เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าวชื่นชมฟอร์มการเล่นของลูกทีม หลังเปิดบ้านเอาชนะ บอร์นมัธ 3-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก พร้อมยกย่อง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ว่ากำลังอยู่ในช่วงฟอร์มสุดยอด และเริ่มขยับเข้าใกล้ระดับเดียวกับสุดยอดนักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้


🔵 ซิตี้รักษารองจ่าฝูงต่อ – ฮาลันด์ยิงนำดาวซัลโว

ชัยชนะเหนือบอร์นมัธเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 6 คะแนนตามหลังจ่าฝูงอาร์เซน่อล พร้อมคว้าชัยในลีกได้ถึง 4 จาก 5 นัดหลังสุด

เกมนี้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ระเบิดฟอร์มซัดคนเดียว 2 ประตู ส่งให้ยอดรวมประตูในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้เพิ่มเป็น 13 ลูก นำโด่งเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลีก


💬 เป๊ปชื่นชมลูกทีม – เทียบ “ฮาลันด์” กับเมสซี่และโรนัลโด้

หลังจบเกม กวาร์ดิโอล่าออกมาเปิดใจถึงผลงานของหัวหอกชาวนอร์เวย์ว่า

“เวลาคุณเล่นโดยไม่มีเขา คุณจะรู้เลยถึงความแตกต่าง เช่นในเกมกับสวอนซีที่เรายิงได้สามประตู แต่เมื่อมีฮาลันด์อยู่ในสนาม มันเหมือนกับตอนที่คุณมีเมสซี่หรือโรนัลโด้ — เขาสามารถเปลี่ยนเกมได้ในพริบตา”

“คุณเห็นตัวเลขของเขาแล้วใช่ไหม? แน่นอน เขาอยู่ในระดับเดียวกันนั่นแหละ เพียงแต่เมสซี่กับโรนัลโด้ทำได้ต่อเนื่องกว่า 15 ปี แต่ฮาลันด์กำลังเดินบนเส้นทางเดียวกัน”

กุนซือชาวสเปนยังกล่าวต่อว่า ฮาลันด์เป็นนักเตะที่ฝึกง่าย มีความกระหายในการทำประตู และเป็นแบบอย่างของมืออาชีพที่ยอดเยี่ยม

“บางครั้งผมก็เข้มกับเขา แต่เขาเป็นคนที่ฟังและปรับตัวได้ดีมาก เขาโฟกัสกับการทำประตูเสมอ แม้บางช่วงจะไม่สามารถเล่นได้ดุดันตลอด 90 นาที แต่นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติของเกม”


เป๊ปเชื่อ “ฮาลันด์” ยังพัฒนาได้อีกไกล

นอกจากนั้น เป๊ปยังพูดถึงพัฒนาการของดาวยิงวัย 25 ปีว่า ทีมต้องสร้างโอกาสให้เขามากขึ้น เพราะยิ่งมีบอลถึงเท้า ฮาลันด์ก็ยิ่งอันตราย

“สิ่งสำคัญคือเราต้องป้อนบอลให้เขาในพื้นที่ที่เหมาะสม เขารู้ดีว่าหน้าที่ของเขาคืออะไร และสิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือเขาเป็นคนที่นิสัยดีมาก มีพลังบวกกับทุกคนในทีม”

“ผมมั่นใจว่าเขาจะพัฒนาขึ้นไปอีก ตัวเลขของเขาในตอนนี้มันน่าทึ่งอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ดีที่สุดยังไม่มาถึง”


🏁 สรุป

ชัยชนะเหนือบอร์นมัธไม่เพียงช่วยให้แมนฯ ซิตี้รักษาระยะห่างจากจ่าฝูงได้เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำว่า “เออร์ลิ่ง ฮาลันด์” คือศูนย์หน้าที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน — และภายใต้การดูแลของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เขาอาจกลายเป็นอีกหนึ่ง “ตำนาน” ในหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังสมัยใหม่