Home Blog Page 70

เหตุการณ์สำคัญในเกมฟุตบอลยูโร 2024 ระหว่างอังกฤษกับสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2567:

0

ผลการแข่งขัน: อังกฤษ เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 (หลังต่อเวลาพิเศษ) อังกฤษชนะ 5-3 ในการดวลจุดโทษ

เหตุการณ์สำคัญ:

นาทีที่ 75: บรีล เอ็มโบโล่ กองหน้าของสวิตเซอร์แลนด์ ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 จากการสกัดบอลพลาดของจอร์น สโตล

นาทีที่ 80: บูกาโย่ ซากา ยิงประตูตีเสมอให้ทีม 1-1 จากลูกยิงไกล

ช่วงต่อเวลาพิเศษ: ทั้งสองทีมไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้การดวลจุดโทษ: อังกฤษชนะสวิตเซอร์แลนด์ 5-3 จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูของอังกฤษ เซฟจุดโทษได้ถึง 1 ลูก ช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย

ไปเจอ คู่แข่ง ระหว่าง เนเธอร์แลนด์ vs ตุรกี ผู้ชนะจะต้องมาเจอกับ ทีมชาติอังกฤษในรอบต่อไป

อาร์เจนตินา ดราม่า! เฉือนชนะ เอกวาดอร์ 4-2 ด้วยการดวลจุดโทษ ผ่านเข้ารอบรอง โคปา อเมริกา 2024!

0
copa america 2024

ลิโอเนล เมสซี่ พลาดจุดโทษ แต่ อาร์เจนตินา ดวลเป้ายังแม่นเอาชนะ เอกวาดอร์ ผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย ศึกโคปา อเมริกา 2024

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ หรือ โคปา อเมริกา 2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง อาร์เจนตินา ชนะรวด 3 นัด ผ่านเข้ามาในฐานะแชมป์กลุ่มเอ พบ เอกวาดอร์ ที่เข้ารอบมาในเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มB ที่เอ็นอาร์จี สเตเดี้ยม สหรัฐอเมริกา  

เกมนี้ นาที 35 อาร์เจนตินา เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะ อเล็กซิส แมค อลิสเตอร์ แอสซิสต์ให้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ โหม่งทำประตู 

นาที 62 เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย ยิงจุดโทษไปชนเสาทำให้ เอกวาดอร์ พลาดโอกาสตามตีเสมอไปแบบน่าเสียดาย

แต่ว่าช่วงท้ายเกมนาที 90+1 เอกวาดอร์ ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ เเควิน โรดริเกซ โหม่งบอลเข้าไปในตาข่าย 

ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษแต่ไม่มีฝั่งไหนทำสกอร์ได้ ต้องดวลจุดโทษเพื่อตัดสิน โดย ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีม ยิงคนแรกของทีมแต่พลาดจุดโทษ ขณะที่ เอกวาดอร์ พลาดเป้า 2 คน ทำให้ อาร์เจนตินา เอาชนะจุดโทษ เอกวาดอร์ 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้าย ไปลุ้นป้องกันแชมป์ โคปา อเมริกา 2สมั้ยติด 


เนเธอร์แลนด์ vs ตุรกี : วิเคราะห์ก่อนเกม ยูโร 2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย 🇳🇱🇹🇷

0
euro2024

อัศวินสีส้ม 🇳🇱 เตรียมปะทะ ไก่งวงน้อย 🇹🇷 ในศึกยูโร 2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เกมนี้ใครจะคว้าชัยตั๋วเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ? มาดูกัน!

ความพร้อมทั้ง2ทีม

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ของ โรนัลด์ คูมัน ต้องเช็กฟิต มัทไธส์ เดอ ลิกต์ กองหลังตัวสำรองในทัวร์นาเม้นท์นี้ ส่วนรายอื่น ๆ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบนใด ๆ ทั้งสิ้น คาดว่าเกมนี้ทัพอัศวินสีส้มจะมาในระบบ 4 – 3 – 3 ผู้รักษาประตูเป็น บาร์ท แฟร์บรู๊กเก้น จาก ไบรท์ตัน แผงหลังสี่คน เดนเซล ดุมฟรีส์, สเตฟาน เดอ ฟราย, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ นาธาน อาเก้ แดนกลางใช้ ทิยานี่ ไรจ์นเดอร์ส, โจอี้ เฟียร์มัน, เจอร์ดี ชูวเทน โดยมี 3 แนวรุกเป็น ชาบี ซิมอนส์, เมมฟิส เดปาย และ โคดี้ กักโป

ทีมชาติตุรกี

ทีมชาติตุรกี ของ วินเชนโซ่ มอนเตลล่า ค่อนข้างมีปัญหาในเกมนี้แม้ว่า ซาเม็ต อาคายดิน เซ็นเตอร์ตัวหลัก และ ฮาคาน ชัลฮาโนลู มิดฟิลด์ตัวเก๋า จะพ้นโทษแบนกลับมา แต่จะเสีย ออร์กุน เกิคชู และ อิสมาอิล ยุคเซค สองมิดฟิลด์ จากโทษสะสมใบเหลืองเช่นกัน นอกจากนั้นเซนเตอร์แบ็กอีกคนฮีโร่จากเกมก่อน อย่าง เมรีห์ เดมิรัล โดนแบนไปอีกคนจากท่าดีใจไม่เหมาะสมในนัดก่อน คาดว่าเกมนี้ ทัพไก่งวง จะมาในระบบ 4 – 2 – 3 – 1 ผู้รักษาประตูเป็น แมร์ต กูน็อค แผงหลัง 4 คนประกอบด้วย แมร์ต มุลเดอร์, ซาเม็ต อาคายดิน, อับดุลเคริม บาร์ดัคชี่ และ แฟร์ดี้ คาดิโอลู คู่มิดฟิลด์ใช้ ซาลีห์ เอิซชาน กับ คาน อายฮาน สามตัวรุกเป็น อาร์ด้า กือแลร์, ฮาคาน ชัลฮาโนลู, เคนัน ยิลดิซ กองหน้าตัวเป้า บาริช อัลเพอร์ ยิลมาซ

เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่สูสี

แต่ เนเธอร์แลนด์ น่าจะมีโอกาสชนะมากกว่า ด้วยความได้เปรียบด้านขุมกำลังและประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์

การคาดการณ์สกอร์:

  • เนเธอร์แลนด์ 2 – 1 ตุรกี
  • เนเธอร์แลนด์ 1 – 0 ตุรกี

อังกฤษ VS สวิตเซอร์แลนด์ วิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 8 ทีม

0
euro2024

อังกฤษ VS สวิตเซอร์แลนด์

วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2567 เวลา 23.00 น.

สนาม : แมร์คูร์ สปีล อารีน่า ประเทศเยอรมนี

ทีมชาติอังกฤษ ของ แกเร็ต เซาท์เกต จะไม่มี มาร์ก เกฮี กองหลังตัวหลัก น่าจะเป็นโอกาสของ เอซรี คอนซ่า ที่จะลงมายืนคู่กับ จอห์น สโตน แทน ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ส่วนในแดนกลางที่ยังไม่ค่อยไหลลื่นลงตัวเท่าที่ควรก็ยังน่าจะใช้ชุดเดิมจากเกมที่แล้ว โดย จู๊ด เบลลิงแฮม ที่รอดจากโทษแทนจากท่าดีใจไม่เหมาะสมในนัดก่อนแต่โดนปรับแทน ยังคงได้ลงสนามต่อไป คาดว่าทีมสิงโตคำรามจะมาในระบบ 4 – 2 – 3 – 1
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 – 2 – 3 – 1 : จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอร์คเกอร์, จอห์น สโตน, เอซรี คอนซ่า, คีแรน ทริปเปียร์ – ดีแคลน ไรซ์, ค็อบบี้ ไมนู – บูคาโย่ ซาก้า, จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟลเด้น – แฮร์รี่ เคน

ส่วน ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ของ กุนซือมูรัต ยาคิน ผู้จัดการทีมลูกครึ่งสวิตเซอร์แลนด์-ตุรกี จะได้วิงแบ็คขวาอย่าง ซิลวาน วิดเมอร์ ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลือง กลับมาลงสนามได้ในนัดนี้ นอกจากนั้นไม่มีปัญหาใดๆ เกมนี้คาดว่าพวกเขาจะมาในระบบ 3 – 4 – 2 – 1
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 3 – 4 – 2 – 1 : ยาน ซอมเมอร์ – ฟาเบียน แช, มานูเอล อาคานจี, ริคาร์โด โรดริเกซ  – ซิลวาน วิดเมอร์, เรโม ฟรอยเลอร์, กรานิต ชากา, มิเชล เอบิสเชอร์ – แดน เอ็นดอย, รูเบน วาร์กาส – บรีล เอ็มโบโล่

ไฮไลท์ก่อนเกม:

  • อังกฤษ: ฟอร์มไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เข้ารอบมาแบบหวุดหวิด
  • สวิตเซอร์แลนด์: ฟอร์มร้อนแรง ชนะอิตาลีมาในรอบแบ่งกลุ่ม
  • สถิติการพบกัน: อังกฤษ ชนะ 19 เสมอ 5 แพ้ 3 ใน 27 เกมที่ผ่านมา
  • นักเตะที่น่าจับตามอง:
    • อังกฤษ: แฮร์รี่ เคน, จู๊ด เบลลิงแฮม, บูกาโย ซาก้า
    • สวิตเซอร์แลนด์: กรานิต ชาก้า, เบรล เอ็มโบโล่, เจอร์ดัน ชาคิรี

วิเคราะห์:

อังกฤษ แม้จะฟอร์มไม่ค่อยดี แต่พวกเขาก็มีขุมกำลังนักเตะที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะลูกกลางสนามและเกมรุก

สวิตเซอร์แลนด์ เป็นทีมที่เล่นได้อย่างมีระบบ และมีนักเตะที่เก๋าประสบการณ์หลายคน

การคาดการณ์สกอร์:

  • สวิตเซอร์แลนด์ 1 – 0 อังกฤษ
  • สวิตเซอร์แลนด์ 2 – 1 อังกฤษ




โกปา อเมริกา รอบ 8 ทีมสุดท้าย เวเนซุเอลา – แคนาดา

0
copa america 2024

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

เวเนซุเอลา (4-2-3-1) : ราฟาเอล โรโม่ – จอน อารัมบูรู, นาอวล แฟร์ราเรซี่, ยอร์ดาน โอโซริโอ, มิเกล นาวาร์โร่ – โฮเซ่ อันเดรส มาร์ตีเนซ, ยานเคล เอร์เรร่า – เอ็ดวาร์ด เบโย่, คริสเตียน กาสเซเรส, เยเฟอร์สัน โซเตลโด้ – ซาโลมอน รอนดอน

แคนาดา (4-2-3-1) : มักซีม เครโป้ – อลิสแตร์ จอห์นสตัน, โมอีส บอมบิโต้, ดีเร็ค คอร์เนเลียส, อัลฟอนโซ่ เดวิส – อิสมาแอล โกเน่, สตีเฟ่น ยูสตากีโอ – ริชี่ ลาร์เยีย, โจนาธาน เดวิด, อาลี อาเหม็ด – ไคล์ ลาริน

สนาม : เอที แอนด์ที สเตเดี้ยม

เวเนซุเอลา – เฟร์นานโด บาติสต้า นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์หมดสิทธิ์ใช้งาน ดาร์วิน มาชีส ปีกตัวเก่งสะสมใบเหลืองครบโควตาพักแข้ง คาดว่า เยเฟอร์สัน โซเตลโด้ จะได้เสียบแทนคอยช่วยงาน เอ็ดวาร์ด เบโย่, คริสเตียน กาสเซเรส สนับสนุนหน้าเป้าจอมเก๋า ซาโลมอน รอนดอน ขณะที่ นาอวล แฟร์ราเรซี่ และ มิเกล นาวาร์โร่ พร้อมคืนแนวรับหลังได้พักเกมส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มเพื่อเลี่ยงโดนเหลืองติดโทษแบนนัดนี้

