Home Blog Page 69

เฟร์นันโด ตอร์เรส: “เอล นิโญ่” ดาวยิงผู้รุ่งเรืองและร่วงโรย

0

ประวัติ

  • ชื่อเต็ม: เฟร์นันโด โคเซ่ ตอร์เรส ซานซ์ (Fernando José Torres Sanz)
  • เกิด: 20 มีนาคม 1984 (อายุ 40 ปี)
  • สถานที่เกิด: มาดริด, สเปน
  • ตำแหน่ง: กองหน้า
  • อาชีพนักเตะ: 1999-2019

สโมสร

  • แอตเลติโก มาดริด (1999-2007)
  • ลิเวอร์พูล (2007-2011)
  • เชลซี (2011-2015)
  • แอตเลติโก มาดริด (2015-2018)
  • ซากัน โทสุ (2018-2019)

ทีมชาติสเปน

  • ลงเล่น: 110 นัด
  • ยิงประตู: 38 ประตู
  • รางวัล:
    • แชมป์ฟุตบอลโลก 2010
    • แชมป์ยูโร 2008, 2012

รางวัลส่วนตัว

  • รางวัลรองเท้าทองคำยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2007
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสรยุโรป: 2008
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ: 2007/08
  • รางวัลรองเท้าทองคำฟุตบอลโลก: 2010

สถิติ

  • เฟร์นันโด ตอร์เรส เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของแอตเลติโก มาดริด (265 ประตู)
  • เขาทำประตูในพรีเมียร์ลีก 81 ประตู ซึ่งมากเป็นอันดับ 3 ของนักเตะชาวสเปน
  • ตอร์เรส ยิงประตูให้กับทีมชาติสเปน 38 ประตู
  • เขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1 สมัย (2010) และแชมป์ยูโร 2 สมัย (2008, 2012)

ความสำเร็จ

เฟร์นันโด ตอร์เรส เคยเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดในโลก เขามีความเร็ว พลัง และทักษะการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ตอร์เรส ประสบความสำเร็จมากมายในอาชีพนักเตะ โดยคว้าแชมป์มากมายกับทั้งสโมสรและทีมชาติ

ช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์

  • ตอร์เรส เริ่มต้นอาชีพนักเตะกับแอตเลติโก มาดริด และกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร
  • เขาย้ายไปลิเวอร์พูลในปี 2007 และกลายเป็นขวัญใจแฟนบอลด้วยผลงานการยิงประตูที่เฉียบคม
  • ตอร์เรส คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับลิเวอร์พูลในปี 2005
  • เขาย้ายไปเชลซีในปี 2011 แต่ประสบความสำเร็จที่นั่นน้อยกว่าที่ลิเวอร์พูล
  • ตอร์เรส กลับมาแอตเลติโก มาดริด ในปี 2015 และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลาลีกาในปี 2017

ช่วงเวลาที่ร่วงโรย

  • ตอร์เรส ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บในช่วงท้ายอาชีพนักเตะ
  • ฟอร์มการเล่นของเขาลดลงอย่างมาก และสูญเสียความมั่นใจ
  • ตอร์เรส ย้ายไปเล่นในลีกญี่ปุ่นในปี 2018 แต่ประสบความสำเร็จที่นั่นน้อย

บทสรุป

เฟร์นันโด ตอร์เรส เป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ แต่เขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บและฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำในช่วงท้ายอาชีพนัก

โรนัลโด “R9” : ตำนานกองหน้าผู้สั่นสะเทือนโลกฟุตบอล

0

โรนัลโด “R9” : ตำนานกองหน้าผู้สั่นสะเทือนโลกฟุตบอล

ประวัติ

  • ชื่อเต็ม: Ronaldo Luís Nazário de Lima
  • เกิด: 22 กันยายน 1976 (อายุ 47 ปี)
  • สถานที่เกิด: Cruziero, รัฐมีนัสเจไรส์, บราซิล
  • ตำแหน่ง: กองหน้า
  • อาชีพนักเตะ: 1993-2011

สโมสร

  • ครูเซย์โร (1993-1994)
  • PSV Eindhoven (1994-1996)
  • อินเตอร์มิลาน (1996-1997)
  • เรอัลมาดริด (1997-2002)
  • ครูเซย์โร (2002-2004)
  • โค้รินทินส์ (2004-2005)
  • เอซี มิลาน (2007-2008)
  • ฟลาเมงโก (2008-2011)

