สโมสรเอฟเวอร์ตันประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ฟรีดกิ้น กรุ๊ป กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการของสโมสรจาก ฟาร์ฮาด โมชิรี่ เป็นที่เรียบร้อย

ตามรายงานจาก BBC ระบุว่าการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ครอบคลุมหุ้นถึง 99.5% ของสโมสร โดยคาดว่าดีลดังกล่าวมีมูลค่ามากกว่า 400 ล้านปอนด์ ซึ่งทำให้ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” กลายเป็นทีมที่ 10 ในพรีเมียร์ลีกที่มีเจ้าของเป็นชาวอเมริกัน

ข้อตกลงนี้ได้รับการบรรลุเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา และรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล โดยพรีเมียร์ลีกมีบทบาทสำคัญในขั้นตอนการตัดสินใจ และล่าสุดกระบวนการทั้งหมดได้เสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์

ฟรีดกิ้น กรุ๊ป ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา นำโดย แดน ฟรีดกิ้น นักธุรกิจชื่อดังที่เป็นเจ้าของทีม อาแอส โรม่า ในกัลโช่ เซเรีย อา ของอิตาลี นอกจากนี้ แดน ฟรีดกิ้น ยังมีทรัพย์สินสุทธิมูลค่ารวมกว่า 6.16 พันล้านปอนด์ ตามการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์

แดน ฟรีดกิ้น กล่าวหลังการเข้าซื้อกิจการว่า
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของอังกฤษ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวระดับโลกของเราอย่าง ฟรีดกิ้น กรุ๊ป เอฟเวอร์ตันเป็นสโมสรที่มีมรดกทางวัฒนธรรมและความภาคภูมิใจอย่างสูง และเรารู้สึกดีใจที่ได้รับหน้าที่ในการดูแลสโมสรที่ยอดเยี่ยมนี้”

“แม้เราจะเป็นสมาชิกใหม่ของสโมสร แต่เราตระหนักดีถึงความสำคัญของเอฟเวอร์ตันต่อชุมชนท้องถิ่น รวมถึงประวัติศาสตร์และชีวิตของแฟนบอลเอฟเวอร์โตเนียนทั่วโลก เรามุ่งมั่นที่จะสืบสานมรดกอันล้ำค่านี้ พร้อมทั้งสนับสนุนชุมชน เศรษฐกิจ และประชาชนในเมืองที่น่าทึ่งแห่งนี้”

ฟาร์ฮาด โมชิรี่ เจ้าของคนก่อนหน้า ซื้อหุ้นของเอฟเวอร์ตันครั้งแรก 49.9% ในปี 2016 ก่อนจะเพิ่มสัดส่วนการถือครองเป็น 94.1% ในปี 2022 โดยในช่วงเวลาที่เขาบริหาร ทีมจบอันดับครึ่งล่างของตารางพรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ได้แก่ อันดับที่ 16, 17 และ 15

ปัจจุบัน เอฟเวอร์ตันรั้งอันดับ 16 ของตารางพรีเมียร์ลีก แข่งไปแล้ว 15 นัด ชนะ 3 เสมอ 6 และแพ้ 6 มีอยู่ 15 คะแนน

โปรแกรมถัดไป เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ ฌอน ไดช์ จะเปิดบ้านที่ กูดิสัน พาร์ค พบกับ เชลซี ทีมรองจ่าฝูง ในวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ โดยคาดว่าตัวแทนจาก ฟรีดกิ้น กรุ๊ป จะเข้าร่วมชมเกมสำคัญนี้ด้วย.