Home Blog Page 15

แมนฯ ซิตี้ เดินหน้าค้าน “กฎสปอนเซอร์” พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

0

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ยื่นฟ้องพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เพื่อคัดค้านกฎการสนับสนุนทางการเงิน (กฎสปอนเซอร์) ฉบับใหม่ ที่สโมสรเห็นว่าไม่เป็นธรรม

เดลี่ เมล สื่อชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า “เรือใบสีฟ้า” เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดต่อกัน ได้นำทีมกฎหมายยื่นคำร้องต่อ อนุญาโตตุลาการ อีกครั้ง โดยมี ลอร์ด แพนนิค เป็นหัวหน้าทีมทนายความ

แมนฯ ซิตี้ ยื่นค้านกฎ APT

ข้อพิพาทหลักของซิตี้ คือ กฎ APT (Associated Party Transaction) ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ออกแบบมาเพื่อ ควบคุมการทำสัญญากับบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของสโมสร โดยพรีเมียร์ลีกต้องการป้องกันไม่ให้เจ้าของทีมใช้บริษัทในเครือ ฉีดเงินเข้าสโมสรโดยอ้อม

เดิมที อนุญาโตตุลาการเคยตัดสินว่าบางส่วนของกฎดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่พรีเมียร์ลีกได้ทำการ ปรับปรุงกฎใหม่ และผ่านการลงคะแนนเสียงรับรองจากสโมสรส่วนใหญ่ในลีก ซึ่งแมนฯ ซิตี้ มองว่ายังคงไม่เป็นธรรม

ศึกกฎหมายระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ พรีเมียร์ลีก ยังไม่จบ

การยื่นเรื่องฟ้องร้องครั้งนี้เป็นอีกหนึ่ง บทบาททางกฎหมายที่ซิตี้ต้องต่อสู้กับพรีเมียร์ลีก หลังจากก่อนหน้านี้ สโมสรถูกตั้งข้อหา 115 กระทงเกี่ยวกับการละเมิดกฎการเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

นอกจากคดีดังกล่าว แมนฯ ซิตี้ ยังมีข้อพิพาททางกฎหมายกับพรีเมียร์ลีกอีก 3 คดี ซึ่งทั้งหมดกำลังอยู่ในกระบวนการไต่สวน

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนในพรีเมียร์ลีกที่อาจส่งผลต่อโครงสร้างกฎระเบียบทางการเงินของลีกในอนาคต 🔥⚖️

ยูฟ่า สั่งปรับเงินเซลติก หลังแฟนบอลก่อเหตุจุดพลุไฟ

0

เซลติก สโมสรดังจากสกอตแลนด์ ถูกยูฟ่าลงโทษปรับเงิน หลังจากแฟนบอลของทีมจุดพลุและขว้างปาสิ่งของระหว่างเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดเยือน แอสตัน วิลล่า ที่ วิลล่า พาร์ค

เกมดังกล่าวเป็นการแข่งขันรอบ ลีกเฟส นัดสุดท้ายของเซลติกในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนที่พวกเขาจะพ่ายให้กับเจ้าบ้าน แอสตัน วิลล่า 2-4 เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา

เซลติก ถูกลงโทษ ฐานแฟนบอลก่อเหตุในสนาม

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อแฟนบอลเซลติกบางส่วน จุดพลุไฟและขว้างปาสิ่งของลงสนาม ส่งผลให้ยูฟ่าเปิดการสอบสวนและตั้งข้อหาต่อสโมสร 2 กระทง ได้แก่ การใช้ดอกไม้ไฟในสนาม และการขว้างปาสิ่งของ

ล่าสุด คณะกรรมการควบคุม จริยธรรม และวินัยของยูฟ่า ตัดสินปรับเงินเซลติกจำนวน 10,000 ยูโร (ประมาณ 8,340 ปอนด์ หรือ 349,716 บาท) โดยไม่มีบทลงโทษเพิ่มเติม เช่น การห้ามแฟนบอลเข้าชมหรือบทลงโทษทางกีฬา

เซลติกเตือนแฟนบอล ก่อนเกมเยือนบาเยิร์น มิวนิค

หลังจากถูกยูฟ่าปรับเงิน เซลติกได้ออกคำเตือนถึงแฟนบอลของทีม ให้หลีกเลี่ยงการก่อพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่บทลงโทษเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเกมเยือน บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเป็นนัดแรกของรอบเพลย์ออฟ ที่จะเตะในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ก่อนกลับมาเล่นที่เยอรมนีในอีก 6 วันถัดไป

แม้บทลงโทษครั้งนี้อาจไม่ร้ายแรง แต่ยูฟ่าได้แสดงให้เห็นถึงการเข้มงวดต่อพฤติกรรมของแฟนบอลในสนาม หากเกิดเหตุซ้ำรอยอีก อาจส่งผลกระทบต่อสโมสรในอนาคต 🚨

ห้ามดีใจเย้ยคู่แข่ง เสี่ยงโดนลงโทษจากผู้ตัดสิน

0

พรีเมียร์ลีกออกคำเตือนถึงนักเตะเกี่ยวกับการฉลองประตูที่อาจเข้าข่าย ยั่วยุคู่แข่งหรือแฟนบอลฝั่งตรงข้าม โดยระบุว่า หากมีการแสดงท่าทางที่เกินขอบเขต อาจถูกลงโทษได้ในอนาคต

โทนี่ สโคลส์ ซีอีโอของพรีเมียร์ลีก ย้ำว่าลีกกำลังพิจารณานโยบายการลงโทษที่เข้มงวดขึ้นสำหรับนักเตะที่แสดงพฤติกรรมดังกล่าว โดยอาจนำแนวทางจากลีก เอ็นเอฟแอล (NFL) ของอเมริกันฟุตบอลมาใช้ ซึ่งมีบทลงโทษที่เข้มงวดกับนักกีฬาที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมระหว่างการแข่งขัน

“เราทุกคนชอบเห็นนักเตะฉลองประตู แต่ทุกอย่างต้องมีขอบเขต” สโคลส์กล่าว “หากการดีใจนั้นกลายเป็นการเยาะเย้ยคู่แข่ง หรือสร้างความไม่พอใจให้ฝ่ายตรงข้าม เราจำเป็นต้องจัดการ”

พรีเมียร์ลีกอาจเข้มงวดเหมือน NFL

กฎของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ได้กำหนดไว้อยู่แล้วว่า นักเตะสามารถแสดงความดีใจเมื่อทำประตูได้ แต่ต้องไม่ล้ำเส้นจนกลายเป็นการยั่วยุ ไม่ควรสร้างความไม่พอใจให้แฟนบอลฝ่ายตรงข้าม หรือทำให้เกมต้องหยุดชะงักโดยไม่จำเป็น

ประเด็นนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งหลังจากเกมที่ เอฟเวอร์ตัน บุกชนะ ไบรท์ตัน 1-0 ซึ่ง อิลิมัน เอ็นดิยาย ได้รับใบเหลืองจากการฉลองประตูด้วยการทำมือเลียนแบบนกนางนวล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของไบรท์ตัน นอกจากนี้ ยังมีกรณีของ ไมล์ ลูอิส-สเคลลีย์ ดาวรุ่งอาร์เซน่อล ที่ทำท่าดีใจเลียนแบบ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ หลังยิงประตูใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่กลับไม่ถูกลงโทษ

แม้ว่าหลายเหตุการณ์ที่คล้ายกันจะไม่ได้รับบทลงโทษใดๆ แต่พรีเมียร์ลีกกำลังพิจารณาแนวทางที่ชัดเจนขึ้น เพื่อควบคุมพฤติกรรมของนักเตะและป้องกันไม่ให้การฉลองประตูนำไปสู่ความขัดแย้งในสนาม

พรีเมียร์ลีกอาจกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวดขึ้นในอนาคต หากนักเตะมีพฤติกรรมฉลองที่ ยั่วยุคู่แข่งหรือแฟนบอลฝั่งตรงข้าม ซึ่งอาจรวมถึงการแจกใบเหลือง หรือบทลงโทษเพิ่มเติมจากฝ่ายวินัยของลีก 🚨

“โรนัลโด้” ตั้งเป้าซัด 1,000 ประตูก่อนแขวนสตั๊ด

0

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ของ อัล นาสเซอร์ เปิดเผยแผนอนาคตของตัวเอง โดยตั้งเป้าทำให้ได้ 1,000 ประตู ก่อนอำลาสนาม และมีความตั้งใจจะเป็น เจ้าของสโมสรฟุตบอล มากกว่ารับบทบาทผู้จัดการทีม หรือผู้บริหารหลังรีไทร์

แข้งโปรตุเกสเพิ่งฉลองอายุครบ 40 ปี เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงกับต้นสังกัดในซาอุดีอาระเบีย ล่าสุดเจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับ Canal 11 สื่อบ้านเกิดว่า ยังไม่มีแผนรีไทร์ในเร็วๆ นี้ เพราะต้องการเดินหน้าทำสถิติต่อไป

“ผมยังไม่รู้ว่าจะเลิกเล่นเมื่อไหร่ แต่ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ ผมอยากยิงให้ถึง 1,000 ประตู ก่อนแขวนสตั๊ด” โรนัลโด้กล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวไม่ได้มองว่าเส้นทางหลังอำลาสนามจะเป็นไปในทิศทางของผู้จัดการทีม หรือผู้บริหารสโมสร แต่ตั้งเป้าเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลแทน

“ผมไม่มีความจำเป็นต้องเป็นผู้จัดการทีมหรือผู้อำนวยการกีฬา ถ้าผมสามารถเป็นเจ้าของสโมสรเองได้ ทำไมผมจะต้องทำงานแบบนั้นล่ะ?”

“ความฝันของผมคือการเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล และผมมั่นใจว่ามันจะเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่สโมสรเดียว แต่ผมอยากเป็นเจ้าของหลายๆ สโมสรเลยด้วยซ้ำ”

923 ประตู ใกล้แตะหลัก 1,000 ในตำนาน

จนถึงตอนนี้ โรนัลโด้ทำไปแล้ว 923 ประตู กับ 248 แอสซิสต์ จากการลงสนามให้ทั้งสโมสรและทีมชาติ โดยแบ่งเป็น

  • สปอร์ติ้ง ลิสบอน ⚽ 5 ประตู 🎯 3 แอสซิสต์
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ⚽ 145 ประตู 🎯 57 แอสซิสต์
  • เรอัล มาดริด ⚽ 450 ประตู 🎯 119 แอสซิสต์
  • ยูเวนตุส ⚽ 101 ประตู 🎯 19 แอสซิสต์
  • ทีมชาติโปรตุเกส ⚽ 135 ประตู 🎯 30 แอสซิสต์

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยังคงแข็งแกร่ง โรนัลโด้อาจทำได้ตามเป้าหมาย 1,000 ประตูก่อนแขวนสตั๊ด และหากเดินหน้าตามแผน เขาอาจกลายเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลในอนาคตตามที่ฝันไว้ก็เป็นได้ 🚀

พรีเมียร์ลีกไม่ยอม แม้แมนฯซิตี้-เชลซีติดภารกิจสโมสรโลก

0

พรีเมียร์ลีก ยืนยันว่าจะไม่อนุญาตให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ช้ากว่าสโมสรอื่น แม้ทั้งสองทีมจะต้องลงแข่งขันในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 13 กรกฎาคม 2025

ก่อนหน้านี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” เคยร้องขอให้พรีเมียร์ลีกพิจารณาเลื่อนโปรแกรม 2 นัดแรกของฤดูกาลออกไป เนื่องจากนักเตะของพวกเขาจะมีเวลาเตรียมทีมที่จำกัดหลังจบทัวร์นาเมนต์ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด โทนี่ สโคลส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายฟุตบอลของพรีเมียร์ลีก ออกมาย้ำชัดว่าลีกจะไม่ปรับโปรแกรมให้ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านตารางแข่งขันที่แน่นขนัดอยู่แล้ว

พรีเมียร์ลีกยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงโปรแกรม

สโคลส์ ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรีเมียร์ลีกว่า

🗣 “ตารางการแข่งขันถูกบีบอัดจนถึงขีดสุดแล้ว”
🗣 “เรากำลังถูกกดดันจากฟีฟ่าโดยตรง และไม่มีเหตุผลที่เราต้องปรับตารางของเราให้สอดคล้องกับทัวร์นาเมนต์ที่เราไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ”
🗣 “องค์ประกอบสำคัญคือ เราไม่สามารถเลื่อนการเปิดฤดูกาลออกไปได้ เพราะปฏิทินแข่งแน่นจนไม่มีช่องว่างเหลือ”

ฤดูกาลใหม่เปิดฉาก 16 สิงหาคม ไม่มีข้อยกเว้น

ตามกำหนดการ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/26 จะเริ่มต้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2025 เพียงหนึ่งเดือนหลังจบศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ซึ่งหมายความว่าทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี อาจต้องเผชิญกับโปรแกรมที่หนักหน่วงทันทีที่กลับมา โดยไม่มีช่วงเตรียมทีมปรีซีซั่นมากพอ

แม้ว่าทั้งสองสโมสรอาจต้องจัดการกับความเหนื่อยล้าของผู้เล่น แต่พรีเมียร์ลีกยืนกรานว่าจะไม่ให้สิทธิพิเศษใดๆ และทุกทีมต้องเริ่มต้นฤดูกาลตามกำหนดการเดิม

เทรนต์ เจ็บไม่หนัก แต่ต้องลุ้นความฟิตก่อนลงสนาม

0

ลิเวอร์พูล เอคโค่ รายงานอัปเดตอาการบาดเจ็บของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยืนยันว่าอาการไม่รุนแรงอย่างที่กังวลในตอนแรก อย่างไรก็ตาม แข้งวัย 26 ปีจะต้องผ่านการประเมินความฟิตก่อนตัดสินใจว่าจะพร้อมช่วยทีมในเกมถัดไปหรือไม่

สถานการณ์อาการบาดเจ็บของ เทรนต์

แบ็กขวาตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล ได้รับบาดเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 70 ของเกมที่ “หงส์แดง” บุกชนะ บอร์นมัธ 2-0 โดยมี คอเนอร์ แบรดลีย์ ลงมาเล่นแทน ซึ่งทำให้มีความกังวลว่าเขาอาจพลาดช่วยทีมในเกมสำคัญที่จะพบกับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ในศึก คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง

แม้ว่าการสแกนล่าสุดจะยืนยันว่า ไม่มีอาการบาดเจ็บร้ายแรง แต่ เทรนต์ ยังคงต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู และลิเวอร์พูลจะติดตามความคืบหน้าแบบวันต่อวัน ก่อนจะตัดสินใจเรื่องการลงสนาม

ลุ้นฟิตทันดวล เอฟเวอร์ตัน

ตามรายงาน เทรนต์ กำลังแข่งกับเวลาเพื่อฟื้นตัวให้ทัน เกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ กับ เอฟเวอร์ตัน ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุกรอบเวลาชัดเจนว่าเขาจะกลับมาได้เมื่อไหร่

เยอร์เก้น คล็อปป์ ยืนยันว่าลิเวอร์พูลจะ ไม่เร่งรีบ หรือเสี่ยงส่ง เทรนต์ ลงสนามก่อนที่เขาจะฟิตสมบูรณ์ โดยคาดว่า คอเนอร์ แบรดลีย์ จะได้รับโอกาสลงเล่นแทนในเกมที่จะพบกับ สเปอร์ส

ด้วยสถานการณ์นี้ มีโอกาสสูงที่ ลิเวอร์พูลจะให้เวลา เทรนต์ ฟื้นตัวเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะพร้อมสำหรับโปรแกรมหนักที่รออยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะเกมสำคัญกับ เอฟเวอร์ตัน ในศึกพรีเมียร์ลีก

นิวคาสเซิ่ล เดินหน้าวางแผนสร้างสนามเหย้าใหม่

0

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กำลังพิจารณาโครงการก่อสร้างสนามเหย้าแห่งใหม่ มูลค่าสูงถึง 1.2 พันล้านปอนด์ ซึ่งอาจทำให้พวกเขามีสนามขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของอังกฤษ รองจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ปัจจุบัน เซนต์ เจมส์ พาร์ค เป็นรังเหย้าของ “สาลิกาดง” โดยมีความจุ 52,305 ที่นั่ง แต่ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นของแฟนบอล รวมถึงความทะเยอทะยานของเจ้าของสโมสรที่นำโดย กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย (PIF) ทำให้แผนการขยายสนามถูกผลักดันให้เดินหน้าเร็วขึ้น

แผนการพัฒนาสนามใหม่ของนิวคาสเซิ่ล

จากรายงานของ The Telegraph ผู้บริหารสโมสรมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการ ขยายเซนต์ เจมส์ พาร์ค หรือแม้แต่ สร้างสนามใหม่ในทำเลใกล้เคียง ซึ่งปัจจุบันแนวคิดทั้งสองถูกนำมารวมกันเป็นโครงการเดียว

แผนล่าสุดระบุว่า สนามแห่งใหม่จะมีความจุใกล้เคียง 70,000 ที่นั่ง และจะถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ที่ ทับซ้อนกับสนามปัจจุบันบางส่วน โดยอาจใช้พื้นที่ของ Leazes Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะบางส่วนในบริเวณใกล้เคียง

อย่างไรก็ตาม การใช้พื้นที่สีเขียวของเมืองยังคงเป็นประเด็นที่ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาท้องถิ่น โดยมีความพยายามให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อชุมชน ซึ่งหากผ่านการอนุมัติ สนามแห่งใหม่นี้จะกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของวงการฟุตบอลอังกฤษ

กระบวนการและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น

หากแผนดังกล่าวได้รับไฟเขียว นิวคาสเซิ่ล อาจ ยังคงใช้เซนต์ เจมส์ พาร์ค เป็นสนามเหย้าชั่วคราว ขณะที่สนามแห่งใหม่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจะช่วยให้ทีมไม่ต้องย้ายไปเล่นสนามอื่นในระหว่างดำเนินโครงการ

แม้ว่าแผนดังกล่าวจะถือเป็นความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่ของสโมสร แต่ยังคงมีอุปสรรคในเรื่อง ข้อจำกัดด้านการใช้ที่ดิน, งบประมาณ, และการอนุมัติจากภาครัฐ ซึ่งจะต้องดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในสโมสรที่มี สนามแข่งขันระดับเวิลด์คลาส พร้อมรองรับแฟนบอลจำนวนมาก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับทีมยักษ์ใหญ่อื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก

OFFICIAL! แมนฯ ซิตี้ ปิดดีล “นิโก้ กอนซาเลซ”

0

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสริมทัพรายที่ 4 ในตลาดเดือนมกราคม ด้วยการคว้าตัว นิโก้ กอนซาเลซ กองกลางอนาคตไกลจาก ปอร์โต้ ด้วยสัญญายาว 4 ปีครึ่ง ค่าตัว 60 ล้านยูโร


🔵 ซิตี้เดินหน้าเสริมแกร่ง ดึง นิโก้ กอนซาเลซ ร่วมทีม

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประกาศคว้าตัว นิโก้ กอนซาเลซ กองกลางชาวสเปน วัย 23 ปี จาก เอฟซี ปอร์โต้ โดยเซ็นสัญญายาว จนถึงปี 2029 ค่าตัวตามรายงานอยู่ที่ 60 ล้านยูโร

ดีลนี้มีผลพวงไปถึง บาร์เซโลน่า ต้นสังกัดเก่าของ นิโก้ เนื่องจากพวกเขาแทรกเงื่อนไขส่วนแบ่งค่าตัวเอาไว้ตอนขายแข้งรายนี้ให้ ปอร์โต้ เมื่อซัมเมอร์ปี 2023 ส่งผลให้ “เจ้าบุญทุ่ม” ได้รับ 40% ของค่าตัว หรือคิดเป็น 24 ล้านยูโร


📝 นิโก้ กอนซาเลซ คือใคร? ทำไม เป๊ป ถึงเลือกเสริมทัพ?

นิโก้ กอนซาเลซ เป็นกองกลางสารพัดประโยชน์ที่สามารถเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรับและบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ สไตล์ของเขาโดดเด่นที่การคุมจังหวะเกมและการจ่ายบอลแม่นยำ

🔹 ตำแหน่ง: กองกลางตัวกลาง (CDM/CM)
🔹 ส่วนสูง: 188 ซม.
🔹 จุดเด่น: คุมจังหวะเกม, ผ่านบอลแม่นยำ, พละกำลังสูง

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มองว่าเขาเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบในการเสริมความแข็งแกร่งให้แดนกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ เควิน เดอ บรอยน์ มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ในช่วงต้นฤดูกาล


🚀 แข้งใหม่รายที่ 4 ของ “เรือใบสีฟ้า” ในตลาดหน้าหนาว

การมาของ นิโก้ กอนซาเลซ ถือเป็นการเสริมทัพรายที่ 4 ของแมนฯ ซิตี้ ในตลาดซื้อขายเดือนมกราคม หลังจากที่พวกเขาคว้าตัว
อับดูโกดีร์ คูซานอฟ (กองหลัง)
โอมาร์ มาร์มูช (กองหน้า)
วิตอร์ เฮส (ตัวรุก)

ซึ่งการเสริมทัพครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ต้องการเพิ่มขุมกำลังให้ทีมเพื่อสู้ศึกในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล


⚡ แมนฯ ซิตี้ ได้อะไรจากดีลนี้?