ทีมชาติบราซิล

  • ลงเล่น: 98 นัด
  • ยิงประตู: 62 ประตู
  • รางวัล:
    • แชมป์ฟุตบอลโลก 1994, 2002
    • แชมป์โกปาอาเมริกา 1999


รางวัลส่วนตัว

  • รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปีจากฟีฟ่า: 1996, 1997, 2002
  • รางวัลบาลงดอร์: 1997
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสรยุโรป: 1998
  • รางวัลรองเท้าทองคำยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 1997
  • รางวัลรองเท้าทองคำฟุตบอลโลก: 1998

สถิติ

  • โรนัลโด้ ถือสถิติยิงประตูให้กับทีมชาติบราซิลมากที่สุดเป็นอันดับสอง (62 ประตู) รองจากเปเล่
  • เขาเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูในฟุตบอลโลกได้มากที่สุด (15 ประตู) ร่วมกับ Miroslav Klose
  • โรนัลโด้ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัย (1994, 2002) และรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปีจากฟีฟ่า 3 สมัย (1996, 1997, 2002)
  • เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดตลอดกาล ด้วยความเร็ว พลัง และทักษะการจบสกอร์ที่เฉียบคม

ความสำเร็จ

โรนัลโด้ “R9” ประสบความสำเร็จอย่างมากในอาชีพนักเตะ เขาคว้าแชมป์มากมายกับทั้งสโมสรและทีมชาติ โรนัลโด้ สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลรุ่นเยาว์ทั่วโลกด้วยพรสวรรค์และความมุ่งมั่นของเขา

โมฮาเหม็ด ซาลาห์: ดาวรุ่งผู้กลายเป็นตำนาน

0

โมฮาเหม็ด ซาลาห์: ดาวรุ่งผู้กลายเป็นตำนาน

ประวัติ

  • ชื่อเต็ม: โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฮามิด มะห์รูส ฆอลี (Mohamed Salah Ghaly)
  • เกิด: 15 มิถุนายน 1992 (อายุ 32 ปี)
  • สถานที่เกิด: บัสยูน, อียิปต์
  • ตำแหน่ง: กองหน้า, ปีกขวา
  • สโมสรปัจจุบัน: ลิเวอร์พูล (2017-ปัจจุบัน)

อาชีพนักเตะ

  • อัล มอคาวลูน (2006-2013)
  • บาเซิล (2013-2014)
  • เชลซี (2014-2016)
  • โรมา (2016-2017)
  • ลิเวอร์พูล (2017-ปัจจุบัน)

ทีมชาติอียิปต์

  • ลงเล่น: 87 นัด
  • ยิงประตู: 44 ประตู
  • รางวัล:
    • รองแชมป์แอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2017

รางวัลส่วนตัว

  • รางวัลรองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก: 2017/18, 2021/22, 2022/23
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ: 2017/18, 2021/22
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรลิเวอร์พูล: 2017/18, 2021/22, 2022/23
  • รางวัลนักฟุตบอลแอฟริกันยอดเยี่ยมแห่งปี: 2017, 2018
  • รางวัลนักฟุตบอลแอฟริกันแห่งปีของบีบีซี: 2017, 2018
  • ทีมยอดเยี่ยมแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2017

สถิติ

  • โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอียิปต์ (44 ประตู)
  • เขายิงประตูในพรีเมียร์ลีกมากกว่านักเตะชาวแอฟริกันคนอื่นๆ ทั้งหมด (137 ประตู)
  • ซาลาห์ ทำแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกมากกว่านักเตะชาวแอฟริกันคนอื่นๆ ทั้งหมด (73 แอสซิสต์)
  • เขาติดทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก 3 ครั้ง (2017/18, 2021/22, 2022/23)

ความสำเร็จ

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก เขามีความเร็ว การเลี้ยงบอล การจบสกอร์ และวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม ซาลาห์ มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของลิเวอร์พูล โดยพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย, แชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย, และแชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย

โรนัลดินโญ่: ตำนานลูกหนังผู้สร้างแรงบันดาลใจ

0

โรนัลดินโญ่: ตำนานลูกหนังผู้สร้างแรงบันดาลใจ

ประวัติ

  • ชื่อเต็ม: โรนัลดู จี อาซิส โมเรย์รา (Ronaldo de Assis Moreira)
  • เกิด: 21 มีนาคม 2523 (อายุ 44 ปี)
  • สถานที่เกิด: ปอร์ตูอาเลเกร, รัฐรีโอกรันดีโดซูล, บราซิล
  • ตำแหน่ง: กองกลางตัวรุก, ปีก
  • อาชีพนักเตะ: 1998-2017

