Home Blog Page 98

วิลล่าสะดุดเกมเยือน ! อิปสวิช 2-2 แอสตัน วิลล่า ส่องภาพรวมและสถิติหลังเกม

0

อิปสวิชทาวน์พลิกกลับมาจากการเสียประตูและเก็บแต้มในพรีเมียร์ลีกมาได้อีกหนึ่งแต้ม อิปสวิช ทาวน์ ขยายสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีกเป็น 4 เกมติดต่อกัน ด้วยการเสมอกับแอสตัน วิลล่า 2-2 ที่บ้าน

ภาพรวมแมตช์นี้

อิปสวิช ทาวน์ ยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีกต่อไปเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากเสมอกับแอสตัน วิลล่า 2-2 ในการแข่งขันที่บ้าน เลียม ดีแลป โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการทำสองประตูให้กับทีมเจ้าบ้าน ในขณะที่มอร์แกน โรเจอร์ส และโอลลี่ วัตกินส์ ทำคนละประตูให้กับทีมเยือน ดีแลปสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของอิปสวิชที่ทำสองประตูในเกมพรีเมียร์ลีก และเป็นคนแรกที่ทำได้นับตั้งแต่มาร์คัส เบนท์ในปี 2002

ผลการแข่งขันนี้ทำให้ทีมของ คีแรน แมคเคนนา เสมอกันเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติที่น่าประทับใจสำหรับทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา ครั้งสุดท้ายที่อิปสวิชเสมอกันมากกว่านี้ในพรีเมียร์ลีกต้องย้อนกลับไปถึงฤดูกาล 1992-93 ที่พวกเขาเสมอกัน 5 นัดติดต่อกัน ผลงานนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับตัวของทีมในการแข่งขันระดับสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ

สถิติหลังแมตช์

  • แอสตัน วิลล่า เก็บ 13 แต้มจาก 6 เกมแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1)
    • เป็นจำนวนแต้มสูงสุดในช่วงเริ่มฤดูกาลนับตั้งแต่ฤดูกาล 2008-09
  • โอลลี่ วัตกินส์ มีแอสซิสต์ 15 ครั้งนับตั้งแต่เริ่มฤดูกาลที่แล้ว เป็นอันดับ 2 ในลีกใหญ่ 5 ลีกของยุโรป
    • ทำแอสซิสต์ให้แอสตัน วิลล่าในพรีเมียร์ลีกรวม 28 ครั้ง เป็นอันดับ 4 ของสโมสร
    • ทำประตูและแอสซิสต์ในเกมเดียวกัน 8 นัด เทียบเท่าสถิติสูงสุดของสโมสร
  • เลียม ดีแล็ป เป็นผู้เล่นอิปสวิช ทาวน์คนแรกที่ยิงได้ 2 ประตูในนัดพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ปี 2002
    • เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของทีมที่ทำได้ (21 ปี 234 วัน)
  • โอมารี ฮัทชินสัน เป็นผู้เล่นอิปสวิช ทาวน์ที่อายุน้อยที่สุดที่ทำแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ปี 2001 (20 ปี 335 วัน)
  • แอสตัน วิลล่าเสมอในพรีเมียร์ลีกโดยทั้งสองทีมยิงได้ 2 ประตูขึ้นไป 5 ครั้ง นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว เป็นอันดับ 2 รองจากเชลซี (6 ครั้ง)

ไก่ตบผีคาบ้าน ! แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด0-3สเปอร์ส ภาพรวมและสถิติหลังเกม

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับผลงานที่น่าผิดหวังที่สุดครั้งหนึ่งภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในพรีเมียร์ลีก

ภาพรวมแมตช์นี้

ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 3-0 ในการแข่งขันที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยประตูของสเปอร์ส์มาจาก เบรนแนน จอห์นสัน, เดยัน คูลูเซฟสกี้ และโดมินิก โซลันเก้ ผลการแข่งขันนี้สะท้อนถึงฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งของทีมเยือน ซึ่งมีโอกาสทำประตูได้มากกว่านี้ตามสถิติการเสียประตูที่คาดไว้ของแมนฯ ยูไนเต็ดที่สูงถึง 4.67 ประตู

เกมนี้เริ่มต้นอย่างย่ำแย่สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อพวกเขาเสียประตูแรกอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 155 และสถานการณ์ยิ่งแย่ลงเมื่อกัปตันทีม บรูโน่ แฟร์นันเดส โดนใบแดงไล่ออกจากสนามเป็นครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้งกับสโมสร ท็อตแนมสามารถรักษาสถิติไม่แพ้แมนฯ ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดของพวกเขาในประวัติศาสตร์การแข่งขันกับทีมปีศาจแดง

สถิติหลังแมตช์

  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มี 7 คะแนนหลัง 6 เกมแรก ต่ำสุดร่วมในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกของสโมสร
  • ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ไม่แพ้แมนฯ ยูไนเต็ด 4 นัดติดในพรีเมียร์ลีก ยาวนานที่สุดตั้งแต่ปี 2012-2014
  • แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ในบ้านโดยไม่ยิงประตูได้ 2 นัดติด ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2021
  • แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูในนาทีต้นๆ ทั้งครึ่งแรกและครึ่งหลัง ครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
  • บรูโน่ แฟร์นันเดส โดนใบแดงครั้งแรกในอาชีพกับแมนฯ ยูไนเต็ด
  • เบรนแนน จอห์นสัน ยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 2 นัดติดเป็นครั้งแรก
  • จอห์นสันยิงประตูเร็วที่สุดให้ท็อตแนมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดตั้งแต่ปี 2012
  • โซลันเก้ยิงประตูใส่แมนฯ ยูไนเต็ด 3 นัดติด เป็นนักเตะอังกฤษคนที่ 3 ที่ทำได้
  • คูลูเซฟสกี้สร้างโอกาส 9 ครั้ง สถิติสูงสุดของผู้เล่นทีมเยือนที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

