วงการฟุตบอลอาจได้เห็นการย้ายทีมที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อมีรายงานจาก talkSPORT ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดีอาระเบีย รวมถึง กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) กำลังพิจารณายื่นข้อเสนอมหาศาลเพื่อคว้าตัว วินิซิอุส จูเนียร์ จาก เรอัล มาดริด
แม้ดาวเตะทีมชาติบราซิลวัย 25 ปี จะยืนยันว่าต้องการอยู่กับมาดริดต่อไป และอยู่ระหว่างการเจรจาสัญญาใหม่ แต่สถานการณ์ยังไม่แน่นอน ขณะที่สัญญาฉบับปัจจุบันของเขาจะหมดลงในปี 2027
ตามรายงาน ซาอุฯ พร้อมเสนอค่าตัวสูงถึง 350 ล้านยูโร (ประมาณ 302 ล้านปอนด์) ซึ่งจะทำลายสถิติเดิมของการย้ายทีมที่แพงที่สุดในโลก ที่ เนย์มาร์ เคยย้ายจากบาร์เซโลน่าไปปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยมูลค่า 200 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2017
สัญญาระดับพันล้านยูโร
นอกจากค่าตัวแล้ว วินิซิอุสยังจะได้รับข้อเสนอรวมค่าเหนื่อยและโบนัสสูงถึง 1,000 ล้านยูโร (ประมาณ 864 ล้านปอนด์) ตลอดระยะเวลา 5 ปีตามที่มีการร่างข้อเสนอแบบไม่ผูกพันเอาไว้ ซึ่งสะท้อนความจริงจังของฝั่งซาอุฯ ที่ต้องการคว้าตัวแนวรุกคนสำคัญจากราชันชุดขาวอย่างแท้จริง
เป้าหมายคืออัล-อาห์ลี
รายงานยังระบุว่า อัล-อาห์ลี เป็นทีมที่ได้รับการผลักดันให้เป็นปลายทางของดีลครั้งนี้ โดยมีนักเตะระดับสตาร์อย่าง อีวาน โทนี่ย์, เอดูอาร์ด เมนดี้, ริยาด มาห์เรซ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ อยู่ในทีมแล้ว ซึ่งการได้วินิซิอุสมาร่วมทีมจะยิ่งตอกย้ำโปรเจกต์สร้างลีกระดับโลกของซาอุดีอาระเบีย
ผลงานฤดูกาลล่าสุด
วินิซิอุสลงเล่นให้มาดริดไป 48 นัดในฤดูกาล 2024-25 ทำได้ 22 ประตู กับอีก 19 แอสซิสต์ แม้จะทำผลงานได้ดีในเชิงสถิติ แต่ยังมีเสียงวิจารณ์ว่าเขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มเด่นในเกมสำคัญได้อย่างสม่ำเสมอ
เส้นทางค้าแข้ง
วินิซิอุสย้ายจากฟลาเมงโก้ในบราซิลมาร่วมทีมเรอัล มาดริดตั้งแต่อายุ 16 ปี ด้วยค่าตัว 38 ล้านปอนด์ และกลายเป็นกำลังหลักของทีมภายใต้การคุมทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ดีลนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่หากเป็นจริง ก็จะกลายเป็นการย้ายทีมที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังโลกทันที