Home Blog Page 77

โกปาอเมริกา 2024 มาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว!

0

อาร์เจนตินา แชมป์เก่า ลงปะทะ โคลอมเบีย ในศึกชิงชนะเลิศ 🇦🇷🇨🇴

แข่งกันวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคมนี้ เวลา 07.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ⏰🇹🇭

สนาม: ฮาร์ด ร็อค สเตเดี้ยม, เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา 🇺🇸




ทีมชาติอาร์เจนตินา ของ ลีโอเนล สกาโลนี่ นัดนี้ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน พร้อมลงสนามล่าแชมป์ทุกราย เกมนี้คาดว่าพวกเค้าจะมาในระบบ 4 – 3 – 3
ผู้รักษาประตู เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ แผงหลังสี่คน นาอวล โมลิน่า, คริสเตียน โรเมโร่, ลิซานโดร มาร์ตีเนซ และ นิโกลัส ตายาฟิโก้ แผงมิดฟิลด์ 3 คน เอ็นโซ เฟอร์นานเดส, โรดริโก้ เด ปอล และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สามกองหน้าใช้ กัปตันทีม ลีโอเนล เมสซี่ ,ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ อังเคล ดิ มาเรีย



ทีมชาติโคลอมเบีย ของ เนสตอร์ ลอเรนโซ่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ จะไม่มี ดาเนียล มูนญอซ ติดโทษจากการโดน 2 เหลืองในนัดก่อน ส่วนที่เหลือพร้อมลงสนามทั้งหมด คาดว่าพวกเค้าจะมาในระบบ 4 – 2 – 3 – 1
ผู้รักษาประตู คามิโล วาร์กาส แผงแบ็คโฟร์มี โยฮัน โมจิก้า, ดาวินซอน ซานเชซ, การ์ลอส กวสต้า และ เดเวร์ มาชาโด้ คู่กลางใช้ เจฟเฟอสัน เลอร์มา กับ ริชาร์ด ริโอส์ โดยมีสามตัวรุกเป็น จอห์น อาเรียส, ฮาเมส โรดรีเกซ, หลุยส์ ดีอาซ ทำเกมหลังกองหน้าตัวเป้าอย่าง จอห์น กอร์โดบา

ลุ้นกันว่า ทีมไหนจะเป็นแชมป์โกปาอเมริกาสมัยนี้!

ห้ามพลาดเด็ดขาด!

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • อาร์เจนตินา ไม่แพ้ใครมา 25 นัดติดต่อกัน 🇦🇷
  • โคลอมเบีย เอาชนะ อุรุกวัย มาในรอบรองชนะเลิศ 🇨🇴
  • นี่เป็นการพบกันของทั้งสองทีมในรอบชิงชนะเลิศ โกปาอเมริกา ครั้งแรก ⚽️


    วิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเกม

    อาร์เจนตินา ชุดนี้แข็งแกร่งมากในทุกๆ ตำแหน่ง เช่นเดียวกับ โคลอมเบีย ชุดนี้ผสมตัวเก๋ากับตัวสดได้อย่างลงตัวเดินหน้าคว้าชัยได้อย่างต่อเนื่อง สถิติที่ผ่านมาคาดว่า มีโอกาสเสมอกันในเกมสูง หากมีผลแพ้ หรือ ชนะ คงจะเฉือนกันเพียงประตูเดียว เชื่อว่าเกมนี้ อาร์เจนตินา น่าจะผ่านไปได้และสุดท้ายเป็นผู้คว้าแชมป์ในปีนี้


  • ผลการแข่งขันที่คาด
  • 2 – 1 1 – 1

ยุครุ่งเรืองของฟุตบอลทีมชาติสเปน: ครองความยิ่งใหญ่

0

ทีมชาติสเปนประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วง ปลายทศวรรษ 2000 ถึงต้นทศวรรษ 2010 คว้าแชมป์รายการใหญ่ติดต่อกัน 3 รายการ ได้แก่

  • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008: สเปนเอาชนะเยอรมนี 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ
  • ฟุตบอลโลก 2010: สเปนเอาชนะเนเธอร์แลนด์ 1-0 หลังต่อเวลาพิเศษในรอบชิงชนะเลิศ เป็นการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกของสเปน
  • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012: สเปนเอาชนะอิตาลี 4-0 ในรอบชิงชนะเลิศ

    ถือว่า ได้กวาดแชมป์รายการใหญ่ได้ทั้งหมดในขณะนั้น

จุดเด่นของทีมชุดนี้:

  • ระบบการเล่นแบบ TIKI-TAKA: เน้นการครองบอล การต่อบอลสั้น และการเคลื่อนที่อย่างชาญฉลาด
  • นักเตะพรสวรรค์มากมาย: สเปนมีนักเตะระดับโลกในทุกตำแหน่ง เช่น ชาบี้ อิเนียสต้า อันเดรส อิเนียสต้า เซร์คิโอ รามอส ดาบิด บีญา เฟร์นันโด ตอร์เรส และอื่นๆ
  • เฮดโค้ชชั้นยอด: เป๊ป กวาร์ดิโอลา เป็นผู้สร้างรากฐานทีมชุดนี้ และเกเรตโต้ ปิเก้ เป็นผู้พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010

ผลงานที่ยิ่งใหญ่:

  • สเปนครองอันดับ 1 ของโลก โดยฟีฟ่าเป็นเวลานานถึง 5 ปี (2008-2013)
  • สเปนไม่แพ้ใคร ติดต่อกัน 35 นัด (2007-2009)
  • สเปนเป็นทีมชาติที่ เล่นฟุตบอลได้สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดทีมหนึ่งในประวัติศาสตร์

ยุคทองของทีมชาติสเปน เป็นแรงบันดาลใจให้กับทีมฟุตบอลหลายทีมทั่วโลก และยังคงถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในทีมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

บุคคลสำคัญ:

  • ชาบี้ อิเนียสต้า: กองกลางตัวรุก ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทีม คว้ารางวัลบัลลงดอร์ออร์ ปี 2010
  • อันเดรส อิเนียสต้า: กองกลางตัวกลาง กัปตันทีมชาติสเปน คว้ารางวัลรองชนะเลิศบัลลงดอร์ออร์ ปี 2010
  • เซร์คิโอ รามอส: กองหลังตัวกลาง ผู้นำของแนวรับ คว้ารางวัลกองหลังยอดเยี่ยมของยูฟ่า 5 สมัย
  • ดาบิด บีญา: กองหน้า ดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติสเปน คว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรป ปี 2010
  • เป๊ป กวาร์ดิโอลา: เฮดโค้ช ผู้สร้างรากฐานทีมชุดนี้ พาบาร์เซโลนาคว้าแชมป์มากมาย
  • เกเรตโต้ ปิเก้: เฮดโค้ช พาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010

ยุคทองของทีมชาติสเปน สิ้นสุดลงหลังปี 2012 ทีมชุดนี้ค่อยๆ เสื่อมลง นักเตะตัวหลักหลายคนเลิกเล่นทีมชาติ แต่ทีมชาติสเปนชุดปัจจุบันกำลังฟื้นฟูกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ด้วยนักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์หลายคน

เดวิด เบ็คแฮม: อดีตนักฟุตบอลระดับตำนาน

0

เดวิด เบ็คแฮม อดีตกองกลางชาวอังกฤษ ชื่อดังโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยทักษะการเตะฟรีคิกที่แม่นยำ การเลี้ยงบอลที่เหนือชั้น และรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา

ประวัติ:

  • เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1975 ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
  • เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
  • ประสบความสำเร็จกับแมนยูไนเต็ดอย่างมาก คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย
  • ย้ายไปเล่นให้กับเรอัล มาดริด บาร์เซโลนา เอซี มิลาน พารีส แซงต์แジェルแม็ง และอินเตอร์ ไมอามี่
  • ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 115 นัด ยิง 17 ประตู เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ
  • ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 2013

สถิติ:

  • ลงเล่นสโมสร 627 นัด ยิง 175 ประตู
  • ลงเล่นทีมชาติ 115 นัด ยิง 17 ประตู

รางวัลส่วนตัว:

  • รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ 2 สมัย
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า 1 สมัย
  • รางวัลบัลลงดอร์ออร์อันดับ 2 2 สมัย
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 1 สมัย

เกียรติยศ:

  • ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
  • เป็นสัญลักษณ์ของฟุตบอลอังกฤษ
  • เป็นที่รู้จักและชื่นชอบไปทั่วโลก
  • มีธุรกิจส่วนตัวมากมาย ประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้าน



เดวิด เบ็คแฮม เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอล เขาเป็นตัวอย่างที่ดีของนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสนาม


เดวิด เบ็คแฮม : เส้นทางหลังแขวนสตั๊ด

ธุรกิจ:

  • เบ็คแฮม แบรนด์: ก่อตั้งบริษัทของตัวเอง ดูแลเรื่องธุรกิจต่างๆ เช่น เสื้อผ้า น้ำหอม แว่นตา รองเท้า และอื่นๆ
  • อินเตอร์ ไมอามี่: ร่วมเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลอินเตอร์ ไมอามี่ ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ สหรัฐอเมริกา
  • เซเว่น: ก่อตั้งบริษัทสื่อ ผลิตรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และสื่อดิจิทัล
  • เดวิด เบ็คแฮม อคาเดมี่: ก่อตั้งโรงเรียนสอนฟุตบอลสำหรับเด็ก

งานการกุศล:

  • ยูนิเซฟ: ทูตสันถวรขององค์การยูนิเซฟ รณรงค์ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทั่วโลก
  • มาลาเรีย นอสซีม่า: ผู้ก่อตั้งองค์กรเพื่อต่อสู้กับโรคมาลาเรีย

งานอื่นๆ:

  • เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ต่างๆ มากมาย
  • เป็นคอมเมนเตเตอร์ฟุตบอล
  • เขียนหนังสือ
  • เป็นเจ้าของร้านอาหาร
  • เป็นเจ้าของโรงแรม

รางวัลและเกียรติยศ:

  • ได้รับรางวัลมากมาย สำหรับผลงานด้านธุรกิจ งานการกุศล และงานอื่นๆ
  • ได้รับการยกย่อง ให้เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก
  • เป็นที่รู้จักและชื่นชอบ ไปทั่วโลก

ดาร์วิน นูนเญซ : ทะเลาะวิวาท กับกองเชียร์โคลอมเบีย

0

ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยและสโมสรลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวใหญ่หลังจบเกมรอบรองชนะเลิศ โคปา อเมริกา 2024 ที่พบกับโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567

สรุปประเด็นสำคัญ:

  • นูนเญซมีปากเสียงกับแฟนบอลโคลอมเบีย บริเวณอัฒจันทร์หลังจบเกม สาเหตุเพราะครอบครัวของเขาถูกแฟนบอลโคลอมเบียด่าทอและปาของใส่
  • นูนเญซขึ้นไปบนอัฒจันทร์ เพื่อปกป้องครอบครัว มีการปะทะคารมและชกต่อยกับแฟนบอลโคลอมเบีย
  • มีคลิปวิดีโอเหตุการณ์ เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
  • สมาคมฟุตบอลอุรุกวัย ออกแถลงการณ์ประณามพฤติกรรมของแฟนบอลโคลอมเบีย และยืนยันว่านูนเญซทำไปเพื่อปกป้องครอบครัว
  • สโมสรลิเวอร์พูล เตรียมเรียกนูนเญซมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
  • นูนเญซอาจถูกแบน จากการแข่งขันฟุตบอล

โรดริ (Rodri) : ตัวแบกแห่ง ทีมชาติสเปน และ แมนซิตี้

0

ชื่อเต็ม: โรดริโก เฮอร์นานเดซ กาสกานเต้ (Rodrigo Hernández Cascante)

ชื่อเล่น: โรดรี่ (Rodri)

วันเกิด: 22 มิถุนายน 1996 (อายุ 28 ปี)

สถานที่เกิด: กรุงมาดริด ประเทศสเปน

สัญชาติ: สเปน

ส่วนสูง: 190 ซม.

ตำแหน่ง: กองกลางตัวรับ

สโมสรปัจจุบัน: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)

หมายเลขเสื้อ: 16




อาชีพนักฟุตบอล:

  • 2013–2015: บีญญาเรอัล (สเปน)
  • 2015–2019: แอตเลติโก มาดริด (สเปน)
  • 2019–ปัจจุบัน: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)

ทีมชาติ:

  • 2018–ปัจจุบัน: สเปน (ลงเล่น 51 นัด ยิง 3 ประตู)

เกียรติประวัติ:

  • สโมสร:
    • แชมป์ลาลีกา 1 สมัย (แอตเลติโก มาดริด, 2016–17)
    • แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, 2020–21, 2021–22, 2022–23, 2023–24)
    • แชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, 2020–21)
    • แชมป์อีเอฟแอลคัพ 4 สมัย (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, 2018–19, 2019–20, 2020–21, 2022–23)
    • แชมป์เอฟเอคอมมิวนิตี้ชิลด์ 2 สมัย (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, 2019, 2022)
    • แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, 2022–23)
  • ทีมชาติ:
    • แชมป์ยูฟ่าเนชันส์ลีก 1 สมัย (สเปน, 2020–21)

รางวัลส่วนตัว:

  • 2022–23: ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
  • 2020–21: ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่าเนชันส์ลีก

ข้อมูลน่าสนใจ:

  • โรดรี่ เกิดในกรุงมาดริด ประเทศสเปน เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรบีญญาเรอัล ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมแอตเลติโก มาดริด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้
  • โรดรี่ เป็นกองกลางตัวรับที่เก่งกาจ เล่นได้อย่างชาญฉลาดและมีวินัย เป็นที่ยอมรับจากแฟนบอลและสื่อมวลชน
  • โรดรี่ เป็นกำลังสำคัญของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าแชมป์มากมายในช่วงที่ผ่านมา
  • โรดรี่ เคยคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และ ยูฟ่าเนชันส์ลีก

ฟุตบอลยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง สเปน ดวลเดือดกับ อังกฤษ

0

คู่ชิงชนะเลิศ:

  • สเปน แชมป์เก่า 3 สมัย 🇪🇸
  • อังกฤษ ทีมอันดับ 4 ของโลก 󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿

สนาม:

  • โอลิมเปียชตาดิโยน, กรุงเบอร์ลิน, ประเทศเยอรมนี 🇩🇪

วันและเวลา:

  • วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2567
  • เวลา 02:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ช่องทางการรับชม:

  • ช่องรายการกีฬาต่างๆ
  • ถ่ายทอดสดทางออนไลน์

ข้อมูลน่าสนใจ:

  • นี่เป็นการพบกันครั้งที่ 2 ของทั้งสองทีมในรอบชิงชนะเลิศ ยูโร
  • สเปนไม่เคยแพ้อังกฤษในรอบชิงชนะเลิศ ยูโร
  • อังกฤษกำลังล่าแชมป์ยูโรสมัยแรก
  • เกมนี้จะเป็นการดวลกันระหว่างสองผู้จัดการทีมที่เก่งที่สุดในโลก
  • คาดว่าจะเป็นเกมที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ


    สภาพความพร้อม ทีมชาติสเปน

  • “กระทิงดุ” สเปน โชว์ฟอร์มแข็งแกร่งอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่นัดแรกมาจนถึงเกมล่าสุดในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเฉือนชนะ ฝรั่งเศส 2-1 ตบเท้าเข้าสู่รอบชิงศึกยูโรเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี
  • ความพร้อมเกมนี้ กุนซือหลุยส์ เดอ ลา ฟวนเต้ จะหมดสิทธิใช้งานผู้เล่นบาดเจ็บ ได้แก่ เปดรี้ และ อโยเซ่ เปเรซ แต่จะได้ 2 กองหลัง คือ ดานี่ การ์บาฆาล แบ็กขวา และ โรบิน เลอ นอร์มองด์ เซนเตอร์แบ็ก พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมอีกครั้งหลังจากทั้งคู่ไม่ได้ลงเล่นในเกมเจอฝรั่งเศส
  • สำหรับการจัดผู้เล่นลงสนาม สเปน เตรียมจัดทัพเต็มสูบ แนวรับประกอบด้วย ดานี่ การ์บาฆาล, โรบิน เลอ นอร์มองด์, อายเมอริก ลาปอร์กต์ และ มาร์ค กูกูเรยา แดนกลางใช้ 3 ประสาน ดานี่ โอลโม่, โรดรี้ และ ฟาเบียน รุยซ์ ส่วนแนวรุกนำทัพมาด้วยเจ้าหนูมหัศจรรย์ ลามีน ยามาล พร้อมลงป่วนแนวรับอังกฤษ ร่วมกับ นิโก วิลเลี่ยมส์ และ อัลบาโร โมราต้า


    สภาพความพร้อม ทีมชาติอังกฤษ

  • โดนแฟนบอลสวดยับมาตลอดทัวร์นาเม้นต์ แต่ในที่สุด กุนซือแกเรธ เซาธ์เกต ก็สามารถพาทีมชาติอังกฤษทะลุเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ หลังจากเฉือนชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 ในรอบตัดเชือก โดยได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บจาก โอลลี่ วัตกิ้นส์ 
  • ส่วนขุมกำลังเกมนี้ อังกฤษ ต้องรอเช็กอาการ คีแรน ทริปเปียร์ ซึ่งมีอาการเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกตอนพักครึ่งของเกมที่ผ่านมา ขณะที่ แฮร์รี่ เคน เจ็บจากเกมนัดล่าสุดเช่นกัน แต่คาดว่าน่าจะหายเจ็บกลับมาทันลงล่าตาข่ายได้เช่นเดิม
  • เกมนี้คาดว่าเซาธ์เกต จะยังคงยึดระบบ 3-4-2-1 ต่อไป โดยเซนเตอร์แบ็ก 3 คนประกอบด้วย ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์ และ มาร์ค เกฮี วิงแบ็กฝั่งขวาใช้ บูกาโย่ ซาก้า ส่วนด้านซ้ายเป็น ลุค ชอว์ ที่น่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงเป็นนัดแรก มิดฟิลด์เป็น เดแคลน ไรซ์ ประสานงานกับ ค็อบบี้ ไมนู พร้อมด้วยตัวรุกอย่าง ฟิล โฟเด้น กับ จู๊ด เบลลิงแฮม ช่วยกันป้อนบอลให้กองหน้าตัวเป้า แฮร์รี่ เคน จัดการจบสกอร์ 



  • รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
  • สเปน : อูไน ซิมอน (GK), ดานี่ การ์บาฆาล, โรบิน เลอ นอร์มองด์, อายเมอริก ลาปอร์กต์, มาร์ค กูกูเรยา, ดานี่ โอลโม่, โรดรี้, ฟาเบียน รุยซ์, นิโก วิลเลี่ยมส์, ลามีน ยามาล, อัลบาโร โมราต้า
  • อังกฤษ : จอร์แดน พิคฟอร์ด (GK), ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, มาร์ค เกฮี, ลุค ชอว์, บูกาโย, ซาก้า, ค็อบบี้ ไมนู, เดแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเด้น, แฮร์รี่ เคน


  • สกอร์ที่คาด
  • สเปน 2-1 อังกฤษ

ยูโร 2024 ระเบิดศึกนัดชิง! อังกฤษปะทะสเปน ใครคว้าแชมป์?

0

แฟนบอลขาซิ่งเตรียมตัวให้พร้อม! 󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿🇪🇸

อังกฤษ พบ สเปน วันและเวลาการแข่งขัน

  • วันแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2024
  • รายการ : ยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ
  • สนาม : โอลิมปิก สตาดิโอน
  • ผู้ตัดสิน : ฟร็องซัว เลอเตซีเยร์ (ฝรั่งเศส)
  • เวลาการแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

เราจะได้รู้กันว่าใครจะเป็นแชมป์ยูโร 2024 ระหว่าง สิงโตคำราม อังกฤษ กับ กระทิงดุ สเปน 🇪🇸

ก่อนเกม มาดูไฮไลท์กันหน่อย

สเปน: 🇪🇸

  • ฟอร์มร้อนแรง โชว์ฝีมือเฉียบคม ยิงกระจาย 13 ประตู
  • เกมรุกเฉียบคม ดุดัน เล่นด้วยความมั่นใจ
  • ขุมกำลังดาวรุ่งพุ่งแรงเพียบ ⭐️
  • มองดูแล้วมีโอกาสคว้าแชมป์สูง

อังกฤษ: 󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿

  • ฟอร์มไม่เปรี้ยงเท่าไหร่ แต่แกร่งและประสบการณ์สูง 🇬🇧
  • เกมรับเหนียวแน่น ดาบหน้าคมคาย ️⚔️
  • แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือจอมวางแผน
  • ดวงเฮงสุดๆ พลิกสถานการณ์มาถึงรอบชิงได้

สรุป:

เกมนี้สูสีแน่นอน คาดเดายาก

สเปน ดูมีภาษีดีกว่าเล็กน้อย แต่ อังกฤษ ก็พร้อมพลิกล็อกได้เสมอ 🇬🇧🇪🇸

ฟิล โฟเด้น: ดาวรุ่งผู้เปล่งประกายแห่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้

0

ฟิล โฟเด้น ดาวรุ่งชาวอังกฤษ กำลังกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดในวงการฟุตบอลปัจจุบัน ด้วยพรสวรรค์ เทคนิค และวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม เขาสร้างผลงานที่น่าประทับใจให้กับทั้งสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมชาติอังกฤษ

ชีวิตและช่วงวัยเยาว์

  • เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 ที่เมืองสต็อกพอร์ต ประเทศอังกฤษ
  • เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ
  • โฟเด้น พัฒนาฝีมืออย่างรวดเร็ว และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี ค.ศ. 2016

อาชีพนักฟุตบอล

  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ค.ศ. 2016-ปัจจุบัน): โฟเด้น ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้ว 188 นัด ยิงประตู 52 ประตู คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย, เอฟเอคัพ 1 สมัย, อีเอฟแอลคัพ 4 สมัย และคอมมิวนิตี้ชิลด์ 3 สมัย
  • ทีมชาติอังกฤษ (ค.ศ. 2020-ปัจจุบัน): โฟเด้น ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 18 นัด ยิงประตู 3 ประตู เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษชุดรองแชมป์ยูโร 2020

สถิติ

  • พรีเมียร์ลีก: 113 นัด ยิงประตู 31 ประตู
  • ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 33 นัด ยิงประตู 5 ประตู

รางวัลส่วนตัว

  • รางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ: 2 สมัย (2020-21, 2021-22)
  • รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งปีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้: 1 สมัย (2021-22)
  • รางวัลทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ: 1 สมัย (2021-22)
  • รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีก: 1 สมัย (มีนาคม 2022)

ฟิล โฟเด้น ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดในโลก เขามีสไตล์การเล่นที่คล้ายกับดาวยอดนิยมอย่าง ดาบิด ซิลวา และมีโอกาสที่จะพัฒนาฝีมือจนกลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลก

อัลบาโร่ โมราตา: กองหน้าจอมโขกผู้มากด้วยประสบการณ์

0

อัลบาโร่ โมราตา กองหน้าชาวสเปน เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะกองหน้าที่มุ่งมั่น เฉียบคม และทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ เขาผ่านประสบการณ์การค้าแข้งกับสโมสรชั้นนำในยุโรปมากมาย และประสบความสำเร็จทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ

ชีวิตและช่วงวัยเยาว์

  • เกิดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1992 ที่เมืองมาดริด ประเทศสเปน
  • เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของแอตเลติโก มาดริด
  • ด้วยความสามารถที่โดดเด่น โมราตา ถูกเรียกตัวติดทีมชาติสเปนชุดเยาวชนทุกระดับ

อาชีพนักฟุตบอล

  • แอตเลติโก มาดริด (ค.ศ. 2010-2014): โมราตา เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ของแอตเลติโก มาดริดในปี ค.ศ. 2010
    ลงเล่นให้สโมสร 134 นัด ยิงประตู 49 ประตู คว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ 1 สมัย ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 1 สมัย และยูฟ่า ยูโรปาลีก 1 สมัย
  • ยูเวนตุส (ค.ศ. 2014-2016): โมราตา ย้ายไปยูเวนตุสในปี ค.ศ. 2014
    ลงเล่นให้สโมสร 64 นัด ยิงประตู 23 ประตู คว้าแชมป์เซเรียอา 2 สมัย โกปปา อิตาลี 1 สมัย และซูเปอร์โกปปา อิตาเลียนา 1 สมัย
  • เรอัลมาดริด (ค.ศ. 2016-2019): โมราตา กลับมายังเรอัลมาดริดในปี ค.ศ. 2016
    ลงเล่นให้สโมสร 93 นัด ยิงประตู 23 ประตู คว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2 สมัย และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2 สมัย
  • แอตเลติโก มาดริด (ค.ศ. 2019-ปัจจุบัน): โมราตา ย้ายกลับมาแอตเลติโก มาดริดอีกครั้งในปี ค.ศ. 2019
    ลงเล่นให้สโมสร 132 นัด ยิงประตู 62 ประตู คว้าแชมป์ลาลีกา 1 สมัย

ทีมชาติสเปน

  • โมราตา ลงเล่นให้ทีมชาติสเปน 57 นัด ยิงประตู 23 ประตู
  • เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสเปนชุดคว้าแชมป์ยูโร 2020

สถิติ

  • ลีก: 423 นัด ยิงประตู 159 ประตู
  • ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 72 นัด ยิงประตู 15 ประตู

รางวัลส่วนตัว

  • รางวัลโกปิชิ: 1 สมัย (2020-21)
  • รางวัลซิลเวอร์ บูท ในยูโร 2020: 1 สมัย (2020)

โมราตา ได้รับการยกย่องว่าเป็นกองหน้าที่ครบเครื่อง เขามีทักษะการยิงประตูที่เฉียบคม เล่นลูกกลางอากาศได้ดี และมีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นกำลังสำคัญให้กับสโมสรและทีมชาติมาโดยตลอด และจะเป็นที่จดจำในฐานะกองหน้าชั้นนำของยุคสมัยนี้

ซีเนดีน ซีดาน: ตำนานมิดฟิลด์ผู้ยิ่งใหญ่

0

ซีเนดีน ซีดาน อดีตกองกลางชาวฝรั่งเศส เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเขา ด้วยพรสวรรค์ วิสัยทัศน์ และความเป็นผู้นำ เขาสร้างผลงานที่น่าประทับใจทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ

ชีวิตและช่วงวัยเยาว์

  • เกิดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 1972 ที่เมืองมาร์เซย์ ประเทศฝรั่งเศส
  • เริ่มต้นเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็ก โดยมีพ่อเป็นผู้จุดประกายความฝัน
  • ครอบครัวของเขาอพยพมาจากแอลจีเรีย ซีดานเติบโตขึ้นมาในย่านที่ยากจน
  • ด้วยความมุ่งมั่นและทักษะที่ยอดเยี่ยม ซีดานเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพในวัยเพียง 14 ปี