บอร์นมัธ VS เซาแธมป์ตัน ในเกมพรีเมียร์ลีกวันจันทร์นี้

0

การแข่งขันพรีเมียร์ลีกในคืนวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 นี้ บอร์นมัธ จะเปิดสนาม Vitality Stadium ต้อนรับการมาเยือนของ เซาแธมป์ตัน ในศึกที่หลายคนจับตามอง เนื่องจากทั้งสองทีมต่างต้องการแต้มเพื่อพลิกสถานการณ์จากฟอร์มที่ยังไม่น่าประทับใจในฤดูกาลนี้

สภาพทีมบอร์นมัธ

บอร์นมัธ ภายใต้การคุมทีมของ อันโดนี อิราโอล่า กำลังมองหาทางกลับมาคว้าชัยหลังจากพ่ายแพ้ให้กับลิเวอร์พูล 3-0 ในเกมล่าสุด (21 ก.ย. 2567) แม้จะเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างไม่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขายังเก็บได้ 5 คะแนนจาก 5 นัดแรก (1 ชนะ, 2 เสมอ, 2 แพ้) ซึ่งแน่นอนว่าการเล่นในบ้านครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความมั่นใจและความได้เปรียบ
สำหรับความพร้อมของทีม บอร์นมัธจะไม่มี ไทเลอร์ อดัมส์ ที่ยังคงบาดเจ็บยาวตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต่ผู้เล่นหลักคนอื่นยังคงพร้อมลงสนามอย่างครบถ้วน เช่น ไรอัน คริสตี้, จัสติน ไคลเวิร์ต และมาร์คัส ทาเวอร์เนียร์​

สภาพทีมเซาแธมป์ตัน

สำหรับ เซาแธมป์ตัน การกลับมาในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ถือว่าท้าทายอย่างมาก พวกเขายังไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลยจาก 5 นัดแรก (1 เสมอ, 4 แพ้) และประสบปัญหาเกมรุกที่ยังขาดประสิทธิภาพ โดยทำได้เพียง 2 ประตู และเสียถึง 9 ประตู อย่างไรก็ตาม เกมล่าสุดของเซาแธมป์ตันจบลงด้วยการเสมอกับอิปสวิช 1-1 ซึ่งอาจสร้างความหวังเล็กๆ ในการพลิกฟื้นฟอร์มการเล่น
แม้ว่าจะขาดผู้รักษาประตูตัวหลักอย่าง กาวิน บาโซนู ที่ยังบาดเจ็บ แต่กองหน้าคนสำคัญอย่าง คาเมรอน อาร์เชอร์ และอดัม ลัลลานา พร้อมลงช่วยทีมในเกมนี้

คาดการณ์ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

บอร์นมัธ (4-3-3):

  • ผู้รักษาประตู: เกปา อาร์ริซาบาลากา
  • กองหลัง: มิลอส เคร์เกซ, ดีน ฮุยจ์เซ่น, อิลเลีย ซาบาร์นี, ฮูเลียน อาราอูโฮ
  • กองกลาง: ไรอัน คริสตี้, จัสติน ไคลเวิร์ต, ลูอิส คุก
  • กองหน้า: มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์, อีวานิลสัน, อ็องตวน เซเมนโย​

เซาแธมป์ตัน (4-2-3-1):

  • ผู้รักษาประตู: อารอน แรมส์เดล
  • กองหลัง: ยูคินาริ ซูกาวาระ, เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส, แจน เบดนาเร็ก, ชาร์ลี เทย์เลอร์
  • กองกลางตัวรับ: ฟลินน์ ดาวเนส, มาเตอุส เฟร์นานเดส
  • กองกลางตัวรุก: ไทเลอร์ ดิบลิง, อดัม ลัลลานา, ไรอัน เฟรเซอร์
  • กองหน้า: คาเมรอน อาร์เชอร์​
วิเคราะห์เกม

ด้วยสภาพทีมของทั้งสองฝั่ง บอร์นมัธที่มีฟอร์มการเล่นดีกว่าเล็กน้อย และการได้เล่นในบ้านทำให้พวกเขามีโอกาสสูงในการเก็บชัยชนะ แต่เซาแธมป์ตันก็อาจสร้างความกดดันได้ โดยเฉพาะหากพวกเขาสามารถปรับปรุงเกมรุกและแก้ปัญหาด้านการป้องกันได้ ทั้งสองทีมมีจุดอ่อนด้านการป้องกัน

การคาดการณ์สกอร์

บอร์นมัธ 2-1 เซาแธมป์ตัน

การแข่งขันระหว่าง โฮฟเฟนไฮม์ กับ แวร์เดอร์เบรเมน ในศึกบุนเดสลิก้าวันที่ 29 กันยายน 2024

0

วิเคราะห์ก่อนเกม :

การแข่งขันระหว่าง โฮฟเฟนไฮม์ กับ แวร์เดอร์เบรเมน ในวันที่ 29 กันยายน 2024 ถือเป็นเกมสำคัญสำหรับทั้งสองทีมที่กำลังมองหาการเก็บสามแต้มเต็มเพื่อลดความกดดันในฤดูกาลนี้

โฮฟเฟนไฮม์ กำลังอยู่ในฟอร์มที่ไม่ดีนัก หลังจากแพ้มา 3 นัดติดต่อกันในลีก ทำให้พวกเขาตกไปอยู่ในโซนท้ายตาราง โดยในเกมล่าสุดพ่ายให้กับ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน 2-1 และมีปัญหาในแนวรับอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาเสียไปถึง 11 ประตูในฤดูกาลนี้ แม้ว่าการเล่นในบ้านจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบ แต่พวกเขายังต้องปรับปรุงเกมรับอย่างเร่งด่วน ปัญหาสำคัญที่ Hoffenheim ต้องเผชิญคืออาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลักอย่าง อังเดร คามาริค ที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะฟื้นตัวทันสำหรับเกมนี้หรือไม่ อีกทั้งยังมีผู้เล่นอีกหลายคนที่อาจจะไม่พร้อมลงสนาม ทำให้เกมรุกต้องพึ่งพาผู้เล่นสำรองและการจัดแผนที่ยืดหยุ่น​

แวร์เดอร์เบรเมน เพิ่งโดนบาเยิร์น มิวนิคถล่มไปถึง 5-0 ในเกมล่าสุด ทำให้พวกเขาต้องเร่งฟื้นฟูสภาพจิตใจและผลงานในเกมนี้ แม้ว่าพวกเขาจะทำประตูได้น้อยในฤดูกาลนี้ (เพียง 4 ประตู) แต่เกมรับของ Hoffenheim ที่มีปัญหาอาจเป็นโอกาสที่ดีให้ เบรเมน ทำประตูได้มากขึ้นในเกมนี้

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

โฮฟเฟนไฮม์ (ระบบ 3-4-2-1):

  • ผู้รักษาประตู: โอลิเวอร์ บัวมัน
  • กองหลัง: เควิน แอคโปกูบา, ฟอเรียน กิลลิช, สเตนลีย์ โนกี้
  • กองกลาง: วาเรนติน เก็นดรี้, อัมมัต โทฮุมคู , ทอม บิสช็อฟ, มาเรี่ยส บัลเลอร์
  • ตัวรุก: เจคอป ลาร์เซ่น ,อดัมโฮเช็ค
  • กองหน้า: ฮาริส ทาบาโควิช

แวร์เดอร์ เบรเมน (ระบบ 3-4-2-1):

  • ผู้รักษาประตู: มิเชล เซทเทเรอร์
  • กองหลัง: อมอส ปิเปอร์, นิคลาส สตาร์ค, แอนโนนี่ จุง
  • กองกลาง: มิเชล เวสเรอร์, เยนส์ สเตจ , ซีน ไรเนน, ฟิลิก อกู
  • ตัวรุก: โรมาโน่ ชมิท , มาโค่ กรึล
  • กองหน้า: มาวิน ดักช์

การคาดการณ์ผล :

โฮฟเฟนไฮม์ชนะ 2-1

โฮลสไตน์ คีล เปิดบ้านพบ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟริต

0

วิเคราะห์ก่อนเกม

การแข่งขันวันที่ 29 กันยายน 2567 ระหว่าง โฮลสไตน์ คีล กับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟริต ในศึกบุนเดสลีกาที่จะถึงนี้เป็นความท้าทายสำคัญสำหรับทีมเจ้าบ้าน ฮลสไตน์ คีล ซึ่งขณะนี้อยู่ในอันดับสุดท้ายของตาราง โดยสะสมได้เพียง 1 คะแนนจาก 4 เกมแรกของฤดูกาล ในขณะที่ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟริตt อยู่ในฟอร์มที่แข็งแกร่ง โดยอยู่ในกลุ่มท็อปซิกซ์ของลีกหลังจากชนะ 3 นัดติดต่อกัน

ฟอร์มล่าสุดของ Holstein Kiel น่าเป็นห่วง พวกเขาแพ้ถึง 3 จาก 4 นัดหลังสุด แผงหลังมีปัญหาในการป้องกัน โดยเสียประตูเฉลี่ย 1.8 ลูกต่อเกม แม้จะมีศักยภาพในการโจมตีจากผู้เล่นอย่าง Benedikt Pichler และ Alexander Bernhardsson แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการกับแนวรุกของคู่แข่งได้ดีพอ

ในทางตรงกันข้าม Eintracht Frankfurt กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีภายใต้การคุมทีมของ Dino Toppmöller โดยล่าสุดพวกเขาเอาชนะ Borussia Mönchengladbach ไป 2-0 ผู้เล่นสำคัญอย่าง Omar Marmoush ซึ่งทำไปแล้ว 6 ประตูในฤดูกาลนี้ รวมถึง Hugo Ekitike ที่คาดว่าจะได้ลงเล่น เป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จของทีม อย่างไรก็ตาม ความเหนื่อยล้าจากการแข่งขันในยุโรปอาจมีผลต่อฟอร์มการเล่นของ Frankfurt

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

Holstein Kiel (ระบบ 3-5-2):

  • ผู้รักษาประตู: ทิมอน ไวเนอร์
  • กองหลัง: ทิโม แบ็คเกอร์,คาร์ล โยฮันส์สัน , แพทริค เออร์ราส
  • กองกลาง: ฟินน์ โพราธ , อาร์มิน กิโกวิช , แม็กนัส คนุดเซน , ลูวิส โฮลท์บี้ , ทิโมเทอุส ปูชาช
  • กองหน้า: เบเนดิกท์ พิชเลอร์ , ชูโตะ มาชิโนะ หรือ อันดู เคลาติ

Eintracht Frankfurt (ระบบ 4-2-2-2):

  • ผู้รักษาประตู: คาวา ซานโตส
  • กองหลัง: ราสมุส คริสเตนเซน , ทูต้า , โรบิน คอช , อาเธอร์ เทียเต้
  • กองกลาง: เอลเยส สคิรี , ฮูโก้ ลาร์สสัน , ฟาเรส ชาอิบิ , อันส์การ์ คนอฟ
  • กองหน้า: โอมาร์ มาร์มูช , ฮูโก้ เอกิติเก้

คาดการณ์ผลการแข่งขัน:

ผลการแข่งขันที่คาดการณ์มีแนวโน้มจะเป็นชัยชนะของทีมเยือน Frankfurt ด้วยสกอร์ 2-0 หรือ 3-1 เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่เหนือกว่าและตัวเลือกในการโจมตีที่มีศักยภาพมากกว่า แม้ว่า Holstein Kiel จะเป็นทีมรอง แต่ก็อาจมีโอกาสสร้างความลำบากให้คู่แข่งได้ โดยเฉพาะหาก Frankfurt มีสัญญาณของความเหนื่อยล้าจากตารางการแข่งขันที่หนักหน่วง

น็องต์พร้อมบดขยี้แซงต์ เอเตียนที่กำลังย่ำแย่ ศึกลีกเอิง วีคที่ 6

0

วิเคราะห์ก่อนเกม: น็องต์ พบ แซงต์ เอเตียน (ลีกเอิง)

การแข่งขันวันที่ 29 กันยายน 2567 ระหว่าง น็องต์ กับ แซงต์ เอเตียน ที่สนาม สต๊าด เดอ ลา โบฌัวร์ น็องต์ ซึ่งเริ่มต้นฤดูกาลได้ดีด้วยอันดับที่ 7 ในลีก จะต้องรับมือกับแซงต์ เอเตียนที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา แต่กำลังอยู่ในฟอร์มย่ำแย่ โดยเพิ่งแพ้ให้กับนีซ 8-0 ในเกมล่าสุด

น็องต์ ภายใต้การคุมทีมของ อองตวน กอมบูอาเร่ แม้จะมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคน เช่น ฟาเบียน เซนตอนเซ่ และ ฟลอร็องต์ มอลเลต์ แต่ยังมีแนวรุกที่แข็งแกร่งอย่าง โมเสส ซิมง และ อาบลีน ที่พร้อมจะทำประตูเกมนี้ น็องต์มีสถิติทำประตูได้ก่อนใน 10 จาก 11 นัดหลังสุด น่าจะเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบ

ส่วน แซงต์ เอเตียน ภายใต้การนำของ โอลิวิเยร์ ดาลโลกลิโอ ยังคงมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคน และฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ แพ้ถึง 6 จาก 7 นัดล่าสุด และเสียประตูถึง 15 ประตูใน 5 นัดแรกของฤดูกาลนี้

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

น็องต์ (4-2-3-1):

  • GK: อัลบ็อง ลาฟงต์
  • RB: ฟาเบียน เซนตอนเซ่
  • CB: ฌ็อง-ชาร์ลส์ กาสเตลเล็ตโต้
  • CB: นิโกลาส์ ปัลลัวส์
  • LB: ฌ็อง-เควิน ดูเวิร์น
  • CM: เปโดร ชิริเวลล่า
  • CM: ดักลาส ออกุสโต้
  • RW: คาดิวเอเร่
  • CAM: เลเปอน็อง
  • LW: โมเสส ซิมง
  • ST: อาบลีน

แซงต์ เอเตียน (4-3-3):

  • GK: กอติเยร์ ลาร์ซอนเนอร์
  • RB: เดนิส อัปเปียห์
  • CB: เอ็มมานูเอล บาตูบินซิกา
  • CB: ยูนุส อับเดลฮามิด
  • LB: ปิแอร์ คอร์นุด
  • CM: ลูคัส มูเฟ็ค
  • CM: ปิแอร์ เอควาห์
  • CM: คริส อามูกู
  • RW: ดาวิทาชวิลี่
  • LW: คาเฟโร
  • ST: สตาสซิน

คาดการณ์ผลการแข่งขัน:

น็องต์ 3-1 แซงต์ เอเตียน

แร็งส์เยือนอองเช่ร์! เกมสำคัญสำหรับการหนีตกชั้นและชิงพื้นที่ยุโรปในลีกเอิง วีคที่ 6

0

วิเคราะห์ก่อนเกม: อองเช่ร์ พบ แร็งส์ (ลีกเอิง)

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2567, อองเช่ร์เตรียมเปิดบ้านต้อนรับแร็งส์ที่สนาม สต๊าด เรย์มงด์ โกปา ในการแข่งขันลีกเอิง ซึ่งเป็นแมตช์สำคัญสำหรับทั้งสองทีมในฤดูกาลนี้ โดยอองเช่ร์ที่ยังไม่สามารถเก็บชัยชนะในฤดูกาลนี้ได้ กำลังดิ้นรนอยู่ในโซนตกชั้น ขณะที่แร็งส์ที่อยู่ในอันดับที่ 6 มีโอกาสทำคะแนนเพิ่มเพื่อลุ้นตั๋วยุโรป

อองเช่ร์: ฟอร์มการเล่นไม่สู้ดีนัก โดยพวกเขาเก็บได้เพียง 2 แต้มจาก 5 นัดแรก ทำประตูได้เฉลี่ยเพียง 0.67 ประตูต่อนัดและเสียประตูถึง 1.83 ลูก อย่างไรก็ตาม การเสมอสองนัดหลังสุดกับ น็องต์ และ สตราส์บูร์ก ช่วยสร้างความมั่นใจให้พวกเขาเล็กน้อยก่อนเกมนี้

แร็งส์: ทีมเยือนทำผลงานได้ดีกว่า โดยไม่แพ้ใน 4 นัดหลังสุด รวมถึงการเสมอกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีม แต่พวกเขายังมีปัญหาในเกมรับที่เสียประตูในครึ่งหลังอยู่บ่อยครั้ง

คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริง:

อองเช่ร์ (4-2-3-1):

  • GK: ยาเฮีย โฟฟาน่า
  • RB: คาร์เลนส์ อาร์คุส
  • CB: เอ็มมานูเอล บิอูมล่า
  • CB: จอร์แดน เลฟอร์ต
  • LB: ฟลอร็องต์ ฮานิน
  • CM: ฌอง อาโฮลู
  • CM: ฮาริส เบลเกบลา
  • RW: จิม อัลเลวินาห์
  • CAM: ฮิมัด อับเดลลี
  • LW: ฟาริด เอล เมลาลี
  • ST: อาหมัด บัมบา เดียง

แร็งส์ (4-3-3):

  • GK: เยฮวาน ดิอูฟ
  • RB: ออเรลิโอ บูตา
  • CB: เซดริก คิเปร
  • CB: เอ็มมานูเอล อักบาดู
  • LB: เซร์จิโอ อากีเม
  • CM: ยาย่า โฟฟานา
  • CM: มาร์แชลล์ มูเนตซี
  • CM: วาเลนติน อาตานกานา
  • RW: จุนยะ อิโตะ
  • LW: เคอิโตะ นากามูระ
  • ST: อูมาร์ เดียกิเต้

การคาดการณ์ผลการแข่งขัน:

แร็งส์จะเฉือนชนะไปด้วยสกอร์ 2-1

ลียง เตรียมทัพบุกไปสตาดิโอ เดอ ตูลูส พบกับตูลูส วิเคราะห์ก่อนเกม ลีกเอิง วีคที่ 6

0

ตูลูสตั้งเป้าที่จะกลับมาฟื้นตัวหลังจากพ่ายแพ้ไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วโดยจะเปิดบ้านต้อนรับลียง ผู้ท้าชิงยูโรปาลีก ที่สตาดิโอ เดอ ตูลูส ในวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2567 เวลา 20.00 น. สำหรับเกมลีกเอิงที่น่าติดตาม ตูลูสพ่ายแพ้ในการเดินทางเยือนลีกสูงสุดเมื่อครั้งก่อน ขณะที่ลียงมีภารกิจสำคัญในการเกมระดับทวีปในสัปดาห์นี้

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

ตูลูส สร้างความประทับใจในฤดูกาล 2023-24 ด้วยการจบอันดับที่ 11 ในลีกเอิง ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 ทำให้หลายฝ่ายคาดหวังว่าทีมจะสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับบนของลีกได้ในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาเผชิญกับการเริ่มต้นฤดูกาลที่ยากลำบาก โดยต้องรอจนถึงกลางเดือนกันยายนเพื่อคว้าชัยชนะนัดแรก แม้จะเอาชนะเลอ อาฟร์ได้ 2-0 แต่ก็ไม่สามารถรักษาฟอร์มต่อเนื่อง โดยพ่ายแพ้ให้กับเบรสต์ในนัดถัดมา

ปัญหาสำคัญของตูลูสคือการทำประตู โดยยิงได้เพียง 4 ประตูจาก 5 นัดแรกในลีกเอิง ซึ่งเป็นอันดับรองสุดท้ายของลีก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสูญเสีย ทิจส์ ดัลลากา ดาวยิงคนสำคัญไปให้กับโบโลญญ่าในช่วงซัมเมอร์ อย่างไรก็ตาม สโมสรยังคงให้ความไว้วางใจ คาร์เลส มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมวัย 40 ปี โดยต่อสัญญาเขาออกไป หลังจากที่เขาพาทีมผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ของยูโรปาลีกในฤดูกาลที่แล้ว

ลียงเริ่มต้นการแข่งขันยูโรปาลีกด้วยชัยชนะ 2-0 เหนือโอลิมเปียกอส ที่สนามกรูปามา โดยได้ประตูจาก รายาน เชอร์กี้ และ ซาอิด เบนราห์มา ในครึ่งหลัง ชัยชนะนี้เป็นสิ่งที่ทีมต้องการอย่างมาก หลังจากที่พวกเขาประสบปัญหาในการเริ่มต้นฤดูกาลลีกเอิง โดยชนะเพียง 1 นัดและแพ้ 3 นัดจาก 5 นัดแรก ส่งผลให้ผู้จัดการทีม ปิแอร์ ซาจ เริ่มได้รับแรงกดดัน

แม้จะมีกองหน้าคุณภาพอย่าง จอร์จส์ มิคาอูทัดเซ, อเล็กซองดร์ ลาคาเซ็ตต์ และ กิฟต์ ออร์บาน แต่ลียงทำประตูได้เพียง 6 ลูกจาก 5 เกมในลีก อย่างไรก็ตาม พวกเขามีสถิติที่ยอดเยี่ยมเมื่อเจอกับตูลูส โดยไม่แพ้มา 16 นัดติดต่อกันในทุกรายการ โดยชัยชนะครั้งล่าสุดของตูลูสเหนือลียงต้องย้อนกลับไปถึงเดือนสิงหาคม 2014 ซึ่งวิสซาม เบน เยดเดอร์ เป็นผู้ทำประตูชัย

ข่าวทีมล่าสุด

ตูลูสกำลังพิจารณาปรับเปลี่ยนทีมหลังจากพ่ายแพ้ต่อเบรสต์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย ซาคาเรีย อาบูคลาล อาจหลุดจากทีมชุดแรกหลังจากพลาดจุดโทษ ทำให้ โจชัว คิง และ แฟรงค์ แม็กกริ มีโอกาสได้ลงสนาม แม้ว่าทั้งคู่ยังไม่สามารถทำประตูได้จากการลงเล่นรวม 7 นัดในฤดูกาลนี้ การปรับเปลี่ยนนี้อาจเป็นความพยายามของทีมในการกระตุ้นประสิทธิภาพการทำประตู

ลียง ทีมยังคงขาด มูสซ่า เนียคาเต้ กองหลังที่บาดเจ็บ แต่ได้ เออร์เนสต์ นัวมาห์ กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ โดยเขาทำผลงานได้ดีในเกมยูโรปาลีก นอกจากนี้ ทีมอาจยังคงใช้ โคเรนติน โตลิสโซ และ รายาน เชอร์กี้ สนับสนุน เนมันย่า มาติช ในแดนกลาง แม้ว่า ซาอิด เบนราห์มา จะไม่พอใจกับเวลาการลงสนามของเขาในฤดูกาลนี้ก็ตาม

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

  • ตูลูส
    เรสเทส, ซิดิเบ, นิโคไลเซน, เครสเวลล์, ซัวโซ, อัคดัก, เซียร์โร, ไซช์, กโบโฮ, บาบิกกา, คิง
  • ลียง
    เปร์รี, เมตแลนด์-ไนล์ส, มาต้า, กาเลตา-คาร์, ทาเกลียฟิโก, โตลิสโซ, มาติช, เชอร์กี, โฟฟานา, นูอามาห์, ลากาแซ็ตต์

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

ตูลูสพยายามอย่างหนักเพื่อเอาชนะคู่แข่งให้ได้เหมือนฤดูกาลที่แล้ว โดยชนะได้เพียงนัดเดียวจาก 5 นัดแรก และเราคาดว่าสถานการณ์จะเข้มข้นขึ้นในวันอาทิตย์นี้ ลียงกำลังได้ตัวผู้เล่นแนวรุกตัวหลักหลายคนกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง และน่าจะมั่นใจได้ว่าจะเก็บชัยชนะติดต่อกันได้จนจบสัปดาห์

ตูลูส 1-2 ลียง

ศึกลีกเอิง วีคที่ 6 มาร์กเซย บุกไปเยือน สตราสบูร์กที่สต๊าด เดอ ลา ไมโน

0

มาร์กเซยตั้งเป้าที่จะรักษาจังหวะเดียวกับทีมชั้นนำอื่นๆ ในลีกเอิงเมื่อพวกเขาเดินทางไปที่สต๊าด เดอ ลา ไมโนในวันที่ 30 กันยายน 2567 เวลา 01.45 น. พื่อพบกับสตราสบูร์ก ก่อนจะเข้าสู่สุดสัปดาห์นี้ มาร์กเซย ขึ้นเป็นผู้นำร่วมในตารางคะแนน หลังจากเอาชนะลียงไปได้อย่างสุดดราม่า 3-2 ขณะที่ทีมจากอาลซัสรั้งอันดับที่ 10 โดยเสมอกับลีลล์ 3-3 ในเกมล่าสุด

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

ในฤดูกาลแรกที่ เลียม โรซีเนียร์ คุมทีมสตราสบูร์ก เขาใช้แนวทางการเล่นที่เน้นการโจมตีและก้าวร้าวมากขึ้น ซึ่งส่งผลลบต่อผลงานของทีม โดยใน 5 เกมลีกที่ลงเล่น มีการยิงประตูถึง 4 ลูกหรือมากกว่าในทุกเกม แต่สตราสบูร์กสามารถคว้าชัยชนะได้เพียงเกมเดียว (ชนะแรนส์ 3-1) แม้จะมีผลงานดีในบ้านฤดูกาลก่อน โดยไม่แพ้ในเกมที่สเตด เดอ ลา ไมโนนับตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ฤดูกาลนี้พวกเขายังไม่สามารถรักษาผลงานสม่ำเสมอได้

หลังผ่านไป 5 นัด โรซีเนียร์เก็บได้เพียง 6 คะแนน ซึ่งน้อยกว่าผลงานของ ปาทริค วิเอร่า ผู้จัดการทีมคนก่อนหนึ่งแต้ม แม้ว่าสตราสบูร์กจะทำประตูได้ก่อนในหลายเกม แต่พวกเขาก็เสียไปถึง 7 แต้มจากการขึ้นนำ หากพวกเขาชนะในเกมวันอาทิตย์นี้ จะถือเป็นชัยชนะนัดที่ 1,000 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร และเป็นครั้งแรกที่เก็บได้เกิน 7 แต้มจาก 6 นัดแรกในลีกเอิง นับตั้งแต่กลับมาเล่นในลีกสูงสุดในฤดูกาล 2017-18

โรแบร์โต เด แซร์บีประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมมาร์กเซย โดยทีมยังไม่แพ้ใครในลีกและร่วมเป็นจ่าฝูงกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง และโมนาโก ด้วย 13 คะแนน ทีมทำสถิติยิงประตูได้มากที่สุด 15 ลูกหลังลงเล่น 5 นัดในลีกเอิง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของสโมสรนับตั้งแต่ฤดูกาล 1954-55 นอกจากนี้ทีมยังมีฟอร์มการเล่นนอกบ้านที่แข็งแกร่ง โดยชนะ 3 นัดรวดนอกสนาม สต๊าด เวโลดรอม เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

มาร์กเซย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในครึ่งหลังของเกม โดยทำ 4 คะแนนจากสถานการณ์ที่เสียเปรียบและยิง 4 จาก 5 ประตูหลังสุดในช่วง 45 นาทีสุดท้าย ทีมเสียประตูเพียงครั้งเดียวในครึ่งแรกตลอดฤดูกาลนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในนัดเปิดฤดูกาลกับเบรสต์ นอกจากนี้ มาร์กเซยยังไม่แพ้สตราส์บูร์กมา 17 เกมติดต่อกันในลีก แม้ว่าชัยชนะครั้งล่าสุดที่สนามของสตราส์บูร์กจะเกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2021

ข่าวทีมล่าสุด

สตราส์บูร์กเผชิญกับปัญหาการขาดตัวผู้เล่นสำคัญหลายรายในเกมเสมอกับลีลล์ เนื่องจากการบาดเจ็บและอาการป่วย รวมถึงโยนี โกมิส, มอยเซ่ ซาฮี, โทมัส เดอเลน, คาเลบ ไวลีย์, มิโลส ลูโควิช และอาลา เบลลารูช อย่างไรก็ตาม ทีมแสดงความแข็งแกร่งโดยกลับมาทำสามประตูจากอังเดรย์ ซานโตส, เอ็มมานูเอล เอเมกา และเซบาสเตียน นานาซี แม้จะเสียจุดโทษช่วงท้ายเกมให้กับโจนาธาน เดวิด กองหน้าของลีลล์

ในขณะเดียวกัน มาร์กเซยก็ประสบปัญหาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลายราย รวมถึงบิลัล นาดีร์, รูเบน บลังโก, ฟาริส มูมบาญญา และเควนติน เมอร์ลิน นอกจากนี้ กัปตันทีมเลโอนาร์โด บาเลอร์ดีจะถูกแบนในเกมถัดไป อย่างไรก็ตาม ทีมยังคงแสดงฟอร์มที่แข็งแกร่งโดยเอาชนะโอลิมปิก ลียงได้ด้วยประตูจาก โปล ลิโรล่า, อูลิสเซส การ์เซีย และ โจนาธาน โรว์ พร้อมกับการเสริมทัพด้วยผู้เล่นใหม่อย่าง อาเดรียง ราบิโอต์ ที่น่าจะพร้อมลงสนามในเกมวันอาทิตย์นี้

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

  • สตราสบูร์ก
    เปโตรวิช, เกอเลอา ดูเอ้, โซว, ซิลลา, โมเรร่า, ดูคูเร,บัควา, ดิยาร์รา, ซานโตส, นานาซี, เอเมกา
  • มาร์กเซย
    รูลลี่, มูริลโล, คอร์เนลิอุส, คอนด็อกเบีย, การ์เซีย, ฮอยเบิร์ก, โคเน่, กรีนวูด, ฮาริต, เฮนริเก้, วาฮี

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

สองทีมที่มีเกมรุกที่แข็งแกร่งนี้มีแนวรุกที่แข็งแกร่ง แต่ทีมมาร์กเซยก็สามารถหาชับชนะได้เมื่อจำเป็น ซึ่งเป็นเหตุว่าทำไมเราจึงให้พวกเขาได้เปรียบในการเผชิญหน้าครั้งนี้

สตราส์บูร์ก 1-3 มาร์กเซย

นาโปลี เปิดสนามสตาดิโอ มาราโดน่าต้อนรับการมาเยือน มอนซ่า กัลโช่ เซเรีย อา วีคที่ 6

0

นาโปลีและมอนซ่าซึ่งเป็นผู้ชนะการแข่งขันฟุตบอลถ้วยทั้งสองรายการเมื่อต้นสัปดาห์นี้จะพยายามคว้าคะแนนสูงสุดเมื่อพบกันที่สตาดิโอ มาราโดน่า ในเกมนัดเปิดสนามเซเรียอาในคืนวันที่ 30 กันยายน 2567 เวลา 01.45 น. เจ้าบ้านยังไม่แพ้ใครมาตั้งแต่นัดเปิดสนาม โดยยิงได้ 9 ประตูโดยไม่เสียประตูเลยใน 3 นัดหลังสุด ในขณะเดียวกัน มอนซ่ายังคงมองหาชัยชนะนัดแรกในลีกต่อไป

ภาพรวมทีมและผลงานนัดที่ผ่านมา

หลังจากเสมอกับยูเวนตุส 0-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นาโปลีก็เก็บได้ 10 คะแนนจาก 5 เกมแรกในลีกภายใต้การคุมทีมของอันโตนิโอ คอนเต้ ซึ่งทำให้พวกเขาตามหลังจ่าฝูงอย่างโตรีโนเพียงแค่แต้มเดียว คอนเต้ได้เรียกร้องให้โรเมลู ลูกากู และ ควิชา ควารัตสเคเลีย นำแนวรุกของนาโปลีในฤดูกาลนี้ โดยเป้าหมายหลักคือการพาทีมกลับไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง หลังจากฤดูกาลที่แล้วพลาดโอกาสในการแข่งขันยุโรป

นาโปลียังมีความหวังในการคว้าแชมป์บอลถ้วย หลังจากเอาชนะปาแลร์โม่ 5-0 ในศึกโคปปา อิตาเลีย โดย ซิริล เอ็นกองเก้ ทำสองประตู ส่วนผู้เล่นใหม่อย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เดวิด เนเรส ก็โชว์ฟอร์มได้ดี นาโปลีชนะเกมเหย้า 4 นัดแรกภายใต้คอนเต้และเตรียมพบกับลาซิโอในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของโคปปา อิตาเลีย พวกเขายังมีสถิติที่ดีในการเจอกับมอนซ่า โดยเอาชนะได้ 2 จาก 4 เกมลีกล่าสุด ยิงได้ 4 ประตูในทั้งสองนัด

ในการพบกันครั้งล่าสุด นาโปลีเอาชนะมอนซ่า 4-2 โดยทำได้ถึง 4 ประตูในครึ่งหลัง นับตั้งแต่นั้น มอนซ่ายังไม่สามารถเก็บชัยชนะในเซเรียอาได้เลย พวกเขากำลังอยู่ในช่วงฟอร์มตก โดยไม่ชนะใครเลยใน 14 เกมลีกหลังสุด ล่าสุดพ่ายโบโลญญา 1-0 แม้ว่า มิลาน ดยูริช จะยิงประตูตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม แต่ก็มาเสียประตูจนต้องจมอยู่ในอันดับสองบ๊วยของตาราง มีเพียง 3 คะแนนเท่านั้น

ขณะที่ทีมของ อเลสซานโดร เนสต้า กำลังดิ้นรนในลีก พวกเขาได้รับความโล่งใจเล็กน้อยจากชัยชนะในโคปปา อิตาเลีย 3-1 เหนือเบรสชา ซึ่งช่วยให้พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ผู้เล่นอย่าง จอร์จอส คีเรียโคปูลอส, จานลูก้า คาปรารี และ มัตเตโอ เปสซิน่า ต่างทำประตูในเกมนี้ นับเป็นความสำเร็จที่หายาก เนื่องจากมอนซ่าทำประตูได้เพียง 4 ลูกในลีกฤดูกาลนี้ ทีมหวังพลิกสถานการณ์ในเซเรียอา โดยเริ่มต้นจากการคว้าชัยนอกบ้านเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้

ข่าวทีมล่าสุด

หลังจากที่ อันโตนิโอ คอนเต้ โรเตชั่นในเกมโคปปา อิตาเลียเมื่อวันพฤหัสบดี โดยให้ บิลลี่ กิลมอร์ ลงประเดิมสนาม นาโปลีจะกลับมาใช้ผู้เล่นชุดหลักในเกมวันอาทิตย์นี้ อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์ เมเรต ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บที่ต้นขา ทำให้ เอเลีย คาปรีล ต้องลงเฝ้าเสาแทนต่อไป นอกจากนี้ อเลสซานโดร บูโอนิจอร์โน่ กองหลังตัวเก่งของทีมก็สร้างสถิติเล่นแนวรับในเซเรียอามา 1,333 นาทีโดยไม่ถูกเลี้ยงผ่านเลย ควิชา ควารัตสเคเลีย และ โรเมลู ลูกากู ก็จะกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังจากลงสนามในฐานะตัวสำรองในเกมล่าสุด

มอนซ่า หวังว่าฟอร์มการทำประตูในโคปปา อิตาเลียจะช่วยกระตุ้น จานลูก้า คาปรารี ซึ่งกำลังตามหาประตูที่ 50 ในเซเรียอา หลังจากไม่สามารถทำประตูได้ใน 15 นัดลีกหลังสุด เขาน่าจะจับคู่กับ ดาเนียล มัลดินี เพื่อสนับสนุน มิลาน ดยูริช ในแนวรุก ส่วน ดานี่ โมต้า อาจพลาดลงสนามเนื่องจากปัญหากล้ามเนื้อ ทีมของ อเลสซานโดร เนสต้า ยังขาดผู้เล่นหลายคนที่บาดเจ็บ รวมถึง ซามูเอเล บิรินเดลลี, ปาทริค ซิเออร์เรีย, และ โรแบร์โต้ กายยาร์ดินี่ ขณะที่ สเตฟาโน เซนซี ยังต้องรอทดสอบความฟิต

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

  • นาโปลี
    เอเลีย คาปริเล่; ดิ ลอเรนโซ, ราห์มานี่, บูออนจิออร์โน่, โอลิเวร่า; แม็คโทมิเนย์, โลบอตก้า, อังกิสซา; โปลิตาโน่, ลูกากู, ควารัตสเคเลีย
  • มอนซ่า
    ตูราติ; อิซโซ, มารี, คาร์โบนี; เปเรย์รา, บองโด้, เปสซิน่า, คีเรียโคปูลอส; มัลดินี่, คาปรารี; ดจูริก

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง นาโปลีควรจะคว้าชัยชนะกับทีมมอนซ่าที่ฟอร์มไม่คงเส้นคงวาซึ่งดิ้นรนเพื่อทำประตูและไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งในระดับชั้นนำมาหลายเดือนแล้ว สมกับเป็นโค้ชที่ไม่ยอมตาย ลูกทีมของอันโตนิโอ คอนเต้ทำประตูในเซเรียอาได้มากที่สุดในช่วง 30 นาทีสุดท้ายของการแข่งขันในฤดูกาลนี้ โดยทำไปแล้ว 7 ประตูจากทั้งหมด 9 ประตู และสุดท้ายพวกเขาก็จะทำสำเร็จ 

นาโปลี 2-0 มอนซ่า

ห้ามพลาด!