เพิ่มมิติในแดนกลาง – นิโก้ สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของ โรดรี้ และให้ตัวเลือกที่ยืดหยุ่นมากขึ้น
แข้งวัยหนุ่มที่พัฒนาได้อีก – อายุเพียง 23 ปี และยังมีศักยภาพในการเติบโตภายใต้ระบบของ เป๊ป
เสริมขุมกำลังลุ้นแชมป์ – แมนฯ ซิตี้ ต้องการความลึกของทีมเพื่อไล่ล่าความสำเร็จในทุกถ้วย


🔮 บทสรุป: นิโก้ จะเป็นดีลสำคัญของ แมนฯ ซิตี้ หรือไม่?

การมาของ นิโก้ กอนซาเลซ อาจไม่ใช่ดีลที่สร้างความฮือฮาแบบระดับซูเปอร์สตาร์ แต่ด้วยคุณภาพและศักยภาพของเขา เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อาจกำลังปั้นเพชรเม็ดใหม่ให้กลายเป็นแข้งสำคัญของ “เรือใบสีฟ้า” ในระยะยาว

แฟนบอล แมนฯ ซิตี้ ต้องติดตามกันต่อว่า นิโก้ จะสามารถปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้เร็วแค่ไหน? และ เขาจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ช่วยให้ซิตี้คว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้หรือไม่? 🔥

เปิดเหตุผล! แมนยูฯ ตัดสินใจไม่เซ็นกองหน้าในวันปิดตลาดมกราคม

0

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจ ไม่เสริมกองหน้า ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะเดือนมกราคม แม้ว่า รูเบน อโมริม จะต้องการเสริมแนวรุก แต่ปัญหาด้านการเงินทำให้สโมสรต้องพับแผนไปก่อน


🔍 การเงินตึงมือ! ปัจจัยหลักที่ทำให้ แมนยูฯ ชะลอการซื้อกองหน้า

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568มิร์เรอร์ สื่อดังจากอังกฤษ รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแผนที่จะคว้ากองหน้าตัวใหม่เข้าสู่ทีมในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายเดือนมกราคม แต่สุดท้ายสโมสรตัดสินใจ ไม่เดินหน้าเจรจา เนื่องจากปัญหาด้านการเงินและกฎ ไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ (FFP)

แม้ว่า รูเบน อโมริม เฮดโค้ชที่มีแนวโน้มเข้ามารับงานต่อจาก เอริก เทน ฮาก จะสนับสนุนการเสริมแนวรุก แต่ด้วยสถานการณ์การเงินของสโมสรที่ยังไม่มั่นคง ทำให้ดีลต้องถูกชะลอออกไป


⚠️ สถานะทางการเงินที่ไม่แน่นอนของ แมนฯ ยูไนเต็ด

🔴 FFP เล่นงาน แมนยูฯ – การใช้จ่ายมหาศาลในตลาดก่อนหน้า โดยเฉพาะการคว้าตัว ราสมุส ฮอยลุนด์ (72 ล้านปอนด์), เมสัน เมาท์ (55 ล้านปอนด์) และ อังเดร โอนานา (47 ล้านปอนด์) ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องระมัดระวังเรื่องงบประมาณเพื่อลดความเสี่ยงในการละเมิดกฎการเงิน

🔴 เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ต้องการบริหารงบแบบยั่งยืน – เจ้าของทีมรายใหม่ที่กำลังจะเข้ามาถือหุ้น 25% ต้องการปรับโครงสร้างทางการเงินของสโมสร และเลือกที่จะไม่ใช้จ่ายเพิ่มในตลาดหน้าหนาว เพื่อรอแผนระยะยาวในช่วงซัมเมอร์

🔴 หนี้สินยังเป็นปัญหา – แม้ แมนยูฯ จะเป็นหนึ่งในสโมสรที่ทำรายได้สูงสุดในโลก แต่ภาระหนี้สินและค่าจ้างนักเตะที่สูงลิ่วทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้จ่ายได้ตามอิสระ


❌ ไม่มีกองหน้าคนใหม่ = เสี่ยงต่อฟอร์มในช่วงที่เหลือของฤดูกาล?

การที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถดึงกองหน้าตัวใหม่เข้ามา อาจเป็นความเสี่ยงสำคัญ เนื่องจากทีมยังต้องพึ่งพา ราสมุส ฮอยลุนด์ เป็นตัวหลักในแดนหน้าเพียงคนเดียว โดย อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยังคงมีปัญหาเรื่องฟอร์มและอาการบาดเจ็บ ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ยังเล่นได้ไม่คงเส้นคงวา

ทางเลือกที่เหลืออยู่ในทีมตอนนี้คือการให้โอกาสดาวรุ่งอย่าง โจ ฮิวกิลล์ หรือ โอมารี ฟอร์สัน ลงสนามมากขึ้น ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับการลุ้นพื้นที่ TOP 4

แมนยูฯ แอบทาบ “อดีตสตาร์พรีเมียร์ลีก” ก่อนตลาดปิด แต่ดีลล่ม

0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามยื่นข้อเสนอขอยืมตัว ดักลาส ลุยซ์ อดีตกองกลางแอสตัน วิลลา จาก ยูเวนตุส ก่อนตลาดหน้าหนาวปิด แต่ถูกปฏิเสธ ส่งผลให้ “ปีศาจแดง” พลาดโอกาสเสริมแดนกลางไปอย่างน่าเสียดาย


🔴 ปีศาจแดงเร่งเครื่องโค้งสุดท้าย หวังดึง ลุยซ์ เติมแดนกลาง

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 – ตุตโตสปอร์ต สื่ออิตาลี รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามเจรจากับ ยูเวนตุส เพื่อขอยืมตัว ดักลาส ลุยซ์ กองกลางชาวบราซิล ก่อนตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมปิดตัวลง แต่สุดท้ายดีลล้มเหลว เนื่องจากทีม “ม้าลาย” ปฏิเสธข้อเสนอ

ลุยซ์ วัย 26 ปี เคยเป็นกำลังสำคัญของ แอสตัน วิลลา ในพรีเมียร์ลีก โดยลงเล่นไปถึง 175 นัด ก่อนจะย้ายไปยูเวนตุสเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว ด้วยค่าตัว 42 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวกลับไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนักในศึก กัลโช่ เซเรีย อา โดยเพิ่งเล่นไปเพียง 3 นัด ทำให้มีข่าวลือว่าเจ้าตัวอาจมองหาทางย้ายทีม

🟡 ยูเวนตุสปฏิเสธ หลังเพิ่งปล่อย ฟาโจลี ออกจากทีม

แม้โอกาสของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะดูเปิดกว้างในช่วงท้ายของตลาด แต่รายงานระบุว่า “ปีศาจแดง” ยื่นข้อเสนอ ช้าเกินไป เนื่องจากยูเวนตุสเพิ่งปล่อย นิโคโล ฟาโจลี กองกลางทีมชาติอิตาลี ให้ ฟิออเรนตินา ทำให้พวกเขาไม่ต้องการเสียกองกลางเพิ่ม และตัดสินใจเก็บ ลุยซ์ ไว้เป็นตัวเลือกของทีมต่อไป

🔮 โอกาสย้ายทีมของ ลุยซ์ ในช่วงซัมเมอร์ยังสูง!

แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะพลาดได้ตัว ลุยซ์ ในช่วงตลาดหน้าหนาว แต่คาดกันว่าดาวเตะแซมบ้ารายนี้มีโอกาสย้ายทีมสูงในช่วงซัมเมอร์หน้า เนื่องจากเจ้าตัวยังต้องการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และ ยูเวนตุส อาจต้องการปรับสมดุลทีมทางการเงิน

ทั้งนี้ “ปีศาจแดง” กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านภายใต้การบริหารของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ที่ต้องการยกระดับทีมให้แข็งแกร่งขึ้น โดยพวกเขาอาจกลับมาเดินหน้าล่าตัว ลุยซ์ อีกครั้งเมื่อฤดูกาลสิ้นสุดลง

ห้ามพลาด!