สโมสร

  • เกรมิโอ (1998-2001)
  • ปารีส แซงต์แฌร์แม็ง (2001-2003)
  • บาร์เซโลนา (2003-2008)
  • เอซี มิลาน (2008-2011)
  • ฟลาเมงโก (2011-2014)
  • แอตเลติโก มิเนยโร (2014-2015)
  • ฟลูมิเนนเซ (2015-2016)
  • ชาเปโคเอนเซ (2016)
  • เคเอฟซี ไล่โจว (2017)

ทีมชาติบราซิล

  • ลงเล่น: 97 นัด
  • ยิงประตู: 33 ประตู
  • รางวัล:
    • แชมป์ฟุตบอลโลก 2002
    • แชมป์โกปาอาเมริกา 2004, 2007
    • แชมป์คอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2005

รางวัลส่วนตัว

  • รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปีจากฟีฟ่า: 2004, 2005
  • รางวัลบาลงดอร์: 2005
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสรยุโรป: 2006
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในกัลเซเรีย ซีเรีย อา: 2008

สถิติ

  • โรนัลดินโญ่ ถือสถิติยิงฟรีคิกมากที่สุดตลอดกาลของบาร์เซโลนา (66 ประตู)
  • เขาเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูจากลูกยิงไกลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลาลีกา (33 ประตู)
  • โรนัลดินโญ่ ติดอันดับ 3 ในรายชื่อนักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดให้กับทีมชาติบราซิล (33 ประตู)

ความสำเร็จ

โรนัลดินโญ่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาล เขามีทักษะการเลี้ยงบอล การผ่านบอล และการยิงประตูที่ยอดเยี่ยม โรนัลดินโญ่ สร้างความบันเทิงให้กับแฟนบอลทั่วโลกด้วยสไตล์การเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ

คำพูดที่น่าจดจำ

  • “ฟุตบอลคือความสุข และความสุขคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต”
  • “ฉันไม่ใช่นักเตะที่สมบูรณ์แบบ แต่ฉันพยายามทำให้ดีที่สุดเสมอ”
  • “ฟุตบอลมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน”

โรนัลดินโญ่ เลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 2017 แต่เขายังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเตะรุ่นเยาว์ทั่วโลก เขายังคงมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล และเป็นทูตสันธาน goodwill ของยูนิเซฟ

ดาวซัลโวฟุตบอลยูโร 2024

0

ดาวซัลโวฟุตบอลยูโร 2024 อัปเดตล่าสุด 7 กรกฎาคม 2567

การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 เดินมาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดาวซัลโวยังคงเป็นที่จับตามองของแฟนบอลทั่วโลก

อันดับดาวซัลโวล่าสุด

อันดับชื่อผู้เล่นทีมชาติจำนวนประตู
1โคดี้ กัคโปเนเธอร์แลนด์3 ประตู
2จามาล มูเซียลาเยอรมนี3 ประตู
3จอร์เจส มิคาเอาตัดเซจอร์เจีย3 ประตู
4อีวาน ชรานซ์สโลวาเกีย3 ประตู
5แฮร์รี่ เคนอังกฤษ2 ประตู
6จู๊ด เบลลิงแฮมอังกฤษ2 ประตู
7นิคลาส ฟุลล์ครุกเยอรมนี2 ประตู
8ไค ฮาแวร์ตซ์เยอรมนี2 ประตู
9ฟลอเรียน เวียร์ทซ์เยอรมนี2 ประตู

หมายเหตุ:
ข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2567
ไม่รวมประตูที่ยิงเข้าประตูตัวเอง

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับฟุตบอลยูโร 2024

0

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ลงเล่นในศึกฟุตบอลยูโร 2024 เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต

ผลงานของโรนัลโด้ในยูโร 2024:

  • ลงเล่น 5 นัด
  • ยิงประตู 0 ประตู
  • จ่ายแอสซิสต์ 2 แอสซิสต์
  • ยิงจุดโทษพลาด 1 ลูก
  • ทีมตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย


สถิติที่น่าสนใจ:

