Home Blog Page 7

โรเบิร์ตสัน ด่าแรง เอกิติเก้ หลังโดนแดงโง่ แม้ยิงประตูชัยให้

0

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายกัปตันทีมลิเวอร์พูล ออกมาเตือน อูโก้ เอกิติเก้ กองหน้าดาวรุ่งให้เรียนรู้จากความผิดพลาด หลังถูกใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมคาราบาว คัพ ที่หงส์แดงเฉือนชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1

เอกิติเก้ ถูกส่งลงมาในครึ่งหลังและกลายเป็นฮีโร่ทันที หลังยิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบ 4 ได้สำเร็จ แต่เจ้าตัวกลับฉลองเกินเหตุด้วยการถอดเสื้อ ทั้งที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้ว ส่งผลให้โดนใบเหลืองที่สองและถูกไล่ออกทันทีในช่วงท้ายเกม

โรเบิร์ตสัน กล่าวหลังจบแมตช์ว่า “ผมคงแปลกใจถ้าเขายังกล้าทำอีก หลังจากโดนใบเหลืองแรกจากการเตะบอลทิ้ง ก็ไม่น่าจะพลาดแบบนี้อีก มันเป็นความผิดพลาดที่โง่เขลา แต่เขายังอายุน้อยและจะได้เรียนรู้” พร้อมเสริมว่าการเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนทำให้ช่วงท้ายเกมกดดันมากขึ้น แม้จะเก็บชัยชนะได้ก็ตาม

แมนยู เตรียมอัพค่าตัว “แรชฟอร์ด” หลังบาร์ซ่าประทับใจฟอร์ม

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังวางแผนเจรจากับ บาร์เซโลน่า เพื่อขอเพิ่มค่าตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด หลังจากแนวรุกทีมชาติอังกฤษโชว์ฟอร์มเด่นกับทีมดังแห่งแคว้นคาตาลัน

เดิมที แรชฟอร์ด ถูกปล่อยให้ บาร์ซ่า ยืมตัวใช้งานพร้อมเงื่อนไขซื้อขาดที่ราคาเพียง 25 ล้านปอนด์ โดยบาร์เซโลน่าเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าเหนื่อยเต็มจำนวนราว 325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หลังจากย้ายมาร่วมงานกับ ฮันซี่ ฟลิค ดาวยิงวัย 27 ปีเริ่มคืนฟอร์มเก่งทันที ยิง 2 ประตูในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บุกชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 และทำแอสซิสต์ในเกมลีกที่ถล่ม เกตาเฟ่ 3-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

รายงานจาก Manchester Evening News ระบุว่า ด้วยฟอร์มที่กลับมาโดดเด่น ทำให้มูลค่าของ แรชฟอร์ด เพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 40 ล้านปอนด์ และ แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมใช้จังหวะนี้ต่อรองเพื่อปรับราคาขายขาดให้สูงขึ้น หาก บาร์เซโลน่า ต้องการดึงตัวไปร่วมทีมถาวร

เซอร์ จิม ขีดเส้นต้องรักษาฟอร์มก่อนเบรกทีมชาติ

0

เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ หนึ่งในเจ้าของร่วมสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความต้องการเห็นทีมเดินหน้าคว้าชัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจและเสถียรภาพก่อนเข้าสู่ช่วงพักเบรกทีมชาติในเดือนตุลาคมนี้

หลังจากที่ “ปีศาจแดง” เปิดบ้านเฉือน เชลซี 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือเป็นชัยชนะนัดที่สองในศึกพรีเมียร์ลีก ทำให้บรรยากาศรอบทีมเริ่มกลับมามีความมั่นใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แรตคลิฟฟ์ ยืนยันว่าผลงานต่อจากนี้ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด และ ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดทิศทางของทีมภายใต้การทำงานของ รูเบน อโมริม

รายงานจาก ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ผู้สื่อข่าวตลาดนักเตะชื่อดัง ระบุว่า แรตคลิฟฟ์ วัย 72 ปี ยังคงหนุนหลัง อโมริม อย่างเต็มที่ และเชื่อมั่นในกระบวนการที่โค้ชวัย 40 ปีได้ปรับปรุงทีม จึงมองว่าสองเกมข้างหน้าจะเป็นกุญแจสำคัญในการพิสูจน์ศักยภาพของ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้

ผลบอลพรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล เปิดรังไล่เจ๊า แมนฯ ซิตี้ 1-1

0

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดซูเปอร์บิ๊กแมตช์ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม จบลงแบบสุดดราม่า เมื่อ อาร์เซน่อล ตามตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 จากลูกยิงช่วงทดเจ็บของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ตัวสำรอง ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” ได้ประตูออกนำก่อนจาก เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

เกมนี้ มิเกล อาร์เตต้า วางแผงแนวรุก 3 คน ประกอบด้วย โนนี่ มาดูเอเก้, วิคตอร์ โยเคเรส และ เลอันโดร ทรอสซาร์ โดยมี บูกาโย ซาก้า นั่งสำรอง ส่วน มาร์ติน โอเดการ์ด ยังไม่มีชื่อ ขณะที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ใช้ผู้เล่นชุดเก่งลงสนามเต็มสูบ นำโดย ฮาลันด์, ฟิล โฟเด้น และ เฌเรมี่ โดกู

เริ่มเกมเพียง 9 นาที ทีมเยือนออกนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว ทิจจานี่ ไรน์เดอร์ส แทงทะลุช่องให้ ฮาลันด์ หลุดไปยิงไม่พลาด เป็นประตูที่ 6 ของเจ้าตัวในลีกซีซั่นนี้

ครึ่งหลัง “ปืนใหญ่” ปรับเกม ส่ง ซาก้า และ เอเบเรชี่ เอเซ่ ลงสนามทันที และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+3 ความพยายามก็มาสำเร็จ เอเซ่ เปิดบอลให้ มาร์ติเนลลี่ ชิพข้ามหัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เข้าไปอย่างเหนือชั้น ช่วยให้ อาร์เซน่อล ไล่ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ

จบเกม แบ่งกันไปทีมละแต้ม ทำให้ อาร์เซน่อล มี 10 คะแนน จาก 5 นัด ขึ้นรองจ่าฝูง ส่วน แมนฯ ซิตี้ มีเพิ่มเป็น 7 คะแนน รั้งอันดับ 9 ของตาราง

อโมริมอวยใหญ่! “บรูโน่” หลังพาแมนยูเฉือนชนะเชลซี

0

รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวชื่นชม บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมชาวโปรตุเกส หลังทำประตูครบ 100 ลูกให้กับต้นสังกัด ในเกมพรีเมียร์ลีกที่ “ปีศาจแดง” เปิดบ้านเฉือนชนะ เชลซี 2-1 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

เกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำจาก บรูโน่ ในนาทีที่ 13 ก่อนที่ คาเซมิโร่ จะบวกเพิ่มนาที 37 แม้ช่วงครึ่งหลัง เชลซี ไล่มาเป็น 2-1 จาก เทรโวห์ ชาโลบาห์ นาที 80 แต่สุดท้ายเจ้าถิ่นยังรักษาสกอร์คว้าสามแต้มได้สำเร็จ โดยแมตช์นี้มีใบแดงถึง 2 ใบ โรเบิร์ต ซานเชซ นายด่านทีมเยือนโดนไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 5 ส่วน คาเซมิโร่ มาโดนเหลือง-แดงช่วงทดเจ็บครึ่งแรก

หลังจบเกม อโมริม เปิดใจว่า
“เราสตาร์ตได้ยอดเยี่ยม กดดันคู่แข่งได้ตั้งแต่ต้น เกมเปลี่ยนไปหลังจากใบแดงของคาเซมิโร่ แต่สุดท้ายทีมก็รับมือได้ดี เราควรจบเกมให้เร็วขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง แต่สิ่งสำคัญคือวันนี้เราเก็บชัยชนะ”

พร้อมกันนี้ กุนซือวัย 40 ปี ยังกล่าวยกย่อง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ลงเล่นเกมลีกครบ 200 นัด และยิงประตูที่ 100 ในทุกรายการให้กับสโมสรว่า
“บรูโน่คือตัวอย่างของกัปตันทีม เขามีจิตใจที่แข็งแกร่ง ยิงประตูได้แม้ยืนในตำแหน่งกองกลาง และเป็นผู้นำในสนาม วันนี้ถือเป็นวันที่ยอดเยี่ยมทั้งสำหรับเขาและทีม”

จากผลการแข่งขันดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 10 เก็บเพิ่มเป็น 7 คะแนน ขณะที่ เชลซี มี 8 แต้ม รั้งอันดับ 6 ของตาราง

แมนยูสั่งห้ามร้องเพลงเชียร์เหยียดเกมบิ๊กแมตช์ดวลเชลซี

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ชัดเจน ขอความร่วมมือแฟนบอลงดใช้บทเพลงเชียร์ที่มีเนื้อหาเหยียดหยามหรือล้อเลียนคู่แข่ง ในเกมพรีเมียร์ลีกที่จะเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด พบ เชลซี วันเสาร์ที่ 20 กันยายนนี้

แถลงการณ์ของสโมสรระบุว่า แฟนบอลควรส่งเสียงเชียร์เพื่อสนับสนุนนักเตะ มากกว่าการใช้ถ้อยคำที่เป็นการดูหมิ่นฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะเพลง “Chelsea Rent Boy” ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในบทเพลงที่มีความหมายในเชิงเหยียดเพศ และถูกจัดว่าเป็น “อาชญากรรมความเกลียดชัง” ตามมาตรการของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) และสำนักอัยการสูงสุดของอังกฤษ (CPS)

การร้องเพลงดังกล่าวอาจนำไปสู่การถูกตั้งข้อหาทางอาญาระดับ 4(c) และบทลงโทษคือห้ามเข้าสนามนานถึง 3 ปี ขณะเดียวกันสโมสรก็ขอให้แฟนบอลร่วมมือแจ้งเจ้าหน้าที่ หากพบเห็นพฤติกรรมลักษณะนี้ภายในสนามแข่งขัน

ทางฝั่งเชลซีเองก็ออกแถลงสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว โดยยืนยันว่าเพลงเชียร์ที่มีเนื้อหาดูหมิ่นกลุ่มเพศทางเลือกนั้น “ไม่ควรมีที่ยืนในวงการฟุตบอลหรือที่ใดก็ตาม” พร้อมย้ำว่าจะสนับสนุนทุกมาตรการที่ทำให้บรรยากาศในสนามแข่งขันปลอดจากความเกลียดชัง

สำหรับคำว่า “Rent Boy” มีรากมาจากภาพจำเชิงลบในทศวรรษ 1960-70 ย่านเอิร์ลส์ คอร์ต ใกล้สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งในอดีตเคยเป็นพื้นที่ที่กลุ่ม LGBTQ+ รวมตัวกัน และมีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขายบริการทางเพศ ทำให้คำนี้ถูกใช้เป็นคำดูถูกมาจนถึงปัจจุบัน

เกมนี้จึงนอกจากจะเป็นศึกบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกแล้ว ยังถูกจับตามองในแง่ของมาตรการความเข้มงวดด้านพฤติกรรมแฟนบอลอีกด้วย

ฟลิคชู “แรชฟอร์ด” โชว์ของพาบาร์ซ่าบุกเชือดนิวคาสเซิ่ล

0

ฮันซี่ ฟลิค กุนซือบาร์เซโลน่า แสดงความพอใจต่อฟอร์มการเล่นของ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลังสวมบทฮีโร่ยิงสองประตูช่วยทีมบุกเก็บชัยเหนือ นิวคาสเซิ่ล 2-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีก เฟส นัดเปิดสนาม ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ก

ดาวยิงทีมชาติอังกฤษที่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเล่นในถิ่นคัมป์ นู ด้วยสัญญายืมตัว กดคนเดียวสองลูกให้บาร์ซ่าประเดิมสามแต้มได้อย่างสวยงาม โดยหลังจบเกม ฟลิคออกโรงชมลูกทีมรายนี้ว่าเป็นนักเตะที่มีคุณภาพและตอบโจทย์สโมสรอย่างแท้จริง

“แรชฟอร์ดคือนักเตะที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ เขามีทั้งความเร็ว การควบคุมบอล และการจบสกอร์ที่เฉียบคม สิ่งเหล่านี้เราเห็นได้ทุกวันในการซ้อม และคืนนี้เขาแสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาสามารถสร้างความแตกต่างได้” ฟลิคกล่าว

นายใหญ่ชาวเยอรมันยังเสริมว่า ครึ่งแรกแม้กองหน้าวัย 27 ปีจะยังหาจังหวะจบไม่ได้มากนัก แต่ครึ่งหลังเขาปรับเกมได้อย่างยอดเยี่ยมและทำให้ทีมคว้าชัย “สิ่งสำคัญที่สุดของกองหน้าคือการทำประตู และเขาก็ทำได้ในช่วงเวลาที่เราต้องการ”

ฟลิคยังยอมรับด้วยว่า แรชฟอร์ดคือหนึ่งในเป้าหมายที่เขาผลักดันให้ เดโก้ ผู้อำนวยการกีฬา เดินหน้าคว้าตัวในช่วงซัมเมอร์ “ผมบอกชัดเจนว่าเราจำเป็นต้องมีนักเตะแบบนี้ และผมดีใจที่เขามาอยู่กับเรา”

ชัยชนะนัดนี้ทำให้บาร์เซโลน่าเริ่มต้นเส้นทางแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นใหม่ได้อย่างมั่นใจ แม้จะไม่มี ลามีน ยามาล ดาวรุ่งที่เจ็บก็ตาม แต่แรชฟอร์ดก็พิสูจน์แล้วว่าสามารถรับบทบาทแทนได้อย่างยอดเยี่ยม

โปรแกรมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 5 เดือด! แมนยูชนเชลซี

0

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2025/26 เดินทางมาถึงสัปดาห์ที่ 5 โดยจะแข่งขันกันครบทั้ง 10 คู่ ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายนนี้ ไฮไลต์อยู่ที่ 3 บิ๊กแมตช์สำคัญ

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน เกมใหญ่เริ่มตั้งแต่เวลา 18.30 น. ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าและจ่าฝูง จะเปิดรังแอนฟิลด์ทำศึก “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้” พบ เอฟเวอร์ตัน ศัตรูร่วมเมือง ขณะที่เวลา 23.30 น. แฟนบอลห้ามพลาด “ศึกแดงเดือดแห่งลอนดอน-แมนเชสเตอร์” เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ผลงานยังไม่สู้ดี มีเพียง 4 แต้ม จะเปิดบ้านรับการมาเยือน เชลซี

ส่วน วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน เวลา 22.30 น. เป็นเกมบิ๊กแมตช์อีกหนึ่งคู่ เมื่อ อาร์เซน่อล รองจ่าฝูง เตรียมเผชิญหน้ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า 2 สมัยก่อนหน้านี้


โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2025/26

นัดที่ 5
วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2025

  • 18.30 น. ลิเวอร์พูล vs เอฟเวอร์ตัน
  • 21.00 น. เบิร์นลีย์ vs น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
  • 21.00 น. ไบรท์ตัน vs สเปอร์ส
  • 21.00 น. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด vs คริสตัล พาเลซ
  • 21.00 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน vs ลีดส์ ยูไนเต็ด
  • 23.30 น. แมนฯ ยูไนเต็ด vs เชลซี
  • 02.00 น. ฟูแล่ม vs เบรนท์ฟอร์ด

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2025

  • 20.00 น. ซันเดอร์แลนด์ vs แอสตัน วิลล่า
  • 20.00 น. บอร์นมัธ vs นิวคาสเซิ่ล
  • 22.30 น. อาร์เซน่อล vs แมนฯ ซิตี้

ข่าวร้ายบาซ่า! ยามาลเจ็บชวดศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรก

0

บาร์เซโลน่า ต้องเผชิญปัญหาสำคัญเมื่อ ลามีน ยามาล ดาวรุ่งคนสำคัญได้รับบาดเจ็บจากการรับใช้ทีมชาติสเปน ส่งผลให้พลาดลงสนามอย่างน้อย 3 นัด รวมถึงศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีก เฟส นัดแรก ที่จะบุกเยือนนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด คืนวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายนนี้ เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

กรณีดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อ ฮันซี่ ฟลิค เฮดโค้ชบาร์ซา แสดงความไม่พอใจต่อสมาคมฟุตบอลสเปน หลังส่งยามาลลงเล่น 2 เกมติดต่อกันในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกกับบัลแกเรียและตุรกี ทั้งที่นักเตะมีอาการเจ็บรบกวนอยู่ก่อนแล้ว จนสุดท้ายอาการกำเริบหนักขึ้น

ตามรายงานของ Mundo Deportivo ยามาลวัย 18 ปี จะพลาดเกม UCL กับนิวคาสเซิ่ล รวมถึงแมตช์ลา ลีกา กับเคตาเฟ่ และเรอัล โอเบียโด้ โดยเป้าหมายที่เป็นไปได้ในการกลับมาคือเกมเยือนเรอัล โซเซียดาด วันที่ 29 กันยายน แต่ทีมแพทย์ของสโมสรยืนยันว่าจริง ๆ แล้วเป้าหมายหลักคือเกมใหญ่กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในรอบลีก เฟส นัดสอง วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งสโมสรต้องการให้นักเตะฟิตเต็มร้อยก่อน

แพทย์เผยว่าอาการบาดเจ็บของยามาลอยู่ที่ กระดูกหัวหน่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างกระดูกเชิงกราน หากไม่ดูแลอย่างถูกต้องอาจกำเริบซ้ำได้ ดังนั้นตอนนี้นักเตะกำลังเข้าสู่โปรแกรมฟื้นฟูรายวัน ทั้งการเสริมสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะจุด และการรักษาแบบเฉพาะทาง เพื่อให้กลับมาแข็งแรงโดยไม่เสี่ยงอาการเรื้อรัง

แมนยูขีดเส้นตาย! อโมริมมีเวลา 3 เกมพิสูจน์อนาคตคุมทัพ

0

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมให้โอกาส รูเบน อโมริม ทำงานต่ออีกเพียง 3 นัดเท่านั้น เพื่อพิสูจน์อนาคตว่าจะได้ทำหน้าที่กุนซือต่อไปหรือไม่ หลังจากพาทีมทำผลงานน่าผิดหวังตั้งแต่เปิดฤดูกาล

รายงานจาก เดอะ มิร์เรอร์ สื่ออังกฤษ ระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังพิจารณาอนาคตของกุนซือชาวโปรตุกีสอย่างจริงจัง หลังเก็บได้เพียง 4 คะแนนจาก 4 เกมลีก อยู่อันดับ 14 ของตาราง นับเป็นการออกสตาร์ตแย่ที่สุดในรอบ 33 ปี แถมล่าสุดยังพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-3 ในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ และตกรอบ 2 คาราบาว คัพ ด้วยการพ่าย กริมสบี้ ทีมจากลีกทู

ทั้งนี้ อโมริม วัย 40 ปี จะต้องพาทีมทำผลงานเก็บชัยชนะและอย่างน้อยไม่แพ้ตลอด 3 นัดข้างหน้า ซึ่งประกอบด้วย การเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดพบ เชลซี, ออกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด และกลับมาเจอทีมน้องใหม่ ซันเดอร์แลนด์ ในบ้าน

หากไม่สามารถทำผลงานได้ตามเป้า สโมสรอาจตัดสินใจปลดเขาออกจากตำแหน่ง แม้จะต้องจ่ายค่าชดเชยราว 11.9 ล้านปอนด์ เนื่องจากสัญญาของอโมริมยังเหลือจนถึงกลางปี 2027 ก็ตาม

ห้ามพลาด!