อาชีพนักฟุตบอล

  • คาน (ค.ศ. 1988-1992): ซีดาน เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับคาน สโมสรในบ้านเกิด
    ลงเล่นให้สโมสร 51 นัด ยิงประตู 8 ประตู
  • บอร์โด (ค.ศ. 1992-1993): ซีดาน ย้ายไปบอร์โดในปี ค.ศ. 1992
    ลงเล่นให้สโมสร 68 นัด ยิงประตู 32 ประตู
  • ยูเวนตุส (ค.ศ. 1993-1998): ซีดาน ย้ายไปยูเวนตุสในปี ค.ศ. 1993 กลายเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร
    ลงเล่นให้สโมสร 245 นัด ยิงประตู 114 ประตู คว้าแชมป์เซเรียอา 2 สมัย, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย, ยูฟ่าคัพ 1 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2 สมัย, อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 2 สมัย และซูเปอร์โกปปา อิตาเลียนา 1 สมัย
  • เรอัลมาดริด (ค.ศ. 1998-2006): ซีดาน ย้ายไปเรอัลมาดริดในปี ค.ศ. 1998 กลายเป็นนักเตะที่แพงที่สุดในโลกในขณะนั้น
    ลงเล่นให้สโมสร 372 นัด ยิงประตู 108 ประตู คว้าแชมป์ลาลีกา 1 สมัย, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2 สมัย และอินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ 1 สมัย

ทีมชาติฝรั่งเศส

  • ซีดาน ลงเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศส 108 นัด ยิงประตู 31 ประตู
  • เขาเป็นกัปตันทีมชาติฝรั่งเศสชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 1998 และแชมป์ยูโร 2000
  • ซีดาน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลฝรั่งเศส

ซีเนดีน ซีดาน ได้รับรางวัลส่วนตัวมากมายตลอดอาชีพนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จของเขา รางวัลที่สำคัญๆ มีดังนี้

รางวัลระดับนานาชาติ:

  • รางวัลบัลลงดอร์: 1 สมัย (1998)
  • รางวัลฟีฟ่า เวิลด์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์: 1 สมัย (1998)
  • รางวัล Onze d’Or: 1 สมัย (1998)
  • รางวัลยูฟ่า แพลตินัม เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์: 1 สมัย (2002)
  • รางวัลโกลเด้นฟุต: 1 สมัย (2003)
  • รางวัลยูฟ่า ยูโร 2000 ทีมยอดเยี่ยม: 1 สมัย (2000)
  • รางวัลฟุตบอลโลก 1998 ทีมยอดเยี่ยม: 1 สมัย (1998)
  • รางวัลดรีมทีมแห่งศตวรรษของยูฟ่า: 1 สมัย (2002)

รางวัลระดับสโมสร:

  • นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของเซเรียอา: 1 สมัย (1997)
  • กองกลางยอดเยี่ยมของเซเรียอา: 1 สมัย (1997)
  • ผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งปีของยูเวนตุส: 2 สมัย (1996, 1997)
  • รางวัลทรอเฟโอ ปิชิชี: 1 สมัย (2001)

รางวัลอื่นๆ:

  • รางวัลบราโว่: 1 สมัย (1996)
  • รางวัลมาร์โก สปอร์ต: 1 สมัย (1998)
  • รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมแห่งปีของยูเนสโก: 1 สมัย (1998)
  • รางวัลเลกิออน เดออเนอร์: 1 สมัย (2004)

ชีวิตหลังเลิกเล่น

  • ซีดาน เริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีมกับเรอัลมาดริดกัสติญา สโมสรสำรองของเรอัลมาดริด
  • ในปี ค.ศ. 2016 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมเรอัลมาดริดชุดใหญ่
  • ภายใต้การนำของเขา เรอัลมาดริดคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน ลาลีกา 1 สมัย และซูเปอร์โกปาเดเอสปัญญา 2 สมัย

ห้ามพลาด!