Home Blog

เดอ บรอยน์ อำลาเอติฮัดซึ้ง น้ำตาคลอปิดตำนาน 10 ปีเรือใบสีฟ้า

0

เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โบกมือลาสโมสรอย่างเป็นทางการ หลังลงเล่นนัดสุดท้ายในบ้านช่วยทีมเอาชนะบอร์นมัธ 3-1 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมกล่าวคำอำลาที่เต็มไปด้วยอารมณ์และน้ำตาต่อหน้าแฟนบอลในเอติฮัด สเตเดี้ยม

มิดฟิลด์ชาวเบลเยียมวัย 33 ปี ปิดฉากเส้นทาง 10 ปีในสีเสื้อ “เรือใบสีฟ้า” โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 421 นัด ยิง 108 ประตู และจ่าย 177 แอสซิสต์ พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย รวมถึงตำแหน่งจอมแอสซิสต์ประจำฤดูกาลถึง 3 ครั้ง

ในเกมอำลานัดสุดท้าย เดอ บรอยน์ ยังทิ้งสถิติระดับตำนานไว้ ด้วยการทำจำนวน “โอกาสสร้างสรรค์เกม” เทียบเท่ากับ เชสก์ ฟาเบรกาส ที่ 846 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดอันดับต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก

หลังจบเกม เดอ บรอยน์ เปิดใจอย่างสุดซึ้งท่ามกลางเสียงปรบมือจากแฟนบอลทั้งสนาม

“มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย แมนเชสเตอร์คือบ้านของผม ที่ที่ลูกๆ เกิดและเติบโต ผมกับภรรยาเดินทางมาที่นี่เพื่อหวังจะมีเส้นทางที่ดี แต่ไม่เคยคิดว่าผมจะได้อยู่กับสโมสรนี้นานถึง 10 ปี”

“เราคว้าแชมป์มาทุกรายการ ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับแฟนบอล เพื่อนร่วมทีม และเมืองแห่งนี้ มันคือเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมนี้ และผมจะจดจำช่วงเวลานี้ตลอดไป”

หนึ่งในช่วงเวลาที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดคือการพูดถึง “รูปปั้น” ที่เตรียมจะถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ซึ่งเจ้าตัวตอบด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งว่า

“ผมจะอยู่กับสโมสรนี้ตลอดไป แม้ในวันที่ไม่ได้ลงเล่นอีกต่อไป เมื่อไหร่ที่ผมกลับมาที่นี่ ผมจะได้เห็นตัวเองยืนอยู่ตรงนั้น… ผมจะเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรนี้ตลอดไป”

เมื่อถูกถามว่าเขาอยากให้แฟนบอลจดจำตัวเองในฐานะอะไร เดอ บรอยน์ยิ้มและกล่าวเพียงคำเดียวว่า

“ด้วยความสุข”

การอำลาของเดอ บรอยน์ ไม่ใช่แค่การจากลา แต่เป็นการส่งต่อมรดกแห่งความสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ และความภักดีต่อสีฟ้าแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ที่จะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรตลอดไป.

วิเคราะห์ก่อนเกม ยูโรป้า ลีก: สเปอร์ส ดวล แมนฯ ยูไนเต็ด

0

ศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2024/25 เดินทางถึงบทสรุป โดยรอบชิงชนะเลิศจะเป็นการพบกันของสองทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คือ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยจะลงสนามกันในคืนวันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2568 ที่สนามซาน มาเมส เมืองบิลเบา ประเทศสเปน เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย


ความพร้อมของทั้งสองทีม

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
ลูกทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกลู ผ่านเข้าชิงด้วยการปราบ โบโด/กลิมท์ ด้วยสกอร์รวม 4-0 แต่ยังต้องลุ้นความพร้อมผู้เล่นหลักหลายราย เจมส์ แมดดิสัน มีอาการเจ็บเข่าแม้จะเดินทางกับทีม ขณะที่ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ชวดแน่นอน ส่วน ลูคัส เบิร์กวาลล์ ฟื้นตัวจากอาการเจ็บข้อเท้า และ ปาป ซาร์ ที่บาดเจ็บจากเกมแพ้แอสตัน วิลล่า ก็อยู่ระหว่างการประเมินสภาพร่างกายก่อนเกม

ตัวเลือกในเกมรุกฝั่งซ้ายยังต้องตัดสินใจระหว่าง ซน ฮึง-มิน ที่เพิ่งหายเจ็บ กับ ริชาร์ลิซอน ขณะที่ โดมินิก โซลันกี้ จะเป็นหัวหอกตัวเป้าหลังทำผลงานได้อย่างต่อเนื่อง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รูเบน อโมริม พา “ปีศาจแดง” ถล่ม แอธเลติก บิลเบา ในรอบรองฯ ด้วยสกอร์รวม 7-1 แต่สภาพทีมยังไม่เต็มร้อย ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ ยังเจ็บยาว ขณะที่ โจชัว เซิร์กซี่, เลนี่ โยโร่ และ ดิโอโก้ ดาโลต์ เดินทางมากับทีม และน่าจะพร้อมมีส่วนร่วม

ในแนวรุก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังคงเป็นตัวความหวัง ยิงไปแล้ว 7 ประตูในรายการนี้ โดยจะสนับสนุน ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ยืนค้ำหน้า ส่วนอีกหนึ่งตำแหน่งแนวรุกอาจเป็น การ์นาโช่ หรือ เมสัน เมาท์ ที่ทำประตูสำคัญในรอบก่อนหน้า


11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

สเปอร์ส (4-2-3-1)
กูเยลโม่ วิคาริโอ – เปโดร ปอร์โร่, โรเมโร่, ฟาน เดอ เฟ่น, อูโดกี้ – เบนตันกูร์, บิสซูม่า – เบรแน็น จอห์นสัน, ปาป ซาร์, ซน ฮึง-มิน – โซลันกี้

แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-2-1)
อ็องเดร โอนาน่า – ลินเดอเลิฟ, แม็กไกวร์, โยโร่ – มาซราอุย, อูการ์เต้, คาเซมิโร่, ดอร์กู – การ์นาโช่, บรูโน่ – ฮอยลุนด์


มุมมองเกม & ความเป็นไปได้

แม้สถิติการพบกันในฤดูกาลนี้จะเทไปทางฝั่งสเปอร์สที่เอาชนะยูไนเต็ดได้ทั้ง 3 นัด (รวมลีกและบอลถ้วย) แต่รอบชิงชนะเลิศในสนามกลางเช่นนี้มักเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ยูไนเต็ดมีประสบการณ์ในเกมใหญ่และขุมกำลังแน่นกว่าบ้าง แต่สเปอร์สก็มีระบบการเพรสซิ่งที่อันตราย และเล่นโต้กลับได้ดี

หากดูตามแนวโน้ม รูปเกมอาจเบียดสูสีและมีโอกาสสูงที่จะยืดเยื้อถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ หรือแม้กระทั่งการดวลจุดโทษ


สกอร์ที่คาด

เสมอ 1-1 ในเวลา 90 นาที (ต่อเวลา สเปอร์สชนะ 2-1)


สถิติ-ข้อมูลน่าสนใจก่อนเกม

  • นี่เป็นรอบชิงยูโรป้า ลีก ที่มีทีมจากประเทศเดียวกันเป็นครั้งที่ 4
  • สเปอร์ส เคยคว้าแชมป์ยูโรป้ารายการนี้ 2 ครั้ง หากชนะจะเป็นทีมอังกฤษทีมที่สองที่คว้า 3 สมัย ต่อจากลิเวอร์พูล
  • แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยนำสเปอร์สแม้แต่วินาทีเดียวใน 3 นัดที่พบกันฤดูกาลนี้
  • ทีมใดที่คว้าแชมป์นัดนี้จะกลายเป็นแชมป์จากลีกอังกฤษที่มีอันดับในลีกต่ำสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรป (ยูไนเต็ดจบที่ 16, สเปอร์สจบที่ 17)

รูเบน อโมริม เตือนแข้งผีแดง “ไม่มีใครจดจำผู้แพ้”

0

รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งสารเตือนถึงนักเตะของเขาก่อนศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก นัดชิงชนะเลิศกับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่จะฟาดแข้งกันในคืนวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ที่สนามซาน มาเมส เมืองบิลเบา ประเทศสเปน โดยย้ำว่าในฟุตบอลระดับสูง ไม่มีใครจดจำทีมที่แพ้ในรอบชิง

“ผมเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว สมัยเป็นนักเตะกับเบนฟิก้า เราเข้าชิงยูโรป้า ลีกปี 2014 และแพ้เซบีย่าด้วยการดวลจุดโทษ ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี และสิ่งเดียวที่เรียนรู้คือ – คุณต้องเป็นฝ่ายชนะ ไม่มีใครพูดถึงทีมรองแชมป์” อโมริมกล่าว

แม้การคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีกจะเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ แต่อโมริมก็ยอมรับว่าความสำเร็จในเกมนี้อาจยังไม่เพียงพอต่อการลบล้างฤดูกาลที่น่าผิดหวังในพรีเมียร์ลีก ซึ่งทีมทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน

“เรารู้ว่าเราไม่ได้อยู่ในจุดที่เราควรจะเป็นในลีก มันเป็นฤดูกาลที่น่าหงุดหงิด แต่เราต้องตอบแทนสโมสรและแฟนบอลให้ได้บ้าง อย่างน้อยที่สุดคือชัยชนะในเกมนัดชิงนี้” เขากล่าวเสริม

อโมริมยังพูดถึงการตัดสินใจภายในทีม โดยเฉพาะเรื่องผู้เล่นตัวจริงในเกมชิงดำที่เป็นหัวข้ออ่อนไหวสำหรับนักเตะทุกคน

“ผมรู้ดีว่ามันไม่ง่ายสำหรับใครก็ตามที่ไม่มีชื่อใน 11 ตัวจริง แต่เรามีนักเตะหลายคนเจ็บ และทุกคนต้องพร้อม แม้จะได้ลงไม่กี่นาทีก็มีความหมาย เพราะถ้าเราคว้าแชมป์ ทุกคนในทีมจะเป็นแชมป์เหมือนกันหมด”

กุนซือวัย 39 ปีทิ้งท้ายถึงบทบาทของตัวเองว่า “ในฐานะโค้ช หน้าที่ของผมคือเตรียมทีม พูดให้ถูกในเวลาที่เหมาะสม ช่วยเหลือทีมงานทุกทางเพื่อให้เรามีโอกาสดีที่สุด และสิ่งสำคัญที่สุดในเกมนี้คือ ต้องชนะ เท่านั้น”

ยามาลรับเบอร์ 10 บาร์ซ่าเตรียมต่อสัญญา-ตั้งค่าฉีกพันล้านยูโร

0

สื่อดังในสเปนรายงานว่า บาร์เซโลน่า เตรียมประกาศข่าวใหญ่ภายในซัมเมอร์นี้ ด้วยการมอบเสื้อหมายเลข 10 อันเป็นตำนานให้กับ ลามีน ยามาล ดาวรุ่งพรสวรรค์สูงวัย 17 ปี พร้อมขยายสัญญาระยะยาวผูกอนาคตกับทีม

ยามาล ซึ่งปัจจุบันสวมเสื้อหมายเลข 19 กลายเป็นความหวังใหม่ของ “อาซูลกราน่า” หลังสร้างผลงานโดดเด่นอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยมีบทบาทสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ภายในประเทศถึง 3 รายการ และได้รับการยกย่องให้เป็นทายาททางฟุตบอลของ ลิโอเนล เมสซี่ อย่างแท้จริง

รายงานจาก Memorabilia1899.co เผยว่า การเปลี่ยนหมายเลขเสื้อครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง อันซู ฟาติ เจ้าของเบอร์ 10 คนปัจจุบัน เตรียมอำลาถิ่นคัมป์นูหลังจบฤดูกาล 2024/25 เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บที่ส่งผลต่อฟอร์มการเล่น จึงเปิดทางให้ยามาลก้าวขึ้นมาสวมเบอร์สำคัญของสโมสร

บาร์ซ่ามีแผนมอบสัญญาฉบับใหม่ให้กับปีกทีมชาติสเปนทันทีที่เขาอายุครบ 18 ปีในปีหน้า โดยประธานสโมสร โจน ลาปอร์ต้า มีเป้าหมายชัดเจนในการกันท่าเหล่าสโมสรเงินหนา ด้วยการวางค่าฉีกสัญญาฉบับใหม่สูงถึง 1,000 ล้านยูโร เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ซ้ำรอยกรณี เนย์มาร์ ที่ย้ายออกในปี 2017

การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนเบอร์เสื้อ แต่ถือเป็นการส่งไม้ต่ออย่างเป็นทางการของหมายเลข 10 อันเป็นสัญลักษณ์ของแข้งระดับตำนาน ไม่ว่าจะเป็น ดีเอโก มาราโดน่า, ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่ และแน่นอน ลิโอเนล เมสซี่ ที่เคยสร้างชื่อกับหมายเลขนี้ในถิ่นคัมป์นู


สรุปสถานการณ์:

  • ลามีน ยามาล เตรียมเปลี่ยนมาสวมเบอร์ 10 บาร์ซ่าในฤดูกาลหน้า
  • อันซู ฟาติ จะอำลาทีมหลังจบฤดูกาล 2024/25
  • บาร์เซโลน่าเตรียมต่อสัญญาระยะยาวกับยามาล พร้อมตั้งค่าฉีก 1 พันล้านยูโร
  • การมอบเบอร์ 10 เป็นสัญลักษณ์ความเชื่อมั่นจากสโมสร สู่การสืบทอดตำนานใหม่

ยามาลจะรับภาระความหวังของทีมในยุคเปลี่ยนผ่าน และทุกสายตาจะจับจ้องว่าเขาจะก้าวขึ้นมาแบกรับหมายเลขประวัติศาสตร์นี้ได้อย่างไรในฤดูกาลหน้า.

วิเคราะห์ก่อนเกม: แมนฯ ซิตี้ ปะทะ บอร์นมัธ

0

การแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคมนี้ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมเปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ บอร์นมัธ โดยเจ้าบ้านต้องการชัยชนะเพื่อไล่ล่าตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังเพิ่งพลาดแชมป์เอฟเอ คัพ ขณะที่ทีมเยือนยังมีลุ้นเล็กๆ กับการไปเล่นยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก


ความพร้อมก่อนเกม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เตรียมโรเตชั่นนักเตะจากเกมที่พ่าย คริสตัล พาเลซ ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 0-1 โดยคาดว่าจะส่ง เอแดร์ซอน กลับมาลงเฝ้าเสาอีกครั้งแทน สเตฟาน ออร์เตก้า ส่วน มาเตโอ โควาซิช ยังต้องลุ้นความฟิต เช่นเดียวกับโอกาสของ เคลาดิโอ เอเชเวร์รี่ มิดฟิลด์อนาคตไกลชาวอาร์เจนไตน์ วัย 19 ปี ที่อาจได้ประเดิมสนามพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก หลังมีชื่อลงเล่นในถ้วยเอฟเอ คัพ มาแล้ว

บอร์นมัธ
ฝั่งของ อันโดนี่ อิราโอล่า เจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ทั้ง อเล็กซ์ สกอตต์ (กรามหัก), หลุยส์ ซินิสเตร์ร่า, เอเนส อูนาล, ไรอัน คริสตี้ และ ดังโก้ วัตตาร่า ที่ยังไม่พร้อมใช้งาน อย่างไรก็ดี ดีน เฮาเซ่น กองหลังดาวรุ่งที่เตรียมย้ายไป เรอัล มาดริด จะได้โอกาสลงสนามอีกครั้ง ส่วน มิลอส เคอร์เคซ แบ็กซ้ายฮังการีที่กำลังตกเป็นข่าวกับ ลิเวอร์พูล ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในแนวรับ


รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1):
เอแดร์ซอน – มาเตอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอเรลลี่ – นิโก้ กอนซาเลซ, อิลคาย กุนโดอัน – ซาวินโญ่, เควิน เดอ บรอยน์, โอมาร์ มาร์มูช – เออร์ลิง ฮาลันด์

บอร์นมัธ (4-2-3-1):
เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – อดัม สมิธ, อิลลีย่า ซาบาร์นี่, ดีน เฮาเซ่น, มิลอส เคอร์เคซ – ลูอิส คุก, ไทเลอร์ อดัมส์ – อองตวน เซเมนโย่, จัสติน ไคลเวิร์ต, เจมส์ เทเวอร์เนียร์ – เอวานิลซอน


สถิติที่น่าสนใจ

  • ซิตี้ชนะรวดใน 7 เกมลีกหลังสุดที่พบกับบอร์นมัธในบ้าน ยิงได้รวม 10 ประตูใน 2 เกมหลังสุดที่เอติฮัด
  • บอร์นมัธพ่ายไปถึง 10 จาก 11 เกมเยือนล่าสุดในการเจอกับแมนฯ ซิตี้ รวมทุกรายการ
  • บอร์นมัธเคยเก็บผลเสมอ 3-3 ได้เพียงครั้งเดียวเมื่อปี 1989 ที่สนามเมน โร้ด ในระดับดิวิชั่น 2
  • ฤดูกาลนี้ บอร์นมัธเคยชนะซิตี้ 2-1 ที่บ้านตัวเองในลีก และหวังจะทำสถิติชนะ “เหย้า-เยือน” ครั้งแรก แต่แพ้ไปก่อนในเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองฯ 1-2

บทวิเคราะห์เกม

ซิตี้กลับมาเล่นในบ้านด้วยความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมหลังผิดหวังจากเกมนัดชิงบอลถ้วย แต่อาจเจอความเหนื่อยล้าและแรงกดดันจากสถานการณ์ลุ้นท็อปโฟร์ บอร์นมัธภายใต้การคุมทีมของอิราโอล่า มีเกมเยือนที่แข็งแกร่ง และมักทำผลงานได้ดีเวลาเจอกับทีมใหญ่ มีโอกาสแบ่งแต้มจากเกมนี้หากรับแน่นและฉวยโอกาสจากจังหวะสวนกลับได้ดี

สกอร์ที่คาด: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 บอร์นมัธ

โรนัลโด้ จูเนียร์ กด 2 ลูก พาโปรตุเกส U15 ซิวแชมป์โครเอเชีย

0

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น! คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์ ลูกชายของซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง ยิงสองประตูสำคัญช่วยให้ทีมชาติโปรตุเกสรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เอาชนะเจ้าภาพโครเอเชีย 3-2 ผงาดคว้าแชมป์รายการ วลัตโก มาร์โควิช ทัวร์นาเมนต์ ที่ประเทศโครเอเชีย

เกมนี้เป็นการลงสนามนัดที่ 4 ของหัวหอกวัย 14 ปีในนามทีมชาติ U15 ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง โดยซัดประตูแรกด้วยลูกยิงสุดงามพุ่งชนคานเข้าไป พร้อมฉลองประตูด้วยท่าดีใจ “SIU” อันเป็นซิกเนเจอร์ของคุณพ่อระดับตำนานอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ส่วนประตูที่สอง เจ้าตัวใช้ความสูงและการอ่านเกมโหม่งบอลเข้าไปอย่างเด็ดขาด กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม

หลังจบเกม โรนัลโด้ ซีเนียร์ ซึ่งกำลังค้าแข้งกับอัล นาสเซอร์ ในลีกซาอุฯ ได้โพสต์คลิปจังหวะการทำประตูของลูกชายผ่าน Instagram พร้อมใส่อิโมจิ “🔥” แสดงความภาคภูมิใจอย่างเต็มเปี่ยม

ขณะเดียวกัน สื่อต่างประเทศรายงานว่า ผลงานของโรนัลโด้ จูเนียร์ ในระดับเยาวชนกำลังดึงดูดความสนใจจากหลายสโมสรใหญ่ในยุโรป โดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดของพ่อ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามกันต่อไปว่า เส้นทางลูกหนังของเขาจะสามารถก้าวไปสู่ระดับเดียวกับผู้เป็นพ่อได้หรือไม่

ผลบอลพรีเมียร์ลีก: อาร์เซน่อลเฉือนนิวคาสเซิ่ล 1-0 ไรซ์ยิงชัย

0

เดแคลน ไรซ์ กลายเป็นฮีโร่อีกครั้ง หลังซัดประตูโทนในครึ่งหลัง พา “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เบียดเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-0 คว้า 3 คะแนนสำคัญ การันตีอันดับรองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อย่างเป็นทางการ

เกมนี้ มิเกล อาร์เตต้า ตัดสินใจพัก ไค ฮาแวร์ตซ์ ไว้ที่ม้านั่งสำรอง ขณะที่ เดแคลน ไรซ์ ฟิตทันกลับมาคุมแดนกลาง โดยมี เลอันโดร ทรอสซาร์, บูคาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ประสานงานในแนวรุก

ฝั่งทีมเยือน นิวคาสเซิ่ล ต้องขาด อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่มีอาการเจ็บเล็กน้อย คัลลั่ม วิลสัน จึงได้โอกาสลงล่าตาข่าย ร่วมกับ แอนโธนี่ กอร์ดอน และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์

เกมช่วงต้นเปิดแลกกันสนุก นาทีที่ 6 ดาบิด ราย่า เกือบแจกของขวัญให้ทีมเยือน แต่ยังเซฟลูกยิงจ่อ ๆ ของ บรูโน่ กีมาไรช์ ได้หวุดหวิด

นาที 14 เจ้าบ้านเริ่มมีจังหวะลุ้น บูคาโย่ ซาก้า เปิดเตะมุมให้ โธมัส ปาร์เตย์ ขึ้นโขก แต่ติดเซฟของ นิค โป๊ป เช่นกัน

ช่วงท้ายครึ่งแรกยังไม่มีฝ่ายใดเฉียบคมพอ จบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ 0-0

เข้าสู่ครึ่งหลังนาที 55 แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮ เมื่อ มาร์ติน โอเดการ์ด วางบอลให้ เดแคลน ไรซ์ ซัดไกลด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาไกลอย่างสุดสวย กลายเป็นประตูที่ 9 ของมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษในฤดูกาลนี้

แม้นิวคาสเซิ่ลจะพยายามตีเสมอ โดยมีจังหวะลุ้นจาก ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ และ โจ วิลล็อค แต่จบไม่คมพอ ขณะที่แนวรับเจ้าถิ่นยังคุมเกมไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง

จบเกม อาร์เซน่อล เฉือนชนะ นิวคาสเซิ่ล 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 71 คะแนน การันตีตำแหน่งรองจ่าฝูงเป็นปีที่สามติดต่อกัน ส่วน “สาลิกาดง” พลาดโอกาสแซงขึ้นอันดับสอง ยังคงมี 66 แต้ม เท่ากับ เชลซี และ แอสตัน วิลล่า ต้องลุ้นหนักกับตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกในช่วงโค้งสุดท้าย

ซาล่าห์ต่อสัญญาหงส์ 2 ปี ลั่นยังไม่ถอดใจล่าบัลลงดอร์

0

โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แนวรุกทีมชาติอียิปต์ของลิเวอร์พูล ออกมาเปิดใจหลังจากเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัดออกไปอีก 2 ปี โดยเจ้าตัวยืนยันชัดเจนว่าเป้าหมายสูงสุดของตนคือการคว้ารางวัลลูกบอลทองคำ หรือ “บัลลงดอร์” มาครองให้ได้สักครั้งในเส้นทางอาชีพ

ดาวยิงวัย 32 ปีทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในซีซั่นล่าสุด ช่วยให้ทัพ “หงส์แดง” ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก พร้อมทำสถิติยิงไป 33 ประตู และแอสซิสต์อีก 23 ครั้งจากทุกรายการ จนมีชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA และมีลุ้นคว้ารองเท้าทองคำของลีกอีกหนึ่งสมัย

ซาล่าห์ยังเป็นหนึ่งในตัวเต็งลุ้นรางวัลบัลลงดอร์ในปีนี้ หลังโชว์ฟอร์มอย่างต่อเนื่องแม้ในอดีตจะไม่เคยหลุดเกินอันดับ 5 ในการจัดอันดับสุดยอดนักเตะของโลก โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเคยรู้สึกผิดหวัง แต่ตอนนี้เลือกที่จะโฟกัสกับสิ่งที่ควบคุมได้

“ครั้งหนึ่งผมเคยรู้สึกเหมือนจะบ้ากับเรื่องนี้ มันเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา” ซาล่าห์เผยกับสื่อสโมสร
“คุณต้องเตือนตัวเองเสมอว่าคุณมีภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จในแต่ละฤดูกาล นั่นเป็นแรงผลักดันให้ผมทุ่มเทมากขึ้น”

“ผมอยากคว้าบัลลงดอร์สักวันหนึ่งจริง ๆ นี่คือความฝันที่ผมไม่เคยปิดบัง และผมจะไม่ยอมแพ้แน่นอน ถ้ามันไม่เกิดขึ้นก็ไม่เป็นไร แต่ปีนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีโอกาสที่ดีมาก”

การต่อสัญญาของซาล่าห์ถือเป็นข่าวดีสำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูล และยังส่งสัญญาณว่าดาวเตะรายนี้ยังมุ่งมั่นเต็มร้อยกับเป้าหมายระดับสูงทั้งในระดับสโมสรและส่วนตัว

เป๊ปยอมรับความพ่ายแพ้ ชื่นชมพาเลซคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ

0

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับรู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขันในศึก เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่ทีมของเขาพลาดท่าให้กับ คริสตัล พาเลซ พร้อมแสดงความยินดีกับแชมป์หน้าใหม่ที่คว้าถ้วยได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

เกมที่เวมบลีย์จบลงด้วยชัยชนะของพาเลซ 1-0 จากประตูชัยของ เอเบเรชี่ เอเซ่ แม้ “เรือใบสีฟ้า” จะสร้างโอกาสได้มากมาย รวมถึงได้จุดโทษในครึ่งแรก แต่ โอมาร์ มาร์มูช ยิงไปติดเซฟของ ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารฟอร์มร้อนแรงของพาเลซ

หลังจบเกม กวาร์ดิโอล่า กล่าวในห้องแถลงข่าวว่า

“ขอแสดงความยินดีกับคริสตัล พาเลซ กับแชมป์เอฟเอ คัพครั้งแรก ถือเป็นก้าวสำคัญของสโมสร พวกเขาสมควรได้รับคำชื่นชม”

แม้ผลจะไม่เป็นใจ แต่กุนซือชาวสแปนิชยังมองเห็นข้อดีในฟอร์มของลูกทีม

“เราคุมเกมได้ดี โดยเฉพาะในเกมรับและการตัดเกมสวนกลับ แต่ขาดแค่ประตูเท่านั้น เราเล่นดีกว่าเกมกับเซาธ์แฮมป์ตัน เราเคลื่อนที่มากขึ้น สร้างโอกาสได้เยอะ แต่บอลไม่ยอมเข้าเอง”

เขายอมรับว่าแผนการเล่นล้มเหลวในแง่ผลลัพธ์ แม้ภาพรวมของฟอร์มจะไม่เลว

“เมื่อคุณยิงไม่ได้ คุณก็ไม่ชนะ นั่นคือความจริง แม้เราเล่นดีในหลายจังหวะ ผมไม่เสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงตรงหน้า”

ในช่วงท้ายเกมมีจังหวะปัญหาเมื่อ ดีน เฮนเดอร์สัน มีจังหวะแฮนด์บอลนอกกรอบแต่รอดพ้นใบแดงไปได้ ซึ่งเป๊ปตอบสั้น ๆ ว่า

“เรื่องนี้ไปถามผู้ตัดสินเถอะ”

แม้จะผิดหวังกับผลการแข่งขัน แต่กุนซือซิตี้ยังคงมีเป้าหมายที่ต้องเดินหน้าต่อ โดยกล่าวทิ้งท้ายว่า

“เราต้องฟื้นตัวให้เร็ว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรอบชิงอีก 2 รายการที่เหลือ และลุ้นคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้”

แรชฟอร์ดยอมลดค่าเหนื่อย หวังซบบาร์เซโลน่าซัมเมอร์นี้

0

มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าทีมชาติอังกฤษของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความตั้งใจชัดเจนในการย้ายไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลหน้า โดยยินดีลดค่าเหนื่อยเพื่อให้การเจรจาเป็นไปได้ราบรื่นมากขึ้น

รายงานจาก Sport สื่อดังของสเปนระบุว่า ดาวยิงวัย 27 ปีเปิดใจอย่างเต็มที่กับโอกาสในการย้ายไปลาลีกา และมองว่าโปรเจกต์ของ ฮันซี่ ฟลิค ที่คัมป์ นู อาจเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ที่ช่วยให้เขากลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง หลังฤดูกาลที่ไม่สู้ดีในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด

แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า แรชฟอร์ดถึงขั้นพร้อมลดค่าเหนื่อยของตนเองเพื่อให้การย้ายไปบาร์เซโลน่าเกิดขึ้นจริง จุดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่ชัดเจน เพราะเจ้าตัวไม่เคยพิจารณาเงื่อนไขลักษณะนี้กับสโมสรอื่น แม้จะได้รับความสนใจจากทีมในพรีเมียร์ลีกและซาอุดีอาระเบียก็ตาม

ย้อนกลับไปในช่วงตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมา แรชฟอร์ดเคยพยายามผลักดันการย้ายทีม โดยมีการหารือกับบาร์ซ่าเกี่ยวกับดีลยืมตัว แต่ขั้นตอนต่างๆ ถูกระงับไว้เมื่อยอดทีมจากกาตาลันเลือกมุ่งเน้นการต่อสัญญานักเตะภายในทีมเป็นหลัก

แรชฟอร์ดเคยถูกปล่อยให้ แอสตัน วิลล่า ยืมตัวใช้งาน ซึ่งเขามีส่วนร่วมในทีมอย่างต่อเนื่องก่อนจะประสบปัญหาบาดเจ็บ โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตั้งมูลค่าขายเขาไว้ที่ 40 ล้านปอนด์ ซึ่งแม้จะมีออปชั่นซื้อขาดในดีลของวิลล่า แต่รายงานล่าสุดเผยว่าทีมจากเบอร์มิงแฮมไม่พร้อมจ่ายค่าเหนื่อยระดับสูงตามที่แรชฟอร์ดคาดหวัง

ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องอนาคต แรชฟอร์ดกำลังพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมทั้งด้านกีฬาและชีวิตส่วนตัว โดยเขายังเปิดรับข้อเสนอจากสโมสรใหญ่ทั้งในอังกฤษและตะวันออกกลาง แต่เป้าหมายอันดับแรกยังคงเป็นการได้สวมเสื้อของบาร์เซโลน่าในฤดูกาลหน้า

ต้องติดตามกันต่อว่า “เจ้าบุญทุ่ม” จะขยับตัวจริงจังแค่ไหนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ห้ามพลาด!