แคนาดา – เจสซี่ มาร์ช เฮดโค้ชเลือดมะกันจะไม่มี ทายอน บัคคาแน่น จอมบุกกราบขวาสังกัด อินเตอร์ มิลาน ที่โชคร้ายกระดูกหน้าแข้งหักตอนซ้อมส่อแววพักยาวราวครึ่งปีเลยทีเดียว แต่ในราย อิสมาแอล โกเน่ แข้งใหม่สดๆ ร้อนๆ ของ มาร์กเซย พร้อมคัมแบ็กแดนกลางคู่ สตีเฟ่น ยูสตากีโอ ในแนวรุกวาง อาลี อาเหม็ด ออกสตาร์ทประสานงาน ริชี่ ลาร์เยีย, โจนาธาน เดวิด ดาวยิงสูงสุดทีมชาติ และหน้าเป้า ไคล์ ลาริน

เวเนซุเอลา ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย โคปา อเมริกา 2024 ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม A หลังจากพ่ายแพ้ต่ออาร์เจนติน่าในเกมนัดสุดท้าย

แคนาดา สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าอันดับสองของกลุ่ม B

การวิเคราะห์:

เกมนี้ เวเนซุเอลา เป็นทีมที่ถูกมองว่ามีโอกาสชนะมากกว่า ด้วยประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่ และขุมกำลังนักเตะที่เหนือกว่า

แคนาดา แม้จะเป็นทีมที่เพิ่งเข้าร่วมโคปา อเมริกาเป็นครั้งแรก แต่พวกเขาก็โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ เล่นได้อย่างมีระบบ และมีนักเตะที่เล่นในสโมสรชั้นนำของยุโรปหลายคน

สกอร์ที่คาดการณ์:

  • เวเนซุเอลา 2 – 1 แคนาดา
  • เวเนซุเอลา 1 – 0 แคนาดา

โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส : ผลบอล 0-0 (จุดโทษ 3-5)

0

ทัพฝอยทอง ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต้องอกหัก ตกรอบจากศึกยูโร 2024 เมื่อ ชูเอา เฟลิกซ์ ยิงลูกโทษพลาดไปชนเสาในช่วงการดวลจุดโทษตัดสิน ทำให้กลายเป็น ทีมตราไก่ ที่ดวลเป้าเอาชนะไป 5-3 หลังจากที่ทั้ง 2 ทีม เสมอกันใน 120 นาที 0-0 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปพบกับ สเปน ต่อไป

ศึกฟุตบอล ยูโร 2024″ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สนาม โฟล์คสปาร์ค สตาดิโอน โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส

เกมในครึ่งเวลาแรก ทั้ง 2 ทีม ต่างก็มีโอกาสทำประตูกันไม่มากนัก ทำให้จบ 45 นาทีแรก สกอร์เสมอกันอยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลัง นาที 50 คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้โอกาสยิงจากหน้าเขตโทษ แต่ ดิโอโก้ คอสต้า ก็ยังป้องกันไว้ได้

นาที 61 โปรตุเกส ได้ลุ้นประตู 2 จังหวะซ้อน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตวัดยิงตามน้ำด้วยขวา ทว่าบอลไปติดเซฟของ ไมค์ เมญอง จากนั้น ชูเอา คันเซโล่ ตั้งป้อมปั่นด้วยซ้าย แต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกหลังไป

ถัดมา นาที 63 ราฟาเอล เลเอา ปาดบอลเข้ากลางให้ วิตินญ่า แปเน้นๆ ในเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว ไมค์ เมญอง ก่อนที่บอลจะไปเข้าทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ตอกส้นจากบริเวณหน้าปากประตู ทว่า เมญอง ก็ยังตามไปปิดมุมไว้ได้ทัน

นาที 66 แรนดัล โคโล มูอานี่ ได้จังหวะหลุดเข้าเขตโทษมาสับไกโล่งๆ ทว่า รูเบน ดิอาส พุ่งบล็อก ทำให้บอลแฉลบเปลี่ยนทางแล้วหลุดเสาไกลไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น

ต่อมา นาที 70 เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ได้ยิงจากระยะเผาขน แต่ ดิโอโก้ คอสต้า ออกไปปิดมุม จนทำให้ คามาวิงก้า ยิงหลุดเสาสองออกไปแบบน่าเสียดายสุดๆ

กระทั่ง หมดเวลา 90 นาที ทั้ง 2 ทีม ก็ยังคงทำอะไรกันไม่ได้ ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป ทว่าสุดท้ายก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก จึงต้องไปตัดสินด้วยการดวลจุดโทษชี้ขาด

โปรตุเกส VS ฝรั่งเศส 0-0 (จุดโทษ 3-5) : ตราไก่ ดวลเป้าดับ ฝอยทอง ลิ่วชน สเปน

โดยผลปรากฏว่า เป็น ทัพตราไก่ ที่สังหารแม่นยำกว่า เมื่อยิงเข้าประตูครบทั้ง 5 คน ในขณะที่ ชูเอา เฟลิกซ์ ของทีมฝอยทอง ยิงไปชนเสา ทำให้จบเกมการแข่งขัน เป็น ทีมชาติฝรั่งเศส ที่เอาชนะ ทีมชาติโปรตุเกส ในการดวลจุดโทษ 5-3 หลังเสมอกันใน 120 นาที 0-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ สเปน ในคืนวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 เวลา 02.00 น.

โปรตุเกส VS ฝรั่งเศส 0-0 (จุดโทษ 3-5) : ตราไก่ ดวลเป้าดับ ฝอยทอง ลิ่วชน สเปน

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

โปรตุเกส : ดิโอโก้ คอสต้า (GK), ชูเอา คันเซโล่, เปเป้, รูเบน ดิอาส, นูโน่ เมนเดส, วิตินญ่า, ชูเอา ปาลินญ่า, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ราฟาเอล เลเอา

ฝรั่งเศส : ไมค์ เมญอง (GK), ฌูลส์ คุนเด้, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, วิลเลียม ซาลิบา, เตโอ แอร์กน็องเดซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, แรนดัล โคโล มูอานี่, อ็องตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้





สเปนเฉือนชนะเยอรมนี 2-1 ดราม่าต่อเวลาพิเศษ!

0
euro2024

มิเกล เมริโน่ ตัวสำรองลงมาโหม่งประตูชัยช่วงต่อเวลาพิเศษให้ สเปน เฉือนชนะ เยอรมนี แบบหืดจับ 2-1 ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ ศึกยูโร 2024

เริ่มเกมเพียงแค่นาทีเดียว สเปนได้โอกาสทักทายก่อนจาก เปรดี้ ยิงด้วยซ้ายแต่ มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูเยอรมนี เซฟไว้ได้ 

นาที 8 สเปนมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลัง เปรดี้ ได้รับบาดเจ็บการจังหวะ โทนี่ โครส เข้าปะทะหนัก จนเล่นต่อไม่ได้ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ส่ง ดานี โอลโม ลงมาแทน

 นาที 21 เยอรมนี ได้ลุ้นจากจังหวะ อายเมอริก ลาปอร์ต วางบอลเขาเขตโทษ ไค ฮาแวร์ตซ์ ขึ้นโหม่งแต่ไม่ผ่านมือของ อูไน ซิม่อน นายทวารสเปน 

นาที 39 สเปน ได้ลุ้นจากจังหวะ ไค ฮาแวร์ตซ์ เสียบอลกลางสนาม ดานี่ โอลโม่ เก็บบอลได้แล้วยิงเต็มข้อ แต่ มานูเอล นอยเออ์ ยังเซฟเอาไว้ได้

จบครึ่งแรก สเปน เสมอ เยอรมนี 0-0 



นาที 46 สเปน มีโอกาสจาก ลามีน ยามาล จ่ายบอลให้ อัลบาโร่ โมราต้า หมุนหนึ่งรอบก่อนยิงด้วยขวาตรงปากประตูแต่บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย 

นาที 51 ลามีน ยามาล จ่ายบอลตัดเข้ากลางเขตโทษ ดานี่ โอลโม่ สอดขึ้นมาจากแถวสองยิงด้วยขวาบอลหนีมือ มานูเอล นอยเออร์ เข้าประตูไป สเปน ขึ้นนำ 1-0

