นในซาอุดีอาระเบีย

สำหรับแฟนบอลที่หวังเห็นป็อกบากลับมาร่วมงานกับ “ปิศาจแดง” คงต้องผิดหวังกับข่าวลือที่ถูกปัดตกไป อย่างไรก็ตาม อนาคตของกองกลางรายนี้ยังคงเป็นที่จับตามองในตลาดซื้อขายนักเตะรอบต่อไป.

ลีซานโดร ถอนตัวจากทีมชาติ! ผีเผชิญวิกฤตแข้งเจ็บ 7 ราย

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องรับมือกับวิกฤตอาการบาดเจ็บในทีมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ลีซานโดร มาร์ตีเนซ ปราการหลังตัวเก่ง กลายเป็นผู้เล่น “ปีศาจแดง” รายล่าสุดที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวจากทีมชาติอาร์เจนตินา ในช่วงศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกเดือนพฤศจิกายนนี้

ลิโอเนล สกาโลนี่ กุนซือทีมชาติอาร์เจนตินา เปิดเผยว่า มาร์ตีเนซมีปัญหาที่หลัง แต่ไม่ได้เป็นอาการที่รุนแรงมาก อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวต้องพักเพื่อฟื้นฟูร่างกายและไม่สามารถลงช่วยทีมชาติในช่วงสำคัญนี้ได้

สถานการณ์ล่าสุดนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บรวมกันถึง 7 ราย มาดูกันว่าพวกเขาเป็นใครบ้าง และมีโอกาสกลับมาช่วยทีมของกุนซือคนใหม่ รูเบน อาโมริม ได้เมื่อใด

1. ลีซานโดร มาร์ตีเนซ

ปราการหลังชาวอาร์เจนไตน์ประสบอาการบาดเจ็บที่หลัง แม้จะไม่รุนแรง แต่จำเป็นต้องถอนตัวจากทีมชาติ

2. ค็อบบี้ เมนู

มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ เจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาจากเกมเสมอ แอสตัน วิลล่า 0-0 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะกลับมาช่วยทีมหลังช่วงพักเบรกทีมชาติ

3. แฮร์รี่ แม็กไกวร์

กองหลังจอมแกร่งของทีมมีปัญหาอาการเจ็บเท้าจากเกมเดียวกับ เมนู ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนฟื้นฟูที่ก้าวหน้า

4. ไตเรลล์ มาลาเซีย

แบ็กซ้ายชาวดัตช์หายจากสนามไปนานกว่า 17 เดือนเนื่องจากบาดเจ็บหัวเข่า ล่าสุดกลับมาลงเล่นให้ทีมสำรองแล้ว

5. เลนี่ โยโร่

ดาวรุ่งที่โชคร้ายบาดเจ็บเท้าตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น เพิ่งกลับมาลงซ้อมได้เมื่อไม่นานนี้

6. ลุค ชอว์

แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษยังไม่ได้ลงเล่นในฤดูกาลนี้จากอาการบาดเจ็บน่อง แต่เริ่มกลับมาซ้อมได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อฟอร์มของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่แฟนบอลยังคาดหวังว่าพวกเขาจะฟื้นตัวและกลับมาสร้างความแข็งแกร่งให้ทีมในเร็ววัน

ห้ามพลาด!