  • โรนัลโด้ ยิงประตูในยูโรไปแล้ว 14 ประตู เป็นอันดับ 2 ของตลอดกาล
  • โรนัลโด้ ลงเล่นในยูโรมาแล้ว 5 ครั้ง เป็นสถิติสูงสุด
  • โรนัลโด้ ไม่เคยยิงประตูไม่ได้เลยในรอบแบ่งกลุ่มยูโร

ความคิดเห็น:

  • หลายคนมองว่าโรนัลโด้ฟอร์มไม่ดีในยูโร 2024
  • บางคนมองว่าโรนัลโด้แก่เกินไปที่จะเล่นฟุตบอลระดับสูง
  • แต่ยังมีแฟนบอลจำนวนมากที่ชื่นชมและสนับสนุนโรนัลโด้เสมอ

บทสรุป:

  • โรนัลโด้ ไม่สามารถพาทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโร 2024 ได้
  • แต่เขายังคงเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
  • แฟนบอลทั่วโลกจะจดจำเขาในฐานะตำนานฟุตบอล

เมสซี่ อุ้ม ยามาล ภาพถ่ายในอดีตที่กลายเป็นไวรัล ถูกถ่ายไว้ได้อย่างไร?

0

ในตอนนี้ ลามีน ยามาล ตัวรุกทีมชาติสเปน วัย 16 ปี จาก บาร์เซโลน่า กำลังเฉิดฉายอย่างเต็มที่ หลังทำเพิ่มอีก 1 แอสซิสต์ช่วยให้ “สเปน” เอาชนะ เยอรมนี แบบสุดมัน 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ จนมีหลายคนนำดาวรุ่งรายนี้ไปเปรียบเทียบกับ ลิโอเนล เมสซี่ แข้ง “บาซ่า” รุ่นพี่

เนื่องจากทั้งสองคนถนัดเท้าซ้ายและมีลีลาการเล่นคล้ายคลึงกัน แถมก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับ บาร์เซโลน่า รตั้งแต่อายุยังน้อยเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม แข้งทั้งสองรายที่มีอายุห่างกัน เกือบ 20 ปี ไเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ บนโลกออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพที่ ลิโอเนล เมสซี่ กำลังอุ้มและอาบน้ำให้ ลามีน ยามาล ในวัยทารก และปรากฏว่า นี่คือภาพจริง

ตอนที่ ลิโอเนล เมสซี่ อายุได้ 20 ปี หรือประมาณปี 2007-2008 ดาวรุ่งดาวชาวอาร์เจนไตน์ รายนี้ ได้เข้าร่วมโครงการการกุศลของ Unicef ​​ผู้สนับสนุนบาร์เซโลน่า ที่ร่วมมือกับ Diario Sport สื่อชื่อดัง

โดยแคมเปญดังกล่าวจะเป็นการให้นักเตะบาร์เซโลน่า ถ่ายรูปกับเด็ก ๆ จากกลุ่มที่ได้รับความช่วยเหลือจาก Unicef เพื่อลงปฏิทินโปรโมตประจำปี จำนวน 35,000 ชุด ซึ่งแต่ละฉบับขายได้ในราคา 4.50 ยูโร

และเงินที่ได้จากการขายปฏิทินนั้น จะนำไปช่วยเหลือองค์กรการกุศลต่าง ๆ โดยเฉพาะ XICS ซึ่งเป็นศูนย์หลังเลิกเรียนที่ บาร์เซโลน่า ช่วยก่อตั้งร่วมกับ UNICEF ซึ่งตามข่าวประชาสัมพันธ์ เด็ก ๆ ที่อยู่ในปฏิทินเป็นส่วนหนึ่งของ “XICS de Santa Coloma de Gramenet”

อย่างไรก็ตามไม่แน่ชัดว่า ลามีน ยามาล เป็นเด็กในศูนย์หลังเลิกเรียน XICS หรือไม่ แต่คุณพ่อของ ลามีน ยามาล นั้นได้ออกมายืนยันแล้วว่าเป็นลูกชายของตนเองจริง รวมถึง Diario Sport เช่นเดียวกัน

บุคคลที่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้นคนกัดชัตเตอร์ อย่าง โจน มงฟอร์ท โดยเขาให้สัมภาษณ์ถึงภาพถ่ายที่กลายเป็นไวรัล ว่า “ตอนนั้นเราถ่ายรูปกันที่ คัมป์ นู ส่วนใหญ่อยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของทีมเยือน แต่บางส่วนก็อยู่ข้างนอก”

“ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเราไม่เคยรู้จักจนกระทั่งพวกเขาโทรศัพท์มาหาผมในวันนี้ ปรากฏว่าเขาคือ ลามีน ยามาล!”

โคลอมเบียถล่มปานามา 5-0 ยกพลสู่รอบรองชนะเลิศ โกปาอเมริกา 2024

0

“ทัพคาเฟ่” โคลอมเบีย โชว์ฟอร์มร้อนแรงบดขยี้ ปานามา 5-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศศึก โกปาอเมริกา 2024

สรุปผลการแข่งขัน:

  • ฟุตบอลทีมชาติโคลอมเบีย 5 – 0 ฟุตบอลทีมชาติปานามา
  • การแข่งขัน: โกปาอเมริกา 2024 – รอบก่อนรองชนะเลิศ
  • สนาม: ยูนิเวอร์ซิตีออฟฟีนิกซ์สเตเดี้ยม, Glendale, สหรัฐอเมริกา
  • วันที่: 7 กรกฎาคม 2567
  • เวลา: 05:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

เหตุการณ์สำคัญ:

นาทีที่ 8: จอห์น กอร์โดบา ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 15: ฮาเมส โรดริเกซ ยิงประตูให้โคลอมเบียขึ้นนำ 2-0 จากลูกจุดโทษ
นาทีที่ 41: ลูอิส ดิอัซ ยิงประตูวอลเล่บอลลอยข้ามหัวผู้รักษาประตูให้โคลอมเบียขึ้นนำ 3-0 อย่างสุดสวย

ครึ่งหลัง

นาทีที่ 70 ริชาร์ด ริโอส์ ยิงสกอที่ 4 ให้กับโคลัมเบีย
นาทีที่ 90+4 มิเกล บอร์ฆา ยิงลูกโทษ เข้าเป็น 5-0

โคลอมเบีย เอาชนะ ปานามา ไปด้วยสกอร์ 5-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โกปาอเมริกา 2024 ไปพบกับผู้ชนะระหว่าง บราซิล กับ อุรุวัย




บอลยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ

0

แมตช์แรก:

  • สเปน ปะทะ ฝรั่งเศส เตะกันวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่สนามอัลลิอันซ์อาเรนา เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี
  • คู่หูคู่ปรับตลอดกาล กลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศ ศึกยูโร 2024
  • สเปน แชมป์เก่า จะมาวัดฝีมือกับ ฝรั่งเศส แชมป์โลก 2 สมัย
  • ใครจะคว้าชัย เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ต้องรอลุ้นกัน!

แมตช์ที่สอง:

  • เนเธอร์แลนด์ ปะทะ อังกฤษ เตะกันวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม 2:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่สนามเวสท์ฟาเลินชตาดิโยน เมืองดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมนี
  • “กองทัพอัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ มาเจอกับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ
  • ทั้งสองทีมฟอร์มร้อนแรง เตรียมเขี่ยกันออกจากทัวร์นาเมนต์
  • ห้ามพลาดศึกแห่งศักดิ์ศรี เกมนี้มีลุ้นแน่นอน!

ฟุตบอลยูโร 2024 ระหว่างเนเธอร์แลนด์กับตุรกี เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2567:

0

ผลการแข่งขัน: เนเธอร์แลนด์ ชนะ ตุรกี 2 – 1

เหตุการณ์สำคัญ:

นาทีที่ 35: ซาเมท อาคัยดิน โหม่งทำประตูให้ตุรกี ออกนำก่อน 1-0 จากการแอสซิสของ อาด้า กือแลร์

ครึ่งหลัง

นาทีที่ 70: สเตฟาน เดอ ฟรีจ์ ทำประตูตีเสอมให้ เนเธอร์แลนด์ โดยการ เปิดของ แม็มฟิส เดอไป

นาทีที่ 76: เมิร์ต เมิลเดอร์ ทำเข้าประตูตัวเอง เนเธอร์แลนด์ พลิกกลับมาทำ 2-1


ทำให้เนเธอร์แลนด์ เข้าสู้รอบ 4 ทีม สุดท้ายในรอบหลายสิบปี ไปเจอกับ ทีมชาติอังกฤษ รองแชมป์เก่าปีล่าสุด

เกมนัดต่อไปลุ้นสนุกแน่นอน

ห้ามพลาด!