นาที 70 เยอรมนี พลาดโอกาสได้ประตูตีเสมอจากจังหวะ นิคลาส ฟูลล์ครุก วางบอลให้ โรเบิร์ต อันดริช ยิงจากนอกเขตโทษ แต่ อูไน ซิม่อน พุ่งเซฟเอาไว้ 

นาที 77 ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ตัวสำรอง ลากบอลจากด้านขวาตัดเข้ากลางมาให้ นิคลาส ฟูลล์ครุก ยิงไปชนเสาแบบน่าเสียดาย ทำให้ เยอรมนี ยังไม่สามารถตามตีเสมอได้ 

นาที 89 เยอรมนี ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ โยชัว คิมมิช โหม่งย้อนเข้ามาให้ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ฮาลฟ์วอลเลย์ด้วยขวาเข้าประตูไปสวยงาม 

ครบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษเป็น และช่วงท้ายในนาที 119 ดานี่ โอลโม่ วางบอลเข้าเขตโทษให้ มิเกล เมริโน่ ตัวสำรอง กระโดดขึ้นโหม่งเข้าประตูไป สเปน หนีไปเป็น 2-1 จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มครบ 120 นาที สเปน เอาชนะ เจ้าภาพ เยอรมนี แบบหืดจับ 2-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง โปรตุเกส พบ ฝรั่งเศส ในวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
สเปน (4-2-3-1) :
 อูไน ซิม่อน – ดานี่ การ์บาฆาล, โรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์, อายเมอริก ลาปอร์ต, มาร์ก กูกูเรย่า – โรดรี้, ฟาเบียน รุยซ์ – เปดรี้, ลามีน ยามาล, นิโก วิลเลี่ยมส์ – อัลบาโร่ โมราต้า

เยอรมนี (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ – โยชัว คิมมิช, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, โยนาธาน ทาห์, เดวิด เราม์ – เอ็มเร ชาน, โทนี่ โครส – จามาล มูเซียล่า, อิลคาย กุนโดกัน, ลีรอย ซาเน่ – ไค ฮาแวร์ตซ์

วิเคราะห์ เยอรมัน vs สเปน : ยูโร 2024 (5 กรกฎาคม 2567)

0

การวิเคราะห์:

เกมนี้เป็นการพบกันของสองทีมที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในทัวร์นาเมนต์ สเปน ชนะรวดมาทั้ง 5 นัด ยิงไป 9 ประตู เสียเพียง 1 ประตู เยอรมนี เองก็ยังไม่แพ้ใคร แต่เสมอ 1 นัดในนัดที่พบกับสวิตเซอร์แลนด์

สเปน

  • ข้อได้เปรียบ:
    • ฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรง
    • แนวรุกที่เฉียบคม
    • ประสบการณ์ในทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่
  • ข้อเสียเปรียบ:
    • เล่นในเกมใหญ่กับเยอรมนีที่สนามเหย้าของคู่แข่ง

เยอรมนี

  • ข้อได้เปรียบ:
    • ได้เล่นในสนามเหย้า
    • มีนักเตะที่เล่นในสโมสรชั้นนำของยุโรปจำนวนมาก
  • ข้อเสียเปรียบ:
    • ประสิทธิภาพการจบสกอร์ที่ยังไม่ดีนัก

ผลการคาดการณ์:

เกมนี้สูสีคาดเดายากเป็นเกมที่อาจจะไปถึงแชมป์ด้วยกันทั้งคู่ ทั้งสองทีมมีโอกาสคว้าชัยชนะพอๆกันผล เสมอ ใน 90 นาที มีโอกาสเป็นไปได้สูง
ถ้าให้เลือก ผู้ชนะ ขอมองไปที่เจ้าบ้าน เพราะด้วยเรื่องเสียเชียร์และขวัญกำลังใจจากการเป็นชาติเจ้าภาพ

คาดการณ์ผล: เสมอ 1-1 2-2

แฮร์รี่ เคน สถิติ และ รางวัลส่วนตัว

0

แฮร์รี่ เอ็ดเวิร์ด เคน เกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1993 ในย่านวอลทัมสโตว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันค้าแข้งให้กับสโมสร ไบเอิร์น มิวนิค ในบุนเดสลีก้า เยอรมัน และเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ

ครอบครัวและชีวิตส่วนตัว:

  • เคน เติบโตมากับครอบครัวที่เป็นแฟนบอลสโมสร ทอตนัม ฮอตสเปอร์ จึงทำให้เขามีความฝันอยากเป็นนักเตะของสโมสรนี้ตั้งแต่เด็ก
  • เคน สมรสกับ เคที่ กู๊ดแลนด์ เมื่อปี 2019 ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน

การเริ่มต้นอาชีพ:

  • เคน เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสร ริจ์เวย์ โรเวอร์ส เมื่ออายุ 6 ขวบ
  • ต่อมา เซ็นสัญญากับสโมสร ทอตนัม ฮอตสเปอร์ ในปี 2009
  • เคน ถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นให้กับหลายสโมสร เช่น เลย์ตัน โอเรียนท์ มิลล์วอลล์ เลสเตอร์ ซิตี้ และ นอริช ซิตี้
  • เคน กลับมาสู่สโมสรทอตนัม ฮอตสเปอร์ ในปี 2012 และกลายเป็นกองหน้าตัวหลักของทีม

ความสำเร็จ:

รางวัลระดับสโมสร:

  • ทอตนัม ฮอตสเปอร์:
    • รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย (2018-19)
    • รองแชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย (2014-15)
    • รองแชมป์ลีกคัพ 2 สมัย (2014-15, 2015-16)
  • ไบเอิร์น มิวนิค:
    • แชมป์บุนเดสลีก้า 1 สมัย (2023-24)

รางวัลส่วนตัว:

  • พรีเมียร์ลีก:
    • ดาวซัลโว 2 สมัย (2016-17, 2018-19)
    • ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือน 7 สมัย
    • ทีมยอดเยี่ยมแห่งปี 4 สมัย
    • ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 1 สมัย
  • ฟุตบอลโลก:
    • รองเท้าทองคำ 1 สมัย (2018)
  • รางวัลอื่นๆ:
    • รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ 1 สมัย (2018)
    • รางวัลรองเท้าทองคำยุโรป 1 สมัย (2021)
    • ทีมยอดเยี่ยมของยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย (2018-19)
    • ทีมยอดเยี่ยมของยูฟ่า เนชันส์ ลีก 1 สมัย (2018-19)

รางวัลระดับทีมชาติ:

  • ทีมชาติอังกฤษ:
    • รองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1 สมัย (2020)

สถิติ:

  • สโมสร:
    • ลงเล่น 415 นัด ยิง 302 ประตู (เฉลี่ย 0.73 ประตูต่อนัด)
  • ทีมชาติ:
    • ลงเล่น 101 นัด ยิง 66 ประตู (เฉลี่ย 0.66 ประตูต่อนัด)

เลาตาโร มาร์ติเนซ ฟอร์มร้อนแรง: นำดาวซัลโวโคปา ?

0

ฟอร์มในระดับสโมสร:

  • ลงเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน ในลีคฤดูกาล 2023/24
  • ลงเล่นไปแล้ว 33 นัด
  • ยิงประตูไป 24 ประตู (อันดับ 1 ของดาวซัลโว Serie A)
  • แอสซิสต์ 3 แอสซิสต์

ฟอร์มในระดับทีมชาติ:

  • ลงเล่นให้กับทีมชาติ อาร์เจนตินา 5 เกมล่าสุด
  • ยิงประตูไป 4 ประตู จากการลงเล่น 3 เกม (ดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์โกปาอเมริกา 2024)
  • แอสซิสต์ 0 แอสซิสต์
  • ยิงประตูเฉลี่ยต่อนัด 0.8 ประตู

จากสถิติข้างต้น แสดงให้เห็นว่า เลาตาโร มาร์ติเนซ กำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดี ยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ

โดยเฉพาะในศึกโกปาอเมริกา 2024 เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ยิง 4 ประตูจาก 5 นัด พาทีมชาติอาร์เจนตินาเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางนัดที่เขายังทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร และยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอีกหลายอย่าง

แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงในตอนนี้ เชื่อได้ว่า เลาตาโร มาร์ติเนซ จะกลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่สำคัญที่สุดของโลกในอนาคตอย่างแน่นอน

ห้ามพลาด!